ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี (เมื่อวันที่ 24 - 26 มกราคม 2555) | นร | 02/04/2555 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีอินเดีย ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๖ มกราคม ๒๕๕๕ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ซึ่งการเยือนอินเดียในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีอินเดียและบุคคลสำคัญของอินเดียในประเด็นสำคัญ ๆ รวมทั้งเป็นประธานการประชุมมอบหมายนโยบายแก่ทีมประเทศไทย โดยในส่วนของการหารือกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างกัน และพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ๒. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้การเจรจาความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรี ไทย - อินเดียแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยฝ่ายไทยได้เสนอให้เพิ่มเป้าหมายมูลค่าการค้าสองฝ่ายเป็น ๑๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ (ค.ศ. ๒๐๑๔) ส่วนฝ่ายอินเดียเสนอให้ไทยลงทุนในสาขาที่มีความต้องการสูงในอินเดีย ได้แก่ การแปรรูปอาหาร การแช่แข็ง และโลจิสติกส์ รวมทั้งเชิญชวนให้ไทยร่วมในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในอินเดีย โดยเฉพาะโครงการ Delhi - Mumbai Industrial Corridor ซึ่งอินเดียมีแผนจะจัดตั้งเขตอุตสาหกรรม ๔๗ แห่ง ระหว่างเส้นทางเดลีถึงมุมไบ นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้มีความร่วมมือกันในสาขาที่อินเดียมีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ สินค้าเภสัชกรรม และเทคโนโลยีชีวภาพ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการจัดตั้งเวทีเพื่อหารือระหว่างผู้แทนระดับสูงจากภาคธุรกิจเพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ ๓. ทั้งสองฝ่ายย้ำว่าความร่วมมือด้านความมั่นคงว่าเป็นวาระสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย และขอให้จัดทำแผนปฏิบัติงานร่วมระยะเวลา ๕ ปี ภายใต้กรอบการประชุมคณะทำงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงไทย - อินเดีย (Joint Working Group on Security Cooperation) ให้เสร็จโดยเร็ว และได้เห็นพ้องให้เร่งรัดการเจรจาความตกลงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน และความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในคดีแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งฝ่ายอินเดียเสนอให้ฝ่ายไทยจัดคณะไปเจรจาสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฝ่ายอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ๔. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือด้านความเชื่อมโยง โดยให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมว่าด้วยการเชื่อมโยงและสาธารณูปโภค (Working Group on Connectivity and Infrastructure) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอินเดียแจ้งว่า ทั้งสองฝ่ายอาจพิจารณามีความร่วมมือเพื่อเปิดตลาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย และขอให้คณะทำงานร่วมฯ ดังกล่าว ดำเนินความร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการทางหลวงสามฝ่าย ไทย - เมียนมาร์ - อินเดีย และการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่เมืองทวาย ๕. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะพิจารณาความร่วมมือในด้านใหม่ ๆ เช่น การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการป้องกันอุทกภัย ความร่วมมือในด้านพลังงาน การสำรวจก๊าซธรรมชาติและปิโตรเลียมทั้งในประเทศทั้งสองและในประเทศที่สาม ความร่วมมือในด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ การจัดตั้งมูลนิธิไทย - อินดีย เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน เป็นต้น ในการนี้ฝ่ายไทยยินดีให้การสนับสนุนโครงการฟื้นฟูมหาวิทยาลัยนาลันทาในเบื้องต้นเป็นจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ ๓ ล้านบาท) โดยภาคเอกชนไทยจะร่วมให้การสนับสนุนด้วย ๖. ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญในเรื่องความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอาเซียน ซึ่งอินเดียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEAN Commemorative SummiT โดยฝ่ายไทยจะให้การสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ การจัด Car Rally ระหว่างอาเซียน - อินเดีย เป็นต้น ๗. นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้เป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลง/บันทึกความเข้าใจ จำนวน ๖ ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษา พิธีสารฉบับที่ ๒ เพื่อการแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย - อินเดีย แผนความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ แผนปฏิบัติการว่าด้วยโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ และ MOU ระหว่าง Indian Council for Cultural Relations (ICCR) กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
|
.....