ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1557 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 31121 - 31140 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
31121 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม | สธ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมชุดใหม่ จำนวน ๑๐ คน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.๑ นายณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ประธานกรรมการ ๑.๒ นายไพจิตร์ วราชิต กรรมการ ๑.๓ นางวีรวรรณ แตงแก้ว กรรมการ ๑.๔ นางอัจนา ไวความดี กรรมการ ๑.๕ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กรรมการ ๑.๖ นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ กรรมการ ๑.๗ นายพิพัฒน์ ยิ่งเสรี กรรมการ ๑.๘ นายสุพรรณ ศรีธรรมมา กรรมการ ๑.๙ นายเรวัต วิศรุตเวช กรรมการ ๑.๑๐ นายช.นันท์ เพ็ชญไพศิษฏ์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒. ยกเว้นนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการอนุมัติเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
|||||||||||||||||||||
31122 | ขอความเห็นชอบร่างปฏิญญารัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาด้านการขนส่งในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 2 | คค | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญารัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาด้านการขนส่งในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ ๒ โดยสาระสำคัญของร่างปฏิญญาฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีคมนาคมของประเทศสมาชิก (Members) และประเทศสมาชิก (Associate Members) ของเอสแคปในการพัฒนาด้านการคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานและการบริหารด้านการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ และมีความปลอดภัยในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก และการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกประเทศในภูมิภาคนี้ รวมทั้งเรียกร้องให้เลขาธิการของเอสแคปสานต่อการปฏิบัติตามปฏิญญาปูซานและร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคสำหรับการพัฒนาการขนส่งในเอเชียและแปซิฟิก ระยะที่ ๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31123 | การดำเนินงานและการติดตามผลการดำเนินงาน การฟื้นฟู เยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานและการติดตามผลการดำเนินงาน การฟื้นฟู เยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปผลการดำเนินการที่จะต้องใช้จ่ายจากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ จากวงเงิน ๓๘,๕๒๕.๔๓๗๔ ล้านบาท โดยส่วนราชการที่รับผิดชอบขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นเงิน ๓๔,๔๗๕.๔๙๑๒ ล้านบาท สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณแล้วเป็นเงิน ๓๓,๙๓๑.๓๘๘๖ ล้านบาท ปรับลดงบประมาณตามความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายเป็นเงิน ๕๔๔,๑๐๒๖ ล้านบาท คงเหลือวงเงินที่ส่วนราชการยังไม่ได้ขอรับการจัดสรรเป็นเงิน ๔,๐๔๙.๙๔๖๒ ล้านบาท เนื่องจากอยู่ระหว่างส่วนราชการผู้รับผิดชอบจัดทำประมาณการค่าใช้จ่าย ซึ่งสำนักงบประมาณได้ประสานงานและเร่งรัดให้ส่วนราชการขอจัดสรรเพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดสรรให้โดยเร็วต่อไป ๒. สรุปสถานภาพ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ณ วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕ จะมีวงเงินคงเหลือทั้งสิ้น ๗๘๙.๕๘๒๒ ล้านบาท (คงเหลือจากการที่สำนักงบประมาณทบทวน ๒๔๕.๔๗๙๖ ล้านบาท และปรับลดตามความเหมาะสมของค่าใช้จ่าย ๕๔๔.๑๐๒๖ ล้านบาท)
|
|||||||||||||||||||||
31124 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ | วท | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายชูกิจ ลิมปิจำนงค์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ แทนพลตรี อภิชาติ นพเมือง ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
31125 | มาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน | สธ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจัดทำหนังสือสั่งการ สธ ๐๔๒๒.๑/ว ๘๖ ลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เรื่อง มาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน ได้แก่ การดำเนินการเฝ้าระวังผู้ป่วยจากโรงพยาบาล และการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลในการรองรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังและกลุ่มเสี่ยงโดยเตรียมบุคลากร สถานที่ เวชภัณฑ์ ให้มีความพร้อม ๒. ให้กรมควบคุมโรคดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนในสถานการณ์ปัญหาหมอกควันตามระดับความรุนแรงของค่า PM 10 [ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน (๐.๐๑ มิลลิเมตร)] ที่เกินค่าเกินมาตรฐาน ๑๒๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ๒.๒ ให้คำแนะนำหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในการรับมือปัญหาหมอกควันตามระดับความรุนแรงของค่า PM 10 ๒.๓ เร่งรัดให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๑๐ เชียงใหม่ ประสานกับจังหวัดในการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพประชาชนอย่างใกล้ชิด ๒.๔ ดำเนินการสนับสนุนหน้ากาก จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ ชิ้น โดยเน้นให้กับกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง พร้อมทั้งกระตุ้นให้หน่วยงานในพื้นที่ (อปท.) ดำเนินการจัดหาเพิ่มให้กับประชาชน รวมทั้งให้ประชาชนทำหน้ากากใช้เอง ๒.๕ ทำหนังสือสั่งการเลขที่ สธ ๐๔๒๒.๑/ว ๒๙๕ ลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรื่อง มาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน แจ้งไปยังสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๑ - ๑๒ ๒.๖ ดำเนินการสื่อสารความเสี่ยงกับประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ สื่อออนไลน์ และสื่อมวลชนท้องถิ่น ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ๒.๗ กรณีที่พื้นที่มีค่า PM 10 ในระดับที่เกินกว่าค่ามาตรฐานมาก ให้มีการจัดเตรียมที่พักที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ที่พักฟื้นหลังออกจากโรงพยาบาล เพื่อลดการรับสัมผัสกับฝุ่นละออง เช่น จัดให้มีระบบปรับอากาศ และมีการจัดวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยลดฝุ่นละอองภายนอกอาคาร เช่น ระบบฝอยละอองน้ำ เป็นต้น ๓. ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพสนับสนุนการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้แก่ การเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน และประสานดูแลรักษากับโรงพยาบาล การเฝ้าระวังอย่าให้มีการเผาวัสดุหรือสิ่งของต่าง ๆ ในชุมชนของตนเองที่ดูแล ๑๐ - ๑๕ หลังคาเรือน การแนะนำการทำหน้ากากอนามัยผ้าใช้เองในชุมชน และการสนับสนุนการพ่นน้ำ ละอองฝอย เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นและลดฝุ่นละอองในอากาศในกรณีที่สภาพอากาศมีหมอกควันวิกฤตรุนแรง
|
|||||||||||||||||||||
31126 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาด | มท | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชาวันย์ สวัสดิ์ - ชูโต เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาด แทน นายประสิทธิ์ ทะรักษา ซึ่งขอลาออกจากการเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31127 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) แทนตำแหน่งที่ว่าง | วธ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเศรษฐา ศิระฉายา เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปวัฒนธรรม ภาพยนตร์ ดนตรี โทรทัศน์ ในคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31128 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ | วท | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ จำนวน ๖ คน ตามนัยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ๒. นายปิยะสกล สกลสัตยาทร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านชีววิทยาศาสตร์ ๓. นายอมเรศ ภูมิรัตน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านชีววิทยาศาสตร์ ๔. นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านธุรกิจและการลงทุน ๕. นายพินิจ กังวานกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านธุรกิจและการลงทุน ๖. นายปรีชา พันธุ์ติเวช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหาร
|
|||||||||||||||||||||
31129 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแบบผังภูมิ | พณ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแบบผังภูมิ จำนวน ๑๒ คน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายเอกชัย ลีลารัศมี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ๒. นายวัลลภ สุระกำพลธร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ๓. นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขานิติศาสตร์ ๔. นายพินิจ กำหอม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ๕. นายพินัย ณ นคร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขานิติศาสตร์ ๖. นายประดนเดช นีละคุปต์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ๗. นายบุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขาวิทยาศาสตร์ ๘. นายวชิระ จงบุรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ๙. นายสันติ รัตนสุวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน สาขาวิทยาศาสตร์ ๑๐. นายประสงค์ ปราณีตพลกรัง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ๑๑. นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน สาขาอุตสาหกรรม ๑๒. นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน สาขานิติศาสตร์
|
|||||||||||||||||||||
31130 | การเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการในการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ๕ จังหวัด (จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง) ในวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๕ และข้อเสนอการประชุมร่วมกับภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ.ภูมิภาค) เพื่อการเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. โครงการในการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ๕ จังหวัด ๑.๑ จังหวัดภูเก็ต ได้แก่ ๑.๑.๑ โครงการแก้มลิงขุมน้ำสวนเฉลิมพระเกียรติ ๑.๑.๒ การปรับปรุงภูมิทัศน์ทางเดินศึกษาทางธรรมชาติตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๑.๑.๓ การก่อสร้างอนุสรณ์สถาน อำเภอเมืองถลาง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ๑.๒ จังหวัดพังงา ได้แก่ ๑.๒.๑ โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวบ้านทับละมุ จังหวัดพังงา ๑.๒.๒ โครงการก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต.๘๑๓ ๑.๒.๓ โครงการก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอันดามัน ๑.๒.๔ โครงการจัดตั้งศูนย์ราชการจังหวัดพังงา ๑.๓ จังหวัดกระบี่ ได้แก่ ๑.๓.๑ การขุดลอกร่องน้ำบริเวณท่าเทียบแพขนานยนต์ข้ามฟากเกาะลันตาเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทะเลอันดามัน ๑.๓.๒ การก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุ - ฉุกเฉิน และอุบัติภัยทางธรรมชาติ เพื่อรองรับคุณภาพชีวิตที่ดี และการท่องเที่ยว ๑.๓.๓ การสำรวจออกแบบการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองกระบี่ ๑.๓.๔ การจัดตั้งมหาวิทยาลัยของฝั่งทะเลอันดามันในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ๑.๔ จังหวัดตรัง ได้แก่ ๑.๔.๑ โครงการการพัฒนาท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว ๑.๔.๒ โครงการการพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัดตรัง ๑.๔.๓ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถ้ำเขาช้างหาย ๑.๕ จังหวัดระนอง ได้แก่ ๑.๕.๑ โครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมการกัดเซาะชายฝั่งของน้ำทะเลบ้านอ่าวเคย ๑.๕.๒ โครงการฟื้นฟู คู คลองเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน ๑.๕.๓ โครงการพัฒนาศักยภาพการรวบรวมและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของสถาบันเกษตรกร ๑.๕.๔ โครงการพัฒนาส่งเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเกาะพยาม ๒. ข้อเสนอการประชุมร่วมกับ กรอ.ภูมิภาค เกี่ยวกับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ๕ จังหวัด
|
|||||||||||||||||||||
31131 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร (นักบริหารระดับสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี) | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางฐะปาณีย์ อาจารวงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31132 | รายงานสถานการณ์น้ำในรอบสัปดาห์ (วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2555) | ทส | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์น้ำในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ - ๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์น้ำในภาพรวม สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณร้อยละ ๗๐ อยู่ในเกณฑ์ดี โดยเขื่อนที่มีน้ำมากกว่าร้อยละ ๘๐ อยู่ในเกณฑ์น้ำดีมาก มีจำนวน ๖ แห่ง เขื่อนที่มีน้ำระหว่างร้อยละ ๕๑ - ๘๐ อยู่ในเกณฑ์น้ำดี มีจำนวน ๒๐ แห่ง เขื่อนที่มีน้ำระหว่างร้อยละ ๓๑ - ๕๐ อยู่ในเกณฑ์น้ำพอใช้ มีจำนวน ๕ แห่ง และเขื่อนที่มีน้ำน้อยกว่าร้อยละ ๓๑ อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย มีจำนวน ๒ แห่ง สำหรับสภาพน้ำในแม่น้ำสายสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ มีปริมาณน้ำน้อย ๒. การเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้ง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒.๑ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน ๑๙ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร ลำปาง ลำพูน สุโขทัย น่าน พะเยา พิษณุโลก แพร่ อุตรดิตถ์ เชียงราย เลย หนองคาย เพชรบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และตราด ๒.๒ กรมชลประทานได้ประสานข้อมูลรายงานผลการจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี ๒๕๕๔/๒๕๕๕ โดยพื้นที่ทั้งประเทศ วางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง จำนวน ๑๙.๒๓ ล้านไร่ แบ่งออกเป็น ข้าวนาปรัง ๑๖.๗๐ ล้านไร่ พืชไร่ - พืชผัก ๒.๕๓ ล้านไร่ และมีแผนการใช้น้ำทั้งสิ้น ๓๑,๙๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีผลการเพาะปลูกแล้ว ๑๖.๔๑ ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ ๘๕ และใช้น้ำแล้ว ๒๒,๕๖๔ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๖๓ สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา วางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง จำนวน ๑๐.๐๐ ล้านไร่ แบ่งออกเป็น ข้าวนาปรัง ๙.๖๐ ล้านไร่ พืชไร่ - พืชผัก ๐.๔๐ ล้านไร่ และมีแผนการใช้น้ำทั้งสิ้น ๑๓,๒๒๐ ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีผลการเพาะปลูกแล้ว ๙.๗๑ ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ ๙๗ และใช้น้ำแล้ว ๑๐,๖๙๖ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๖๓ ๒.๓ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรายงานสภาพน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ว่า ปัจจุบันมีปริมาณเก็บกักอยู่ที่ร้อยละ ๖๘ และ ๖๖ ตามลำดับ และมีเป้าหมายจะลดระดับเก็บกักลงเหลือร้อยละ ๔๕ ในสิ้นเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ทั้ง ๒ เขื่อน เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันอุทกภัย ๒.๔ การประปาส่วนภูมิภาครายงานพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาในพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด และพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะจ่ายน้ำเป็นเวลา ทั้งนี้ ได้ประสานกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะจัดทำโครงการ River Bank Filtration (RBF) คือ การนำน้ำบริเวณตลิ่งแม่น้ำที่มีศักยภาพน้ำใต้ดินมาใช้ร่วมกับน้ำผิวดิน และได้มีการแจกจ่ายน้ำเพื่อช่วยบรรเทาภัยแล้งไปแล้วทั้งสิ้น ๔๑ ล้านลิตร คิดเป็นเงิน ๐.๗๓ ล้านบาท ๒.๕ สำนักฝนหลวงและการบินเกษตรได้เปิดหน่วยปฏิบัติการแล้ว ๔ แห่ง คือ จังหวัดจันทบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ และจะเปิดหน่วยปฏิบัติการอีก ๓ แห่ง ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ คือ จังหวัดพิษณุโลก กาญจนบุรี และอุบลราชธานี
|
|||||||||||||||||||||
31133 | การให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย | อก | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมและการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการฟื้นฟู เยียวยานิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ๗ แห่ง ที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ได้แก่ นิคมสหรัตนนคร นิคมไฮเทค นิคมบางปะอิน นิคมโรจนะ นิคมแฟคตอรี่แลนด์ นิคมนวนคร และนิคมบางกะดี ขณะนี้มีโรงงานประกอบกิจการแล้ว ๔๒๒ ราย คิดเป็นร้อยละ ๔๙.๔๗ ของโรงงานทั้งหมด ๘๕๓ ราย ๒. การดำเนินการฟื้นฟูโรงงานขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ประสบอุทกภัยซึ่งตั้งอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้มีโรงงาน สถานประกอบการอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน ได้เปิดดำเนินการแล้ว ๖,๐๖๐ ราย คิดเป็นร้อยละ ๗๖.๖๕ ของสถานประกอบการทั้งหมด ๓. มาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ๓.๑ การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์และวัตถุดิบที่นำมาทดแทนเครื่องจักรอุปกรณ์และวัตถุดิบนำเข้าที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน ๑๗๖ โครงการ มูลค่า ๗๒,๙๓๙ ล้านบาท ๓.๒ อนุมัติวีซ่าและใบอนุญาตทำงานแก่บริษัทที่ได้รับการส่งเสริม จำนวน ๑๕๘ บริษัท จำนวนคนต่างชาติ ๖๑๔ คน ๓.๓ การอนุญาตให้ส่งออกเครื่องจักรและวัตถุดิบไปต่างประเทศ และการย้ายเครื่องจักรและวัตถุดิบไปต่างประเทศ หรืออยู่นอกโครงการเป็นการชั่วคราว จำนวน ๓๒๕ โครงการ ๓.๔ การออกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๑/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรื่อง มาตรการด้านภาษีอากร เพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย เพิ่มสิทธิประโยชน์หรือยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายทั้งในกรณีทำการผลิตชั่วคราวหรือลงทุนใหม่ เพื่อฟื้นฟูธุรกิจในประเทศ ๔. โครงการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ๔.๑ โครงการจัดตั้งศูนย์พักพิงอุตสาหกรรม มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการรวม ๑๓๓ ราย จากเป้าหมาย ๑๐๐ ราย ประกอบด้วยสถานประกอบการอุตสาหกรรม ๗๐ ราย และวิสาหกิจชุมชน ๖๓ ราย มีการใช้พื้นที่แล้ว ๑๘,๒๔๐ ตารางเมตร จากพื้นที่ ๒๑,๖๔๐ ตารางเมตร คงเหลือพื้นที่สามารถรองรับสถานประกอบการได้อีก ๓,๔๐๐ ตารางเมตร ๔.๒ โครงการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และกากอุตสาหกรรมในสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย ทีมวิศวกรได้ออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ ดูแล ตรวจสอบ และแนะนำเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งชนิดอันตรายและไม่อันตราย และแก้ไขการปนเปื้อนของสารพิษ สารเคมี ซึ่งขณะนี้เก็บรวบรวมข้อมูลสถานประกอบการได้แล้ว ๑,๐๕๔ ราย หรือร้อยละ ๕๒.๗ ของโรงงานเป้าหมายทั้งหมด (๒,๐๐๐ โรงงาน) ๔.๓ โครงการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ดิน และการปนเปื้อนของสารพิษอุตสาหกรรมในสถานประกอบการทั้งภายในและภายนอกนิคม โดยมุ่งเน้นสถานประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม/เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรมทั้ง ๗ แห่ง ที่ประสบอุทกภัย ขณะนี้ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ผลแล้ว ๓๘๙ ตัวอย่าง หรือร้อยละ ๓๒ ของตัวอย่างทั้งหมด (๑,๒๐๐ ตัวอย่าง) ๕. ความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อน นิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๑ กิโลเมตร เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ สวนอุตสาหกรรมบางกะดี ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๘.๕ กิโลเมตร มีแผนการก่อสร้างเริ่มวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร กำหนดดำเนินการวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร กำหนดดำเนินการวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ สวนอุตสาหกรรมนวนคร ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๘ กิโลเมตร เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ และนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร มีแผนการก่อสร้างเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕
|
|||||||||||||||||||||
31134 | รายงานสรุปสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยและผลการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ | ทส | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย และผลการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย เพิ่มเติมถึงวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๕ โดยผลการติดตามตรวจสอบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน (PM10) ใน ๙ จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน และตาก พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานติดต่อกันหลายวันตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ต่อเนื่องถึงต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงระหว่างวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ - ๓ มีนาคม ๒๕๕๕ พบค่าสูงถึง ๓๕๖.๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานเกือบ ๓ เท่า และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ๙ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน และตาก เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๕ เพื่อหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาหมอกควันจากไฟป่าและการเผาในพื้นที่โล่งในภาคเหนือ โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งและมลพิษหมอกควัน เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานดำเนินการอย่างเข้มข้นในพื้นที่
|
|||||||||||||||||||||
31135 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ครั้งที่ 1/2555 | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) เพิ่มเติม ๑.๒ เห็นชอบให้แต่งตั้งอธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพิ่มเติม ๑.๓ รับทราบในหลักการแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วนปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยเน้นหลักการระบายน้ำ จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ให้สามารถระบายน้ำได้มากที่สุดตามศักยภาพ ประกอบกับสามารถป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนที่สำคัญ ป้องกันปัญหาน้ำท่วมขัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยการดำเนินการในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวม ๑๕,๕๙๒,๘๒๑,๕๐๐ บาท เป็นโครงการเร่งด่วน ๑๕,๕๙๒,๘๒๑,๕๐๐ บาท และการดำเนินการในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวม ๒๕,๗๓๕,๙๙๙,๐๐๐ บาท เป็นโครงการเร่งด่วน ๙,๒๓๕,๙๙๙,๐๐๐ บาท รวมงบประมาณที่พิจารณาทั้งสิ้น ๔๑,๓๒๘,๘๒๐,๕๐๐ บาท จำนวน ๒๔๙ โครงการ เป็นโครงการเร่งด่วน ๒๔,๘๒๘,๘๒๐,๕๐๐ ล้านบาท จำนวน ๒๔๖ โครงการ ตามที่ กบอ. ได้มีมติเห็นชอบในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๕ และให้หน่วยงานจัดทำแผนปฏิบัติการพร้อมรายละเอียดรูปแบบโครงการเสนอ กบอ. เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ๒. สำหรับองค์ประกอบของ กบอ. ให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและผู้อำนวยการสำนักงบประมาณร่วมเป็นกรรมการเพิ่มเติมด้วย และให้ กบอ. นำแผนแม่บทและแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) มารวมพิจารณาเพื่อบูรณาการโครงการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน โดยการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วนปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้เน้นการดำเนินโครงการเพื่อการระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากน้ำที่ระบายออกมาจากพื้นที่ทั้ง ๒ ฝั่งดังกล่าว แล้วให้นำผลการพิจารณาเสนอ กนอช. พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
31136 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) | สธ | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายคณิศ แสงสุพรรณ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง) ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
31137 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31138 | ความปลอดภัยของคานและเสาตอม่อโครงการโฮปเวลล์ | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคานและเสาตอม่อของโครงการโฮปเวลล์ทั้งหมด รวมทั้งความพร้อมที่จะนำมาใช้เป็นโครงสร้างในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตลอดจนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้กระทรวงคมนาคมรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็วต่อไปด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
31139 | การแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ (เรื่อง ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ) โดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
๑. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องกำกับติดตามดูแลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนืออย่างใกล้ชิด โดยให้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น เพื่อตรวจสอบติดตามปัญหาและประสานงานการเข้าแก้ไขและระงับปัญหาไฟป่าหรือพื้นที่ที่มีการเผาทำลายวัชพืชและสิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ให้จังหวัดประสานงานและให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วย และให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดโดยเจตนาอย่างเคร่งครัดทั้งในส่วนของประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนจังหวัดใดจะประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ให้พิจารณาดำเนินการได้ในกรณีปัญหามีความรุนแรงจนควบคุมไม่ได้และมีความฉุกเฉินจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่แต่ละจังหวัดที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม แล้วประสานงานกับรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการเร่งรัดติดตามและดำเนินการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานและจังหวัดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรายงานข้อมูลความเสียหายและการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็วต่อไป ๓. ให้รัฐมนตรีทุกท่านที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือดำเนินการตรวจติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบอีกทางหนึ่ง ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร) เร่งรัดการจัดทำฝนหลวง เพื่อลดความรุนแรงของปัญหามลพิษหมอกควันด้วย ๕. ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพอนามัยอันเนื่องจากปัญหาหมอกควัน และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ๖. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความร่วมมือให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและการเผาพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนติดกับประเทศไทย อันเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตาก เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน
|
|||||||||||||||||||||
31140 | ระบบการติดตามความคืบหน้าระบบการติดตามความก้าวหน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | นร | 06/03/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้สามารถตรวจสอบและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน จึงขอให้รัฐมนตรีทุกท่านเร่งรัดติดตามให้ส่วนราชการ จังหวัด และผู้เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลความก้าวหน้าของการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบผ่านเว็บไซต์ www.pmocflood.com ให้เป็นปัจจุบันโดยด่วนด้วย
|
.....