ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1192 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 23821 - 23840 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23821 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การบังคับคดีปกครอง) | ศป | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองเพื่อกำหนดรายละเอียดในการดำเนินการบังคับคดีปกครองให้ครอบคลุมคดีปกครองทุกประเภท และไม่ให้ประชาชนต้องรอการปฏิบัติตามคำพิพากษาในระหว่างการพิจารณาคดีชั้นอุทธรณ์ ตามที่ศาลปกครองสูงสุดเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของสำนักงานศาลยุติธรรม ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับร่างมาตรา ๔๔ และมาตรา ๗๐ วรรคสองและวรรคสาม หากจะมีการทุเลาการบังคับคดี ศาลปกครองควรคำนึงถึงว่าจะต้องไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของภาครัฐหรือการจัดทำบริการสาธารณะ และร่างมาตรา ๗๒/๑ การชำระเงินค่าปรับของหน่วยงานทางปกครองเป็นเพียงการโยกย้ายเงินงบประมาณแผ่นดินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเท่านั้น หาได้เป็นการลงโทษปรับที่ทำให้ผู้ถูกปรับต้องสูญเสียในเชิงทรัพย์สินที่แท้จริง และในส่วนที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องรับผิดชำระค่าปรับนั้น การหาผู้ที่จะต้องรับผิดอาจทำได้ยากในทางปฏิบัติและเกิดเป็นภาระในการไต่สวนที่เป็นกระบวนพิจารณาเพิ่มเติมขึ้น รวมถึงความรับผิดอันเป็นส่วนตัวที่เพิ่มเติมมากไปกว่าที่ต้องรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องรับผิดเฉพาะกรณีที่กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น และเห็นควรรับฟังความคิดเห็นและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากฝ่ายปกครอง องค์กร และหน่วยงานของรัฐด้วย เพื่อให้การบังคับคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และกำหนดกระบวนการบังคับคดีและมาตรการไว้ในบทบัญญัติของกฎหมายโดยตรง มิใช่ออกเป็นระเบียบที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นอกจากนี้ การทุเลาการบังคับคดีโดยอัตโนมัติควรใช้เฉพาะคดีปกครองบางประเภทไม่ควรนำมาใช้กับคดีปกครองทั้งหมด โดยอาจบัญญัติไว้ในกฎหมายแยกประเภทคดีให้ชัดเจนว่าคดีปกครองประเภทใดที่สามารถให้ทุเลาการบังคับคดีโดยอัตโนมัติหรือคดีประเภทใดที่ให้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นมีผลบังคับ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลให้มีการทุเลาการบังคับคดีในระหว่างคดียังไม่ถึงที่สุด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
|||||||||||||||
23822 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินอุดหนุนฐานะจุฬาราชมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | วธ | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินอุดหนุนฐานะจุฬาราชมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราเงินอุดหนุนฐานะจุฬาราชมนตรี จากเดิมในอัตราเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท เป็นอัตราเดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท และแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องของผู้รักษาการตามกฎหมาย จากคำว่า “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” เป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม” ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
23823 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้อาวุธและยุทโธปกรณ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออกไปและนำเข้ามาจากสาธารณรัฐสังคมนิยม ประชาชนอาหรับลิเบีย พ.ศ. .... | พณ | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้อาวุธและยุทโธปกรณ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออกไปและนำเข้ามาจากสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาชนอาหรับลิเบีย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘ ต่อการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับลิเบีย โดยปรับเปลี่ยนในรายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตรทางอาวุธ เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับกรณีที่รัฐสภาแห่งชาติ (General National Congress : GNC) ของลิเบีย ได้เปลี่ยนชื่อประเทศ จากเดิม “สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาชนอาหรับลิเบีย” (Great Socialist People’s Libyan Arab Jamahiriya) เป็น “รัฐลิเบีย” (State of Libya) ดังนั้น จึงควรพิจารณาเปลี่ยนชื่อประเทศในร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ดังกล่าวให้สอดคล้องกับชื่อประเทศที่ถูกต้องในปัจจุบัน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
23824 | การประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) ครั้งที่ 6 | กต | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างปฏิญญากรุงเนปิดอว์การประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) ครั้งที่ ๖ และร่างแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๑ โดยร่างปฏิญญาฯ กล่าวถึงการรับรองแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๑ การแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำที่จะส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืน และความร่วมมือใน ๘ สาขาความร่วมมือ ได้แก่ การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน การเกษตร อุตสาหกรรมและพลังงาน การเชื่อมโยงคมนาคม การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนให้หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการและแผนงานต่าง ๆ ภายใต้กรอบ ACMECS ด้วย ส่วนร่างแผนปฏิบัติการฯ มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการเป็นฐานการผลิตเดียวกันของอนุภูมิภาคสนับสนุนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและพัฒนาความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก และระบุถึงการสนับสนุนให้หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาสนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการภายใต้กรอบ ACMECS และชุมชนท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการสำคัญตามระเบียงเศรษฐกิจ ตลอดจนสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและการจัดตั้งเมืองคู่แฝดเพื่อสร้างเสริมความร่วมมือระหว่างเมืองชายแดน ๑.๒ อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างเอกสาร ๒ ฉบับดังกล่าว ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรผลักดันการใช้นโยบาย ACMECS Single Visa อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งจะมีผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังกลุ่มประเทศ ACMECS เพิ่มขึ้น รวมทั้งควรผลักดันให้กลไกความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมภายใต้กรอบ ACMECS มีความเข้มแข็ง มีการหารือสร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างประเทศสมาชิก ACMECS อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการจัดเตรียมประเด็นการหารือในด้านต่าง ๆ เช่น ท่าทีและความพร้อมของฝ่ายไทย รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ เพื่อพิจารณาก่อนการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) ครั้งที่ ๖ ต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23825 | ขอความเห็นชอบโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพและแรงจูงใจในการอนุรักษ์สัตว์ป่าในผืนป่าตะวันตก (Strengthening Capacity and Incentives for Wildlife Conservation in the Western Forest Complex) | ทส | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพและแรงจูงใจในการอนุรักษ์สัตว์ป่าในผืนป่าตะวันตก (Strengthening Capacity and Incentives for Wildlife Conservation in the Western Forest Complex) โดยโครงการฯ มีเป้าหมายในการส่งเสริมกระบวนการพัฒนาแห่งชาติต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และมีวัตถุประสงค์เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการ และงบประมาณที่ยั่งยืนสำหรับพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง และกระตุ้นให้ชุมชนท้องถิ่นช่วยกันดูแลรักษาพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ ๑.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงนามร่วมกับผู้แทนสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Program : UNDP) ประเทศไทย ในเอกสารโครงการฯ ๒. ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||
23826 | ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนและร่างความตกลงเพื่อดำเนินโครงการ Competition Policy and Law in ASEAN Phase ll | พณ | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนตอบรับจากสำนักเลขาธิการอาเซียนที่มีถึงเยอรมนี (Exchange of Notes) และร่างความตกลงเพื่อดำเนินโครงการ Competition Policy and Law in ASEAN Phase II (CPL II) ที่ระบุความตกลงกรณีการให้ความช่วยเหลือตามโครงการ CPL ใน Phase II ต้องแจ้งยืนยันให้ผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียนมีอำนาจลงนามในเอกสารความตกลงการขอรับความช่วยเหลือผ่านโครงการ CPL ดังกล่าวทั้งสองฉบับ ๑.๒ เห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างเอกสารทั้งสองฉบับดังกล่าว ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่า รัฐบาลไทยให้ความยินยอมให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนามในร่างเอกสารทั้งสองฉบับดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ปัจจุบัน ไทยอยู่ระหว่างการปรับปรุงพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ กลไกตลาด และการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม ประเด็นการแก้ไขปรับปรุงควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งการพัฒนากระบวนการที่จำเป็นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการสอบสวนร่วมกันระหว่างประเทศ ตลอดจนความเชื่อมโยงกับการเจรจาข้อตกลงเสรีการค้า ซึ่งเป็นประเด็นนโยบายแข่งขันทางการค้ามักจะถูกนำมาอยู่ภายใต้ข้อบทการเจรจามากขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23827 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการและการเบิกจ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ของกรมทางหลวง | คค | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการและการเบิกจ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของกรมทางหลวง จำนวน ๓ โครงการ วงเงิน ๓๙๗.๙๗ ล้านบาท จากเดิมมีระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่ายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ ให้ขยายระยะเวลาออกไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ประกอบด้วย ๑.๑ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลอง ๕ แห่ง บนทางหลวงหมายเลข ๓๔ ตอนแยกทางหลวงหมายเลข ๓ (บางนา)-กิโลเมตรที่ ๓๕+๖๐๐ (ต่อเขตแขวงการทางฉะเชิงเทรา) จังหวัดสมุทรปราการ (คลองจระเข้ใหญ่ คลองบางกระเทียม คลองบางเสาธง คลองสนามพลี และคลองบ้านระกาศ) ๑.๒ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต บนทางหลวงหมายเลข ๓๔ ตอนแยกทางหลวงหมายเลข ๓ (บางนา)-กิโลเมตรที่ ๓๕+๖๐๐ (ต่อเขตแขวงการทางฉะเชิงเทรา) จังหวัดสมุทรปราการ ๑.๓ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองบนทางหลวงหมายเลข ๓๐๕ ตอน กิโลเมตรที่ ๑๕+๑๔๕ (ต่อเขตแขวงการทางปทุมธานี)-องครักษ์ จังหวัดปทุมธานี ช่วงกิโลเมตรที่ ๒๙+๕๐๐-กิโลเมตรที่ ๓๖+๐๐๐ ๒. หากกรมทางหลวงดำเนินโครงการแล้วเสร็จและมีวงเงินเหลือจ่าย ให้แจ้งคืนเงินตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนเงินเหลือจ่ายโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง |
|||||||||||||||
23828 | โครงการปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา และเพชรบุรี ปี 2558 | มท | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ดำเนินโครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาพระนครศรีอยุธยา และเพชรบุรี ปี ๒๕๕๘ วงเงินลงทุนรวม ๒,๙๙๗.๖๓๙ ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ กปภ. กู้เงินภายในประเทศ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน รวมทั้งให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป โดยให้ กปภ. ใช้เงินรายได้ชำระคืนการกู้เงินดังกล่าว ๒. ให้ กปภ. ไปหารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ดำเนินการทั้งหมดว่าอยู่ในเขตพื้นที่ที่ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ และกิจกรรมที่ดำเนินการเข้าข่ายห้ามกระทำการตามข้อ ๑๐ ในประกาศดังกล่าวหรือไม่ ก่อนดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กปภ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการพร้อมจัดทำแผนรองรับปัญหาขาดแคลนน้ำดิบ ภัยพิบัติ การลดอัตราน้ำสูญเสีย และการบริหารจัดการแรงดันน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของ กปภ. และจัดทำแผนการตลาดในการเพิ่มผู้ใช้น้ำรายใหม่ให้เป็นไปตามเป้าหมายและควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการผลิตและบริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงด้านแหล่งน้ำดิบเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำดิบและน้ำประปา รวมทั้งจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อลดอัตราน้ำสูญเสียขององค์กร โดยแสดงรายละเอียด เป้าหมาย ตัวชี้วัด วงเงินลงทุน และผลลัพธ์เป็นรายปี เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาโครงการปรับปรุงขยายการประปาที่จะเสนอใหม่ต่อไป ตลอดจนประสานงานระหว่างส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับส่วนกลาง อาทิ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และหน่วยงานผู้ปฏิบัติในพื้นที่เพื่อบูรณาการเรื่องการใช้ประโยชน์แหล่งน้ำในพื้นที่มาเป็นแหล่งต้นทุนน้ำดิบในกระบวนการให้เป็นไปด้วยความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน นอกจากนี้ เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาดำเนินการด้วยความโปร่งใส พร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ และให้มีการพิจารณาการจ้าง ดำเนินการโดยแรงงานท้องถิ่นในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23829 | โครงการให้ความช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) | กค | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบเงื่อนไขมาตรการเพิ่มวงเงินที่รัฐชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ SMEs ที่ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อผ่านโครงการ Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ระยะที่ ๕ เพิ่มอีกจำนวน ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยให้มีผลบังคับใช้กับลูกค้าที่ยื่นขอค้ำประกันสินเชื่อนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของมาตรการดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘ งบประมาณในการดำเนินมาตรการเป็นวงเงินไม่เกิน ๘๗๕ ล้านบาท และเงื่อนไขโครงการ Policy Loan งบประมาณในการดำเนินโครงการเป็นวงเงินรวมไม่เกิน ๓,๒๒๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ บสย. ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในปีงบประมาณถัดไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรเร่งดำเนินการตามมาตรการให้เป็นตามเป้าหมาย และควรมีการพิจารณาผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการให้มีความหลากหลายของประเภทกิจการ ทั้งภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยเฉพาะกิจการที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม องค์ความรู้และภูมิปัญญาของไทย รวมทั้งความครอบคลุมของพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการกระจายการลงทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และควรมีมาตรการคัดกรองผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการที่ละเอียด รอบคอบ และรัดกุม เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงการเกิดหนี้สูญและเพื่อให้ได้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) กระทรวงการคลัง และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเร่งประชาสัมพันธ์โครงการหรือมาตรการให้ความช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนด้วย |
|||||||||||||||
23830 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ อาคารที่ทำการสภาวิชาชีพ เป็นอาคาร คสล. 14 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 26,030 ตารางเมตร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิชาชีพ เป็นอาคาร คสล. ๑๔ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๒๖,๐๓๐ ตารางเมตร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ๑ หลัง จากวงเงินเดิม ๓๕๗,๗๒๗,๒๐๐ บาท เป็นวงเงินจำนวน ๓๙๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายแล้ว จำนวน ๕๓,๖๕๙,๑๐๐ บาท ที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว ส่วนที่เหลือ จำนวน ๓๔๕,๓๔๐,๙๐๐ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐ จำนวน ๓๐๔,๐๖๘,๑๐๐ บาท และใช้เงินนอกงบประมาณสมทบอีก จำนวน ๔๑,๒๗๒,๘๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||
23831 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการค่าก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนลำปางกัลยาณี จังหวัดลำปาง | ศธ | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการค่าก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนลำปางกัลยาณี จังหวัดลำปาง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการค่าก่อสร้างโรงเรียนลำปางกัลยาณี จังหวัดลำปาง จากเดิมอาคารเรียนแบบ ๓๒๔ ล/๕๕-ข (ในเขตแผ่นดินไหว) จำนวน ๑ หลัง วงเงิน ๒๗,๙๐๐,๐๐๐ บาท เป็นอาคารเรียนแบบ ๓๒๔ ล/๕๕-ข (ในเขตแผ่นดินไหว) ปรับแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ จำนวน ๑ หลัง ในวงเงิน ๒๗,๙๐๐,๐๐๐ บาท ตามนัยข้อ ๗ (๑) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป โดยไม่ต้องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามที่เสนอมาในครั้งนี้ ทั้งนี้ การดำเนินการก่อสร้างและการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับอาคารเรียนดังกล่าว ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรให้มีการกำกับ ติดตามการดำเนินการก่อสร้างให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาอย่างเคร่งครัด มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากอาคารเรียนให้เอื้อต่อการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการสิ่งก่อสร้าง ให้หัวหน้าส่วนราชการรับความเห็นจากผู้ควบคุมงานหรือคณะกรรมการตรวจการจ้างประกอบการพิจารณาด้วย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23832 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียน (โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 4 กรุงเทพมหานคร และโรงเรียน ดีบุกพังงาวิทยายน จังหวัดพังงา) | ศธ | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน จำนวน ๒ หลัง เป็นกรณีเฉพาะราย ดังนี้ ๑.๑ อาคารเรียนแบบ ๓๒๔ ล/๕๕-ก โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๔ กรุงเทพมหานคร จำนวน ๑ หลัง วงเงิน ๒๗,๖๕๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๕,๑๓๘,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีก จำนวน ๒๒,๕๑๒,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ต่อไป ๑.๒ อาคารเรียนแบบ ๓๒๔ ล/๕๕-ข (ในเขตแผ่นดินไหว) โรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน จังหวัดพังงา จำนวน ๑ หลัง วงเงิน ๒๘,๐๙๘,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๕,๓๑๔,๔๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีก จำนวน ๒๒,๗๘๓,๖๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ต่อไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรมีการกำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากอาคารเรียนทั้งในการจัดการเรียนการสอนและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการศึกษาและการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ รวมทั้งชี้แจงสร้างความเข้าใจในหลักเกณฑ์การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณให้ส่วนราชการในสังกัดมีความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
23833 | ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... | ทก | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ไปแก้ไขปรับปรุงตามข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรี แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัตินี้ต้องมีหลักการในลักษณะของการส่งเสริมไม่ใช่การบังคับ และต้องไม่เกิดภาระต่อภาคเอกชนในการลงทุน ๒. บทบัญญัติบางมาตราขัดต่อวินัยการคลังและหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เช่น การไม่นำเงินรายได้ของหน่วยงานส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน การไม่ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา และการไม่จำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นต้น จึงสมควรปรับแก้ให้สอดคล้องกับหลักการดังกล่าว |
|||||||||||||||
23834 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และ วัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 20 ฉบับ | พน | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน ๒๐ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เครื่องจักร อุปกรณ์ และวัสดุที่มีค่าประสิทธิภาพพลังงานไม่เกินค่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามกฎกระทรวงเป็นเครื่องจักร อุปกรณ์ และวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายมีสิทธิขอรับการส่งเสริมและช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้เครื่องจักร อุปกรณ์ และวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูง อันเป็นการประหยัดพลังงานของประเทศและช่วยลดมลภาวะซึ่งควรได้รับการสนับสนุน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบลลัสต์ขดลวดที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับหลอดฟลูออเรสเซนซ์ พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบลลัสต์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับหลอดฟลูออเรสเซนซ์ พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลอดมีแบลลัสต์ในตัวที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วคู่ที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัดลมไฟฟ้าชนิดแขวนเพดานและชนิดส่ายรอบตัวที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงกำหนดมอเตอร์เหนี่ยวนำสามเฟสที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๗. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเตาหุงต้มในครัวเรือนใช้กับก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๘. ร่างกฎกระทรวงกำหนดโคมไฟฟ้าเพื่อการอนุรักษ์พลังงานสำหรับหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วคู่ พ.ศ. .... ๙. ร่างกฎกระทรวงกำหนดคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในขณะรอใช้งานและขณะปิดเครื่อง พ.ศ. .... ๑๐. ร่างกฎกระทรวงกำหนดจอภาพที่มีประสิทธิภาพสูงในขณะรอใช้งานและขณะปิดเครื่อง พ.ศ. .... ๑๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในขณะรอใช้งานและขณะปิดเครื่อง พ.ศ. .... ๑๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดอุปกรณ์หลายหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพสูงในขณะรอใช้งานและขณะปิดเครื่อง พ.ศ. .... ๑๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องสแกนเอกสารที่มีประสิทธิภาพสูงในขณะรอใช้งานและขณะปิดเครื่อง พ.ศ. .... ๑๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีประสิทธิภาพสูงในขณะรอใช้งาน พ.ศ. .... ๑๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องเสียงในบ้านที่มีประสิทธิภาพสูงในขณะรอใช้งาน พ.ศ. .... ๑๖. ร่างกฎกระทรวงกำหนดอุปกรณ์ปรับความเร็วรอบที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๑๗. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเตาไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๑๘. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเตาไมโครเวฟที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๑๙. ร่างกฎกระทรวงกำหนดกาต้มน้ำร้อนไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๒๐. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลอดฟลูออเรสเซนซ์ขั้วเดี่ยวที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... |
|||||||||||||||
23835 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... | มท | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
23836 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอ่างทอง พ.ศ. .... | มท | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอ่างทอง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลย่านซื่อ ตำบลศาลาแดง ตำบลตลาดกรวด ตำบลบ้านรี ตำบลบ้านอิฐ ตำบลตลาดหลวง ตำบลบางแก้ว ตำบลบ้านแห ตำบลโพสะ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
23837 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลาที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งให้ลูกหนี้แก้ไขรายการในคำขอประนอมหนี้ การกำหนดแนวทางปฏิบัติหรือระเบียบเกี่ยวกับกรณีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้มีความชัดเจน รวมทั้งกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยกคำขอรับชำระหนี้ หรืออนุญาตให้ได้รับชำระหนี้บางส่วน ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งคำสั่งพร้อมสำเนาคำสั่งคำขอรับชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ และการออกระเบียบกำหนดคุณสมบัติของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้มีอำนาจออกคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้ต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถและกำหนดระดับความรับผิดชอบ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
23838 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าทุ่งมน ป่าบักได และ ป่าตาเบา แปลงที่สาม ป่าห้วยทับทัน แปลงที่หนึ่ง แปลงที่สอง แปลงที่สาม บางส่วน ในท้องที่ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... (เพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน - ห้วยสำราญ) | ทส | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าทุ่งมน ป่าบักได และป่าตาเบา แปลงที่สาม ป่าห้วยทับทัน แปลงที่หนึ่ง แปลงที่สอง แปลงที่สาม บางส่วน ในท้องที่ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้เพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ออกจากการเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
23839 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลท้าวอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... | มท | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลท้าวอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลท้าวอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร และเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของชุมชนในด้านการก่อสร้างอาคาร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
23840 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่เมืองศรีมโหสถ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... | ทส | 16/06/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่เมืองศรีมโหสถ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่บางส่วนที่ได้มีการกำหนดให้เป็นเขตผังเมืองรวมจังหวัดปราจีนบุรี ในพื้นที่เมืองศรีมโหสถ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อการอนุรักษ์ การปกป้อง และการฟื้นฟูบูรณะและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมศิลปกรรมที่มีคุณค่าและความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีสมัยทวารวดีที่เป็นแหล่งศิลปกรรมสำคัญระดับชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรติดตามประเมินผลการประกาศเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวหลังประกาศกระทรวงฯ ดังกล่าวมีผลใช้บังคับไปแล้ว ๓ ปี รวมทั้งสื่อสาร สร้างความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมจัดทำร่างประกาศฉบับใหม่ ก่อนประกาศฉบับที่มีผลบังคับใช้อยู่จะสิ้นสุดการบังคับใช้ เพื่อให้สามารถประกาศใช้ได้ทัน และดำเนินการสำรวจแหล่งโบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์สำคัญในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศที่มีลักษณะการเสื่อมสภาพจากการใช้งานและปัจจัยภายนอก แล้วจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพื่อพิจารณาประกาศเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมและศิลปกรรมตามความเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
.....