ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1566 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 31301 - 31320 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
31301 | งบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2553 และ 2552 | สช | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ และ พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว และเห็นว่า รายงานการเงินกองทุนฯ แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๒ ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของกองทุนฯ ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีข้อสังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ ๑๔ เกี่ยวกับทุน จำนวน ๘๕๐,๓๖๖,๑๙๐.๖๖ บาท เบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๓๐๒,๒๓๘,๐๓๙.๙๔ บาท ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ คงเหลือ ๕๔๘,๑๒๘,๑๕๐.๗๒ บาท ตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๒ เห็นชอบในหลักการใช้งบประมาณรับโอนจากกระทรวงสาธารณสุข ตามมาตรา ๖๙ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อใช้ในการพัฒนาระบบข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดหายานพาหนะและเป็นเงินกองทุนกลางสำรองกรณีมีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน และหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ ๑๕ เกี่ยวกับผลการดำเนินงาน คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ให้กองทุนฯ จ่ายเงินซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) และยา Oseltamivir ไปก่อน จำนวน ๘๕๐ ล้านบาท และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณใช้คืน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ กองทุนฯ ยังไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
31302 | ขออนุมัติการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์แห่งสาธารณรัฐเกาหลีกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อความร่วมมือด้านพลังงานปรมาณู | วท | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ แห่งสาธารณรัฐเกาหลีกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อความร่วมมือด้านพลังงานปรมาณู (Memorandum of Understanding between the Korea Institute of Nuclear Safety of the Republic of Korea and the Office of Atoms for Peace’ the Ministry of Science and Technology of the Kingdom of Thailand for Atomic Energy Cooperation) โดยสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีขอบเขตความร่วมมือทางเทคนิคและกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ เช่น กฎหมาย กฎเกณฑ์ มาตรฐานด้านความปลอดภัย แนวทางปฏิบัติที่ออกโดยหน่วยงานกำกับดูแล เป็นต้น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการศึกษา และการฝึกอบรมความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ การป้องกันรังสีและการเตรียมการรองรับเหตุฉุกเฉิน การทบทวนความปลอดภัย การประเมินค่าและการประเมินสถานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์ การออกแบบและการดำเนินโครงการ และระบบด้านการเฝ้าติดตามต้นกำเนิดรังสีและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งขอบเขตอื่น ๆ ตามที่คู่สัญญาอาจทำความตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมายเพื่อพิจารณาดำเนินการแทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. อนุมัติการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยให้เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเป็นผู้ลงนาม ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเป็นผู้ลงนาม |
|||||||||||||||||||||||||||
31303 | ผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรี รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วง 3 เดือน (กันยายน - พฤศจิกายน 2554) | นร | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. รายงานผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรี รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วง ๓ เดือน (กันยายน - พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ประกอบด้วย ส่วนที่ ๑ สถานการณ์การพัฒนาประเทศในช่วง ๓ เดือนของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนที่ ๒ การให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ส่วนที่ ๓ การดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนที่เริ่มดำเนินการในปีแรก และส่วนที่ ๔ การดำเนินการตามนโยบายตามกรอบการบริหารราชการ ๔ ปีของรัฐบาล ๒. ความเห็นเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในระยะ ๓ เดือนแรกหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ ได้เกิดอุปสรรคสำคัญจากปัญหาอุทกภัยที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนในหลายพื้นที่ และส่งผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สินและขวัญกำลังใจของประชาชน รัฐบาลต้องทุ่มเทความสามารถในการแก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย ทำให้การดำเนินการตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาต้องชะลอไว้ระยะหนึ่ง ขณะนี้สถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลาย จึงสมควรเร่งรัดดำเนินการแผนงาน/โครงการสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะแผนงาน/โครงการตามนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
31304 | ขออนุมัติงบประมาณสำหรับเงินบำรุงประจำปีของศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศเงินบำรุงประจำปีขององค์กรพื้นดินท้องทะเลระหว่างประเทศ ประจำปี ค.ศ. 2011 และ ค.ศ. 2012 และเงิน Working Capital Fund ประจำปี ค.ศ. 2011 | กต | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบการชำระเงินบำรุงประจำปีของศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ ประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๑ และประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๒ จำนวนเงิน ๔๘,๗๘๕ ยูโร หรือเท่ากับ ๒,๐๑๒,๔๐๐ บาท เงินบำรุงประจำปีขององค์กรพื้นดินท้องทะเลระหว่างประเทศ ประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๑ และ ค.ศ. ๒๐๑๒ และเงิน Working Capital Fund ประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๑ จำนวนเงิน ๒๕,๗๒๐.๗๕ ดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ ๘๑๘,๖๐๐ บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๒,๘๓๑,๐๐๐ บาท โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรร และอนุมัติในหลักการการชำระเงินบำรุงประจำปีในปีต่อ ๆ ไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอได้ ทั้งนี้ การเบิกจ่ายเงินเพื่อการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
31305 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) (กระทรวงแรงงาน) | รง | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้นายพูลศักดิ์ เศรษฐนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงแรงงาน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
31306 | การปรับอัตราเงินค่าตอบแทนและค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน | มท | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้ปรับอัตราค่าตอบแทนและค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ปรับอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕ ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป สำหรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก จำนวน ๙๐,๙๑๔,๕๐๐ บาท ให้กรมการปกครองโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายที่กันเงินไว้เหลื่อมปี ในส่วนที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์และหมดความจำเป็นก่อน และหากไม่เพียงพอให้เจียดจ่ายหรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มาดำเนินการตามลำดับ ๒. ปรับค่าเบี้ยเลี้ยงสนาม จากอัตราเดิม ๕๕ บาท ต่อคนต่อวัน เป็นอัตรา ๑๒๐ บาท ต่อคนต่อวัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็นต้นไป สำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ รายการค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ที่ได้เสนอตั้งงบประมาณไว้แล้ว จำนวน ๒๖๕,๖๗๙,๗๐๐ บาท |
|||||||||||||||||||||||||||
31307 | ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน | สม | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๒๓/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ เกี่ยวกับผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามที่มีผู้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า ก.พ. เลือกปฏิบัติในกรณีที่มีมติให้ปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งนายแพทย์ที่ปฏิบัติงานให้บริการสุขภาพในสถานบริการสุขภาพเป็นตำแหน่งนายแพทย์ระดับเชี่ยวชาญได้ทุกตำแหน่ง โดยไม่ต้องนำตำแหน่งว่างมายุบรวม แต่ไม่ครอบคลุมถึงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ สำนักงาน ก.พ. ควรมีการทบทวนปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้นของทุกสายงานให้เป็นไปตามแนวทางที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของสาขาวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อให้มีแนวทางในการปฏิบัติต่อบุคคลที่เท่าเทียมกันในเรื่องของความก้าวหน้าในการทำงานของบุคคล ๑.๒ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขควรมีการเสนอการขออัตราเพิ่มใหม่ไปยังสำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดอัตราว่างในระยะยาว ที่ต้องบรรจุแพทย์ ทันตแพทย์ และพยาบาล ซึ่งเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลที่เป็นคู่สัญญาชดใช้ทุน เพื่อให้มีความชัดเจนและเป็นการรองรับในการบรรจุนักเรียนทุนของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งเป็นการป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อสายงานอื่นที่ให้บริการสาธารณสุขที่ต้องใช้ตำแหน่งว่างที่มีเงินมายุบรวมจากการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งที่ ก.พ. กำหนด ๑.๓ สำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาภาพรวมของประเทศในการบริหารงบประมาณด้านบุคลากรของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความสำคัญในด้านการให้บริการด้านสุขภาพ การศึกษา และการสาธารณสุข เป็นต้น เพื่อให้มีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อบุคคลที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรม เนื่องจากในวิชาชีพต่าง ๆ ก็มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ และประการสำคัญ สำนักงาน ก.พ. ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลการบริหารกำลังคนภาครัฐ และเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลข้าราชการพลเรือน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาในภาพรวมของประเทศ และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานในด้านความก้าวหน้าของแต่ละวิชาชีพ จึงควรมีการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น เพื่อมิให้เกิดการลักลั่นในกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบด้วย ดังนี้ ๒.๑ หนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๘/ว ๒๖ ลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ แจ้งมติ ก.พ. เห็นชอบให้ส่วนราชการสามารถกำหนดตำแหน่งภายในกรอบมูลค่ารวมของตำแหน่งตามโครงสร้างของส่วนราชการ ซึ่งมีผลให้ส่วนราชการสามารถปรับเพิ่มลดจำนวนและระดับตำแหน่งได้ภายในกรอบมูลค่ารวมของตำแหน่ง ซึ่งกำหนดจากผลรวมของค่าตอบแทนเฉลี่ยของตำแหน่งที่นำมาปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งในแต่ละครั้ง ในกรณีที่มีค่าตอบแทนเฉลี่ยของตำแหน่งที่เหลือจากการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งของส่วนราชการในกระทรวง อ.ก.พ. กระทรวงสามารถนำค่าตอบแทนเฉลี่ยที่เหลืออยู่ดังกล่าวไปใช้ในการกำหนดตำแหน่งของส่วนราชการในกระทรวงในครั้งต่อ ๆ ไปได้ อันเป็นแนวทางหนึ่งเพื่อผ่อนคลายให้กระทรวงสามารถบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการต่าง ๆ ในสังกัดให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และสามารถใช้ประโยชน์จากจำนวนและระดับตำแหน่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ๒.๒ สำนักงาน ก.พ. อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่งในประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากการกำหนดตำแหน่งภายในกรอบมูลค่ารวมของตำแหน่งดังกล่าวในข้อ ๒.๑ เพื่อให้การกำหนดตำแหน่งในทุกส่วนราชการมีความยืดหยุ่น คล่องตัวยิ่งขึ้น สำหรับการผ่อนคลายหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่งเฉพาะกรณีนั้น หากส่วนราชการพิจารณาว่ามีเหตุผลความจำเป็น ก็สามารถเสนอคำขอให้ ก.พ. พิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ๓. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และสำนักงาน ก.พ. รับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในภาพรวมของประเทศ ทั้งนี้ หากเรื่องใดมีความจำเป็นเร่งด่วน ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
31308 | ขอให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการฝึกอบรมร่วมกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) | วท | 13/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติตอบรับการเป็นเจ้าภาพในการจัดการฝึกอบรมร่วมกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ของประเทศไทย ได้แก่ เจ้าภาพจัดการฝึกอบรม IAEA/RCA Regional Training Course on Capacity Building for Enhanced Gamma Scanning of Industrial Process Columns ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และเจ้าภาพจัดการประชุม IAEA/RCA Initial Project Coordination Meeting ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ๒. เห็นชอบร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมทั้ง ๒ รายการ และหากมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่มิใช่สารัตถะของร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพฯ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการแทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๓. อนุมัติให้เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมทั้ง ๒ รายการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
31309 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... | กษ | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบตามโครงการประตูระบายน้ำทุ่งเบญจา และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
31310 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดยโสธร พ.ศ. .... | นร | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดยโสธร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดยโสธร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
31311 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการบำบัดโรค สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ พ.ศ. .... | สธ | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการบำบัดโรค สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ของผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพื่อใช้ในการวินิจฉัยและการบำบัดรักษาโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
31312 | แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีก ๓๑ ราย โดยมีผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณากำหนดกรอบ แนวทาง นโยบาย และมาตรการในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศให้สามารถแข่งขันในระดับสากล สนับสนุนการเชื่อมโยงพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้พัฒนาบุคลากรและพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการให้มีมาตรฐานสากลและแข่งขันกับนานาชาติได้ รวมทั้งประสานการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศให้สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และพิจารณากำหนดแนวทางเตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยต่อการมุ่งสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community : AEC) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
31313 | การช่วยเหลือประชาชนตามแนวชายฝั่งทะเลที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีการผันน้ำจืดจากอุทกภัยลงทะเลเป็นจำนวนมาก | วท | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานผลการประชุมหารือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีน้ำจืดจากอุทกภัยปี ๒๕๕๔ ไหลลงสู่ทะเลเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบนิเวศน์ทางทะเลเสียหายและทรัพยากรสัตว์น้ำซึ่งเป็นแหล่งหากินลดลง ไม่สามารถประกอบอาชีพจับสัตว์น้ำได้ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมมีความเห็นว่าการฟื้นตัวของระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเลโดยธรรมชาติเป็นไปอย่างรวดเร็วทำให้เกษตรกรประมงชายฝั่งได้รับผลกระทบในระยะเวลาอันสั้น จึงยังไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือเยียวยาโดยตรง แต่จะต้องเร่งฟื้นฟูความสมบูรณ์โดยการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำธรรมชาติและสัตว์น้ำเศรษฐกิจตามชายฝั่งทะเล อันจะเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของเกษตรกรประมงชายฝั่งต่อไป ๒. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความเห็นประกอบเหตุผลทางวิชาการว่าสภาพนิเวศน์วิทยาทางทะเลสามารถที่จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกษตรกรผู้ประสบภัยในพื้นที่สามารถประกอบอาชีพจับสัตว์น้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่งแล้ว และมีความเห็นเพิ่มเติมว่าการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงเป็นราย ๆ ในกรณีดังกล่าวจึงมิใช่เรื่องเร่งด่วน และเห็นควรให้ใช้งบประมาณในการฟื้นฟูเยียวยา โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินการเร่งการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำด้วยการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเสริมธรรมชาติ ประกอบด้วย กุ้งแชบ้วย และหอยแครง จำนวน ๓๔ ล้านตัว โดยให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
31314 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และตำบลศรีค้ำ ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | นร | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และตำบลศรีค้ำ ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และตำบลศรีค้ำ ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
31315 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 บังคับในท้องที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. .... | กษ | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. ๒๕๐๕ บังคับในท้องที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. ๒๕๐๕ บังคับในท้องที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้มีการจัดทำคันและคูน้ำอันจะเป็นประโยชน์ในการเกษตรและทำให้การใช้น้ำเป็นไปโดยประหยัด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
31316 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 บังคับในท้องที่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | กษ | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. ๒๕๐๕ บังคับในท้องที่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. ๒๕๐๕ บังคับในท้องที่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้มีการจัดทำคันและคูน้ำอันจะเป็นประโยชน์ในการเกษตรและทำให้การใช้น้ำเป็นไปโดยประหยัด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
31317 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 8 | พณ | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Conference : MC) องค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) เป็นผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุม MC ครั้งที่ ๘ ประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ได้ให้ความเห็นชอบในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ๑.๑ เรื่องต่อเนื่องจากการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ ๗ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้ขยายเวลาการยกเว้นการเก็บอากรศุลกากรชั่วคราวออกไปอีก ๒ ปีสำหรับสินค้าที่ส่งผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Customs Duties Moratorium on Electronic Transmissions) และการขยายเวลาการยกเว้นการฟ้องกรณีพิพาทเกี่ยวกับความตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า (TRIPs) ภายใต้กระบวนการระงับข้อพิพาทของ WTO หากไม่ได้ทำผิดพันธกรณีภายใต้ความตกลงดังกล่าว (TRIPS non - violation complaint) ถึงการประชุม MC 9 ซึ่งจะมีขึ้นประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑.๒ การพัฒนาระบบการดำเนินการภายใน WTO เช่น ระบบการทบทวนนโยบายการค้า การผลักดันการดำเนินงานตามแผนงานพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ๑.๓ การให้ความยืดหยุ่นและความช่วยเหลือแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เช่น การผ่อนปรนในกระบวนการเข้าเป็นสมาชิกของ WTO การขยายระยะเวลาที่จะไม่บังคับใช้ความตกลง TRIPS และการยกเว้นจากหลักการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับการอนุเคราะห์ยิ่ง (Most Favored Nation Treatment : MFN) ในกรณีที่ให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดในด้านการค้าบริการ ๒. การประชุมกลุ่มย่อย (Working Session) ๓ กลุ่ม ได้แก่ ๒.๑ ความสำคัญของระบบการค้าพหุภาคีกับองค์การการค้าโลก (Importance of Multilateral Trading System and the WTO) รัฐมนตรีของประเทศสมาชิก WTO เน้นย้ำถึงความสำคัญของระบบการค้าพหุภาคีที่อิงกฎระเบียบ และเห็นชอบการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการค้าพหุภาคีดังกล่าว โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งบทบาทของ WTO ในประเด็นการสนับสนุนการต่อต้านการกีดกันทางการค้า (protectionism) และเห็นถึงความสำคัญของการปรับปรุงกลไกการทำงานตามวาระงานปกติของ WTO อาทิ การติดตามการปฏิบัติตามพันธกรณีของสมาชิก การปรับปรุงกลไกระงับข้อพิพาททางการค้าของ WTO (WTO dispute settlement mechanism : DSU) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเจรจาทบทวนความตกลงระงับข้อพิพาทให้สำเร็จ (DSU review) การปรับปรุงกระบวนการกำกับดูแลและรายงานผลของ WTO ให้มีความโปร่งใสมากขึ้น รวมทั้งเป็นเวทีเพื่อพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าที่เสนอโดยสมาชิก WTO ๒.๒ การค้าและการพัฒนา (Trade & Development) รัฐมนตรีของประเทศสมาชิก WTO เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของการค้าที่มีต่อการพัฒนาของประเทศกำลังพัฒนา และประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยประเทศสมาชิกควรให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เพื่อให้สามารถเข้ามามีบทบาทในเวทีการค้าโลกมากขึ้น โดยให้ความยืดหยุ่นและผ่อนปรนในเรื่องกระบวนการสมัครเข้าเป็นสมาชิก WTO (LDC Accession) การขยายระยะเวลาที่จะไม่บังคับใช้ความตกลง TRIPS การยกเว้นจากหลักการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับการอนุเคราะห์ยิ่ง (Most Favored Nation Treatment : MFN) ในกรณีที่ให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดในด้านการค้าบริการ (LDC service waiver) และการให้ความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับการค้า (Aid for Trade) โดยย้ำถึงพันธกรณีในการสนับสนุนด้านการเงินที่สามารถคาดการณ์ได้และเป็นไปตามกำหนดเวลาเพื่อให้ฝ่ายเลขาธิการ WTO สามารถดำเนินการด้านการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างขีดความสามารถตามที่สมาชิกร้องขอได้ ๒.๓ การเจรจาในรอบโดฮา (Doha Development Agenda) รัฐมนตรีของประเทศสมาชิก WTO ยอมรับว่า สมาชิกยังมีท่าทีที่แตกต่างกันในประเด็นการเจรจาในรอบโดฮา จึงทำให้ยากต่อการสรุปผลการเจรจาในรูปแบบเบ็ดเสร็จ (Single undertaking) ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม สมาชิกยังคงต้องใช้ความพยายามที่จะเจรจาหาข้อสรุปในประเด็นต่าง ๆ ในรอบโดฮา จึงจำเป็นต้องหาแนวทางการเจรจาในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อผลักดันการเจรจาต่อไป โดยสนับสนุนให้สมาชิกสามารถกำหนดให้บางประเด็นสามารถมีผลสรุปได้ก่อนประเด็นอื่น ๆ นอกจากนี้ รัฐมนตรีของสมาชิกหลายรายเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องรักษาหลักการของการเจรจาในกรอบพหุภาคี (Multilateralism) การมีส่วนร่วม (Inclusiveness) และ Single undertaking กล่าวคือ จะถือว่าการเจรจารอบโดฮาสำเร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อสามารถตกลงกันได้ทุกเรื่อง และเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมกันในภาพรวม
|
|||||||||||||||||||||||||||
31318 | การขอแต่งตั้ง นายรูเบน คูเปอร์แมน เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครเพิร์ท เครือรัฐออสเตรเลีย | กต | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายรูเบน คูเปอร์แมน (Mr. Reuben Kooperman) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครเพิร์ท เครือรัฐออสเตรเลีย สืบแทน พลจัตวา ดับลิว ดี. เจมีสัน (Brigadier W.D. Jamieson) ซึ่งเกษียณอายุ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐออสเตรเลียตะวันตก เครือรัฐออสเตรเลีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
31319 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... กลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีความเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... ตราขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๖๗ วรรคสอง สมควรบัญญัติให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และสามารถนำไปปฏิบัติได้โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการตามโครงการหรือกิจกรรมที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์โดยรวม โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
31320 | งบประมาณลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2555 และกรอบงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2555 (ขอแก้ไขข้อความ) | นร | 07/02/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแก้ไขคำผิดในหนังสือสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๑๕/๕๑๑๕ ลงวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ เรื่อง งบประมาณลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และกรอบงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ในหน้า ๓ ข้อ ๓.๒.๓ และหน้า ๔ ข้อ ๔.๓ จาก “ ...วงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน ๕๓๓,๔๑๑ ล้านบาท... ” เป็น “ ...วงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน ๕๓๓,๔๔๒ ล้านบาท... ” [ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง งบประมาณลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประจำปี ๒๕๕๕ และกรอบงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕) ไปแล้ว] ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
.....