ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1192 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23821 - 23840 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23821 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปค ครั้งที่ 21 | พณ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (๑) ร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีการค้าเอเปค (Draft Ministerial Statements) เป็นเอกสารแนวทางความร่วมมือในการดำเนินการโครงการและกิจกรรมร่วมกันระหว่างสมาชิกเอเปค รวมทั้งการจัดทำแผนปฏิบัติ (Implementation Plan) ของสมาชิกในการลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อมเอเปค ๕๔ รายการ ให้เหลือไม่เกินร้อยละ ๕ ภายในปี ๒๐๑๕ ตามแถลงการณ์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเมื่อปี ๒๐๑๒ และ (๒) ร่างแถลงการณ์เรื่องการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี (Draft Statement on Supporting the Multilateral Trading System) มีสาระสำคัญเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) อาทิ การเห็นชอบพิธีสารเพื่อผนวกความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Agreement on Trade Facilitation : TFA) เข้าเป็นอีกความตกลงหนึ่งของ WTO การจัดทำแผนการเจรจาหลังบาหลี (pot-Bali work program) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑.๒ เห็นชอบการดำเนินการตามแผนปฏิบัติของไทยในการลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อมของเอเปค ทั้งนี้ ตามแผนปฏิบัติดังกล่าวมีสินค้าจำนวน ๕ รายการที่ไม่สามารถลดภาษีลงเป็นร้อยละ ๐-๕ ได้ และยังมีสินค้าอีก ๘ รายการที่ยังมีอัตราภาษีมากกว่าร้อยละ ๕ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาการลดภาษีของกระทรวงการคลัง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๑.๓ อนุมัติให้ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ทั้ง ๒ ฉบับ ๑.๔ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรนำประเด็นเรื่อง Global Data Standards (GDS) บรรจุไว้ภายใต้หัวข้อเรื่อง Supply Chain Connectivity ส่วนการลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อมซึ่งเอเปคกำหนดให้จัดทำแผนปฏิบัติ (Implementation Plan) ของสมาชิกในการลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อม ๕๔ รายการให้เหลือไม่เกินร้อยละ ๕ ภายในปี ๒๐๑๕ นั้น ควรมีแผนปฏิบัติลดภาษีโดยคำนึงถึงรูปแบบการลดภาษีที่เหมาะสมกับการดำเนินการภายในประเทศและเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยควรเร่งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล พร้อมทั้งยกระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้าของภาครัฐ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากร ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
23822 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 20 - 24 เมษายน 2558) | สผ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ จำนวน ๒๔ คณะ และคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๒๐-๒๔ เมษายน ๒๕๕๘) ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
23823 | ร่างเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ฉบับที่ 2 เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบและอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมฯ ฉบับที่ 2 รวมทั้งขออนุมัติให้มีการแก้ไขในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็นในภายหน้า | ยธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ฉบับที่ ๒ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการยืนยันเจตนารมณ์ของประเทศไทยร่วมกับประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ ในการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนและช่วยเหลือตนเองในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาค โดยร่วมกันออกเงินสมทบเพื่อการดำเนินโครงการที่อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการ เพื่อให้ประเทศผู้บริจาคเห็นถึงเจตจำนงอันแน่วแน่ของประเทศภาคีสมาชิกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีการปรับข้อความให้ครอบคลุมกิจกรรมและแผนงาน ภายใต้แผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติดมากขึ้น ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ลงนามในร่างเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมฯ ฉบับที่ ๒ ในระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ ในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ๓. อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแก้ไขปรับปรุงเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมฯ ฉบับที่ ๒ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย หากมีความจำเป็น โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง โดยให้เป็นดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่จะพิจารณาดำเนินการภายในกรอบของร่างเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมฯ ฉบับที่ ๒ |
|||||||||||||||||||||
23824 | แจ้งมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรณีถอดถอนหรือไม่ถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง | สว | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แจ้งมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ถอดถอนนายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เนื่องจากกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
23825 | พิจารณาร่างหนังสือแลกเปลี่ยนและร่างความตกลงสำหรับดำเนินโครงการ "Standards in the Southeast Asian Food Trade" | กษ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างเอกสาร จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนตอบรับจากสำนักเลขาธิการอาเซียนที่มีถึงสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Exchange of Notes) และ (๒) ร่างความตกลงสำหรับดำเนินโครงการ (Implementation Agreement for the ASEAN-German Project) เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพิจารณา โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Deutche Geselschaft fur Internationale Zusammernarbeit (GIZ) และ ASEAN ในด้านการดำเนินการมาตรฐานระดับสากลสำหรับการเกษตรที่ดีและเหมาะสมโดยเฉพาะด้านคุณภาพผักและผลไม้ทั้งสดและผ่านกระบวนการแปรรูป โดยรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีจะสนับสนุนงบประมาณเป็นเงินจำนวน ๒.๕ ล้านยูโร ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายของ GIZ ในการดำเนินการโครงการ และจะสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การสนับสนุนทางวิชาการในพื้นที่โครงการ รวมทั้งมีการตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ (Project Steering Committee: PSC) เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการ ๒. อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่า รัฐบาลไทยเห็นชอบต่อร่างเอกสารทั้ง ๒ ฉบับ และให้เลขาธิการอาเซียนลงนามในเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||
23826 | รายงานผลการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการขอทาน | พม | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการขอทาน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยมีความคืบหน้าในการดำเนินงาน ดังนี้
๑. การดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาขอทานซึ่งเป็นหน่วยรับแจ้งเหตุและประสานงานเพื่อการจัดระเบียบขอทานตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยศูนย์ได้จัดให้มีทีมปฏิบัติการ จำนวน ๖ ทีม ปฏิบัติงานครอบคลุมทุกพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ขอทานที่เข้าสู่การจัดระเบียบขอทานจะต้องผ่านการคัดกรอง และแบ่งการดำเนินงานออกเป็น ๓ กลุ่ม คือ ขอทานที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ขอทานต่างด้าว และขอทานไทย ซึ่งผลการดำเนินงานจัดระเบียบขอทานที่ผ่านมาในรอบ ๖ เดือนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า จำนวนเฉลี่ยขอทานที่พบต่อวัน ต่อทีม ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งขอทานไทยและขอทานต่างด้าว โดยเฉพาะขอทานต่างด้าวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการจัดระเบียบขอทานในภูมิภาคได้มีนโยบายเน้นย้ำให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาขอทานทุกจังหวัดมีการจัดระเบียบขอทานอย่างต่อเนื่อง ๒. การฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพคนไร้ที่พึ่งและขอทานแบบครบวงจร “ธัญบุรีโมเดล” กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้จัดทำโครงการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้ชื่อโครงการว่า “โครงการ พส. ร่วมใจ พัฒนาฟื้นฟูคนไร้ที่พึ่งและขอทานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิตใจ สังคม สุขภาพและส่งเสริมอาชีพ ภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรแบบผสมผสาน กิจกรรมโครงการประกอบด้วยการปลูกผักสวนครัว เลี้ยงเป็ด ไก่ กบ การทำคอกหมูหลุม การเพาะปลูกผักสวนครัว การทำหัตถกรรม โดยระหว่างการเข้าร่วมโครงการ คนไร้ที่พึ่งและขอทานจะมีรายได้จากกิจกรรมตามโครงการ สำหรับผู้ผ่านการฟื้นฟูจากโครงการ จะได้รับโอกาสคืนสู่สังคมกลับไปอยู่ในครอบครัว ส่วนผู้ที่ไม่สามารถกลับสู่ครอบครัวได้จะได้รับโอกาสเข้าอยู่อาศัยในนิคมสร้างตนเองที่ร่วมโครงการนำร่องและประกอบอาชีพตามที่ได้รับการอบรมมา ๓. การจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพคนไร้ที่พึ่งและขอทาน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้รับบริจาคเงิน จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท จากบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการสงเคราะห์ ฟื้นฟู และพัฒนาศักยภาพคนไร้ที่พึ่งและขอทาน รวมทั้งส่งเสริมการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนา ระบบ รูปแบบและวิธีการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาขอทานอย่างครบวงจร ๔. การจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสสังคมเพื่อ “ให้ทานถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน” เป็นการแก้ปัญหาขอทานที่ต้นเหตุจากพฤติกรรมการบริจาคของคนไทยที่เป็นผลให้ขอทานต้องตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ๕. การจัดกิจกรรมกล่องรับบริจาค โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้จัดทำกล่องรับบริจาค จำนวน ๑๐๐ กล่อง นำไปวางไว้ตามห้างสรรพสินค้า วัด และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ๑๑ แห่ง เพื่อเป็นการรองรับมาตรการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ในเรื่อง “ให้ทานถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน” และยังเป็นการจัดหารายได้เข้ากองทุน รวมทั้งเป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ของการให้ทานแก่สังคมไทย
|
|||||||||||||||||||||
23827 | รายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมในการใช้มิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เสริมสร้างภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของประเทศไทยในเวทีโลก เดือนเมษายน 2558 | วธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรมในการใช้มิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เสริมสร้างภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของประเทศไทยในเวทีโลก เดือนเมษายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การจัดการแสดงดนตรีและนาฏศิลป์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ และฉลองความสัมพันธ์ ๔๐ ปี ไทย-จีน ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ ๓-๕ เมษายน ๒๕๕๘ โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งการหารือทวิภาคีความร่วมมือทางวัฒนธรรม และการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรม ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมทั้ง ๒ ประเทศ มีสาระความร่วมมือ ๑๕ ข้อ อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือนและจัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกัน ด้านการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี ทัศนศิลป์ หอสมุด จดหมายเหตุ สถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ โบราณคดี ๒. การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๘ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซียเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีสาระความร่วมมือ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านต่างๆ รวมถึงการจัดงาน “วันวัฒนธรรมไทยในรัสเซีย” และ “วันวัฒนธรรมรัสเซียในไทย” ในปี ๒๕๖๐ เพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ ๑๒๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย ๓. การต้อนรับรัฐมนตรีกำกับการบริหารกิจการศาสนาแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Minister of the State Administration for Religious Affairs) เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๘ ณ หอสมุดแห่งชาติ ซึ่งทั้งสองฝ่ายตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ที่มีมาช้านาน โดยมีพัฒนาการความสัมพันธ์มากขึ้นในทุกระดับ ๔. การเชิญทูตานุทูตและคู่สมรสเข้าร่วมงานสงกรานต์ สืบสานประเพณีไทย เมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๘ ณ วัดปทุมวนารามวรวิหาร เพื่อเรียนรู้และร่วมกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ของไทย ๕. การร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาล Bangla New Year 1422 ประจำปี ๒๕๕๘ ณ เมืองธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๘ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และการหารือระดับทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของทั้ง ๒ ประเทศถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำข้อตกลงภายใต้กรอบความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่แล้ว ๖. การเชิญทูตานุทูตร่วมในพิธีเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรม “ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๓ ปี กรุงรัตนโกสินทร์” เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๘ ณ บริเวณท้องสนามหลวง ๗. การจัดการประชุมวรรณกรรมและวัฒนธรรมอาเซียนและเอเชีย ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๖ เมษายน ๒๕๕๘ ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีศิลปินและนักเขียน จำนวน ๒๐๐ คน จาก ๑๓ ประเทศ ในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียเข้าร่วมประชุมฯ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องวรรณกรรมของแต่ละประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
23828 | ผลการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 69 | กต | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๖๙ ระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การประชุมเต็มคณะ ประเด็นได้รับความสนใจ ได้แก่ วาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการขจัดความยากจนและความอดอยาก การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและบทบาทสตรี การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การปฏิรูประบบสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ การลดอาวุธ และความขัดแย้งในส่วนต่าง ๆ ของโลก อาทิ ซีเรีย อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ยูเครน-รัสเซีย และแอฟริกา ๒. คณะกรรมการ ๑ (การลดอาวุธและความมั่นคงระหว่างประเทศ) ที่ประชุมให้ความสนใจและชื่นชมกลไกต่าง ๆ ที่นำไปสู่ความสำเร็จ/ความคืบหน้าด้านการลดอาวุธในกรอบพหุภาคี อาทิ การประชุมว่าด้วยผลกระทบทางมนุษยธรรมของอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจาจัดทำสนธิสัญญาว่าด้วยการลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างจริงจัง และสนธิสัญญาว่าด้วยการค้าอาวุธ ซึ่งน่าจะเป็นข้อตกลงด้านการควบคุมอาวุธตามแบบที่โดดเด่นที่สุดในอนาคตอันใกล้ ๓. คณะกรรมการ ๒ (เศรษฐกิจและการพัฒนา) โดยที่ผู้นำทั่วโลกจะร่วมกันรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ระหว่างการประชุมสหประชาชาติเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ (UN Summit on the Post-2015 Development Agenda) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ กันยายน ๒๕๕๘ ประเทศสมาชิกจึงให้ความสำคัญกับการอ้างถึงรายงานของ Open Working Group on Sustainable Development Goals ซึ่งจะเป็นเอกสารพื้นฐานหลักสำหรับการเจรจาเพื่อจัดทำวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ โดยมีการขจัดความยากจนเป็นเป้าหมายหลัก ๔. คณะกรรมการ ๓ (สังคม สิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม และวัฒนธรรม) ที่ประชุมให้ความสำคัญต่อการยกระดับสิทธิสตรีให้เท่าเทียมบุรุษและการยุติความรุนแรงต่อสตรีในทุกรูปแบบ โดยในส่วนของประเด็นวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศ กลุ่มประเทศแอฟริกาและกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลามต่อต้านการยกระดับสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ เห็นว่าขัดต่อหลักศาสนาและวัฒนธรรม ในขณะที่สหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศลาตินอเมริกายืนยันถึงความสำคัญในการยอมรับและปกป้องกลุ่มบุคคลดังกล่าวจากการถูกทำร้าย ส่วนประเด็นการระงับโทษประหารชีวิต สิงคโปร์และอียิปต์ยืนยันว่า โทษประหารชีวิตมีไว้เพื่อป้องปรามอาชญากรรมที่มีความรุนแรง ในขณะที่สหภาพยุโรปและประเทศลาตินอเมริกามองว่า โทษประหารชีวิตไม่มีผลต่อการลดอาชญากรรม ๕. คณะกรรมการ ๔ (การเมืองพิเศษและการปลดปล่อยอาณานิคม) รัฐสมาชิกยังคงให้ความสำคัญกับปฏิบัติการสันติภาพ (Peace Operations) ซึ่งประกอบด้วยปฏิบัติการรักษาสันติภาพ (Peacekeeping Operations : PKOs) และปฏิบัติการทางการเมืองพิเศษ (Special Political Missions - SPMs) โดยเฉพาะภารกิจของคณะผู้ทรงคุณวุฒิที่แต่งตั้งโดยเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อศึกษาและเสนอข้อแนะนำในการปรับปรุงปฏิบัติการสันติภาพให้ตอบรับกับความท้าทายด้านความมั่นคงในปัจจุบัน ๖. คณะกรรมการ ๕ (การบริหารจัดการและงบประมาณ) ที่ประชุมขอให้เลขาธิการสหประชาชาติจัดทำร่างข้อเสนองบประมาณปกติสำหรับปี ๒๕๕๙-๒๕๖๐ ภายในกรอบงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น ๕,๕๕๘,๓๙๕,๖๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และกำหนดอัตราวงเงินฉุกเฉิน (Contingency Fund) ไว้ที่ร้อยละ ๐.๗๕ ของกรอบงบประมาณ รวมทั้งแผนงานการจัดกิจกรรมในช่วงปีงบประมาณดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบวันหยุดและความสำคัญของวันหยุดทางศาสนาต่าง ๆ ที่เสนอโดยประเทศสมาชิก เช่น วัน Yom Kippur (เสนอโดยอิสราเอล) วันวิสาขบูชา (เสนอโดยศรีลังกา) วันดิวาลี (เสนอโดยอินเดีย) และวัน Orthodox Christmas (เสนอโดยรัสเซีย) โดยให้สำนักงานภายใต้สหประชาชาติหลีกเลี่ยงการจัดการประชุมในวันหยุดดังกล่าว ๗. คณะกรรมการ ๖ (กฎหมาย) ที่ประชุมให้ความสำคัญกับมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ และสนับสนุนให้หาข้อสรุปเพื่อจัดทำร่าง Comprehensive Convention on International Terrorism (CCIT) ให้เสร็จโดยเร็ว และเสนอให้พิจารณาปัญหาการขาดแคลนงบประมาณสำหรับกิจกรรมภายใต้โครงการความช่วยเหลือแห่งสหประชาชาติในการสอน การเรียน การเผยแพร่ และการเพิ่มความสำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ในปีงบประมาณ ๒๕๕๗-๒๕๕๘ อีกครั้ง โดยเฉพาะงบประมาณสำหรับ regional course สำหรับภูมิภาคแอฟริกา เอเชีย-แปซิฟิก และลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และ UN Audiovisual Library of International Law (AVL) ทั้งนี้ ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด regional course ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่กรุงเทพฯ
|
|||||||||||||||||||||
23829 | ขอความเห็นชอบต่อร่างหนังสือแลกเปลี่ยนและร่างความตกลงว่าด้วยการดำเนินโครงการสนับสนุนข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน (Initiative for ASEAN Integration: IAI) ภายใต้กรอบการเป็นตลาดเดียวของอาเซียนระหว่างอาเซียนกับสมาคมเยอรมันเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (Deutsche Gesellschaft fur Internationale Zusammenarbeit: GIZ) | กต | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายอาเซียนและร่างความตกลงว่าด้วยการดำเนินโครงการสนับสนุนข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน (Initiative for ASEAN Integration : IAI) ภายใต้กรอบการเป็นตลาดเดียวของอาเซียนระหว่างอาเซียนกับสมาคมเยอรมันเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (Deutsche Gesellschaft fur Internationale Zusammenarbeit : GIZ) โดยหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายอาเซียนมีสาระเป็นการตอบรับข้อเสนอของฝ่ายเยอรมนี โดยแจ้งว่า อาเซียนเห็นชอบกับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุในหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายเยอรมนีที่จะให้การสนับสนุนโครงการสนับสนุนข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน (IAI) ภายใต้กรอบการเป็นตลาดเดียวของอาเซียน เป็นมูลค่ารวม ๖,๐๐๐,๐๐๐ ยูโร โดยให้ GIZ และอาเซียนเป็นผู้ดำเนินโครงการ และให้สำนักเลขาธิการอาเซียนสนับสนุนการดำเนินโครงการในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ส่วนความตกลงว่าด้วยการดำเนินโครงการฯ เป็นความตกลงระหว่าง GIZ กับอาเซียน โดยระบุรายละเอียดของการดำเนินโครงการ อาทิ การสนับสนุนทางการเงิน ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง การจัดหาสถานที่ การบริหารจัดการโครงการ การประเมินผล การปรับแก้และบอกเลิกความตกลง รวมทั้งการระงับข้อพิพาทและการตีความ และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๒. ให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายอาเซียนและความตกลงว่าด้วยการดำเนินโครงการฯ รวมทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่า รัฐบาลไทยให้ความยินยอมแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
23830 | ขอความเห็นชอบดำเนินงานตามพันธกรณีเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานทศวรรษคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 3 (Third Session of the Working Group on the Asian and Pacific Decade of Persons with Disabilities, 2013 - 2022) | พม | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการดำเนินงานตามพันธกรณีในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานทศวรรษคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ ๓ (Third Session of the Working Group on the Asian and Pacific Decade of Persons with Disabilities, 2013-2022) เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกภายใต้ยุทธศาสตร์อินชอน รับรองรายงานการประชุมและการดำเนินงานของคณะทำงานว่าด้วยทศวรรษคนพิการแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๕) สมัยที่ ๒ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ทบทวนครึ่งทศวรรษแรกของทศวรรษคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก ค.ศ. ๒๐๑๗ (พ.ศ. ๒๕๖๐) และทบทวนการขับเคลื่อนด้านทรัพยากรสำหรับความก้าวหน้าของทศวรรษคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก ติดตามการผลักดันประเด็นด้านคนพิการในวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน และแสดงบทบาทและศักยภาพการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของประเทศไทย ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการประชุม ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๕,๕๓๖,๔๐๐ บาท ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการพิจารณาดำเนินการเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ในขั้นของการแปรญัตติตามปฏิทินงบประมาณก่อน หากไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
23831 | การประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายของ FATF ในปี พ.ศ. 2559 | ปง | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Anti-Money Laundering and Combating the Financing of Terrorism : AML/CFT) ของ Financial Action Task Force (FATF) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ และเห็นชอบมาตรการรองรับการประเมินฯ ตามมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กรณีความผิดเกี่ยวกับภาษีอากรเป็นความผิดมูลฐาน มีมติมอบหมายให้กรมสรรพากรดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับข้อแนะนำของ FATF ๑.๒ กรณีการสำแดงเงินและตราสารผ่านแดน มีมติมอบหมายสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และมาตรฐานสากลตามข้อแนะนำของ FATF ๑.๓ กรณีการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาและพิธีสารระหว่างประเทศเกี่ยวกับการก่อการร้าย มีมติมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาและพิธีสารระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในส่วนที่ประเทศไทยยังมิได้เป็นภาคี และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินมาตรการรองรับการประเมินดังกล่าว ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการตามมาตรการรองรับการประเมินฯ ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ |
|||||||||||||||||||||
23832 | โครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) | ทก | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการให้บริการภาพถ่ายและข้อมูลภูมิสารสนเทศต่าง ๆ แก่ผู้ใช้งาน โดยมีองค์ประกอบของโครงการฯ ๕ ส่วน ได้แก่ (๑) การจัดดาวเทียมสำรวจและการปรับปรุงระบบสถานีรับสัญญาณและผลิตภาพถ่ายจากดาวเทียมของประเทศ (๒) การพัฒนาระบบผลิตและบริการภูมิสารสนเทศจากภาพถ่ายดาวเทียม (๓) การพัฒนาระบบประยุกต์ใช้ประโยชน์ภูมิสารสนเทศจากภาพถ่ายดาวเทียมของหน่วยปฏิบัติตามภารกิจต่าง ๆ (๔) การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการใช้งานภูมิสารสนเทศ และ (๕) การพัฒนาขีดความสามารถของประเทศด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและบริการด้านอวกาศและภูมิสารสนเทศจากการสำรวจจากระยะไกล มีระยะเวลาดำเนินการ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓) วงเงินโดยรวมประมาณ ๗,๘๐๐ ล้านบาท ๒. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ ที่มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเจรจา เพื่อทำหน้าที่ศึกษาในรายละเอียดและดำเนินการเจรจากับประเทศที่คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติให้ความเห็นชอบ ในประเด็นทางเทคนิคของเทคโนโลยีดาวเทียม การพัฒนาระบบประยุกต์ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ และให้คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณากรอบและแนวทางการเจรจา วิธีการจัดหาดาวเทียม ระยะเวลา ประโยชน์ที่จะได้รับ รวมถึงหน่วยงานที่จะเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) ทั้งนี้ ก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนการลงทุนโครงการจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ๓. ให้คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยที่เห็นว่า ดาวเทียมเป็นระบบหนึ่งที่ประกอบไปด้วยระบบย่อยหลากหลายระบบและมีข้อจำกัดพิเศษที่แตกต่างจากระบบอื่น ๆ คือเมื่อส่งขึ้นสู่วงโคจรไปแล้วจะไม่สามารถนำกลับมาซ่อมแซมหรือแก้ไขใหม่ได้อีก (nonrepairable system) ดังนั้น ในการพัฒนาดาวเทียมระบบนั้นจะต้องเป็นระบบที่ robust และ zero-defect มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อระบบทุกระบบทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ แนวทางการพัฒนาพื้นฐานความรู้ในการออกแบบและสร้างดาวเทียม ควรมีแผนการพัฒนาสร้างขนาดดาวเทียมโดยเริ่มจากขนาดเล็ก ตั้งแต่ระดับ 1kg 10kg จนถึง 100kg ส่งเข้าสู่วงโคจรจริงและต้องทำการออกแบบและพัฒนาสร้างด้วยตัวเองภายในประเทศ ๑๐๐% ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
23833 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคาร และขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณค่าสิ่งก่อสร้างที่ได้รับอนุมัติ ให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ [สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)] | นร | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. อนุมัติให้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ทำสัญญาเช่าพื้นที่บริเวณอาคารไปรษณีย์กลาง กับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด และก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๑ รายการค่าเช่าพื้นที่เพื่อจัดตั้งอาคารศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ ในวงเงิน ๕๖๖,๘๔๑,๔๔๒.๒๒ บาท ระยะเวลาการเช่า ๑๒ ปี ๑๐ เดือน โดยทำการต่อสัญญาเช่าทุก ๆ ๓ ปี สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ นั้น ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกาศใช้บังคับแล้ว ๒. อนุมัติในหลักการให้เปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๐ จากรายการค่าก่อสร้างศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบของประเทศ เป็นรายการค่าปรับปรุงตกแต่งและก่อสร้างศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบของประเทศ ภายในวงเงิน ๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว จำนวน ๖๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อ ๆ ไปอีก จำนวน ๓๓๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณก่อนลงนามในสัญญาก่อหนี้ผูกพัน ตามนัยของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓. ให้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ดำเนินการติดตามผลการปฏิบัติงานและประเมินผลความคุ้มค่าของการลงทุนในการปรับปรุงศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบของประเทศ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาเช่าในแต่ละครั้งเพื่อประกอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีด้วย |
|||||||||||||||||||||
23834 | รายงานตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 ประจำปี 2557 | สสส. | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๗ ของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ ยุทธวงศ์) ประธานกรรมการ สสส. เสนอ โดยสาระสำคัญรายงานดังกล่าว ประกอบด้วย ๑.๑ ผลงานเด่นในปี ๒๕๕๗ ประกอบด้วย (๑) ควบคุมการบริโภคยาสูบ (ขยายภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ ร้อยละ ๘๕) (๒) ขับเคลื่อนกฎหมายห้ามขาย-ห้ามดื่มบนรถไฟ (๓) ร่วมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนน (๔) ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น (๕) ต้นแบบรายการโทรทัศน์ภาษามือเพื่อการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม (๖) ต้นแบบตำบลสุขภาวะ : มหาวิชชาลัยดอนแก้วสร้างสุข (๗) พัฒนาแผนนโยบายระดับชาติเพื่อป้องกันความพิการแต่กำเนิด (๘) นวัตกรรมเครื่องมือวัดความสุข : HAPPINOMETER (๙) สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา (๑๐) พลเมืองตื่นรู้เท่าทันสื่อ (๑๑) พัฒนาพยาบาลวิชาชีพสู่การเป็นนักสร้างเสริมสุขภาพ (๑๒) นวัตกรรมการสื่อสารสุขภาวะ (๑๓) ตามรอยเจ้าฟ้านักโภชนาการ : เด็กไทยแก้มใส และ (๑๔) ต้นแบบการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพในเวทีโลก ๑.๒ การบริหารงบประมาณในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ สสส. มีการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ รวม ๔,๘๗๔.๘ ล้านบาท จำแนกการใช้จ่ายงบประมาณเป็น ๒ ส่วน คือ เบิกจ่ายทุนสนับสนุนโครงการสร้างเสริมสุขภาพ รวมค่าใช้จ่ายบริหารโครงการ จำนวน ๔,๐๑๑ โครงการ งบประมาณ ๔,๕๙๘.๖ ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารสำนักงาน จำนวน ๒๗๖.๒ ล้านบาท ๒. ให้ สสส. รับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงาน สสส. คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการตรวจสอบภายใน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นควรทบทวนทิศทางและเป้าหมายทั้ง ๑๐ เป้าหมาย โดยวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อค้นหาช่องว่างในส่วนต่าง ๆ ที่ต้องพัฒนาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายปลายทางของชาติ รวมทั้งควรวิเคราะห์และเน้นการขยายการดำเนินงานร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมและเสริมพลังกันอย่างชัดเจนมากขึ้น และควรเพิ่มการบูรณาการทั้งภายในแผนระหว่างแผนในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านข้อมูล ด้านเป้าหมาย ด้านบทบาทหน้าที่ ด้านการดำเนินงาน ด้านการติดตามประเมินผล เพื่อให้เกิดการหนุนเสริมซึ่งกันและกันและลดความทับซ้อนของทรัพยากรที่ใช้ดำเนินงาน ตลอดจนควรเน้นการพัฒนาระบบสารสนเทศของโครงการที่เก็บรวบรวมข้อมูลผลงานทั้งในระดับผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ อย่างเป็นมาตรฐาน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
23835 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) | สว | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) และรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. การออกข้อกำหนดเกี่ยวกับเรื่องที่จำเป็นอื่น ๆ ตามร่างมาตรา ๒๒๒/๒ (๖) และการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ซึ่งอยู่ในอำนาจของประธานศาลฎีกาในการออกข้อกำหนดตามที่บัญญัติไว้ในร่างมาตรา ๒๒๒/๒ (๖) และ (๕) เป็นกรณีที่กระทรวงยุติธรรมไม่อาจก้าวล่วงได้ ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมในฐานะหน่วยงานฝ่ายบริหารของรัฐบาลจึงขอรับข้อสังเกตทั้งสองประการเพื่อประสานส่งให้สำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป ๒. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเป็นบทบัญญัติที่มีลักษณะบังคับใช้เป็นการทั่วไป หากผู้มีส่วนได้เสียในคดีอื่นที่มีกฎหมายกำหนดวิธีพิจารณาความไว้เป็นการเฉพาะ ประสงค์ที่จะร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม ย่อมสามารถนำวิธีพิจารณาตามบทบัญญัติในหมวด ๔ การดำเนินคดีแบบกลุ่มมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามที่กำหนดไว้ในร่างมาตรา ๒๒๒/๔ ไว้แล้วได้ แต่หากมีข้อขัดข้องประการใด กระทรวงยุติธรรมจะได้ประสานงานกับสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้จัดตั้งกองทุนยุติธรรมขึ้นเพื่อสนับสนุนเงินหรือค่าใช้จ่ายในลักษณะเป็นการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมายอยู่แล้ว ประกอบกับมีหน่วยงานที่สามารถให้คำปรึกษาด้านการดำเนินคดีอยู่หลายหน่วยงาน ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องจัดตั้งกองทุนหรือหน่วยงานขึ้นใหม่
|
|||||||||||||||||||||
23836 | ผลการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อร่วมงาน Arabian Travel Market 2015 (ATM 2015) ระหว่างวันที่ ๖-๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เข้าร่วมงาน ATM 2015 เพื่อร่วมพบปะกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นเกียรติในการจัดงาน Discover Thainess 2015 Networking Lunch เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ โดยเชิญสื่อมวลชน ผู้บริหารบริษัทนำเที่ยว และตัวแทนสายการบิน เข้าร่วมงานประมาณ ๑๕๐ คน ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ย้ำความเชื่อมั่นในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยประชาสัมพันธ์ปีท่องเที่ยววิถีไทย (Discover Thainess) อย่างเป็นทางการในตลาดตะวันออกกลาง และการเป็น Muslim Friendly Destination ของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้พบปะกลุ่ม Young Designer และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (University of Sharjah และ American University in Emirates) ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Thailand Academy III ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๓ เมษายน ๒๕๕๘ ณ ชุมชนคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้นัดหมายหารือกับผู้บริหารระดับสูงของสายการบิน Etihad Airways และ Emirates Airline สายการบินยักษ์ใหญ่ของตลาดตะวันออกกลาง เพื่อหารือแนวทางขยายความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลาง โดยเน้นเจาะกลุ่มตลาดความสนใจพิเศษ (Niche Market) เช่น ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Golf, Honeymoon, Youth Tourism (Thailand Academy project) รวมทั้งการทำ Joint Promotion และสอบถามความเป็นไปได้ในการเพิ่มเที่ยวบินหรือเปิดเส้นทางบินตรงใหม่ ๆ เข้าประเทศไทย เช่น อาบูดาบี-เชียงใหม่ หรือ ดูไบ-เชียงใหม่ เป็นต้น ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พบปะกับผู้บริหารของ Reed Travel Exhibitions ซึ่งเป็นผู้จัดงานส่งเสริมการขายการท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน รวมถึงโอกาสที่จะจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ขึ้นในประเทศไทยในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||
23837 | รายงานผลการดำเนินการตามประเด็นสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รอบ 6 เดือน (ตุลาคม 2557 - มีนาคม 2558) | พณ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามประเด็นสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รอบ ๖ เดือน (ตุลาคม ๒๕๕๗-มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ประเด็นเรื่องที่เป็นหลักการ ได้แก่ ๑.๑ งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ผลการเบิกจ่าย จำนวน ๗,๘๒๕.๘ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๒.๔ ของงบประมาณที่ได้รับ สูงกว่าเป้าหมาย (ร้อยละ ๕๕) ที่สำนักงบประมาณกำหนด และรายจ่ายลงทุน ๑๘๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๙ ของงบประมาณที่ได้รับ ต่ำกว่าเป้าหมาย (ร้อยละ ๕๕) ๑.๒ การเจรจาหรือจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ได้แก่ การเจรจาภายใต้กรอบอาเซียน การประชุมผู้นำอาเซียน การจัดตั้งคลังข้อมูลทางการค้าของอาเซียน และการจำแนกมาตรการที่มิใช่ภาษีตามระบบของ UNCTAD ปี ๒๐๑๒ การเจรจาภายใต้กรอบการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) : อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลี อาเซียน-ฮ่องกง ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-จีน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน (RCEP) การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) การเจรจาภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) การหารือทวิภาคี สหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน แคนาดา ออสเตรเลีย ปากีสถาน เมียนมา ลาว และอินเดีย ๒. ประเด็นเรื่องที่เป็นประเด็น/โครงการสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ ๒.๑ การแก้ไขปัญหาราคาข้าวและการระบายข้าว โดยการระบายข้าว การชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปี ๒๕๕๗/๕๘ และการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ปี ๒๕๕๗/๕๘ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวภายในประเทศ ๒.๒ การแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่กำลังออกตามฤดูกาล โดยการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือระดับจังหวัด ดูแลผลผลิตที่ออกตามฤดูกาล ๒.๓ การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้แก่ ส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) สร้างองค์ความรู้การประกอบธุรกิจ สร้างระบบการบริหารจัดการที่ดีให้แก่สำนักงานบัญชี และการสร้างโอกาสการตลาดและการขยายเครือข่ายทางธุรกิจ ๓. เรื่องอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน ได้แก่ การดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและค่าครองชีพ โดยดูแลราคาสินค้าและบริการให้มีราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคและมิให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค และการลดภาระค่าครองชีพประชาชน ๔. ประเด็นอื่น ๆ ได้แก่ การสนับสนุนการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ การจัดทำยุทธศาสตร์การส่ง เสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน การส่งเสริมและขยายการค้าชายแดน และการส่งเสริมเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน
|
|||||||||||||||||||||
23838 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... | มท | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลป่าแฝก ตำบลไกรใน ตำบลกกแรต ตำบลไกรกลาง ตำบลไกรนอก ตำบลบ้านกร่าง ตำบลดงเดือย และตำบลกง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23839 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (ค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของ อาสาสมัครทหารพราน) | นร51 | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๘๑,๙๔๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับเพิ่มอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของอาสาสมัครทหารพรานของกองทัพบกที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๑๓,๘๗๕ คน ทั้งนี้ ให้ กอ.รมน. ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งจัดทำแผนการใช้จ่ายเงินงบกลาง และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง สำหรับภาระค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ กอ.รมน. ได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้แล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
23840 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 17/2558 เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ | สลธ.คสช. | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๖/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๕๘ เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘
|
.....