ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1200 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 23981 - 24000 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23981 | วาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 02/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว และในวันศุกร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ จะเป็นการตอบกระทู้ถามเรื่อง นโยบายรัฐบาลในการควบคุมค่ายาและค่ารักษาพยาบาลที่สูงเกินจริงของโรงพยาบาลเอกชน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
|
|||||||||||||||||||||
23982 | สรุปผลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (เดือนเมษายน - พฤษภาคม 2558) | กก | 02/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานผลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว (เดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๕๘) และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งดำเนินการจัดกลุ่มการท่องเที่ยว (Cluster) ในแต่ละพื้นที่ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วย สรุปรายงานผลการดำเนินงานได้ ดังนี้ ๑.๑ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน (Asean Connect) การท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-เมียนมา เป็นการนำเสนอการท่องเที่ยววิถีไทยและเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้นำร่องด้วยการจัด Mega Joint Fam Trip Thailand-Myanmar วันที่ ๑๔-๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นการนำคณะบริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนจากยุโรป ตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และแคนาดา จาก ๔๐ บริษัท มาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ มัณฑะเลย์ พุกาม เนปิดอว์ และพบปะเจรจาธุรกิจกับภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ๘๐ บริษัท ๑.๒ การกระจายโอกาสทางการท่องเที่ยวสู่ชุมชนท้องถิ่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยว การกระจายโอกาสทางการท่องเที่ยวสู่ชุมชนท้องถิ่น การใช้ผ้าไทย ส่งเสริมการเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการส่งเสริมโอกาสของชุมชนทอผ้าในท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาฝีมือและผลิตภัณฑ์ผ้าไทย โดยการจัดทำโครงการ Thailand Academy ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๓ เมษายน ๒๕๕๘ ซึ่งมีคณะดีไซเนอร์และสื่อมวลชนจากยุโรปและตะวันออกกลาง รวม ๔๙ คน ร่วมทำกิจกรรมผ้าไทยและใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านในชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมชนบ้านหนองบัว จังหวัดน่าน ชุมชนบ้านทุ่งโฮ้ง จังหวัดแพร่ ชุมชนผ้าไหม จังหวัดสุรินทร์ ๑.๓ การส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิม เป็นการขยายตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมเข้าร่วมงาน Arabian Travel Mart ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในระหว่างวันที่ ๖-๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้นำผู้ประกอบการไทย จำนวน ๕๙ บริษัท ไปเจรจาธุรกิจกับฝ่ายตะวันออกกลางเพื่อจัดทำความร่วมมือกับสายการบินสำคัญของภูมิภาคตะวันออกกลาง คือ เอมิเรตส์และเอทิฮัด (Etihad) ซึ่งสายการบินดังกล่าวพร้อมที่จะผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลักของภูมิภาค (Main Destination) และเอทิฮัดตกลงที่จะจัดงาน Thailand Week of Etihad Pavilion ที่งานมิลาน เอ็กซ์โป ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ ๑.๔ การรุกเปิดตลาดใหม่ที่มีคุณภาพและศักยภาพ การนำผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจากประเทศไทยเปิดตลาดท่องเที่ยวละตินอเมริกา โดยเข้าร่วม World Travel Mart Latin America ณ นครเซาเปาโล สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๔ เมษายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสุดในภูมิภาค เพื่อเปิดตลาดใหม่ให้แก่ประเทศไทยในอนาคต ๑.๕ การส่งเสริมการปั่นจักรยานท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย ได้มีการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานข้ามแดนจากสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ระยะทางรวม ๕.๕ กิโลเมตร โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและมาเลเซีย รวม ๔๕๐ คน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสองประเทศ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการเพื่อให้มีการเปิดเที่ยวบินตรง (Direct Flight) จากเมืองสำคัญในประเทศต่าง ๆ มายังประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยได้โดยตรง ๓. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการจัดให้มีรถโดยสารสาธารณะ (รถแท็กซี่) เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ พร้อมจัดหาสถานที่พักรอผู้โดยสาร ณ จุดรับส่งผู้โดยสารในสถานีขนส่งผู้โดยสารต่าง ๆ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวในระหว่างที่รอรถด้วย ๔. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) พิจารณาหามาตรการในการแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการตรวจหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออกบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองภายในสนามบิน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการตรวจลงตราในหนังสือเดินทางและเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยด้วย
|
|||||||||||||||||||||
23983 | การชี้แจงประกอบคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ | นร | 02/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงประกอบคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในวันเสาร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๓
|
|||||||||||||||||||||
23984 | วีดิทัศน์ภารกิจด้านการต่างประเทศระหว่างวันที่ 25 - 29 พฤษภาคม 2558 | กต | 02/06/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานภารกิจด้านการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สรุปได้ ดังนี้
๑. วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิและคณะได้เข้าเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล และได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกด้านโดยเฉพาะโอกาสการค้าการลงทุนระหว่างกัน ๒. วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศไทย-เวียดนามอย่างไม่เป็นทางการ ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนามอย่างไม่เป็นทางการ ที่ประเทศไทยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐-๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยได้ติดตามผลความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างไทย-เวียดนาม เช่น การพัฒนาความเชื่อมโยง ซึ่งรวมถึงการประชุมคณะทำงานร่วมสามฝ่าย (ไทย-ลาว-เวียดนาม) รวมทั้งการเตรียมการฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ ๔๐ ปี ในปี ๒๕๕๙ ๓. วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้มีการเยือนประเทศไทยแบบพิเศษของคณะเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ครั้งที่ ๒ จำนวน ๑๔ ประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรและการสนับสนุนการรณรงค์การสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเพื่อให้เกิดความเข้าใจ รวมทั้งได้สัมผัสสภาพการณ์ปกติภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทย โดยได้เยี่ยมชมโครงการกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่ทัณฑสถานหญิงกลางคลองเปรม และเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ๔. วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๗๑ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ โดยมีหัวข้อหลักในการบูรณาการการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มีผู้แทนระดับสูงจาก ๒๔ ประเทศเข้าร่วม และได้เปิดนิทรรศการเผยแพร่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากนั้นพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมอภิปรายการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีด้วย ๕. วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศไทย-ลาวอย่างไม่เป็นทางการ ที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อผลักดันการขยายความร่วมมือด้านแรงงาน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และในโอกาสครบรอบ ๖๕ ปีความสัมพันธ์ ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชวโรกาสให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลาว เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญไชพัทะนา ชั้นที่ ๑ ๖. วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย มีผู้แทนจากประเทศที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๙ ประเทศ และ ๓ องค์การระหว่างประเทศ เพื่อหารือแก้ไขปัญหาผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดียที่ลอยอยู่ในทะเล ที่ครอบคลุมและยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้อนุมัติให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพไทย ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือโดยจัดกำลังลาดตระเวนทางอากาศและทางเรือ รวมทั้งจัดตั้ง floating platform เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกลางทะเล จนกว่ามาเลเซียและอินโดนีเซียจะพร้อมรับไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว
|
|||||||||||||||||||||
23985 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในท้องที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอกฎหมายสำคัญที่มีความจำเป็นเร่งด่วนซึ่งเป็นกฎหมายที่สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ดังนี้ ๒.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเสนอกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งโดยให้สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ ๒.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งเสนอกฎหมายเกี่ยวกับการเช่านา โดยให้พิจารณากำหนดแนวทางหรือหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสัญญาเช่านาให้มีความชัดเจนระหว่างพื้นที่ในหรือนอกเขตชลประทาน ระยะเวลาการเช่า ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความเป็นธรรมและให้กฎหมายดังกล่าวสามารถใช้บังคับได้ก่อนฤดูการทำนาในครั้งต่อไป ๒.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยประมงให้ครบถ้วน ภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล และสามารถป้องกันและควบคุมการทำประมงผิดกฎหมายได้ รวมทั้งให้เร่งเสนอกฎหมายอนุบัญญัติ ให้เรือประมงขนาดไม่เกิน ๓๐ ตันกรอส ติดตั้งเก๋งเรือได้เพื่อรองรับการติดตั้งระบบติดตามตำแหน่งเรือ (Vessel Monitoring system : VMS)
|
|||||||||||||||||||||
23986 | วีดิทัศน์ภารกิจด้านการต่างประเทศระหว่างวันที่ 7 - 21 พฤษภาคม 2558 | นร | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานภารกิจด้านการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๗-๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สรุปได้ ดังนี้
๑. วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายหยาง จิง มนตรีแห่งรัฐสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ครบรอบ ๔๐ ปี ไทย-จีน โดยได้เข้าเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรีและหารือความร่วมมือด้านต่างๆ หลังจากนั้นได้เข้าเยี่ยมคำนับ พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเชิญร่วมงานนิทรรศการอาเซียน-จีน ในเดือนกันยายน ๒๕๕๘ พร้อมกันนี้ได้เชิญมนตรีแห่งรัฐสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ ๒ ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ ณ ประเทศไทย และเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิดและกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Expo เส้นทางสายไหมและงานแสดงสินค้าประจำปีที่นครซีอาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในฐานะประเทศเกียรติยศ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนของไทยในระดับนานาชาติ ๒. วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้เดินทางไปเป็นประธานร่วมเปิดงานเทศกาลไทย ครั้งที่ ๑๖ ณ สวนสาธารณะโยโยงิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยในงานได้จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อการพัฒนาการเกษตรและข้าวไทย นิทรรศการ “ข้าวกับชาวนา” และมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ๓. วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้เป็นประธานร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างศูนย์บำบัดและฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดในโรงพยาบาลโพนโฮง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภายใต้โครงการพัฒนาโรงพยาบาลและปรับปรุงอาคารผู้ป่วยนอกให้เป็นศูนย์อุบัติเหตุ รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์และหลักสูตรฝึกอบรม หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมวิทยาลัยเทคนิคแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ ทั้งการปรับปรุงอาคารและการพัฒนาบุคลากร ๔. วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับปัญหาการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในภูมิภาค ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย-อินโดนีเซีย และไทย ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มต้นการแก้ไขปัญหาและแสดงความรับผิดชอบร่วมกันของภูมิภาค โดยจะนำผลการประชุมดังกล่าวมาจัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ที่กรุงเทพฯ โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพเชิญผู้แทนจาก ๑๗ ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
|
|||||||||||||||||||||
23987 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ ในท้องที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในท้องที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
23988 | รายงานผลการดำเนินงานของกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การยกระดับการบริการประชาชนรถโดยสารสาธารณะ (รถแท็กซี่ไทย DLT Check in) และการยกระดับมาตรฐานห้องน้ำ สถานีขนส่งทั่วประเทศ | คค | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานของกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การยกระดับการบริการประชาชน รถโดยสารสาธารณะ (รถแท็กซี่ไทp DLT Check in) และการยกระดับมาตรฐานห้องน้ำสถานีขนส่งทั่วประเทศ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การยกระดับการบริการประชาชน รถโดยสารสาธารณะ (รถแท็กซี่ไทย DLT Check in) กรมการขนส่งทางบกได้เร่งพัฒนาการให้บริการด้วยรถแท็กซี่ โดยให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการให้บริการด้วยการประเมินผ่านแอปพลิเคชัน DLT Check in ร่วมประเมินความพึงพอใจในการใช้บริการรถแท็กซี่ โดยตั้งแต่เปิดใช้บริการวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์-๑๔ เมษายน ๒๕๕๘ มีผู้ดาวน์โหลดรวมกว่า ๒๐,๐๐๐ ราย ในจำนวนนี้มีการแสดงความคิดเห็นและเรื่องร้องเรียนที่ได้ดำเนินการไปแล้วทั้งหมด ๙๘๖ เรื่อง และจากข้อมูลพบว่าค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้โดยสารอยู่ที่ ๒.๘ จากคะแนนเต็ม ๔ นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล DLT Check in กับฐานข้อมูลทะเบียนและเรื่องร้องเรียนของกรมการขนส่งทางบกเพื่อวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลกระทบในการประเมินความพึงพอใจการให้บริการรถแท็กซี่ พร้อมจัดกลุ่มรถแท็กซี่ที่มีปัญหาเพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ๑๕๘๔ ของกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตอบรับและจัดการเรื่องร้องเรียนทุกเรื่องที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการปฏิเสธผู้โดยสารมากที่สุดถึงร้อยละ ๒๖ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาแท็กซี่และสร้างแรงจูงใจยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ที่ทำดี โดยให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ เพื่อกำหนดทิศทางการจัดระเบียบการให้บริการด้วยรถแท็กซี่อย่างมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล ๑.๒ การยกระดับมาตรฐานห้องน้ำสถานีขนส่งทั่วประเทศ กรมการขนส่งทางบกได้ยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้วยการพัฒนาห้องน้ำตามสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยการออกแบบห้องน้ำตัวอย่างมาตรฐานสำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารเพื่อใช้เป็นแนวทางในการซ่อมแซม ปรับปรุง หรือก่อสร้างห้องน้ำใหม่ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศ พร้อมทั้งกำหนดให้จำนวนห้องน้ำมาตรฐานประเภทต่าง ๆ มีเพียงพอกับผู้ใช้บริการในสถานีทุกระดับ และสามารถให้ผู้ป่วยที่นั่งรถเข็นใช้งานได้สะดวกปลอดภัย นอกจากนี้ สุขภัณฑ์และวัสดุก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกโดยต้องอยู่ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ (Healthy Accessibility Safety : HAS) ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยเปิดให้ใช้บริการฟรี และมีมาตรฐานการดูแลและบำรุงรักษาห้องน้ำในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศให้อยู่ในสภาพดี ตอบสนองความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ ปัจจุบันสถานีขนส่งผู้โดยสารในการควบคุมดูแลของกรมการขนส่งทางบก จำนวน ๖๐ แห่ง พร้อมกับสถานีขนส่งผู้โดยสารที่บริหารงานโดยบริษัท ขนส่ง จำกัด และเอกชนอีก ๙ แห่ง จะปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ส่วนสถานีขนส่งผู้โดยสารที่บริหารโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน ๔๘ แห่ง อยู่ระหว่างรอการพิจารณางบประมาณ ทั้งนี้ เป้าหมายของกรมการขนส่งทางบก คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารต้องมีห้องน้ำที่สะอาดถูกสุขลักษณะ พร้อมใช้งานตลอดเวลา มีความพร้อมสามารถรองรับประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเต็มภาคภูมิ เพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ๒. ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการจัดหาสถานที่พักรอผู้โดยสาร ณ จุดรับส่งผู้โดยสารรถโดยสารสาธารณะ (รถแท็กซี่) ในสถานีขนส่งผู้โดยสารต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนในระหว่างที่รอรถและจัดให้มีรถแท็กซี่ให้บริการประชาชนอย่างเพียงพอ รวมทั้งจัดให้มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลต่าง ๆ และให้ประชาสัมพันธ์ช่องทางในการร้องเรียนการให้บริการ แนะนำการให้บริการผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ๑๕๘๔ ให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้ ในกรณีที่ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการหรือการปฏิเสธผู้โดยสารของรถแท็กซี่ ให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบและดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง เช่น การยึดใบอนุญาตขับรถ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
23989 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... | สธ | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้นำความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประเด็นที่ขัดกับกฎหมายอื่นไปปรับแก้ไขในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย รวมทั้งกรณีขั้นตอนการเสนอจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ให้กระทรวงสาธารณสุขประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการภายในกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน) แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อกำหนดมาตรการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบแก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกใบยาสูบ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ก่อนส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา |
|||||||||||||||||||||
23990 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศุลกากรตามแนวชายแดนในการในรับชำระภาษี และออกใบเสร็จรับเงินค่าภาษีอากรปากระวาง การนำไม้ ไม้แปรรูป หรือสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้อง และไม่ตรงตามประเภทของสินค้าไม้ | กค | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอผลการพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศุลกากรตามแนวชายแดนในการรับชำระภาษี และออกใบเสร็จรับเงินค่าภาษีอากรปากระวาง การนำไม้ ไม้แปรรูป หรือสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้อง และไม่ตรงตามประเภทของสินค้าไม้
|
|||||||||||||||||||||
23991 | รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 19 (การประชุมครั้งที่ 79/2558 ถึงครั้งที่ 81/2558) | นร04 | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๑๙ (การประชุมครั้งที่ ๗๙/๒๕๕๘ ถึงครั้งที่ ๘๑/๒๕๕๘) ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. การประชุมครั้งที่ ๗๙/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๘ คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาทบทวนร่างรัฐธรรมนูญ “บทสุดท้ายการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ” และ “บทเฉพาะกาล” รวม ๑๘ มาตรา และพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเจตนารมณ์ของร่างรัฐธรรมนูญแต่ละมาตรา ๒. การประชุมครั้งที่ ๘๐/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๘ คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาร่างแบบสำรวจโครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพิจารณาทบทวนร่างมาตรา ๒๔๒ (๘) รวมทั้งพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเจตนารมณ์ของร่างรัฐธรรมนูญแต่ละมาตรา ๓. การประชุมครั้งที่ ๘๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๘ คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณารายงานและร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พร้อมพิจารณากำหนดกรรมาธิการผู้รับผิดชอบเพื่อชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
23992 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2556) | มท | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครปฐม พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในที่ดินประเภทชุมชน ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม และที่ดินประเภทชนบทและปศุสัตว์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23993 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... | มท | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23994 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พ.ศ. .... | มท | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23995 | การแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนเติบโตจนเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ระดับหนึ่งในสิบของโลก ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนนิยมเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดการแข่งขันและแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากประเทศต่าง ๆ และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทยยกเว้นการเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่ายจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนบางรายเสนอค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่ายในรูปแบบซื้อบริการนำเที่ยวเสริมและนำเที่ยวในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนที่เรียกว่า ทัวร์ศูนย์เหรียญ สำหรับปัญหานักท่องเที่ยวแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ได้เกิดเพียงในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเท่านั้น แต่เกิดได้กับนักท่องเที่ยวทุกเชื้อชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เนื่องจากนักท่องเที่ยวเหล่านั้นยังไม่ทราบและไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมและประเพณีไทย ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยได้ดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ จัดทำคู่มือ “Useful Tips for a Happy Holiday in Thailand” เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลประเพณีและวัฒนธรรมอันดีของไทยแจกจ่ายผ่านหลายช่องทางสำคัญ อาทิ สถานทูต สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ ศูนย์การค้า และโรงแรมต่างๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับทราบ ๑.๒ ออกตรวจการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์ตามแหล่งต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการบริการ ๑.๓ จัดสัมมนาให้ความรู้แก่มัคคุเทศก์เกี่ยวกับสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรทำและไม่ควรทำ หรือ Do and Don’t ๑.๔ จัดอาสาสมัครนักท่องเที่ยวใน ๕ จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี และภูเก็ต เพื่อให้คำแนะนำช่วยเหลือนักท่องเที่ยวแก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๑.๕ จัดอบรมสร้างเครือข่ายแก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ โดยจัดให้มีการสร้างเครือข่ายสอดส่องผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ๑.๖ ดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยให้คนไทยเป็นตัวแทน (nominee) ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หากนักท่องเที่ยวพบปัญหาสามารถโทรแจ้งสายด่วนตำรวจท่องเที่ยว ๑๑๕๕ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาดำเนินการ ๒.๑ จัดให้มีสถานที่จอดรถโดยสารท่องเที่ยวบริเวณชานเมืองเพื่อแก้ปัญหาการจราจร และโบราณสถานชำรุดเสื่อมโทรมอันเนื่องมาจากแรงสั่นสะเทือนของรถโดยสาร และจัดให้มีรถโดยสารขนาดเล็กรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้างงานแก่ประชาชนที่อยู่ในท้องที่นั้น ๆ ด้วย ๒.๒ รณรงค์และผลักดันให้เกิดความตื่นตัวในการปรับปรุง พัฒนา และสร้างมาตรฐานห้องน้ำสะอาด ปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ๒.๓ พิจารณาจัดสรรเงินรายได้ที่ได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณเพียงพอในการดูแลบริเวณโดยรอบโบราณสถานหรือแหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ ด้วย ๓. โดยที่ปัจจุบันธุรกิจการท่องเที่ยวประสบปัญหาสำคัญ คือ การขาดแคลนมัคคุเทศก์ที่มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และมีทักษะภาษาอังกฤษที่สามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ จึงเห็นควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจัดเตรียมหลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ให้แก่ผู้ที่จบการศึกษาแล้วและยังไม่มีงานทำเป็นเป้าหมายแรก และกลุ่มผู้ที่มีความสนใจพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถเพื่อพัฒนาเป็นมัคคุเทศก์มืออาชีพต่อไป และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๘ ๔. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดฝึกอบรมบุคลากรในท้องถิ่นให้เป็นอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนการให้บริการและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||
23996 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2558 | กษ | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๘ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการมีหนังสือแจ้งกระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร เร่งรัดในการกำกับดูแล ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผ่านช่องทางตามแนวชายแดนต่าง ๆ รวมทั้งให้กรมศุลกากร ตรวจสอบการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับที่ได้แจ้งไว้ในการขออนุญาตนำเข้า (ให้สินค้าตรงตามใบขน) ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอำนวย ปะติเส) ดำเนินการบูรณาการข้อมูลด้านผลผลิตปาล์มน้ำมัน การใช้ และสต็อกน้ำมันปาล์ม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน เพื่อให้มีข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์และมีแนวโน้มให้ถูกต้องเป็นตัวเลขเดียวกัน รวมทั้งใช้ข้อมูลร่วมกัน ๓. เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณารายละเอียดโครงการปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดปาล์มน้ำมันแบบครบวงจร ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอำนวย ปะติเส) ดำเนินการและเสนอให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติต่อไป ๔. เห็นชอบให้แต่งตั้งกรรมการโดยตำแหน่งเพิ่มเติม ได้แก่ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ๕ แสนไร่ขึ้นไป โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ต่อไป ๕. เห็นชอบ (๑) ให้คงคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้แก่ คณะอนุกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม คณะอนุกรรมการยกร่างแผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการผลิต และคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด และ (๒) ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ในเรื่องพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่บุกรุกพื้นที่ป่า เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการในพืชชนิดอื่น ๆ
|
|||||||||||||||||||||
23997 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 6 - 8 พฤษภาคม 2558) | สผ | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ จำนวน ๒๔ คณะ และคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๖-๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘) ตามที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
23998 | รายงานผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | นร01 | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (กขร.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่ประธานกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสนอ ประกอบด้วยภารกิจต่าง ๆ ได้แก่ การสอดส่องดูแล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ การให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ตามที่ได้รับคำขอ การเสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบของคณะรัฐมนตรีตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ การพิจารณาและให้ความเห็นเรื่องร้องเรียนตามมาตรา ๑๓ การดำเนินการเรื่องอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ การจัดทำรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ เสนอคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมแต่อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง การเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ และการผลิตและเผยแพร่ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ การติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ การพัฒนาระบบสารสนเทศข้อมูลข่าวสาร ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ความร่วมมือทางวิชาการกับต่างประเทศ และด้านศึกษาวิจัย รวมทั้งปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินการและแนวทางแก้ไข ตลอดจนเป้าหมายการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
23999 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดท่าขี้เหล็ก (ร้าง) ตำบลวัดขวาง อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดท่าขี้เหล็ก (ร้าง) ตำบลวัดขวาง อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการโอนที่วัด วัดท่าขี้เหล็ก (ร้าง) ตำบลวัดขวาง อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้แก่กรมชลประทาน เนื้อที่ ๗๖ ตารางวา เพื่อก่อสร้างคลองส่งน้ำ พี.อาร์.-๗๙.๙ อาร์ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
24000 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองแขม ตำบลพรหมพิราม ตำบลหอกลอง และตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....