ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1195 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 23881 - 23900 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23881 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างชิ้นงานนิทรรศการพิพิธภัณฑ์พระรามเก้าพร้อมติดตั้ง | วท | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างชิ้นงานนิทรรศการพิพิธภัณฑ์พระรามเก้าพร้อมติดตั้ง วงเงิน ๑,๐๖๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยให้เบิกจ่ายค่างานก่อสร้างจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๒๑๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี ส่วนที่เหลือ จำนวน ๘๔๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อ ๆ ไป เพื่อให้ครบวงเงินค่างานตามสัญญาต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรดำเนินการเร่งรัด ติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์พระรามเก้าให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและไม่เป็นภาระกับงบประมาณภาครัฐในอนาคต และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อความโปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการเป็นสำคัญ ตลอดจนกำกับดูแลให้เป็นไปตามการออกแบบและการใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. หากมีการดำเนินโครงการอื่น ๆ ในระยะต่อไป ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินการต่อรองราคาให้ต่ำกว่าวงเงินที่ได้รับอนุมัติไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ |
|||||||||||||||||||||||||||
23882 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 เรื่อง การเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ณ ต่างประเทศ | นร | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ เรื่อง การเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรมณ ต่างประเทศ (ข้อ ๓) ดังนี้
ในระหว่างที่การปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยกระทรวงการคลังยังไม่แล้วเสร็จ ให้การเดินทางไปราชการต่างประเทศของข้าราชการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ ๑. การเดินทางที่มีระยะเวลาในการเดินทางมากกว่า ๙ ชั่วโมง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒. การเดินทางที่มีระยะเวลาในการเดินทางต่ำกว่า ๙ ชั่วโมง ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ การเดินทางตามข้อ ๑ และข้อ ๒ หมายถึง การไปปฏิบัติราชการตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย เช่น การเดินทางเพื่อไปประชุม เจรจาหรือการร่วมการเดินทางของผู้บังคับบัญชา เป็นต้น แต่ไม่รวมถึงการเดินทางเพื่อทัศนศึกษา หรือดูงานตามหลักสูตรการศึกษาอบรมต่าง ๆ ที่ยังคงต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ ทั้งนี้ หากระยะเวลาในการเดินทางไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นและมีเหตุผลความจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการที่จะเปลี่ยนแปลงชั้นโดยสาร ให้หัวหน้าส่วนราชการเจ้าสังกัดของข้าราชการเป็นผู้วินิจฉัยสั่งการ หลักเกณฑ์ดังกล่าวยกเว้นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ให้คงเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ คือ ให้เดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในชั้นประหยัด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณภาครัฐในการเดินทางต่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23883 | รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี 2556 | นร11 | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์ความยากจนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๖ ความยากจนโดยรวมลดลง แต่ความยากจนยังคงเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย คนจนส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ และลักษณะของคน/ครัวเรือนที่มีโอกาสสูงจะตกเป็นคนจนที่สำคัญ ได้แก่ ผู้ที่มีการศึกษาต่ำ ผู้ที่ทำงานในภาคเกษตร และครัวเรือนขนาดใหญ่ ๒. สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี ๒๕๕๖ ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ ความเหลื่อมล้ำด้านสินทรัพย์ทางการเงิน ความเหลื่อมล้ำด้านการถือครองที่ดิน ความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ความเหลื่อมล้ำคุณภาพการให้บริการสาธารณสุข และความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เสมอภาคทางเพศ ๓. นโยบายและการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติภายใต้โครงการที่สำคัญเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ได้แก่ มาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน การสร้างความมั่นคงด้านรายได้และการสร้างโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรและแหล่งทุนในการประกอบอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาของผู้ที่มีฐานะยากจน ผู้มีรายได้น้อย หรือขาดแคลนทุนทรัพย์ การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ การสร้างโอกาสในการเข้าถึงสวัสดิการสังคมและที่อยู่อาศัย และการสร้างโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ๔. ประเด็นที่สำคัญในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมของภาครัฐในระยะที่ผ่านมายังขาดระบบฐานข้อมูลคนจน/ผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาสเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในบริหารจัดการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สมควรจะได้รับอย่างแท้จริง การดำเนินโครงการที่มีการเจาะจงกลุ่มเป้าหมายและเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สมควรจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เป็นโครงการที่ควรจะผลักดันให้มีการดำเนินการต่อเนื่องต่อไป การดำเนินโครงการที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายแต่เป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างกว้างครอบคลุมทุกคนในกลุ่มเป้าหมาย ควรพิจารณาเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่สมควรจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงเพื่อลดภาระด้านงบประมาณของรัฐ และการดำเนินโครงการที่ไม่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (เป้าหมายคือ ประชาชนทั่วไป) ควรพิจารณาดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสมเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชนในการเข้าถึงบริการพื้นฐานของรัฐโดยไม่เป็นภาระด้านงบประมาณมากเกินไป ๕. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย การแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมในระยะต่อไป ควรให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ ยกระดับรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเป้าหมายคนจน ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีรายได้ต่ำสุด ๔๐% ล่าง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวสามารถพึ่งตนเองได้ มีโอกาสเข้าถึงบริการพื้นฐานของรัฐได้อย่างมีคุณภาพและทั่วถึง มีโอกาสพัฒนาทักษะความรู้ในสาขาอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี รวมทั้งมีโอกาสเข้าถึงที่ดินทำกินและแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23884 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ต้องจัดให้มีสมุดประจำรถ ประวัติผู้ประจำรถ รายงานการขนส่งและรายงานอุบัติเหตุที่เกิดจากการขนส่งหลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินการ พ.ศ. .... | คค | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ต้องจัดให้มีสมุดประจำรถ ประวัติผู้ประจำรถ รายงานการขนส่งและรายงานอุบัติเหตุที่เกิดจากการขนส่ง หลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕๐ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อกำหนดประเภทผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ต้องจัดทำสมุดประจำรถ ประวัติผู้ประจำรถ รายงานการขนส่ง และรายงานอุบัติเหตุที่เกิดจากการขนส่ง และข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดทำรายงาน แบบการรายงานต่าง ๆ รวมทั้งวิธีการจัดส่งข้อมูล ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23885 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 กรณีโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง | กค | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๘ กรณีโรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง (โรงงานยาสูบฯ) ขณะนี้ได้ดำเนินโครงการฯ ใกล้แล้วเสร็จ โดยได้ส่งมอบงานงวดสุดท้ายเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาเครื่องจักรเพื่อติดตั้งภายในโรงงานต่อไป ๒. แนวทางการบริหารจัดการยาสูบในภาพรวม เช่น การแก้ไขปัญหาราคาใบยาสูบตกต่ำในภาคเหนือ การพัฒนาคุณภาพใบยาสูบไทยเพื่อลดการนำเข้าใบยาสูบจากต่างประเทศ ๒.๑ การกำหนดราคาซื้อขายใบยาสูบ โรงงานยาสูบฯ จะเป็นผู้นำในการกำหนดราคารับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่เป็นประจำในทุกฤดูการผลิต และผู้รับซื้อใบยาสูบรายอื่นจะใช้ราคาที่โรงงานยาสูบกำหนดเป็นเกณฑ์ในการรับซื้อใบยาสูบในแต่ละสายพันธุ์ โดยกรมสรรพสามิตได้มีการควบคุมให้ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบเพาะปลูกต้นยาสูบเท่าที่ได้รับโควตาจากผู้รับซื้ออย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาใบยาสูบล้นตลาดและราคาใบยาสูบตกต่ำ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าราคารับซื้อเฉลี่ยของใบยาสูบตั้งแต่ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๑/๒๕๕๒ จนถึงฤดูการผลิตที่ผ่านมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ๒.๒ การพัฒนาคุณภาพใบยาสูบ โรงงานยาสูบฯ และผู้ส่งออกยาสูบได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการยาสูบทางด้านคุณภาพใบยาสูบไว้อย่างชัดเจน โดยใช้หลัก Good Agricultural Practices (GAP) ซึ่งเป็นแนวทางในการทำการเกษตรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่กำหนด ได้ผลผลิตที่สูงคุ้มค่าการลงทุนและกระบวนการผลิตจะต้องปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค และไม่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยโรงงานยาสูบฯ และผู้ส่งออกยาสูบ ได้มีพนักงานส่งเสริมเข้าไปให้คำแนะนำและกำกับดูแลการเพาะปลูกของชาวไร่อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงการเพาะปลูก เพื่อพัฒนาคุณภาพของใบยาสูบที่ผลิตในประเทศ ทำให้สามารถลดการนำเข้าใบยาสูบจากต่างประเทศจากเดิมที่ใช้มากกว่าร้อยละ ๓๐ ในปี ๒๕๒๖ เป็นน้อยกว่าร้อยละ ๙ ในปี ๒๕๕๗ ๒.๓ โรงงานยาสูบฯ ได้กำหนดราคาใบยาสูบเวอร์จิเนียที่ปลูกมากในเขตภาคเหนือตามชั้นมาตรฐานและรับซื้อตามคุณภาพใบยา และได้มีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี ๒๕๔๗ มีราคารับซื้อเฉลี่ยกิโลกรัมละ ๖๙.๘๐ บาท และในปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ ๘๘.๓๘ บาท รวมทั้งได้บวกเพิ่มค่าสนับสนุนปัจจัยการผลิตยาสูบตามแนวทาง GAP อีกกิโลกรัมละ ๒๖.๐๐ บาท รวมเป็นกิโลกรัมละ ๑๑๔.๓๘ บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๖๓.๘๗ ในระยะ ๑๐ ปีที่ผ่านมา
|
|||||||||||||||||||||||||||
23886 | รายงานประจำปี 2555 และ 2556 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | สธ | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เสนอรายงานประจำปี ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๖ ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. ความคืนหน้าที่สำคัญของการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย การสร้างความเป็นธรรมในระบบหลักประกันสุขภาพ การพัฒนาความเข้มแข็งระบบสุขภาพชุมชน การพัฒนาระบบอภิบาลสุขภาพ การพัฒนานโยบายสุขภาพที่ส่งเสริมความเป็นธรรม และการพัฒนาระบบวิจัยสาธารณสุข ๒. ผลการประเมิน สวรส. ตามตัวชี้วัด บริษัทไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (TRIS) ในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๖ มีผลรวมคะแนน ๔.๕๗๒๘ คะแนน หรือร้อยละ ๙๑.๔๖ และ ๔.๐๐๐๗ คะแนน หรือร้อยละ ๘๐.๐๑ ตามลำดับ ๓. รายงานทางการเงิน ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบรายได้และค่าใช้จ่าย และงบกระแสเงินสด โดยในปี ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๖ มีสินทรัพย์ ๘๐๔,๔๐๕,๙๑๕.๗๒ บาท และ ๑,๐๓๕,๖๑๒,๙๓๔.๔๔ บาท หนี้สิน ๑๔๔,๗๐๔,๔๓๐.๓๐ บาท และ ๑๘๕,๕๕๖,๙๓๑.๐๗ บาท รายได้จากการดำเนินการ ๓๒๙,๖๐๐,๘๔๖.๑๗ บาท และ ๔๖๗,๓๘๖,๑๙๗.๑๒ บาท ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการ ๓๒๒,๘๐๐,๗๙๐.๘๗ บาท และ ๒๗๖,๕๓๘,๑๘๖.๓๖ บาท และรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ๖,๘๐๐,๐๕๕.๓๐ บาท และ ๑๙๐,๘๔๘,๐๑๐.๗๖ บาท ตามลำดับ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23887 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ว่า รัฐควรส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในสถานประกอบการให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดการออมมากขึ้น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกจ้างเข้าสู่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อให้ลูกจ้างเกิดการออมเพื่อใช้จ่ายในยามเกษียณมากขึ้น อันจะช่วยลดปัญหาของภาครัฐในอนาคต รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกระบวนการ วิธีปฏิบัติ และการกำหนดข้อบังคับของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับลูกจ้างและนายจ้างให้เกิดความเข้าใจไปในแนวทางเดียวกันเมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาว่า สมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23888 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | อส | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๙ (เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีปกครอง) ที่กำหนดให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ถือปฏิบัติว่า กรณีเกิดข้อพิพาทในระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ เมื่อมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายที่ก่อให้เกิดความเสียหายนั้นต้องรับผิด และไม่ติดใจโต้แย้งในเรื่องจำนวนค่าเสียหาย ให้ฝ่ายที่ก่อให้เกิดความเสียหายดำเนินการชำระค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายให้เรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อมิให้เกิดคดีความระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจด้วยกันเอง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||
23889 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... | มท | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23890 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง พ.ศ. .... | สว | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... ที่เห็นควรเพิ่มเติมคำว่า “การปลูก” ในมาตรา ๑๒ มาตรา ๑๕ และมาตรา ๑๖ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของมาตราดังกล่าว และมีความหมายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการกำหนดแบบของบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ควรกำหนดเป็น ๒ ลักษณะ คือ กรณีข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ควรกำหนดให้ใช้แบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และกรณีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐ ควรกำหนดให้ใช้บัตรข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต้นสังกัดประกอบกับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กรณีการเพิ่มเติมคำว่า “การปลูก” สอดคล้องกับเหตุผลของพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ และสอดคล้องกับภารกิจ อำนาจหน้าที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการสงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู บริหารจัดการ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งป่าชายเลนเพื่อให้มีความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง สมดุล และมีใช้อย่างยั่งยืน สำหรับการกำหนดบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ นั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ หมายความว่า ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าข้าราชการพลเรือนสามัญระดับปฏิบัติการ หรือเทียบเท่าซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ดังนั้น การกำหนดเรื่องบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวทำให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ และสอดคล้องกับหลักการของพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23891 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พ.ศ. .... | คค | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท รย. ๒๐๑๕ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23892 | รายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติ แห่งชาติ เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร กรณีศึกษา : โครงการการจัดเก็บภาษีจากข้อมูลทอดแรก (Primary Information Approach : PIA) และโครงการการจัดเก็บภาษีด้วยระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Tax Invoice) | สว | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตและข้อเสนอแนะตามรายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของสรรพากร กรณีศึกษา : โครงการการจัดเก็บภาษีจากข้อมูลทอดแรก (Primary Information Approach : PIA) และโครงการจัดเก็บภาษีด้วยระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) โดยมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะให้กรมสรรพากรดำเนิน ได้แก่ ควรพิจารณาวางแผนดำเนินการในภาพรวมแบบบูรณาการทั้งระบบ ควรศึกษาถึงความเป็นไปได้และนำข้อที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ของระบบการจัดเก็บภาษีจากข้อมูลทอดแรก (Primary Information Approach : PIA) มาปรับใช้กับระบบใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ควรหามาตรการจูงใจเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เพิ่มมากขึ้น การเร่งรัดการดำเนินโครงการระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และควรประชาสัมพันธ์ให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการได้รับทราบและมีความเข้าใจในระบบต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดังกล่าวได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23893 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านใหม่หนองไทร ตำบลบ้านด่าน และตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... | คค | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านใหม่หนองไทร ตำบลบ้านด่าน และตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านใหม่หนองไทร ตำบลบ้านด่าน และตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๘ กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๔๖ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23894 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบางสะพาน และตำบลปากแพรก อำเภอสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23895 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งขอแก้ไขชื่อบันทึกหลักการและเหตุผล รวมทั้งขอแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฯ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. แจ้งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23896 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งสีประจำคณะของคณะสัตวแพทยศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23897 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายอนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร) | สธ | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23898 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... | สว | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในฐานะหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายควรจะต้องดำเนินการตรวจสอบ รับรอง และกำหนดขั้นตอนการพิจารณาเกี่ยวกับการยกเว้นหน่วยงานที่มีการศึกษาวิจัยตามมาตรา ๒๘ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดโดยเคร่งครัด ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่า สมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23899 | มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว | กก | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการจัดการประชุม อบรม สัมมนา ในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยให้ใช้บริการโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งกรณีมีการคาดหมายที่จะใช้สถานที่ในการจัดประชุมในเขตภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้พิจารณาความเหมาะสมในการเลือกใช้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา เป็นทางเลือกประกอบการตัดสินใจในลำดับต้น ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ข้อมูลโรงแรมหรือศูนย์การประชุมสัมมนา ให้ส่วนราชการต่าง ๆ ได้ทราบ พร้อมทั้งจัดบริการเสริมในรูปแบบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างแรงจูงใจแก่หน่วยงานผู้จัดการประชุม อบรม สัมมนา ให้ใช้บริการสถานที่ดังกล่าวมากขึ้น และควรรวบรวมรายชื่อโรงแรมที่สามารถรองรับการจัดประชุม อบรม สัมมนา ในต่างจังหวัด เพื่อให้หน่วยงานสามารถค้นหาได้สะดวก รวมทั้งกำหนดอัตราค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มในอัตราพิเศษสำหรับส่วนราชการที่อยู่ในเกณฑ์อัตราการเบิกจ่ายตามระเบียบของกระทรวงการคลัง นอกจากนี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เร่งจัดทำแผนบริหารธุรกิจจัดการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดรูปแบบการบริหารให้มีความชัดเจน และสอดคล้องกับระยะเวลามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
23900 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองครักษ์ ตำบลบางเจ้าฉ่า ตำบลโคกพุทรา ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง ตำบลหลักฟ้า ตำบลชะไว ตำบลจรเข้ร้อง ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย ตำบลห้วยคันแหลน อำเภอวิเศษชัยชาญ และตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 09/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองครักษ์ ตำบลบางเจ้าฉ่า ตำบลโคกพุทรา ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง ตำบลหลักฟ้า ตำบลชะไว ตำบลจรเข้ร้อง ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย ตำบลห้วยคันแหลน อำเภอวิเศษชัยชาญ และตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองครักษ์ ตำบลบางเจ้าฉ่า ตำบลโคกพุทรา ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง ตำบลหลักฟ้า ตำบลชะไว ตำบลจรเข้ร้อง ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย ตำบลห้วยคันแหลน อำเภอวิเศษชัยชาญ และตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินให้มีที่ดินทำกิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....