ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1191 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23801 - 23820 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23801 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการจัดการ เพิ่มขึ้น ในสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23802 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับระบบจำแนกตำแหน่งใหม่ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23803 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีคมนาคมไทย - ลาว | คค | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีคมนาคมไทย-ลาว เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๘ ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมการประชุม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางถนนระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม ทั้งสองฝ่ายตกลงเห็นชอบให้ประชุมหารือสามฝ่าย โดยฝ่ายไทยเสนอให้จัดทำร่างความตกลงการเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมร่วมสามฝ่าย บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน สำหรับการขนส่งสินค้าภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ไทย-ลาว-เวียดนาม ฝ่ายลาวได้เสนอให้ผู้ประกอบการไทยมาลงทุนจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการลาว รวมทั้งฝ่ายลาวเสนอให้รถขนส่งสินค้าของลาวสามารถขนส่งสินค้าผ่านแดนที่ท่าเรือของไทยได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นระเบียบของกรมศุลกากร ฝ่ายไทยจึงรับที่จะไปประสานงานกับกรมศุลกากรต่อไป ๑.๒ การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟ ไทย-ลาว ฝ่ายลาวได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของโครงการเสร็จแล้ว ส่วนฝ่ายไทยอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและออกแบบรายละเอียดและจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ ประเด็นการเชื่อมเส้นทางรถไฟระหว่างไทย-ลาว-จีน ขนาดทาง ๑.๔๓๕ เมตร ทั้งสองฝ่ายเสนอให้มีการหารือร่วมกัน สำหรับการกำหนดจุดที่เหมาะสมสำหรับก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าควรอยู่ในแนวขนานกับสะพานเดิมค่อนลงมาทางทิศใต้ห่างจากจุดเดิม ๑๐-๓๐ เมตร และกำหนดผู้รับผิดชอบในการดำเนินการศึกษาและออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างต่อไป ในส่วนของการก่อสร้างทางรถไฟช่วงท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ สปป.ลาว ประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์จากเดิมที่ก่อสร้างทางรถไฟขนาด ๑.๐ เมตร ต่อจากท่านาแล้งไปเวียงจันทน์ เป็น การศึกษาความเป็นไปได้ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างทางรถไฟขนาดทาง ๑.๔๓๕ เมตร ระหว่างเวียงจันทน์-หนองคาย สำหรับการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟในเส้นทางอุบลราชธานี-ช่องเม็ก ฝ่ายลาวแจ้งว่ามีผลการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นแล้ว และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อความสมบูรณ์ของจุดเชื่อมต่อบริเวณช่องเม็กต่อไป ๑.๓ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ฝ่ายลาวขอให้สนับสนุนการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการ (Feasibility Study and Detailed Design) สำหรับเส้นทางหมายเลข ๑๒ (ท่าแขก-ยมมะราด-ลังคัง-น้ำพาว) ซึ่งมีระยะทางรวมประมาณ ๑๕๗ กิโลเมตร โดยขอรับการสนับสนุนจากไทยในช่วงยมมะราด-ลังคัง ระยะทางประมาณ ๗๔ กิโลเมตร และขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงบริเวณบ้านเชียงแมนข้ามมายังตัวเมืองหลวงพระบาง รวมทั้งขอให้ฝ่ายไทยประสานกับสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (NEAD) ผลักดันโครงการที่ฝ่ายลาวขอรับความช่วยเหลือสำหรับการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานปากเซและสะหวันนะเขต และโครงการศึกษาสำรวจและออกแบบการปรับปรุงระบบน้ำประปา ซึ่งฝ่ายไทยรับที่จะไปหารือกับ NEDA ต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ข้อตกลงในการสร้างความร่วมมือในหลายประเด็นยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน และ/หรืออยู่ระหว่างการประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมระหว่างหน่วยงานของไทยและลาวเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำรายละเอียดข้อตกลงต่าง ๆ ในอนาคต จึงเห็นควรให้กระทรวงคมนาคมเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามผลการประชุมเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
23804 | รัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นางแมรี โจ เอ. แบร์นาร์โด - อารากน (Mrs. Mary Jo A. Bernardo - Aragon)] | กต | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางแมรี โจ เอ. แบร์นาร์โด-อารากน (Mrs. Mary Jo A. Bernardo-Aragon) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนางจอสลิน เอส. บาทูน-การ์เซีย (Mrs. Jocelyn S. Batoon-Garcia) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
23805 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | สผ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ เรื่อง รายงานผลการพิจารณาศึกษากฎหมายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สรุปได้ว่า ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ทั้ง ๑๐ ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการและผ่านความเห็นชอบ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา นั้น ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบต่อการรอนสิทธิหรือคุกคามสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในการสื่อสารและรับรู้ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งโครงสร้าง สถานะและบทบาทอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการคลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะและความเป็นอิสระขององค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาเพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดบทบัญญัติของร่างกฎหมายทั้ง ๑๐ ฉบับ เพื่อใช้เป็นข้อมูลและแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการในการปฏิรูปด้านการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งเพื่อกำหนดมาตรการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารและรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนไม่ให้ถูกริดรอนหรือถูกละเมิด ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ ๒. มอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
23806 | การเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ณ ต่างประเทศ | รง | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ณ ต่างประเทศ ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ ของกระทรวงแรงงาน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเดินทางไปร่วมสัมมนา Combating pirate and Modern-Day Slavery In Thailand ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ ๒-๘ มีนาคม ๒๕๕๘ ของนายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการของประเทศไทยต่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง ๒. การเดินทางไปราชการ ณ ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ ๔-๖ มีนาคม ๒๕๕๘ ของพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ เพื่อร่วมหารือกับเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ และหน่วยงานของรัฐบาลสิงคโปร์ ตรวจเยี่ยมสำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ และเยี่ยมแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศสิงคโปร์ ๓. การประชุมคณะประศาสน์การ สมัยที่ ๓๒๓ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ มีนาคม ๒๕๕๘ ของนายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ เพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์ในการบริหารและกำหนดยุทธศาสตร์ด้านแรงงานในเวทีระดับโลก และแสดงข้อเสนอแนะเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของไทยในเวทีโลก ๔. การเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘ ของพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ เพื่อพบปะหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น เยี่ยมชมการดำเนินกิจการของบริษัทญี่ปุ่นที่ทันสมัย และเยี่ยมเยียน สอบถามปัญหาต่าง ๆ ของผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคของไทย
|
|||||||||||||||||||||
23807 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ จังหวัดเชียงใหม่ [นายชิงยะ อาโอกิ (Mr. Shinya Aoki)] | กต | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชิงยะ อาโอกิ (Mr. Shinya Aoki) ให้ดำรงตำแหน่งกลสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และอุตรดิตถ์ สืบแทนนายอะกิฮิโกะ ฟุจิอิ (Mr. Akihiko Fujii) ซึ่งครบวาระประจำการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
23808 | รัฐบาลสาธารณรัฐแกมเบียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นางฟาตู มัส โจบ (Mrs. Fatou Mas Jobe)] | กต | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางฟาตู มัส โจบ (Mrs. Fatou Mas Jobe) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแกมเบียประจำประเทศไทยคนแรก โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
23809 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23810 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (บทบัญญัติว่าด้วยการจำนองอากาศยาน) | คค | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (บทบัญญัติว่าด้วยการจำนองอากาศยาน) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
23811 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์ และกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาเทคโนโลยีและสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23812 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการให้ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับย้อนหลังเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการนำร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ต่อไป และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ อย่างเคร่งครัด โดยกำชับให้มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใด เมื่ออนุมัติหลักสูตรสาขาวิชาใดแล้วจะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้นได้
|
|||||||||||||||||||||
23813 | ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง สาขาอาชีพ ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ หรือต้องใช้ผู้มีความรู้ความสามารถซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ | รง | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง สาขาอาชีพ ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ หรือต้องใช้ผู้มีความรู้ความสามารถซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ ในสาขาช่างไฟฟ้าตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเป็นสาขาอาชีพ ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ หรือต้องใช้ผู้มีความรู้ความสามารถซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23814 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะหมิง และตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พ.ศ. .... | กษ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะหมิง และตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะหมิง และตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบระบายน้ำและอาคารประกอบ ตามโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
23815 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กห | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. กรณีการกำหนดกรอบการปฏิบัติเพื่อให้มีแนวทางในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันตามร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา ๑๐ แก้ไขลักษณะ ๒ การควบคุมเมื่อกฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับแล้ว จะได้ดำเนินการออกหนังสือคำชี้แจง อธิบาย ซักซ้อมความเข้าใจเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจและปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันได้อย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ๒. กรณีการควบคุมผู้ต้องขังหญิงโดยเฉพาะหญิงที่มีครรภ์ และผู้ต้องขังที่ต้องเลี้ยงดูบุตรนั้น เรือนจำทหารได้สร้างหรือดัดแปลงที่ควบคุมให้มีความเหมาะสมแยกออกเป็นสัดส่วนภายใต้ข้อจำกัดของอาคารเรือนขังของแต่ละเรือนจำแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
23816 | รายงานผลการเดินทางไปราชการเพื่อลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | วธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม-๖ เมษายน ๒๕๕๘ ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การลงนามในแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ โดยแผนปฏิบัติดังกล่าวมีสาระสำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมการแลกเปลี่ยนการเยือนและจัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกันทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยทั้งในด้านการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี ทัศนศิลป์ หอสมุด จดหมายเหตุ สถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ โบราณคดี วรรณกรรม พุทธศาสนา รวมทั้งขยายความร่วมมือในด้านใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น โบราณคดีใต้น้ำ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เป็นต้น ๒. การหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและชื่นชมความยินดีในความสัมพันธ์ฉันมิตรของทั้งสองประเทศ ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี และความใกล้ชิดในทุกระดับ รวมทั้งได้หารือแนวทางการการส่งเสริมความร่วมมือทางวัฒนธรรมไทย-จีนภายใต้แผนปฏิบัติการฯ โดยเฉพาะการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้หารือกับรองผู้ว่าการมณฑลไหหลำเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมไทย-จีน ๓. การรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ และในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดขึ้น ณ โรงละครพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ ๕-๖ เมษายน ๒๕๕๘ ๔. การศึกษาดูงานสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม อาทิ โรงถ่ายทำภาพยนตร์ Feng Xiaogang มณฑลไหหลำ หอสมุดมณฑลไหหลำ และพิพิธภัณฑ์มณฑลไหหลำ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
23817 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับเพศ) | ยธ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับเพศ) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกระทำชำเรา การคุกคามทางเพศ สิ่งอันลามก และอัตราโทษปรับในลักษณะ ๙ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานศาลยุติธรรม อาทิ ความซ้ำซ้อนของกฎหมาย กรณีการกำหนดความผิดฐานคุกคามทางเพศตามร่างมาตรา ๒๘๕/๓ มีความซ้ำซ้อนกับมาตรา ๓๙๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ได้บัญญัติครอบคลุมความผิดเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก) เป็นร่างพระราชบัญญัติที่มีหลักการในการแก้ไขความผิดเกี่ยวกับการค้าหรือทำให้แพร่หลายซึ่งสิ่งลามกตามมาตรา ๒๘๗ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติอยู่ด้วย จึงต้องพิจารณาความซ้ำซ้อนและความสอดคล้องกันของการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับสิ่งอันลามกตามร่างพระราชบัญญัตินี้กับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ๒. มอบให้กระทรวงยุติธรรมไปพิจารณาการขอพระราชทานอภัยโทษ ทั้งระบบ โดยพิจารณาประเภทความผิดและระยะเวลาการรับโทษที่เหมาะสมในการขอพระราชทานอภัยโทษ เพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทำผิดมีโอกาสก่ออาชญากรรมขึ้นอีกในสังคม |
|||||||||||||||||||||
23818 | ร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น พ.ศ. .... | ทส | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้มีกฎหมายว่าด้วยการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณากรณีที่ร่างพระราชบัญญัติฯ ไม่ใช้บังคับกับการจัดการต่าง ๆ เช่น สิ่งปฏิกูล วัสดุ มูลฝอยติดเชื้อ ของเสียจากสารกัมมันตรังสี ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายหลายฉบับ จึงอาจทำให้พระราชบัญญัติฉบับนี้บังคับใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เกี่ยวกับการกำหนดสถานที่ตั้งของศูนย์รับคืนซากผลิตภัณฑ์และโรงงานที่ให้บริการจัดการซากผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมและปลอดภัยแก่ประชาชน การกำหนดให้อาคารของศูนย์รับคืนซากฯ และโรงงาน มีระบบป้องกันการปล่อยสารที่เป็นอันตรายกับประชาชนและสภาพแวดล้อม การกำหนดกรอบการนำเงินค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บให้กรมสรรพสามิตหรือกรมศุลกากรไปใช้เฉพาะการดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเท่านั้น และหากมีเงินเหลือจ่ายให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน การกำหนดนิยามความหมายของคำสำคัญเพิ่มเติม เช่น อัตราค่าธรรมเนียม ผลิตภัณฑ์ แผนความรับผิดชอบในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ และศูนย์ข้อมูลซากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อผู้นำไปปฏิบัติ รวมทั้งเพิ่มเติมผู้แทนจากกรมสรรพสามิตและผู้แทนจากกรมศุลกากรเป็นกรรมการในคณะกรรมการจัดการซากผลิตภัณฑ์ และเพิ่มเติมบทบาทของกลุ่มผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนความรับผิดชอบในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตหรือจำหน่าย จากเดิมที่กำหนดเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต ให้ครอบคลุมรวมถึงกลุ่มผู้จัดจำหน่าย เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ตลอดจนปรับปรุงเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์และการจัดการเงินรายได้ของกองทุนสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้ส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลซากผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการภายในกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๒ (เรื่อง ข้อสังเกตของ ก.พ. เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไว้ในกฎหมาย) แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||
23819 | ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต รวม 2 ฉบับ | กค | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการให้มีกฎหมายที่รวบรวมบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยไพ่ กฎหมายว่าด้วยสุรา กฎหมายว่าด้วยยาสูบ กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต และกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสุรา ไว้ในประมวลกฎหมายฉบับเดียวกัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานศาลยุติธรรม เกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมายที่รัฐใช้ในการควบคุมการบริโภคและจำกัดการเข้าถึงสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บทนิยามของสินค้าในบางผลิตภัณฑ์ควรพิจารณาปรับเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น กรณีของผลิตภัณฑ์ยาสูบควรครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อื่นที่มีสารเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ มอระกู่หรือบารากุ กรณีสินค้ารถยนต์ควรพิจารณากำหนดให้ร่างพระราชบัญญัติฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป การแก้ไขข้อความของบทนิยามคำว่า “ราคาขายปลีก” โดยตัดคำว่า “ตรง” ออกจากคำว่า “ขายตรง” เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและเป็นการสื่อความหมายที่ชัดเจนของคำนิยาม กรณีสินค้าที่มีโครงสร้างพิกัดอัตราภาษีซ้ำซ้อนควรพิจารณากำหนดให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกที่สามารถชำระภาษีในอัตราเต็มได้ทันที โดยสามารถได้รับคืนภาษีที่ชำระไว้เกินได้ในภายหลัง และการพิจารณาปรับปรุงปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการบังคับใช้กฎหมายให้พร้อมรองรับเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ เช่น การสร้างความเข้าใจในประมวลกฎหมายที่ถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน การมีระบบควบคุม ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ และร่างประมวลกฎหมายฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
|||||||||||||||||||||
23820 | การลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินอุตสาหกรรมระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาไทยและสำนักงานสิทธิบัตรญี่ปุ่น | พณ | 19/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินอุตสาหกรรม ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาไทยและสำนักงานสิทธิบัตรญี่ปุ่น (The Japan Patent Office : JPO) ในโอกาสที่อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาไทยมีกำหนดเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุมหัวหน้าสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ โดยร่างบันทึกความร่วมมือฉบับนี้เป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านทรัพย์สินอุตสาหกรรม ซึ่งครอบคลุมเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร การออกแบบอุตสาหกรรม และแบบอรรถประโยชน์/อนุสิทธิบัตร ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาไทยและ JPO ซึ่งประกอบด้วยความร่วมมือด้านต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินอุตสาหกรรม การเยือนศึกษาของเจ้าหน้าที่ระหว่างสองสำนักงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการเข้าถึงฐานข้อมูลทรัพย์สินอุตสาหกรรมระหว่างทั้งสองสำนักงาน การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศพื้นฐาน และการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการตรวจสอบและรับจดทะเบียนทรัพย์สินอุตสาหกรรม เป็นต้น ทั้งนี้ การลงนามบันทึกความร่วมมือฯ อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ที่จะดำเนินการได้ จึงเป็นการทำความตกลงระหว่างหน่วยงานของรัฐ และไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรปรับแก้ไขในประเด็นถ้อยคำบางประการของบันทึกความร่วมมือฯ และเห็นควรเพิ่มเติมข้อกำหนดและเงื่อนไขในการอนุญาตให้สำนักงานหนึ่งสามารถเข้าดูข้อมูลผ่านระบบสำนักงานอัตโนมัติและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้เพื่อความมั่นคงปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน รวมทั้งดำเนินการติดตามและประเมินผลความร่วมมือฯ โดยรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ เพื่อนำไปสู่การพิจารณาขยายขอบเขตความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาในมิติอื่นกับประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนขยายความร่วมมือด้านทรัพย์สินอุตสาหกรรมกับประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
.....