ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1568 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 31341 - 31360 จากข้อมูลทั้งหมด 124233 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
31341 | ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 13/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ปัจจุบันสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนบุคลากรของรัฐในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา) รับไปกำชับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความละเอียดรอบคอบ ระมัดระวัง และบูรณาการการดำเนินการร่วมกันในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเร่งดำเนินโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบเพื่อช่วยฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยยึดหลัก “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” และการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสำคัญ
|
|||||||||||||||||||||
31342 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... | นร | 13/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31343 | ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 13/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31344 | ร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... | นร | 13/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31345 | มาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย | กค | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ได้พิจารณาแล้วในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และครั้งที่ ๖/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ ๒๓ มีนาคม - ๑๘ เมษายน ๒๕๕๔ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างและผู้ประกอบการอื่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ - ๑๖ มกราคม ๒๕๕๕ ไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยนำมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยตามมติที่ประชุม กวพ. ดังกล่าวไปใช้บังคับในการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษโดยอนุโลม ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐต้องดำเนินการอย่างรัดกุมและปฏิบัติต่อคู่สัญญาภาครัฐทั้งหมดให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันด้วย |
|||||||||||||||||||||
31346 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดเกาะลอย ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดเกาะลอย ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดเกาะลอย ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ตามโฉนดเลขที่ ๗๐๑๙ (บางส่วน) เนื้อที่ ๒ งาน ๑๖ ตารางวา และตามโฉนดเลขที่ ๗๐๖๕ (บางส่วน) เนื้อที่ ๑ ไร่ ๙๓ ตารางวา รวมเป็นเนื้อที่ ๑ ไร่ ๓ งาน ๐๙ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน เพื่อดำเนินการก่อสร้างคลองส่งน้ำสาย ๑๒ ซ้าย ๑ ขวา เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ตามโครงการแม่กลองใหญ่ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
31347 | ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขผลกระทบปัญหาการกัดเซาะชายทะเลกรุงเทพมหานคร และเขตพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งแม่น้ำโขง | สผ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขผลกระทบปัญหาการกัดเซาะชายทะเลกรุงเทพมหานครและเขตพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย (นายวิชาญ มีนชัยนันท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งแม่น้ำโขง (นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ เป็นผู้เสนอ) และผลการดำเนินการตามญัตติดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำรายงานผลการดำเนินการตามญัตติแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและผลการตรวจสอบและรวบรวมพื้นที่เสียหายจากสถานการณ์คลื่นยักษ์ ในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ โดยเห็นว่าการดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจกรรม ซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ ข้อ ๒๕ การก่อสร้างหรือขยายสิ่งก่อสร้างบริเวณหรือในทะเล ข้อย่อย ๒๕.๑ กำแพงริมชายฝั่ง ติดแนวชายฝั่ง ความยาวตั้งแต่ ๒๐๐ เมตรขึ้นไป ต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณในการปฏิบัติตามประกาศกระทรวงฯ มาก ทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้า ประกอบกับรูปแบบที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการเป็นลักษณะโครงสร้างที่อยู่ในตลิ่งและขนานไปกับชายหาดไม่กีดขวางการเคลื่อนที่ของตะกอนทราย และในการออกแบบได้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อพื้นที่ข้างเคียงแล้ว ซึ่งจากโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จไม่พบว่าส่งผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียงแต่อย่างใด จึงเห็นควรยกเลิกหรือยกเว้นการดำเนินการตามประกาศกระทรวงฯ ในข้อ ๒๕ ตามข้อย่อย ๒๕.๑ ดังกล่าว สำหรับโครงการของส่วนราชการและกระทรวงมหาดไทยได้รวบรวมผลการดำเนินการตามญัตติแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ๒. สำหรับหน่วยงานอื่นได้พิจารณาดำเนินการตามญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแก้ไขผลกระทบปัญหาการกัดเซาะชายทะเลกรุงเทพมหานครและเขตพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งแม่น้ำโขง ด้วยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
31348 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 สายกรุงเทพมหานคร - สะเดา (คลองพรวน) ตอนบ้านบางนอนใน - บ้านพรรั้ง พ.ศ. .... | คค | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ สายกรุงเทพมหานคร - สะเดา (คลองพรวน) ตอนบ้านบางนอนใน - บ้านพรรั้ง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ สายกรุงเทพมหานคร - สะเดา (คลองพรวน) ตอนบ้านบางนอนใน - บ้านพรรั้ง ในท้องที่อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
31349 | การขอโอนสัมปทานปิโตรเลียม (บางส่วน) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 8/2550/84 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L9/48 | พน | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัท อินเทอร์รา รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด โอนสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๘/๒๕๕๐/๘๔ แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L๙/๔๘ ให้แก่ บริษัท เจเอสเอ็กซ์ เอ็นเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๔ โดยอาศัยความตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๐ และตามมาตรา ๒๒ (๗) แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งกำหนดให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการปิโตรเลียม และต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยให้ออกเป็นสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๘/๒๕๕๐/๘๔ ตามแบบ ชธ/ป๓ ที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๓๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31350 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย และตำบลมหาชัย ตำบลหนองทอง ตำบลหนองคล้า ตำบลพานทอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย และตำบลมหาชัย ตำบลหนองทอง ตำบลหนองคล้า ตำบลพานทอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย และตำบลมหาชัย ตำบลหนองทอง ตำบลหนองคล้า ตำบลพานทอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
31351 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่จังหวัดเลย จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดชุมพร จำนวน 4 ฉบับ | กษ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากหมัน และตำบลอิปุ่ม อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากหมัน และตำบลอิปุ่ม อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
31352 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้เรือครั้งแรกสำหรับเรือประมง ขนาดไม่เกินยี่สิบตันกรอส พ.ศ. .... | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้เรือครั้งแรกสำหรับเรือประมงขนาดไม่เกินยี่สิบตันกรอส พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้เรือในการขอรับใบอนุญาตใช้เรือครั้งแรกสำหรับเรือประมงขนาดไม่เกินยี่สิบตันกรอส ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
31353 | ขอความเห็นชอบอัตราเบี้ยกรรมการบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด | คค | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบอัตราเบี้ยกรรมการบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นควรกำหนดอัตราเบี้ยกรรมการบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ในอัตราไม่เกินคนละ ๘,๐๐๐ บาทต่อเดือน โดยให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง การปรับปรุงอัตราเบี้ยกรรมการรัฐวิสาหกิจ) ดังนี้ ๑.๑ ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจมีอำนาจในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงาน เพื่อทำหน้าที่บางประการตามที่ได้รับมอบหมาย โดยกรรมการรัฐวิสาหกิจที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานให้ได้รับเบี้ยประชุมในอัตราเหมาจ่ายเป็นรายเดือนเท่ากับเบี้ยกรรมการรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ หากกรรมการรัฐวิสาหกิจท่านใดได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการอื่นมากกว่า ๑ คณะ ก็ให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงคณะใดคณะหนึ่งเท่านั้น สำหรับกรรมการอื่นที่มิใช่กรรมการรัฐวิสาหกิจให้ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งสูงสุดไม่เกินครั้งละ ๑,๐๐๐ บาท ๑.๒ อนุมัติเป็นหลักการในการจ่ายเบี้ยประชุมประธานและรองประธานในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการอื่น ๆ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่นที่คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่งตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เฉพาะเรื่อง ให้ประธานกรรมการได้รับสูงกว่ากรรมการร้อยละ ๒๕ และรองประธานกรรมการได้สูงกว่ากรรมการร้อยละ ๑๒.๕ และให้กรรมการเสียภาษีเงินได้เอง ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด พิจารณาอัตราเบี้ยกรรมการที่จ่ายจริงในแต่ละครั้งให้เหมาะสมและสอดคล้องกับฐานะการเงินของกิจการ ณ ขณะนั้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
31354 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 | กห | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช ๒๔๗๘ มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกความวรรคหนึ่ง ของข้อ ๒๕ แห่งกฎสำนักนายกรัฐมนตรีออกตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช ๒๔๗๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ ๖๑ (พ.ศ. ๒๕๑๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช ๒๔๗๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๒๕ ข้าราชการพลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเข้ารับราชการครั้งแรกสังกัดหน่วยที่มิได้ขึ้นกับกองทัพใด ให้แต่งเครื่องแบบสีตามหน่วยกองทัพที่ได้รับการบรรจุ และให้ใช้เครื่องหมายสังกัด ตามข้อ ๑๒ (๑)” ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
31355 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 2 ฉบับ | กษ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองบางจาก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองบางจาก จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลบางจาก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงกิโลเมตรที่ ๓.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลบางจาก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองอ่าวตะเคียนเชียรใหญ่ - ใหม่สุรินทร์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองอ่าวตะเคียนเชียรใหญ่ - ใหม่สุรินทร์ จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลท้องลำเจียก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงกิโลเมตรที่ ๒.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลท้องลำเจียก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่
|
|||||||||||||||||||||
31356 | โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางนลินี ทวีสิน) รับเรื่อง โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม ไปพิจารณาทบทวนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยประสานงานและบูรณาการข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรมมีความชัดเจนในประเด็นต่าง ๆ เช่น หลักเกณฑ์เงื่อนไขในการพิจารณาคัดเลือกผู้รับทุน การกำหนดสาขาวิชาของทุน และเงื่อนไขการชดใช้ทุนหรือการทำประโยชน์ภายหลังจบการศึกษา เป็นต้น รวมทั้งให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงานทั้งในภาครัฐและเอกชน ตลอดจนยุทธศาสตร์และทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคต ๒. ให้นำความเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการประเมินผลโครงการเป็นระยะ ๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น การคัดเลือกสถาบันอุดมศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษา และนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ การกำหนดแนวทางความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดความมั่นว่าจะสามารถดำเนินงานโครงการไปสู่เป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการให้ผู้ที่ได้รับทุนจากโครงการได้กลับมาถ่ายทอดและเผยแพร่องค์ความรู้ที่ได้รับจากการทำวิจัยและการสร้างนวัตกรรมแก่นิสิตนักศึกษา คณาจารย์ และผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ ควรมีการจัดทำรายละเอียดแผนบริหารจัดการโครงการและกลไกในการประสานความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาและภาคอุตสาหกรรม และกำหนดโจทย์วิจัยที่สอดคล้องกับความต้องการในภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมและสัมฤทธิ์ผล เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
31357 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณี นายสุรพล ปริญญาศาสตร์ ฟ้องนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต่อศาลปกครองสูงสุด | อส | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๗/๒๕๕๕ ซึ่งมีคำพิพากษายกฟ้องคดีหมายเลขดำที่ ฟ.๓๘/๒๕๕๑ ระหว่างนายสุรพล ปริญญาศาสตร์ ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐ ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31358 | กรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 | กค | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรื่อง กรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยมีสาระสำคัญของมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้
๑. อนุมัติกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ วงเงิน ๓๕๐,๐๐๐ ล้านบาท จัดสรรเป็น ๓ ส่วน คือ การลงทุนตามแผนปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำแบบบูรณาการและยั่งยืน (กรณีลุ่มน้ำเจ้าพระยา) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ๘ ลุ่มน้ำ วงเงิน ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท การลงทุนตามแผนปฏิบัติการในพื้นที่ลุ่มน้ำอีก ๑๗ ลุ่มน้ำ ในวงเงิน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท และการลงทุนตามยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ วงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีรายละเอียดของกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ฯ ดังนี้ ๑.๑ แผนงานฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าและระบบนิเวศ กรอบวงเงินจำนวน ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการฟื้นฟู และอนุรักษ์ดินต้นน้ำ โดยการปลูกป่า สร้างฝายแม้ว และอนุรักษ์ดินต้นน้ำ ของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ท่าจีน และป่าสัก จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท และสร้างอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำสะแกกรัง ลุ่มน้ำน่าน และลุ่มน้ำป่าสัก จำนวน ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒ แผนงานฟื้นฟูและปรับปรุงประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้างเดิมหรือตามแผนที่วางไว้ จำนวน ๑๗๗,๐๐๐ ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการจัดทำทางน้ำหลาก (floodway) และหรือทางผันน้ำ (flood diversion channel) รวมทั้งถนนและอาคารองค์ประกอบเพื่อรับน้ำหลากจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางตะวันออกหรือทั้งสองฝั่ง จำนวน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท การจัดทำผังการใช้ที่ดินและหรือการใช้ประโยชน์ที่ดินในผัง รวมทั้งจัดทำพื้นที่ปิดล้อม จำนวน ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท และการปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลักและคันริมแม่น้ำส่วนที่เหลือ จำนวน ๗,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๓ แผนงานพัฒนาคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์ และเตือนภัย โดยการจัดทำระบบฐานข้อมูล ระบบพยากรณ์ ระบบเตือนภัย แผนเผชิญเหตุ รวมทั้งจัดตั้งองค์กร กฎระเบียบที่จำเป็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๔ แผนงานการกำหนดพื้นที่รับน้ำนอง และมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่เพื่อการรับน้ำ โดยการปรับปรุงพื้นที่เกษตรชลประทานให้เป็นแก้มลิง แม่น้ำประมาณ ๒ ล้านไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ชลประทานของโครงการพิษณุโลกและของโครงการเจ้าพระยาใหญ่และพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ จำนวน ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๕ แผนการดำเนินการบริหารจัดการน้ำของ ๑๗ ลุ่มน้ำที่เหลือ จำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๖ แผนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกันพิจารณาปรับปรุงข้อความในเอกสารกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ฯ ในภาพรวมให้เหมาะสมและให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
31359 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเงินทดแทน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 | รง | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนเงินทดแทน ของสำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๒ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว และเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๒ และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของกองทุนฯ โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
|
|||||||||||||||||||||
31360 | คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 และคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๕๖/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ โดยมีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา และประธานวุฒิสภา เป็นที่ปรึกษาและกรรมการ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดรูปแบบ แนวทางการจัดงาน โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ ให้สมพระเกียรติ พิจารณามอบหมายภารกิจตามแผนงาน โครงการ และกิจกรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานฝ่ายต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานตามที่เห็นสมควร ตลอดจนดำเนินการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๕๗/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ โดยมีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา และประธานวุฒิสภา เป็นที่ปรึกษาและกรรมการ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดรูปแบบ แนวทางการจัดงาน โครงการ และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา ๕ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ให้สมพระเกียรติ พิจารณามอบหมายภารกิจตามแผนงาน โครงการ และกิจกรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานฝ่ายต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานตามที่เห็นสมควร ตลอดจนดำเนินการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
|
.....