ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอรับสัมปทาน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นคำขอรับสัมปทานและการให้สัมปทานในการสร้างหรือบำรุงรักษาทาง พ.ศ. .... | คค | 13/03/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอรับสัมปทาน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นคำขอรับสัมปทานและการให้สัมปทานในการสร้างหรือบำรุงรักษาทาง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้ยื่นคำขอรับสัมปทาน หลักฐานประกอบคำขอรับสัมปทาน ได้แก่ หลักฐานแสดงกรณีบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทย หลักฐานแสดงกรณีนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ หรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เป็นต้น และการจัดทำข้อเสนอของโครงการก่อสร้างหรือบำรุงรักษาทางของผู้ยื่นคำขอรับสัมปทาน ๑.๒ กำหนดให้กรณีสัมปทานเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายนั้น และกำหนดให้กรณีสัมปทานเป็นโครงการที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ ให้กรมทางหลวงเป็นผู้พิจารณาคำขอรับสัมปทานแล้วคัดเลือกผู้ยื่นคำขอรับสัมปทาน พร้อมทั้งเสนอเหตุผลประกอบร่างสัญญาและเอกสารทั้งหมดต่อรัฐมนตรีภายใน ๑๘๐ วัน หากรัฐมนตรีเห็นควรให้สัมปทานแก่ผู้ยื่นคำขอรายใดให้เสนอรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ๑.๓ กำหนดให้หากคณะรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐมนตรีให้ส่งเรื่องคืนคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐเพื่อพิจารณาทบทวนแล้วให้รัฐมนตรีนำผลการพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีชี้ขาด ๑.๔ กำหนดให้กรณีผู้ใดได้รับอนุมัติให้ได้รับสัมปทาน ไม่มีสภาพเป็นบริษัทตามกฎหมายไทย ให้ผู้นั้นดำเนินการจัดตั้งหรือร่วมกันจัดตั้งบริษัทตามกฎหมายไทย ๑.๕ กำหนดให้การลงนามในสัมปทาน ผู้รับสัมปทานต้องนำหลักประกันตามที่กรมทางหลวงกำหนดไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของวงเงินสัมปทาน เพื่อเป็นหลักประกันกับกรมทางหลวง ๑.๖ กำหนดให้รัฐอาจให้สัมปทานแก่บุคคลใดโดยไม่ต้องมีการออกประกาศเชิญชวนก็ได้ ได้แก่ การสร้างหรือบำรุงรักษาทางที่มีวงเงินลงทุนไม่เกินหนึ่งพันล้านบาท การสร้างหรือบำรุงรักษาทางที่เป็นการต่อเติมหรือต่อเนื่องกับโครงการเดิม อันไม่อาจแยกหรือไม่เหมาะสมที่จะแยกออกจากโครงการเดิม และมีวงเงินลงทุนไม่เกินหนึ่งในสามของโครงการเดิม แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินวงเงินที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ ๑.๗ กำหนดให้การออกประกาศเชิญชวนเพื่อให้ยื่นคำขอรับสัมปทานในการสร้างหรือบำรุงรักษาทางที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ ก่อนที่จะประกาศบังคับใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ ให้ถือว่าเป็นการออกประกาศเชิญชวนเพื่อให้ยื่นคำขอรับสัมปทานในการสร้างหรือบำรุงรักษาทางหลวงที่ได้ดำเนินการตามกฎกระทรวงฉบับนี้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับกรณีที่กระทรวงการคลังได้มีการปรับปรุงเนื้อหาของพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. .... ในส่วนของหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการร่วมลงทุนระหว่างหน่วยงานเจ้าของโครงการและเอกชนในกิจการของรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อแนวทางและขั้นตอนในการขอรับสัมปทานตามร่างกฎกระทรวงฯ ที่เสนอในครั้งนี้ โดยเฉพาะกรณีโครงการมีมูลค่าต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท จึงเห็นควรให้กรมทางหลวงประสานกับกระทรวงการคลังในการพิจารณาปรับปรุงร่างกฎกระทรวงฯ ให้มีความสอดคล้องกันก่อนเสนอร่างกฎกระทรวงฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งเห็นควรให้มีการศึกษาวิเคราะห์และเปรียบเทียบความคุ้มค่าทางการเงิน (Value for money) ระหว่างการดำเนินการเองและการให้สัมปทาน และพิจารณากำหนดกลไกการกำกับดูแลและบริหารจัดการสัญญาสัมปทาน เพื่อให้การสัมปทานก่อสร้างทางหรือบำรุงรักษาทางหลวงสัมปทานอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน และมีแนวทางในการบริหารจัดการรายได้และรายจ่ายที่ชัดเจน เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....