ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1863 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 37241 - 37260 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37241 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการปกครองพิจารณาร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของวุฒิสภา | สผ | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และตามที่สำนัก งานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการปกครองพิจารณาร่างพระราชบัญญัติลักษณะปก ครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของวุฒิสภา และให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการการปก ครอง ฯ วุฒิสภาแก้ไข เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป 2. มอบให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ ของสภาผู้แทนราษฎรไป พิจารณาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
37242 | ขยายเวลาการปฏิบัติงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย | นร | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายเวลาการปฏิบัติงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
ของผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย จากเดิมวันที่ 18 สิงหาคม 2552 ถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 เป็นขยายเวลาออก ไปอีก 90 วัน จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้เข้าร่วม พัฒนาชาติไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37243 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 31 และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 9 | กษ | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้าน
การเกษตรและป่าไม้ (ASEAN Ministers on Agriculture and Forestry-AMAF) ครั้งที่ 31 และการประชุมรัฐมนตรี อาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีของจีนญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (AMAF+3) ครั้งที่ 9 ระหว่าง วันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2552 สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. ผลการประชุม AMAF ครั้งที่ 31 ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าในความร่วมมือทางวิชาการด้าน อาหาร พืช ประมง ปศุสัตว์ ป่าไม้ สหกรณ์การเกษตร การส่งเสริมและฝึกอบรมด้านการเกษตร และโครงการริ เริ่มของประเทศสมาชิก พร้อมทั้งยืนยันการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมอาเซียนและการเร่งการรวมตัว ของภูมิภาคโดยการเสริมสร้างศักยภาพการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และเห็นชอบมาตรฐานและเอกสารต่าง ๆ รวม 7 ฉบับ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนนโยบายบูรณาการความมั่นคงด้านอาหาร ของอาเซียนและแผนกลยุทธ์ความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน โดยร่วมมือกับคู่เจรจา องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ เพื่อบรรลุความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาค และให้ความเห็นชอบ ASEAN Multi -Sectoral Framework on Climate Change : Agriculture and Foresty towards Food Security (AFCCC) เพื่อ สร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค ตลอดจนดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ 2. ผลการประชุม AMAF+3 ครั้งที่ 9 รัฐมนตรีจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลียืนยันที่จะร่วมมือกับ ประเทศอาเซียนด้านอาหาร การเกษตร และป่าไม้ ให้มากขึ้น พร้อมทั้งรับทราบแถลงการณ์ชะอำ หัวหิน ว่าด้วย ความร่วมมือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและการพัฒนาพลังงานชีวภาพ (Cha-am Hua Hin Statement on ASEAN Plus Three Cooperation on Food Security and Bio-Energy Development) ซึ่งที่ประชุมเห็นควรให้มี การพัฒนายุทธศาสตร์ที่รอบด้านเพื่อการผลิตและการบริโภคอาหารและพลังงานชีวภาพอย่างผสมผสานและยั่ง ยืน รวมทั้งมีการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการผลิตทั้งอาหารและพลังงาน นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้เร่งรัดการ ดำเนินงานปรับเปลี่ยนโครงการนำร่องเพื่อระบบการสำรองข้าวในเอเชียตะวันออก (EAERR) ที่มีไทยเป็น Lead Country ให้เป็นองค์กรถาวร คือ ระบบสำรองข้าวฉุกเฉินของประเทศอาเซียน+3 (APTERR) และรับทราบความ ก้าวหน้าโครงการจัดทำระบบสารสนเทศเพื่อความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Information System-AFSIS) ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการที่ไทยเป็น Lead Country พร้อมกันนี้ยังได้ให้ความสำคัญ ในการส่งเสริมการใช้พลังงานชีวมวลอย่างยั่งยืน และเห็นชอบต่อข้อเสนอโครงการใหม่ของประเทศ+3 เพื่อเสริม สร้างศักยภาพให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน
|
||||||||||||||||||||||||
37244 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (เมษายน - กันยายน 2552) | กษ | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรม
การช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (กชก.) ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรและผู้ยากจน ในช่วง 6 เดือน หลัง ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 (เมษายน-กันยายน 2552) ดังนี้ 1. การอนุมัติเงินกู้ในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 มีจำนวนรายในการอนุมัติเงินกู้ 578 ราย จำนวนเงินที่อนุมัติ 169.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เนื่องจากได้มีการแก้ไข ระเบียบการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน รวมทั้งการขยายวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือ 2. การรับชำระหนี้ในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่ เกษตรกร ได้รับชำระหนี้ต้นเงินคืนจำนวนเงิน 57.88 ล้านบาท และดอกเบี้ยจำนวนเงิน 25.28 ล้าบาท โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 กองทุนหมุนเวียน ฯ มียอดต้นเงินกู้คงเหลือจำนวนเงิน 1,393.47 ล้านบาท เป็นหนี้ ปกติจำนวนเงิน 816.07 ล้านบาท และหนี้ค้างชำระจำนวนเงิน 577.40 ล้านบาท 3. สถานะการเงินของกองทุนหมุนเวียน ฯ ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มียอดเงินคงเหลือรวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 562.90 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
37245 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยปุ๋ย พ.ศ. .... | กษ | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยปุ๋ย พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญคือ ให้ยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2530) ออกตามความในพระราช บัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518 และกำหนดให้มีอัตราค่าธรรมเนียมใหม่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
37246 | รายงานผลการเร่งรัด ติดตามกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 (1 ตุลาคม 2551 - 30 กันยายน 2552) | นร | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการเร่งรัด ติดตามกรณีเงินขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 (1 ตุลาคม 2551-30 กันยายน 2552) สรุปได้ดังนี้ ผลการเร่งรัด ติดตามกรณีเงินขาดบัญชี ฯ สามารถยุติเรื่องได้ จำนวน 67 เรื่อง โดยผลการยุติทางแพ่ง หน่วยงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำการทุจริตได้ชดใช้เงินคืนให้กับทางราชการ จำนวน 17,971,703.45 บาท มีการลง โทษผู้กระทำผิดทางวินัยโดยการไล่ออก จำนวน 23 ราย ปลดออก/เลิกจ้าง จำนวน 10 ราย ตักเตือน ตัดเงิน เดือนลดขั้นเงินเดือน จำนวน 30 ราย และอยู่ระหว่างรอผลการอุทธรณ์ และอื่น ๆ จำนวน 3 ราย สำหรับผลการ ยุติทางอาญา มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของอัยการหรือศาล จำนวน 40 ราย และไม่มีการดำเนินคดี ทางอาญาหรือไม่ใช่กรณีทุจริต และอื่น ๆ จำนวน 27 ราย และจากการตรวจสอบข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ปรากฎว่า มีเรื่องที่ต้องดำเนินการเร่งรัดต่อไป (เรื่องที่สะสมตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน) จำนวน 1,820 เรื่อง จำนวนเงินที่เสียหาย 5,247,069,577.84 บาท โดยเรื่องส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทางแพ่ง และอาญา 2. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) รับไปดำเนินการ จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อศึกษาและวิเคราะห์หาสาเหตุเพื่อกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ โดยประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติด้วย |
||||||||||||||||||||||||
37247 | รายงานการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 7/2552 | นร | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วย
รัฐมนตรี ในการประชุมครั้งที่ 7/2552 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 โดยมีกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี (นายนิพนธ์ บุญญภัทโร) เป็นประธานการประชุม สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมรับทราบรายงานการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่องทาง 1111 และการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนของประชาชนและเครือข่ายประชาชน อาทิ เครือข่ายปฏิรูปที่ดิน เครือข่ายชุมชน เพื่อการปฏิรูปการเมืองและสังคม และเครือข่ายสมัชชาคนจน การดำเนินการของรัฐบาลเพื่อผลักดันการออกโฉนด ชุมชน ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะ โดยให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานในแต่ละ กระทรวงและสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวร่วมกัน 2. ที่ประชุมรับทราบรายงานการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด สถานการณ์ปัญหายาเสพติด รวมทั้ง ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมดังนี้ 2.1 ปัญหาการดำเนินโครงการอาสาสมัครพิทักษ์ยุติธรรม ส่วนใหญ่จะประสบปัญหาแจ้งความไม่ได้ การปราบปรามไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ค้ารายย่อยมีเพิ่มมากขึ้น จึงควรมีมาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามที่ ชัดเจนยิ่งขึ้น 2.2 ส่วนราชการต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ควรจัดทำรายงานและเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อรัฐบาลจะได้ทราบข้อมูลและพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม 2.3 การแก้ไขปัญหายาเสพติดควรพิจารณาหามาตรการ หรือวิธีการที่จะทำให้คนเกิดความเกรงกลัว ไม่กล้าที่จะกระทำความผิด 2.4 ควรมีการพิจารณาทบทวนมาตรการการจัดการกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ร้านเกม ร้านขายเหล้า และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้มีมากขึ้นในสังคม 2.5 ควรมีการขึ้นทะเบียนและจำแนกประเภทผู้ติดยาเสพติดเพื่อควบคุมจำนวน ผู้ติดยาเสพติด และ สามารถแยกประเภทยาเสพติดที่เสพ เพื่อนำไปสู่การรักษาที่ถูกต้องและเฝ้าระวังมิให้กลับมาเสพอีก 2.6 ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีแต่ละท่าน ศึกษาและติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดใน ประเด็นที่กระทรวงนั้น ๆ รับผิดชอบ หากเห็นว่ามีประเด็นสำคัญให้นำมาหารือในการประชุมคณะกรรมการผู้ ช่วยรัฐมนตรีได้ตามที่เห็นสมควร 3. ที่ประชุมเห็นชอบร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานรวบรวมและจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของคณะ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี 4. ที่ประชุมกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 8/2552 ในวันที่ 17 ธันวาคม 2552 ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นาย กมล จิตระวัง) เป็นประธานการประชุม
|
||||||||||||||||||||||||
37248 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวนที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 416 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 404 (ปะเหลียน) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 406 (ฉลุง) ที่บ้านทุ่งยาว พ.ศ. .... ในท้องที่ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง | คค | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทาง
หลวงแผ่นดินหมายเลข 416 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 404 (ปะเหลียน)-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมาย เลข 406 (ฉลุง) ที่บ้านทุ่งยาว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 416 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 404 (ปะเหลียน)-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 406 (ฉลุง) ที่บ้านทุ่งยาว ในท้องที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้า หน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่ กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
37249 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. .... | ศธ | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา
ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. .... ที่สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดย ร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิชาบริหาร ธุรกิจ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาแพทยศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ และสาขา วิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ 2. กำหนดครุยวิทยฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง และเครื่องหมายประกอบครุยประจำตำแหน่งของนายก สภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และคณาจารย์มหาวิทยาลัย 3. กำหนดเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย 4. กำหนดสีประจำคณะและสถาบัน
|
||||||||||||||||||||||||
37250 | รายงานการรับและการใช้จ่ายเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 (รายงานการรับและการใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำเงินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินของกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552) | พป | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สถาบันพระปกเกล้าเสนอรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำ
เงินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินของกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2551 ดังนี้ 1. มีสินทรัพย์รวม 111,980,113.72 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.35 2. มีหนี้สินรวม 210,877.00 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100.00 3. มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 51,386,006.86 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5,363.96 4. มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม 20,557,223.40 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100.00 5. มีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ 30,828,783.46 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3,178.08 6. มีรายรับรวม 71,877,693.00 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.67 7. มีรายจ่ายรวม 20,803,749.58 บาท ลดลงร้อยละ 65.58 8. มีเงินสดคงเหลือ ณ วันปลายงวด 51,073,943.42 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 155.14
|
||||||||||||||||||||||||
37251 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันก่อสร้างอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ มะเร็ง และวินิจฉัยรักษา ขนาด 7 ชั้น โรงพยาบาลอุดรธานี | สธ | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โรงพยาบาลอุดรธานีก่อหนี้ผูกพันเกินกว่า 1 ปี และมีวงเงินเกินกว่า 100 ล้าน
บาท ในวงเงิน 378,000,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบลงทุนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สำหรับหน่วย บริการปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 137,000,000 บาท และใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลอุดรธานีสมทบ จำนวน 241,000,000 บาท โดยผูกพันตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2556 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37252 | แต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) | นร | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา โดยเปลี่ยนแปลงผู้ประสาน
งานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา จากนายอนุสิษฐ คุณากร เป็นนายอดิศักดิ์ ตันยากุล รองเลขาธิการสภาความมั่นคง แห่งชาติ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
37253 | รายงานผลงานก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2549 ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2552 | กษ | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลงานก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการ
ระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2549 ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. การก่อสร้างคลองระบายน้ำและถนนพร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 1 การดำเนินการตามแผนร้อยละ 80.64 ผลการดำเนินการร้อยละ 83.65 เร็วกว่าแผนร้อยละ 3.01 2. การก่อสร้างคลองระบายน้ำและถนนพร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 2 การดำเนินการตามแผนร้อยละ 98.71 ผลการดำเนินการร้อยละ 94.24 ช้ากว่าแผนร้อยละ 4.47 3. การก่อสร้างคลองระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ สะพานน้ำยกระดับ พร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 3 การ ดำเนินการตามแผนร้อยละ 100.00 ผลการดำเนินการร้อยละ 98.36 ช้ากว่าแผนร้อยละ 1.64
|
||||||||||||||||||||||||
37254 | รายงานสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ International Workshop A Forgotten Crisis : "Arresting Wildlife Depletion in Asia through Strengthened Regional Cooperation and Effective Partnerships" | ทส | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการประชุมเชิง
ปฏิบัติการ International Workshop A Forgotten Crisis : "Arresting Wildlife Depletion in Asia through Streng thened Regional Cooperation and Effective Partnerships" ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-12 เมษายน 2552 ที่จังหวัด ชลบุรี สรุปได้ดังนี้ ที่ประชุมได้มีการจัดทำร่างประกาศเจตนารมณ์ เพื่อการต่อต้านอาชญากรรมเกี่ยวกับสัตวป่าและ พืชป่าในภูมิภาคเอเชีย (Draft Manifesto on Combating Wildlife Crime in Asia) โดยผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียนำไปสู่การปฏิบัติ และได้หารือและกำหนดแนวทางที่จะเพิ่มและขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับ ต่าง ๆ เพื่อการร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านสัตว์ป่าและพืชป่าในภูมิภาค รวมทั้งการขยาย ความร่วมมือของเครือข่าย ASEAN-WEN ไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ (SA-WEN) และขยายเป็นเครือข่ายในภูมิภาคเอเชีย (Asia-WEN) นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องการอนุรักษ์เสือ (Year of Tiger Summit 2010) โดย ประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีของประเทศในเอเชียเรื่อง การอนุรักษ์เสือ โดยมีกำหนด จัดเตรียมการประชุมในช่วงปลายปี พ.ศ. 2552
|
||||||||||||||||||||||||
37255 | ร่างกฎกระทรวงการสำรวจ สำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. .... | ทก | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการสำรวจ สำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเทค โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างกฎ กระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดให้สำนักงานสถิติแห่งชาติจัดทำการสำรวจสำมะโนประชากรและเคหะทั่วราชอาณาจักร เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวน ลักษณะ และพฤติกรรมของประชากรในครัวเรือน ณ ที่อยู่ปกติ ที่พบในวัน สำรวจหรือสำมะโน รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะต่าง ๆ ของที่อยู่อาศัยของประชากร 1.2 กำหนดวิธีการให้ข้อมูลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ได้แก่ การสัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลทางอินเตอร์ เน็ตหรือทางโทรศัพท์ เว้นแต่กรณีไม่อาจทำได้ พนักงานเจ้าหน้าที่อาจใช้วิธีการทอดแบบเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล 2. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการ กำหนดนิยามคำว่า "ประชากร" ให้ครอบคลุมคนต่างด้าว หรือคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 3. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารบูรณาการข้อมูลในเรื่องนี้ ร่วมกับกระทรวงมหาด ไทยด้วย และให้กระทรวงต่าง ๆ ประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้การจัดทำเป็นประโยชน์กับทุกหน่วยงาน
|
||||||||||||||||||||||||
37256 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC 1111) ประจำปีงบประมาณ 2552 ของไตรมาสสี่ | ทก | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
1. รับทราบผลการดำเนินงานโครงการศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (Government Contact Center) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของไตรมาสสี่ ซึ่งมีจำนวนการใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือน 521,111 ครั้ง เปรียบกับการใช้บริการในไตรมาสสาม มีจำนวนค่าเฉลี่ยการเรียกเข้าลดลง โดยในส่วนของการบริการข้อมูลให้ กับประชาชนแยกตามประเภทเรื่องที่มีประชาชนสนใจสอบถาม ได้แก่ การเมือง-การปกครอง เช่น การขอโควต้า การจ้างแรงงานต่างด้าว ฯลฯ เศรษฐกิจ เช่น การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง โครงการสร้างโอกาส เข้าสู่ที่ดินทำกินรองรับแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง ฯลฯ สังคมและสวัสดิการ เช่น โครงการต้นกล้าอาชีพ การพยากรณ์ อากาศ การประกาศลดการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับลูกจ้างและนายจ้าง ฯลฯ การศึกษาและ เทคโนโลยี เช่น ข้อมูลรายละเอียดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ 2009 (H1N1) ฯลฯ และอื่น ๆ เช่น การแข่ง ขันฟุตบอลระหว่างทีมชาติไทยกับทีมลิเวอร์พูล การเข้าชมเรือห้องสมุดดูโลส ฯลฯ สำหรับการบริการรับเรื่องร้อง เรียนแยกตามประเภทเรื่องที่มีประชาชนสนใจสอบถาม ได้แก่ สังคมและสวัสดิการ เช่น สาธารณูปโภค สังคม เสื่อมโทรม การพนัน การเมือง-การปกครอง เช่น กล่าวโทษหรือร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐ นโยบายของรัฐบาล การเมือง ฯลฯ เศรษฐกิจ เช่น ปัญหาหนี้สิน การค้า การเกษตร ฯลฯ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาของเสีย ปัญหาในพื้นที่ป่า ปัญหาน้ำผิวดิน ฯลฯ และกฎหมาย เช่น การกระทำความผิดอาญา การเสนอ และตรากฎหมายการบังคับตามกฎหมาย ฯลฯ 2. เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงาน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ช่วยดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการ GCC 1111 ผ่านสื่อของหน่วยงานภาค รัฐ เช่น สื่อโทรทัศน์ของรัฐ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งได้จัดส่งข้อมูลที่ เป็นปัจจุบันและทันสมัยให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้ฐานข้อมูลเป็นปัจจุบันพร้อมรอง รับบริการแก่ประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||
37257 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2552 | กค | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,897 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอการจัดสรร จำนวน 11,256 โครงการ วงเงิน 108,048.92 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 10,641 โครงการ วงเงิน 90,318.64 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน 7,478 โครงการ วงเงิน 36,311.77 ล้าน บาท 3.2 ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 3,163 โครงการ วงเงิน 54,006.87 ล้านบาท 3.3 มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 3,163 โครงการ วงเงิน 53,877.09 ล้านบาท 4. การดำเนินการ 4.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 1,207 โครงการ วงเงิน 32,484.13 ล้านบาท 4.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 1,802 โครงการ วงเงิน 5,934.00 ล้านบาท 4.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 154 โครงการ วงเงิน 15,458.96 ล้านบาท 4.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 1,956 โครงการ วงเงิน 21,392.96 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
37258 | ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2552 | นร | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่าย
เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) รายงานผลการประชุมและมติคณะกรรม การ กพอ. ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติเกี่ยวกับผลการติดตามเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ดังนี้ 1.1 ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงานสถิติจำนวนครั้งการตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศ จากปล่องโรงงาน (CEMs) ที่เกินมาตรฐาน (Alert) ในแต่ละเดือนต่อคณะกรรมการ กพอ. และจัดทำป้ายหน้าโรง งานเพื่อแสดงสถิติจำนวนครั้งที่คุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน รวมทั้งให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ควบ คู่กับการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและค่ามาตรฐานที่กำหนด 1.2 ให้กรมควบคุมมลพิษ หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนจัดทำสรุปแผนงานและมาตรการ แก้ไขปัญหามลพิษเร่งด่วน และนำเสนอต่อคณะทำงานแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุดโดยด่วนต่อไป โดยมาตร การแก้ไขปัญหามลพิษเร่งด่วน ประกอบด้วย 1.2.1 การปนเปื้อนของโลหะหนักและสารอินทรีย์ระเหยง่ายในดินและน้ำใต้ดิน 1.2.2 การแก้ไขปัญหาการสะสมตัวของตะกอนดินปากคลองชากหมาก 1.2.3 การจัดการ VOCs ในภาพรวมบริเวณมาบตาพุด 2. ที่ประชุมมีมติเกี่ยวกับแผนงานพัฒนาระบบเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้ เคียง จังหวัดระยอง ในระยะต่อไป โดยให้คณะทำงานแก้ปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุดรับไปพิจารณาในรายละเอียด ของแผนงานดังกล่าวในส่วนของการติดตั้งป้ายแสดงคุณภาพสิ่งแวดล้อม ชุดตรวจวัด VOCs ศูนย์รับข้อมูลและแสดง ผลในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระบบตรวจวัดคุณภาพน้ำอัตโนมัติ และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลการตรวจวัดคุณ ภาพสิ่งแวดล้อม โดยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว แล้วนำเสนอคณะกรรมการ กพอ. และคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37259 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร (นักบริหารระดับสูง) (นางสาวสมลักษณ์ ส่งสัมพันธ์) | นร | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวสมลักษณ์ ส่งสัมพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายก
รัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37260 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์) | กค | 15/12/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัท
บริหารสินทรัพย์ไทย แทนนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งเป็นต้นไป โดย ให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้วตามนัยมาตรา 14 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
.....