ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1568 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 31341 - 31360 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
31341 | การติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของนายกรัฐมนตรีและคณะ ระหว่างวันที่ 13 - 17 กุมภาพันธ์ 2555 | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ของนายกรัฐมนตรีและคณะ ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบวัตถุประสงค์ของการเดินทาง พร้อมทั้งแนวทางการตรวจราชการการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และการกำหนดผู้รับผิดชอบพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ๒. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุม เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เพื่อเตรียมการและกำหนดผู้รับผิดชอบด้านต่าง ๆ ดังนี้ ๒.๑ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการตามแผนการเดินทางตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีและคณะ โดยกำหนดเป็น ๒ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มติดตามนายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่ และกลุ่มที่มีภารกิจร่วมการประชุมกับคณะผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวง ทบวง กรม เพื่อจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการ (Workshop) ๒.๒ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีแผนงาน/โครงการในพื้นที่ตรวจราชการรวบรวมรายละเอียดแผนงาน/โครงการ ความก้าวหน้าและผลการดำเนินการ โดยจัดกลุ่มประเภทแผนงาน/โครงการ แล้วจัดส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณบูรณาการข้อมูลร่วมกัน ภายในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ๒.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักการจัดประชุมในพื้นที่เพื่อสรุปข้อมูลแผนงาน/โครงการ โดยมีผู้แทน กยน. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นหน่วยงานสนับสนุน โดย ก.พ.ร. จะเป็นผู้รับผิดชอบการจัดทำแบบฟอร์มกลางเพื่อรวบรวมข้อมูลและการจัดกลุ่มแผนงาน/โครงการต่าง ๆ เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีและคณะ ๒.๔ ให้เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวิม รุ่งวัฒนจินดา) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สำนักโฆษก) และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ (ช่อง ๑๑) เป็นผู้รับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูลและการประชาสัมพันธ์ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางนลินี ทวีสิน) เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวมและเป็นผู้พิจารณาการจัดทำข้อมูลการบริหารจัดการน้ำต่าง ๆ เช่น แผนงาน/โครงการป้องกันอุทกภัยของหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งแผนงาน/โครงการของ กยน. เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้รับทราบข้อมูลแผนงาน/โครงการการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ทั้งจากเว็บไซต์ และการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
31342 | สรุปผลการประชุมปรึกษาหารือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ สรุปผลการประชุมปรึกษาหารือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๕ เกี่ยวกับการแบ่งงานขุดลอกคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งสิ้น ๔๓ คลอง ๔๘ รายการ ภายใต้การบูรณาการความรับผิดชอบระหว่างกรุงเทพมหานคร และ ๙ กระทรวง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีผลการประชุมฯ ดังนี้ ๑.๑.๑ รัฐบาลจะช่วยกรุงเทพมหานครดำเนินการป้องกันน้ำท่วมเกี่ยวกับการขุดลอกคลอง การซ่อมแซมประตูระบายน้ำ การออกแบบและติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ การเชื่อมโยงระบบเตือนภัย รวมถึงการจัดทำแผนเผชิญเหตุและคลังเครื่องมือเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ๑.๑.๒ การแบ่งงานขุดลอกคลอง ประกอบด้วย การแบ่งงานขุดลอกคลองหลัก ๒๙ แห่ง รวม ๒๙ รายการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ๑๙ คลอง กระทรวงกลาโหม ๕ คลอง กระทรวงมหาดไทย ๑ คลอง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๑ คลอง กระทรวงสาธารณสุข ๒ คลอง และกระทรวงแรงงาน ๑ คลอง และการขุดลอกคลองเพิ่มเติม ๑๔ แห่ง พร้อมทั้งขยายความยาวของการขุดลอกคลองหลักเดิม ๕ คลอง รวม ๑๙ รายการ ได้แก่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ คลอง กระทรวงกลาโหม ๑๐ คลอง กระทรวงมหาดไทย ๑ คลอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒ คลอง กระทรวงคมนาคม ๑ คลอง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๓ คลอง ๑.๑.๓ งบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามข้อ ๑.๑.๑ และ ๑.๑.๒ จะใช้งบประมาณตามโครงการภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ได้จัดสรรให้กรุงเทพมหานคร และต้องขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมในส่วนของการขุดลอกคลองเพิ่มเติม ๑๔ แห่ง เพื่อจัดสรรให้แก่ส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายภารกิจขุดลอกคลอง โดยมอบให้เลขาธิการคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป ๑.๒ ให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนการบริหารการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (กบภ.) ทำหน้าที่ประสานงานและติดตามการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกระยะ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) รับไปดำเนินการร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ในการขอความร่วมมือจากภาคเอกชนเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการขุดลอกคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ และติดตามการดำเนินงานขุดลอกคลองดังกล่าวอย่างต่อเนื่องด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
31343 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อนำไปชำระคืนเงินต้นเงินกู้ที่ถึงกำหนดในปีงบประมาณ 2555 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อนำไปชำระคืนเงินต้นเงินกู้ที่ถึงกำหนดในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๙,๕๑๘.๘๓๓ ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม ขสมก. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ ขสมก. โดยปรับปรุงเส้นทางการเดินรถให้สอดคล้องกับระบบขนส่งมวลชนหลักและเส้นทางการเดินทางของรถไฟฟ้า เพื่อลดภาระการให้เงินอุดหนุนที่เป็นบริการสาธารณะของรัฐบาล และควรมีการกำหนดให้มีตัวชี้วัดของ ขสมก. ให้ชัดเจน เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของ ขสมก. รวมทั้งเห็นควรมีแผนปรับโครงสร้างองค์กรและการบริหารเป็นระยะต่างๆ และเร่งรัดพิจารณาดำเนินการแก้ไขประเด็นปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ตลอดจนปรับปรุงการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและลดภาระหนี้สินที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องทุกปี นอกจากนี้ เห็นควรให้ ขสมก. นำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. แล้ว ให้คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจพิจารณาตามขั้นตอน เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการแก้ไขปัญหา และฟื้นฟูกิจการต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
31344 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง | พม | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
31345 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | กต | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้มีผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ รวมถึงกรณีไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้วย ดังนี้
๑. พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ๒. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
31346 | ขออนุมัติการจัดทำบันทึกช่วยจำระหว่างประเทศไทยกับองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรปเพื่อจัดการประชุม 2012 OSCE - Thailand Conference | กต | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ร่างบันทึกช่วยจำระหว่างประเทศไทยกับองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co - operation in Europe - OSCE) เป็นเอกสารแบ่งภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างไทยกับ OSCE โดยกระทรวงการต่างประเทศกับ OSCE ในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 2012 OSCE - Thailand Conference ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ดังนี้ ๑.๑ การวางแผนและการจัดการประชุมฯ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างไทยและ OSCE ๑.๒ ไทยจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้ความปลอดภัยแก่ผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ๑.๓ ไทยจะยินยอมให้ OSCE ยกเว้นภาษีนำเข้าและนำออกสำหรับรายการอุปกรณ์ที่ฝ่าย OSCE จะนำมาใช้ในการประชุมฯ ๑.๔ ไทยจะดำเนินการตรวจลงตราให้ผู้เข้าร่วมการประชุมฯ อย่างรวดเร็ว ๑.๕ OSCE ต้องสามารถโอนและถอนเงินที่จะใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประชุมฯ ๑.๖ ในกรณีที่มีเหตุไม่คาดคิด หากมีการเรียกร้องความเสียหายต่อ OSCE จากบุคคลที่ ๓ ที่ได้รับความบาดเจ็บ ความสูญเสีย หรือ ความเสียหาย สืบเนื่องมาจากการประชุมฯ ไทยจะรับผิดชอบค่าเสียหายอย่างเหมาะสมให้แก่ OSCE ยกเว้นในกรณีที่เหตุดังกล่าวเกิดจากความประมาทหรือการประพฤติผิดโดย OSCE ๑.๗ ร่างบันทึกช่วยจำฯ จะมีผลทันทีเมื่อไทยมีหนังสือตอบรับความเห็นชอบไปยังสำนักงานเลขาธิการของ OSCE ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการ OSCE โดยผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา/คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนาว่า รัฐบาลไทยเห็นชอบให้มีการแลกเปลี่ยนบันทึกช่วยจำฯ โดยไม่ต้องพิจารณาลงนาม ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกช่วยจำฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
31347 | สรุปผลการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ตามที่สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นสมควรให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อดำเนินการในวงเงิน ๒,๓๗๓.๐๖๐๐ ล้านบาท ๑.๒ ในส่วนค่าเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔/๒๕๕๕ ที่เก็บเกี่ยวและขายผลผลิตข้าว ช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ๒๕๕๔ ให้ครอบคลุมถึงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ วงเงิน ๔,๕๘๑.๖๐๐๐ ล้านบาท โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำรองจ่ายจากงบประมาณของ ธ.ก.ส. ไปก่อน และจะตั้งงบประมาณชดเชยให้ ธ.ก.ส. ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑.๓ สำหรับวงเงินจำนวน ๙,๕๖๒.๐๔๐๕ ล้านบาท หากยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ขอให้หน่วยงานเสนอปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือเสนอขอรับจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ต่อไป เนื่องจากเป็นภารกิจประจำของหน่วยงาน ๑.๔ ยกเลิกโครงการ เป็นเงิน ๔,๗๙๘.๓๗๑๒ ล้านบาท เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ๑.๕ ในการพิจารณาทบทวนโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ [เรื่อง สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.)] ปรากฏโครงการที่ดำเนินการในลักษณะของการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จำนวน ๑๙ โครงการ วงเงิน ๔,๔๓๙.๕๗๓๐ ล้านบาท โดยเห็นสมควรให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ วงเงิน ๑,๐๖๓.๔๙๒๘ ล้านบาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ อีกวงเงิน ๓,๓๗๖.๐๘๐๒ ล้านบาท ตามนัยมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒. ในส่วนของโครงการรองรับภัยพิบัติจากอุทกภัยต่อทรัพยากรสัตว์น้ำบริเวณอ่าวไทยตอนบน ของกรมประมง และโครงการเร่งรัดการฟื้นฟูการผลิตพืชต้นทุนสูงของเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ปี ๒๕๕๔ ของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเกี่ยวข้องกับพืชสวน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาแก่เกษตรกรผู้ประสบสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ หากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสงค์จะทบทวนก็ให้ดำเนินการได้ และเมื่อพิจารณาทบทวนแล้วเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาปรับแผนการดำเนินการและแผนการใช้จ่ายเงินเพื่อใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป และหากมีงบประมาณไม่เพียงพอ ก็ให้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
31348 | การจัดงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ ทำเนียบรัฐบาล มีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่จะแสดงความขอบคุณจากทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่จนสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง ๒. รูปแบบของการจัดงานฯ เป็นงานเลี้ยงแบบรับรองภายในตึกสันติไมตรี ประกอบด้วยการแสดงดนตรีเยาวชนยะลาซิมโฟนีออร์เคสตร้า การแสดงดนตรีบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าโดยวงดุริยางค์ไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิค พร้อมด้วยเหล่านักร้องประสานเสียงของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และวงดุริยางค์ซิมโฟนีออร์เคสตร้าของเหล่าทัพ มีผู้รับเชิญเข้าร่วมงาน จำนวน ๕๐๐ คน ประกอบด้วย คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงและเทียบเท่า หัวหน้าส่วนราชการอิสระ หัวหน้าส่วนราชการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวข้อง องค์กรการกุศล สถานีโทรทัศน์และสื่อมวลชนที่สำคัญ เป็นต้น โดยได้กราบเรียนเชิญประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ (พลเอกเปรม ติณสูลานนท์) เป็นประธานในงานดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
31349 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้วย และให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ๒. นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
|
||||||||||||||||||||||||
31350 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง | พน | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. พลตำรวจตรี ลัทธสัญญา เพียรสมภาร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ๒. นายเอกธนัช อินทร์รอด เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
|
||||||||||||||||||||||||
31351 | การเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบเกี่ยวกับการเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ในระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ประกอบด้วย ข้อเสนอโครงการเพื่อการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๑ (จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย เลย บึงกาฬ) พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๒ (จังหวัดมุกดาหาร สกลนคร นครพนม) และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์) และข้อเสนอการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ. ภูมิภาค) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ในส่วนของการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๑ - ๒ และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง นั้น ให้รัฐมนตรีที่ยังมิได้แจ้งความประสงค์ในการลงตรวจพื้นที่ให้เร่งประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะได้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแจ้งที่จะขอเปลี่ยนแปลงพื้นที่เป็นจังหวัดหนองคาย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะลงในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม
|
||||||||||||||||||||||||
31352 | การพิจารณาแต่งตั้งกรรมการสภาสถาปนิกแทนตำแหน่งที่ว่างลง | มท | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุวิทย์ ดิษยวงศ์ เป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาสถาปนิก แทนนายสมชาย วัฒนะวีระชัย กรรมการในคณะกรรมการสภาสถาปนิกเดิมที่ลาออก และให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
31353 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
31354 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2555 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ | กต | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ) เฉพาะรายนายธวัชชัย คูภิรมย์ กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเฉิ่นหยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ - เลสเต จากเดิม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เป็น ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
31355 | การดำเนินงานและการติดตามผลการดำเนินงาน การฟื้นฟู เยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินงานและการติดตามผลการดำเนินงาน การฟื้นฟู เยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินงานการฟื้นฟู เยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณเพื่อใช้ในการดำเนินงานฟื้นฟู เยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวม ๖ ครั้ง กรอบวงเงิน ๑๓๙,๔๕๒.๗๘๗๖ ล้านบาท และจนถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕ ได้จัดสรรงบประมาณให้ไปแล้วเป็นเงิน ๕๐,๖๙๘.๖๓๒๐ ล้านบาท และได้มีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมอีกเป็นเงิน ๗๑,๐๔๒.๑๕๒๙ ล้านบาท แยกเป็นแผนงาน/โครงการที่มีความพร้อมจัดสรรเป็นเงิน ๒๖,๒๐๑.๖๓๔๑ ล้านบาท ซึ่งต้องขอรับการจัดสรรภายใน ๑ สัปดาห์ และส่วนที่เหลือเป็นเงิน ๔๔,๘๔๐.๕๑๘๒ ล้านบาท ต้องขอรับการจัดสรรภายใน ๒ สัปดาห์ โดย ณ ปัจจุบัน มีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมแล้วเป็นเงิน ๒๒,๖๙๐.๓๖๗๒ ล้านบาท สำหรับในส่วนที่เหลือ ส่วนราชการยังมิได้ขอจัดสรรได้เวียนหนังสือเร่งรัดและแจ้งข้อมูลที่ต้องส่งประกอบการพิจารณา เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ แล้ว ๒. การติดตามผลการดำเนินงานการฟื้นฟู เยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ๒.๑ สถานภาพการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณปัจจุบัน โดยในส่วนของงบประมาณที่จัดสรรให้แล้ว ณ วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๕๐,๖๙๘.๖๓๒๐ ล้านบาท มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณแล้วในวงเงิน ๔๙,๔๓๕.๔๕๐๑ ล้านบาท ซึ่งจะแสดงแผนฯ ทั้งมิติส่วนราชการและมิติจังหวัด สำหรับส่วนที่ยังมิได้จัดทำแผนฯ รวมถึงแผนฯ ในส่วนที่มีการจัดสรรเพิ่มเติมและส่วนที่ยังมิได้รับการจัดสรรงบประมาณ จะได้ติดตามเร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้ครบถ้วนโดยเร็ว ๒.๒ ในส่วนที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว การดำเนินงานในลักษณะงบลงทุน จะต้องมีการดำเนินการในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ได้แก่ ขั้นตอนการเตรียมการ (ออกแบบ/ประมาณราคา) ขั้นตอนการประกวดราคา ขั้นตอนการเซ็นสัญญา ก่อนลงมือปฏิบัติในภาคสนามที่จะมีผลเบิกจ่าย มีรายการที่ต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างทั้งสิ้น ๓,๔๖๖ รายการ มีรายการที่อยู่ระหว่างเตรียมการ ๔๔ รายการ ประกวดราคาแล้ว ๑,๗๙๔ รายการ เซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างแล้ว ๑,๖๒๘ รายการ โดยรายการที่ได้รับการจัดสรรเพิ่มเติมซึ่งจัดสรรให้แล้วประมาณ ๑ สัปดาห์ ส่วนใหญ่อยู่ในกระบวนการเตรียมการและประกาศประกวดราคา ทั้งนี้ หากหน่วยงานไม่สามารถจัดหาจนได้พัสดุหรือสิ่งก่อสร้าง พร้อมใช้งานที่มีความจำเป็นเร่งด่วน คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุฯ อนุญาตให้หน่วยงานสามารถจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษได้ เพื่อใช้ในการป้องกันอุทกภัยภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ได้ ดังนั้น การก่อสร้างทั้งหมดจึงน่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
|
||||||||||||||||||||||||
31356 | การแต่งตั้งให้รัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
31357 | มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และมอบอำนาจตามกฎหมาย | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และมอบอำนาจตามกฎหมาย ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๗/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
31358 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ | กค | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. ร่างหลักเกณฑ์การดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ๒. การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ (จำนวน ๕ คน) ตามพระราชกำหนดกองทุนสงเสริมการประกันภัยพิบัติ พ.ศ. ๒๕๕๕ ดังนี้ ๒.๑ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานกรรมการ ๒.๒ นายชูเกียรติ ทรัพย์ไพศาล กรรมการ ๒.๓ นายเสรี จินตนเสรี กรรมการ ๒.๔ นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล กรรมการ ๒.๕ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
31359 | ขอขยายระยะเวลาแสดงเจตจำนงเข้าโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท | กค | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๑.๑ ขยายระยะเวลาแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้ที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่ลูกค้าบุคคลธรรมดาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และลูกค้าสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ๕ แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๕ รวมเป็นระยะเวลาแสดงความจำนงทั้งสิ้น ๕ เดือน เพื่อให้ลูกค้ามีระยะเวลาเพียงพอในการเตรียมหลักฐานและเอกสารเข้าร่วมโครงการฯ ๑.๒ ผ่อนปรนเกณฑ์การแสดงหลักฐานยื่นชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยให้ผู้ที่สนใจเข้าโครงการฯ ต้องเป็นผู้ที่มีหลักฐานการยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๕ ซึ่งหมายความว่าลูกค้าสามารถใช้หลักฐาน ภ.ง.ด. ๙๑ และ ภ.ง.ด. ๙๐ สำหรับการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นหลักฐานการขอเข้าโครงการฯ ได้เพิ่มเติม ๒. ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานและสถาบันการเงินของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาทบทวนและกำหนดแนวทางการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการพักหนี้ของเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยให้สอดคล้องกับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวด้วย ๓. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประสานงานกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลการดำเนินงานตามนโยบายต่าง ๆ ของคณะรัฐมนตรีที่ได้ดำเนินการไปแล้วให้ประชาชนและผู้สนใจได้ทราบอย่างถูกต้อง ชัดเจน และทั่วถึงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
31360 | การเปิดงานมหกรรมจำหน่ายสินค้า "ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล เทิดไท้องค์ราชินี" | นร | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า เนื่องด้วยกระทรวงมหาดไทยจะจัดมหกรรมจำหน่ายสินค้า “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล เทิดไท้องค์ราชินี” ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดงานในวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ซึ่งตรงกับวันที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) รับไปประสานงานกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อปรับปรุงกำหนดเวลาการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม และแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบต่อไปด้วย
|
.....