ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1569 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 31361 - 31380 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
31361 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ซึ่งที่ประชุมให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๖ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับการยกเว้นภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมภาษีประจำปีที่ค้างชำระของหน่วยงานราชการ) และร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม และภาษีประจำปีและนิรโทษกรรม ค่าธรรมเนียมและภาษีประจำปีค้างชำระของหน่วยงานราชการ) ๒. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงน้ำหนักของรถที่ใช้ในการประกอบการขนส่งส่วนบุคคล) และร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล) ๓. ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการรับขนของทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31362 | ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับการยกเว้นภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมภาษีประจำปีที่ค้างชำระของหน่วยงานราชการ) และร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมค่าธรรมเนียมและภาษีประจำปีค้างชำระของหน่วยงานราชการ) จำนวน 2 ฉบับ | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๒ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับการยกเว้นภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมภาษีประจำปีที่ค้างชำระของหน่วยงานราชการ) ๒. ร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม และภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมค่าธรรมเนียมและภาษีประจำปีค้างชำระของหน่วยงานราชการ)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31363 | ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงน้ำหนักของรถที่ใช้ในการประกอบการขนส่งส่วนบุคคล) และร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล) จำนวน 2 ฉบับ | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๒ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงน้ำหนักของรถที่ใช้ในการประกอบการขนส่งส่วนบุคคล) ๒. ร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31364 | ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน พ.ศ. .... | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31365 | ร่างพระราชบัญญัติการรับขนของทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ. .... | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการรับขนของทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31366 | การแก้ไขสัญญาว่าจ้างโครงการด้านการศึกษา สาธิต และจัดทำต้นแบบในโครงการความร่วมมือด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (ค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการสาธิตเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และอนุรักษ์พลังงาน) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ACMECS | พน | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๕ ดังนี้ ๑. ข้อเสนอของกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาว่าจ้างโครงการด้านการศึกษา สาธิต และจัดทำต้นแบบในโครงการความร่วมมือด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (ค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการสาธิตเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และอนุรักษ์พลังงาน) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) โดยให้เป็นดุลยพินิจของหน่วยงาน (อธิบดี) มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติได้รวมถึงกรณีเรื่องอื่นที่เป็นลักษณะเช่นนี้ด้วย นั้น คณะกรรมการกลั่นกรองฯ มีมติเห็นควรให้กระทรวงพลังงาน (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน) ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๑๓๖ วรรคหนึ่ง ซึ่งกำหนดว่า “สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือที่ได้ลงนามแล้วจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงมิได้เว้นแต่การแก้ไขนั้นจะเป็นความจำเป็น โดยไม่ทำให้ทางราชการต้องเสียประโยชน์หรือเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ ให้อยู่ในอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการที่จะพิจารณาอนุมัติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้ามีการเพิ่มวงเงินจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือขอทำความตกลงในส่วนที่เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ แล้วแต่กรณีด้วย” และหากกรณีไม่เข้าข่ายตามข้อ ๑๓๖ วรรคหนึ่ง ก็ต้องขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ ตามข้อ ๑๒ (๒) ต่อไป ๒. ให้กระทรวงพลังงาน (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน) รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดที่เห็นว่า หากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานที่ติดตั้งทำให้มีความจำเป็นต้องลดปริมาณงานที่ต้องดำเนินการตามสัญญาก็ควรต้องมีการแก้ไขสัญญาเรื่องลดวงเงินให้สอดคล้องกับเนื้องานที่ปรับลดลง รวมทั้งมีการตกลงเรื่องการเพิ่มหรือลดระยะเวลาในการทำงานตามสัญญาพร้อมกันไปด้วย ทั้งนี้ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๑๓๖ วรรคสอง และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานจะต้องดำเนินการในเรื่องงบประมาณที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตลอดจนระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป รวมทั้งให้ส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาก่อนการลงนามต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31367 | รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส 3 ปี 2554 และรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนพฤศจิกายน 2554 | อก | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ (กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๕๔) และรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ (กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๕๔) ๑.๑ เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ ๓ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ในไตรมาสที่ ๒ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ขยายตัวร้อยละ ๒.๖ ชะลอลงจากไตรมาสที่ ๑ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ขยายตัวร้อยละ ๓.๒ และชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ ๒ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ขยายตัวร้อยละ ๙.๒ โดยปัจจัยที่ทำให้อัตราการขยายตัวชะลอลง จากไตรมาสที่ ๑ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ คือ การชะลอตัวลงทั้งอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศ โดยการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของครัวเรือนชะลอลงจากการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทน โดยเฉพาะรถยนต์ ส่วนการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาลและการลงทุนรวมชะลอตัวลงเช่นกัน สำหรับอุปสงค์ต่างประเทศชะลอตัวลงจากการชะลอตัวของทั้งการส่งออกและการนำเข้า ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จะขยายตัวร้อยละ ๓.๕ - ๔.๐ (ณ วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๔) ชะลอลงจากปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ขยายตัวร้อยละ ๗.๘ ๑.๒ ภาคอุตสาหกรรมไทยไตรมาสที่ ๓ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ ๓ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ พบว่าบางตัวมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและไตรมาสเดียวกันของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เช่น ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต โดยอุตสาหกรรมที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้แก่ ยานยนต์ Hard Disk Drive เบียร์ เป็นต้น สำหรับอุตสาหกรรมที่มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้แก่ ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น ส่วนข้อมูลการส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๕.๕ (มกราคม - กันยายน ๒๕๕๔) เทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์และส่วนประกอบ ยางพารา เป็นต้น ๑.๓ สถานการณ์การค้าในไตรมาสที่ ๓ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ขยายตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยการค้าต่างประเทศของไทยมีมูลค่าทั้งสิ้น ๑๒๗,๓๖๕.๙๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นมูลค่าการส่งออกเท่ากับ ๖๔,๕๙๙.๕๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการนำเข้าเท่ากับ ๖๒,๗๖๖.๔๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ ๒ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๑.๑๘ และมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๙.๔๔ ส่งผลให้ไตรมาสที่ ๓ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ดุลการค้าเกินดุล ๑,๘๓๓.๑๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๙.๐๐ และมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๒.๖๘ ๒. สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๒.๑ อุตสาหกรรมอาหาร การผลิต คาดว่าจะชะลอตัวลง จากอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศได้สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตทางการเกษตรและโรงงานอุตสาหกรรม ต้องหยุดกิจการ และอาจส่งผลต่อการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารซึ่งอยู่ในช่วงการผลิตสูงสุดของปี รวมไปถึงการจำหน่ายสินค้าในประเทศจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากปัญหาดังกล่าว ประกอบกับข่าวการปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า ๒.๒ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิต คาดว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มสิ่งทอ โรงงานผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ขนาดใหญ่ได้รับความเสียหายค่อนข้างมากในจังหวัดลพบุรี และได้หยุดกิจการแล้ว นอกจากนี้ ยังมีโรงงานทอผ้าในจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงโรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ถนนพุทธมณฑล ถนนเอกชัย - บางบอน ซึ่งล้วนได้รับผลกระทบและหยุดกิจการแล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกทั้งปีลดลงจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ ๒.๓ อุตสาหกรรมยานยนต์ ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ คาดว่าจะทรงตัวเนื่องจากยังคงมีปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31368 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครนายก พ.ศ. .... | นร | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครนายก พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดนครนายก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31369 | สรุปสถานการณ์นักท่องเที่ยว ระหว่างเดือนมกราคม - ธันวาคม 2554 | กก | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์นักท่องเที่ยว ระหว่างเดือนมกราคม - ธันวาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์นักท่องเที่ยว ระหว่างเดือนมกราคม - ธันวาคม ๒๕๕๔ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย จำนวน ๑๙,๐๙๘,๓๒๓ คน เพิ่มขึ้น ๓,๑๖๑,๙๒๓ คน คิดเป็น ๑๙.๘๔% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุด ๑๐ อันดับแรก ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลี อินเดีย ลาว ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ ๒. ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น คือ ความมั่นใจต่อสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทย ความนิยมต่อแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย และผลการดำเนินการตามแผนงานส่งเสริมและสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ กระตุ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้น ๓. แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จากการวิเคราะห์สถิติการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และแนวโน้มสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวโลก ตลอดจนแผนงานและมาตรการด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์และกระตุ้นตลาดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของไทยในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จะขยายตัวประมาณ ๘% - ๑๐% ๔. ผู้เดินทางชาวไทยเดินทางออกไปต่างประเทศ ระหว่างเดือนมกราคม - ธันวาคม ๒๕๕๔ มีจำนวน ๕,๗๖๑,๒๕๒ คน เพิ่มขึ้น ๑๕๒,๒๘๘ คน คิดเป็น ๒.๗๒% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยผู้เดินทางชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเป็นหลัก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31370 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... | มท | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลนิเวศน์ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31371 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลเขาเจียก อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง พ.ศ. .... | มท | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลเขาเจียก อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลเขาเจียก อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31372 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลทาสบชัย อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... | มท | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลทาสบชัย อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลทาสบชัย อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31373 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พ.ศ. .... | มท | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่บางส่วนของตำบลหนองหาร บางส่วนของตำบลป่าไผ่ ตำบลหนองจ๊อม ตำบลสันทรายหลวง ตำบลสันนาเม็ง ตำบลสันทรายน้อย ตำบลสันพระเนตร อำเภอสันทราย ตำบลเหมืองแก้ว บางส่วนของตำบลริมใต้ บางส่วนของตำบลแม่สา บางส่วนของตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม ตำบลสันผีเสื้อ ตำบลช้างเผือก ตำบลป่าตัน ตำบลฟ้าฮ่าม ตำบลสุเทพ ตำบลหนองป่าครั่ง ตำบลศรีภูมิ ตำบลช้างม่อย ตำบลวัดเกต ตำบลพระสิงห์ ตำบลช้างคลาน ตำบลท่าศาลา ตำบลหายยา ตำบลหนองหอย ตำบลป่าแดด บางส่วนของตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ต ตำบลสันกลาง ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง ตำบลไชยสถาน ตำบลท่าวังตาล ตำบลหนองผึ้ง ตำบลป่าบง ตำบลยางเนิ้ง ตำบลชมภู ตำบลดอนแก้ว ตำบลหนองแฝก ตำบลสารภี บางส่วนของตำบลขัวมุง บางส่วนของตำบลท่ากว้าง อำเภอสารภี บางส่วนของตำบลหนองควาย ตำบลสันผักหวาน บางส่วนของตำบลน้ำแพร่ ตำบลบ้านแหวน ตำบลหางดง ตำบลสบแม่ข่า ตำบลหนองแก๋ว และบางส่วนของตำบลขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคม และการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31374 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปี จำนวน 12 ฉบับ) | มท | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปี จำนวน ๑๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครนายก พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ๒. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนอ้อมใหญ่ จังหวัดนครปฐม พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๖ ๓. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสุรินทร์ พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๖ ๔. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๕. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองฉะเชิงเทรา พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ ๖. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองระยอง พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ๗. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองมุกดาหาร พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ๘. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ๙. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. ๒๕๔๙ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๒ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ๑๐. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองเสือ - คลองหลวง - ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. ๒๕๕๐ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๑ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๑๑. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหินกอง - โคกแย้ จังหวัดสระบุรี พ.ศ. ๒๕๕๐ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๑ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ๑๒. ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทับกวาง จังหวัดสระบุรี พ.ศ. ๒๕๕๐ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลา ครั้งที่ ๑ วันสิ้นสุดการใช้บังคับ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31375 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดราชบุรี พ.ศ. .... | นร | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดราชบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดราชบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31376 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ปี 2554 | กษ | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินโครงการการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินงานโครงการฯ ในแหล่งผลิตสำคัญ ๔๖ จังหวัด พื้นที่ดำเนินการ ๔,๐๗๒,๐๒๕ ไร่ ซึ่งมีกิจกรรมหลักที่สำคัญ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดงานรณรงค์การควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง เพื่อให้เกษตรกรมีการปลูกมันสำปะหลังอย่างถูกวิธีตั้งแต่การเตรียมดิน การแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังด้วยสารเคมีก่อนปลูกให้กับเกษตรกร และการสนับสนุนศัตรูธรรมชาติควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง จำนวน ๒ ชนิด คือ แมลงช้างปีกใส และแตนเบียนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง (Anagyrus lopezi) ๒. จัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน จำนวน ๓๗๗ ศูนย์ เพื่อใช้ในการถ่ายทอดความรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน รวมทั้งการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ๓. เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ให้กับเจ้าหน้าที่และเกษตรกร โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรได้ตระหนักถึงภัยของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังและดำเนินการควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังตามคำแนะนำของทางราชการ ๔. สนับสนุนการดำเนินงานและบริหารจัดการโครงการฯ ได้แก่ การพัฒนาศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด อำเภอ การประชุมประธานศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนเพื่อวางแผนการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน การนำร่องการใช้ภูมิสารสนเทศในการติดตามสถานการณ์เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังใน ๓ จังหวัด และการติดตามการดำเนินงานโครงการฯ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ๕. การดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับสารเคมีแช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูกให้กับเกษตรกรทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภออย่างชัดเจนสามารถตรวจสอบได้ การถ่ายทอดความรู้ในการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการเฝ้าระวังและรายงานสถานการณ์เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง และวางแผนการพัฒนาศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนให้เกิดความยั่งยืน รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิตขยายศัตรูธรรมชาติ และแบ่งพื้นที่รับผิดชอบในการปล่อยศัตรูธรรมชาติเพื่อควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ๖. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ ได้ใช้งบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๔๘๐.๖๔ ล้านบาท จากงบประมาณทั้งสิ้น ๔๘๙.๐๒ ล้านบาท ๗. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากในช่วงระยะเวลาดำเนินการมีฝนตกเร็วกว่ากำหนดและกระจายในหลายพื้นที่ทำให้มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการเพาะปลูก เป็นผลให้เกษตรกรประมาณร้อยละ ๕๐ ของพื้นที่เป้าหมายในโครงการปลูกมันสำปะหลังก่อนฤดูการปลูกถึง ๓ เดือน ๘. แนวทางแก้ไขปัญหา ได้แก่ การสนับสนุนเคมีแช่ท่อนพันธุ์มันสำปหลังก่อนปลูกอย่างต่อเนื่อง การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ และถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรให้ตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดจากการทำลายของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง การให้ความสำคัญของการสำรวจแปลงปลูกมันสำมันปะหลังอย่างสม่ำเสมอ และการส่งเสริมให้เกษตรกรดูแลต้นมันสำปะหลังให้สมบูรณ์ แข็งแรง มีการควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังโดยวิธีผสมผสาน รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังของกรมส่งเสริมการเกษตร
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31377 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... | นร | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง บางส่วน รวมเนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ ๔๒ ตารางวา เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลเสริมกลางใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลเสริมกลางและใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31378 | รายงานสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี พ.ศ. 2553 | พม | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ปริมาณการจับกุมคดีค้ามนุษย์ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีจำนวนทั้งสิ้น ๗๐ คดี โดยมีประเภทคดีเพียง ๓ ประเภท คือ การแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี จำนวน ๕๘ คดี การนำคนมาขอทาน จำนวน ๒ คดี และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ จำนวน ๑๐ คดี สำหรับผู้เสียหาย มีจำนวนทั้งสิ้น ๘๗ คน แบ่งเป็นคนไทย จำนวน ๕๑ คน ต่างชาติ จำนวน ๓๖ คน จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนทั้งสิ้น ๑๑๕ คน แบ่งเป็นคนไทย จำนวน ๑๐๑ คน และต่างชาติ จำนวน ๑๔ คน ๒. ประเทศไทยยังคงมี ๓ สถานะในกระบวนการค้ามนุษย์ ได้แก่ สถานะประเทศต้นทาง สถานะประเทศปลายทาง และสถานะทางผ่าน โดยเฉพาะสถานะของประเทศปลายทาง เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานไร้ฝีมือในทุกภาคการผลิตส่งผลให้มีผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแสวงหาประโยชน์จากการใช้แรงงาน นอกจากนี้ ยังมีคนไทยเป็นจำนวนมากที่ถูกแสวงหาประโยชน์จากการไปทำงานในต่างประเทศด้วย ๓. การดำเนินงานป้องกัน ได้มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ครอบคลุมทุกด้านอย่างเป็นระบบทั้งในด้านการป้องกัน การดำเนินคดี การคุ้มครอง และด้านการพัฒนานโยบาย ซึ่งมีผลการดำเนินงานสรุปได้ ดังนี้ ๓.๑ ด้านการดำเนินคดี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จับกุมคดีค้ามนุษย์ที่มีตัวผู้กระทำความผิดทั่วประเทศได้ จำนวน ๗๐ คดี โดยมีองค์กรภาคเอกชนเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส และข้อมูล พร้อมทั้งสนับสนุนการนำจับ ซึ่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องคดี จำนวน ๗๐ คดีเช่นกัน ๓.๒ ด้านการคุ้มครอง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีกลุ่มเสี่ยงหรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจตกเป็นผู้เสียหายเข้ารับการคุ้มครองในสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน ๕๐๙ คน และได้ใช้แบบประเมินสภาพร่างกาย จิตใจ และสังคม เพื่อคัดกรองผู้เสียหายจากกลุ่มเสี่ยงและได้รับใบส่งตัวเป็นผู้เสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น ๘๗ คน เป็นคนไทย ๕๑ คน ต่างชาติ ๓๖ คน ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและค่าชดเชย ๓.๓ ด้านการป้องกัน ได้สร้างความตระหนักถึงภัยการค้ามนุษย์และรูปแบบหรือวิธีการของกระบวนการค้ามนุษย์สำหรับประชาชนทั่วไป และประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ในรูปแบบต่าง ๆ การผลิตสื่อรณรงค์ และเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับภัยการค้ามนุษย์ ของภาคธุรกิจ ภาคเอกชนในระดับพื้นที่ และการเข้าถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น กลุ่มแรงงานไร้ฝีมือ หรือกึ่งมีฝีมือที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้รับทราบถึงวิธีการแสวงหาประโยชน์จากนายหน้าค้ามนุษย์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศที่จะเดินทางเพื่อไปทำงาน รวมถึงแหล่งให้ความช่วยเหลือกรณีประสบปัญหา ของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำหรับแรงงานต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาตามด่านพรมแดนถาวร หรือด่านชั่วคราว จะมีสื่อรณรงค์เป็นภาษาต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ไว้เพื่อเตือนให้ระวังภัยจากการค้ามนุษย์ และแหล่งให้ความช่วยเหลือ ๓.๔. ด้านการพัฒนานโยบาย ได้มีการประชุมความร่วมมือในระดับพหุภาคีในกลุ่มอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงซึ่งเป็นประเทศต้นทางในกระบวนการค้ามนุษย์ของไทย เพื่อวางแผนในการพัฒนาผู้บังคับใช้กฎหมาย การจัดการข้อมูล และการส่งกลับโดยปลอดภัย รวมทั้งความร่วมมือในระดับทวิภาคีกับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการส่งกลับผู้เสียหายไปยังประเทศต้นทาง ๔. แนวทางการดำเนินการต่อไป ได้แก่ การส่งเสริมให้แรงงานต่างด้าวมีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย การเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศปลายทางในการปราบปรามการแสวงหาประโยชน์จากแรงงานไทย การพัฒนาระบบข้อมูลของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและการดำเนินคดี การสร้างความเข้าใจกับทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังการแสวงหาประโยชน์จากการใช้แรงงาน การแสวงหาประโยชน์ทางเพศรูปแบบอื่น รวมทั้งการพัฒนาแบบคัดแยกเหยื่อให้เป็นมาตรฐาน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่คาดว่าจะเป็นผู้เสียหายให้ความร่วมมือในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31379 | นายศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล ฟ้องคณะรัฐมนตรีกับพวกรวม 3 คน ต่อศาลปกครองกลางให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ผู้ฟ้องดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่แต่งตั้งให้ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และพิพากษาว่าผู้ฟ้องคดีมีสิทธิและหน้าที่ในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาดังเดิม | อส | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอผลคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในคดีหมายเลขดำที่ ๑๐๕๕/๒๕๕๑ ระหว่าง นายศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรีกับพวกรวม ๓ คน ผู้ถูกฟ้องคดี โดยผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ผู้ฟ้องคดีย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่แต่งตั้งให้ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิและหน้าที่ในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาดังเดิมนั้น ซึ่งต่อมาศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าวแล้ว ตามคดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๐/๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||||||||
31380 | การประชุมคณะรัฐมนตรี (วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555) | นร | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็นวันจันทร์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจในการลงพื้นที่ตรวจติดตามงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในจังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|