คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
สามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 3 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้า  ฯ  แต่งตั้งเป็นต้นไป   ประกอบด้วย   นายไกรสร  บารมีอวยชัย   ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
(นักบริหาร 10) สำนักงานปลัดกระทรวง พลตำรวจตรี สมชาติ สว่างเนตร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ
กระทรวง  (ผู้ตรวจราชการ 10)  สำนักงานปลัดกระทรวง  และนายสิรวัต  จันทรัฐ  ดำรงตำแหน่งอธิบดี
(นักบริหาร 10) กรมบังคับคดี  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษโอนเปลี่ยนแปลงงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 รายการค่าคุ้มครองพยาน จำนวน 26,000,000 บาท ไป
เป็นเงินราชการลับ

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่าย
ความมั่นคง)   ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้
ติดยาเสพติด (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ร่างมาตรา 3  กำหนดให้คณะอนุกรรมการฟื้นฟู
สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด มีอำนาจพิจารณาปรับแผนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ร่างมาตรา 4
กำหนดให้อนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด     อาจพิจารณาปล่อยชั่วคราวผู้เข้ารับการตรวจ
พิสูจน์ หรือผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด  โดยให้ประธานอนุกรรมการ หรืออนุกรรมการ
คนใดคนหนึ่งร่วมกับเลขานุการ  เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาปล่อยชั่วคราวในกรณีที่มีความจำเป็น  และร่าง
มาตรา 5  กำหนดให้มีกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยให้กระทรวงยุติธรรมรับเอาความเห็น
และข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น  และส่ง
ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย ฯ)
ทีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียก
ประกันหรือหลักประกันการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีอาญา พ.ศ. ...  โดยมีสาระสำคัญคือ เป็นการกำหนดให้การเรียก
ประกันหรือหลักประกันในชั้นสอบสวน การใช้บุคคลเป็นประกันหรือการกำหนดให้หลักทรัพย์ใดเป็นหลักประกันการ
ปล่อยตัวชั่วคราว ให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการนำหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อบังคับประธานศาลฎีกามา
ใช้โดยอนุโลม และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่พนักงานสอบสวนต้องปฏิบัติในการจัด
หาทนายความให้กับผู้ต้องหา พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สภาทนายความเสนอบัญชีรายชื่อบุคคลที่
รับเป็นทนายความให้แก่ผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนต่อกระทรวงยุติธรรมภายใน 30 วัน ให้พนักงานสอบสวนจัดหาทนาย
ความให้แก่ผู้ต้องหา โดยเลือกจากบัญชีรายชื่อทนายความที่ได้จัดไว้ และทนายความมีสิทธิรับเงินรางวัลและค่าใช้
จ่ายตามระเบียบกระทรวงยุติธรรม ทนายความจะต้องเข้าร่วมสอบปากคำในชั้นสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
และให้คำแนะนำทางกฎหมายแก่ผู้ต้องหา ทนายความอาจขอถอนตัวได้ และรัฐต้องจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหา
ใหม่ภายใน 7 วัน ระหว่างจัดหาทนายความเดิมคงทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการตั้งทนายความใหม่ รวม 2 ฉบับ 
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ
ที่เห็นว่า ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่พนักงานสอบสวนต้องปฏิบัติในการจัดหาทนาย
ความให้กับผู้ต้องหา พ.ศ. .... เป็นเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่พนักงานสอบสวนต้องปฏิบัติใน
การจัดหาทนายความให้กับผู้ต้องหาในกรณีผู้ต้องหาอายุไม่เกิน 18 ปี คดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต หรือคดีที่มีอัตรา
โทษจำคุกและผู้ต้องหาต้องการทนายความ ซึ่งทนายความมีสิทธิได้รับเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายตามระเบียบที่กระทรวง
ยุติธรรมกำหนด แต่เนื่องจากบทนิยามคำว่า "ยุติธรรมจังหวัด" เป็นคำที่ได้กำหนดขึ้นใหม่เพื่อรองรับในอนาคต ยังไม่มี
การกำหนดตำแหน่งที่ถูกต้อง และเป็นคำที่ยังไม่มีกฎหมายฉบับใดกำหนดไว้โดยเฉพาะ อาจเป็นปัญหาในทางปฏิบัติได้
สมควรพิจารณาใช้คำว่า "ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม" แทน จะมีความเหมาะสมและชัดเจนมากกว่า ไปพิจารณาด้วย แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี  (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์)
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติเสนอ   การพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็น
กรณีพิเศษแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 2548
และดำเนินการต่อไปได้  โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน  ก.พ.  ที่เห็นควรให้ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอา
ชนะยาเสพติดแห่งชาติตรวจสอบจำนวนผู้ปฏิบัติงานที่ส่วนราชการเสนอมาว่าเป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติงานจริง และ
กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อประเมินผลงานของผู้ปฏิบัติงานดังกล่าว    เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการ    สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง   ให้ปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549  ของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน  แต่หากไม่สามารถ
ปรับแผนการใช้จ่ายได้ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนอันดับเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ 
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติรายงานผลการ
ดำเนินงานในห้วงวันที่ 1-31 ตุลาคม 2548 มีผลการดำเนินการดังนี้ ด้านการปราบปรามยาเสพติด ได้ดำเนิน
การจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ รวม 3,656 ราย 4,269 คน  ได้ของกลางยาบ้า 1,207,511 เม็ด  และตรวจ
ยึด/อายัดทรัพย์สิน 4,287,010 บาท การควบคุมแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด โดยตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด 33,092
ครั้ง ผลการจับกุม 841 ครั้ง ปิดล้อมตรวจค้น 3,070 ครั้ง ผลการจับกุม  563  ครั้ง  ดำเนินการสกัดกั้นยาเสพ
ติดตามแนวชายแดน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 257 คน ยาบ้า  291,212  เม็ด  กัญชา  1,370  กิโลกรัม  และ
เฮโรอีน 9 กรัม ส่วนการดำเนินงานด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เป็นการบำบัดโดยสมัครใจ 431
ราย บังคับบำบัด 589 ราย และต้องโทษ  95  ราย ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับบริษัท เอจีวี ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด  ได้ประกาศให้สถานประกอบกิจกรรม
โรงงานสีขาว  จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดตามโครงการ "สานสายใยให้ครอบครัวพาคุณลูกทัวร์  AGC"
จัดค่ายแกนนำเยาวชน เพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด จัดการแข่งขัน "มหกรรมดนตรีลูกทุ่ง ป.ป.ส." ด้าน
การบริหารจัดการ  ได้มีการจัดทำร่าง  Roadmap  การขับเคลื่อนพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด  ปี 2549  เพื่อ
ให้การขับเคลื่อนผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเป็นไปอย่างมีทิศทางและเป็นระบบ   โดยกำหนดเป้า
หมายเน้นหนักออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านพื้นที่และด้านกลุ่มบุคคล ซึ่งกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ในการป้อง
กันและแก้ไขปัญหายาเสพติดออกเป็น  2  ด้าน  ได้แก่  ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพ  และเสริมสร้างองค์ความ
รู้และการสร้างปัจจัยเสริม  เพื่อสนับสนุนศักยภาพการดำเนินงาน    ส่วนด้านการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดได้
ดำเนินการเฝ้าระวังการนำเข้ายาเสพติด การเฝ้าระวังปัญหาของการค้ายาเสพติด การเฝ้าระวังปัญหาการแพร่
ระบาดของยาเสพติด และพื้นที่เฝ้าระวังปัญหายาเสพติด

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งนายอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ 
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  ตั้งแต่วันที่  14 พฤศจิกายน  2548  เป็น
ต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี 
พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย  ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ เพิ่มความผิดฐานปลอมหนังสือเดินทางเป็นความ
ผิดประเภทหนึ่งในมาตรา  8  แห่งประมวลกฎหมายอาญา  รวมทั้งกำหนดโทษสำหรับความผิดฐานปลอม
หนังสือเดินทาง เป็นความผิดที่ต้องรับโทษหนักขึ้นกว่าความผิดฐานปลอมเอกสารทั่วไป    และให้ส่งสำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  โดยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง  ฯ  และ
ความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย  โดยในส่วนของประเด็นอภิปราย  คณะ
กรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็นว่า  ในการกำหนดให้การปลอมหนังสือเดินทางเป็นความผิด อาจแก้ไขเพิ่มเติม
คำนิยามในร่างมาตรา 3 ให้ครอบคลุมถึงหนังสือเดินทางโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับกฎหมายระหว่าง
ประเทศด้วย และในการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมหนังสือเดินทาง ควร
กำหนดให้มีผลบังคับครอบคลุมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดในทุกส่วนของการกระทำความ
ผิดเกี่ยวกับการปลอมหนังสือเดินทางด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้จ้าง  วาน  ใช้   และผู้สนับสนุนให้ได้รับโทษที่หนัก
ขึ้นด้วย  แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร
พิจารณาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่อง
เร่งด่วนของรัฐบาล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 (กรกฎาคม-กันยายน 2548) โดยมีผลการดำเนินการป้อง
กันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจำแนกตามยุทธศาสตร์  ดังต่อไปนี้  (1)  ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาตัวยา/
ผู้ค้ายาเสพติด (Supply)  ประกอบด้วย  7  ยุทธศาสตร์ย่อย  คือ   ยุทธศาสตร์การทำลายโครงสร้างเครือ
ข่ายการผลิตการค้ารายใหญ่และผู้มีอิทธิพล ยุทธศาสตร์การควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ 
ยุทธศาสตร์การควบคุมเคมีภัณฑ์    ยุทธศาสตร์การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน   ยุทธศาสตร์การ
พัฒนาระบบการข่าว และเทคโนโลยีการปราบปราม  ยุทธศาสตร์การสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือ
ระหว่างประเทศ  (2) ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด  (Demand) ประกอบด้วย 3 ยุทธ
ศาสตร์ย่อย  คือ  ยุทธศาสตร์การสำรวจค้นหา  ชักจูงให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟู
และพัฒนา   ยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ยุทธศาสตร์การติดตาม ดู
แลช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด   และยุทธศาสตร์การปรับทัศนคติ  เตรียมความพร้อมของชุมชน อาสา
สมัคร   เพื่อดูแลช่วยเหลือให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่ชุมชน   (3)   ยุทธศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มี
โอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด  (Potential Demand)  ประกอบด้วย  4  ยุทธศาสตร์ย่อย คือ  ยุทธศาสตร์การ
สร้างกระแสและพลังขับเคลื่อนทางสังคม ยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมาย ยุทธ
ศาสตร์การสร้างครอบครัวและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน    และยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาการทำ
งานในลักษณะเครือข่าย  และ  (4)   ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเชิงบูรณาการประกอบด้วย  4  ยุทธ
ศาสตร์ย่อย   คือ   ยุทธศาสตร์การบูรณาการนโยบาย  แนวคิด   แนวทางการดำเนินงาน   ยุทธศาสตร์
การบูรณาการองค์กรการดำเนินงานในทุกระดับ     ยุทธศาสตร์การบูรณาการเป้าหมาย/แผนงาน/งบ
ประมาณ การดำเนินงาน และยุทธศาสตร์การบูรณาการระบบอำนวยการกำกับติดตาม รายงานผลการ
ดำเนินงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติมาตรการในการ
ปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้นำทรัพย์สินที่ยึดมาจากผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยา
เสพติดไปใช้ประโยชน์ในทางราชการหรือขายทอดตลาดหรือให้ตกเป็นของกองทุน  และให้ส่งคณะกรรม
การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 3 (ฝ่าย
ความมั่นคง) ที่มีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแนวทางการพัฒนากระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้าง
ความสมานฉันท์ในสังคมไทยและ  3  จังหวัดชายแดนภาคใต้  สำหรับกรณีที่ขออนุมัติงบประมาณประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2549 เพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวในส่วนที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ
จำนวน  11  โครงการ วงเงิน  105,972,200  บาท  ให้กระทรวงยุตธิรรมเสนอคณะกรรมการนโยบายเสริม
สร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป กับเห็นชอบในหลักการที่จะให้
การสงเคราะห์ช่วยเหลือทางการเงินแก่ประชาชนในด้านกฎหมาย  การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ แต่ขอให้กระทรวงยุติธรรมนำไปพิจารณากำหนดรูปแบบและกรอบของรายละ
เอียดการให้ความช่วยเหลือให้ชัดเจนเสียก่อนเพื่อเป็นบรรทัดฐาน  พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงผลกระทบด้วย เสนอ
คณะกรรมการนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้พิจารณาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 3 ราย  ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่ง
ตั้งเป็นต้นไป ประกอบด้วย นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร 10) สำนัก
งานปลัดกระทรวง  นายวันชัย รุจนวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมคุมประพฤติ  และนางชูจิรา
กองแก้ว ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่ง
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งคุณหญิงพรทิพย์ 
โรจนสุนันท์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ (นักบริหาร 10) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 เพื่อทดแทนผู้ครบเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษ
ฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติรายงานผลการ
ดำเนินงานในห้วงวันที่ 1-31 สิงหาคม 2548  มีผลการดำเนินการดังนี้  ด้านการปราบปรามยาเสพติด ได้
ดำเนินการจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ รวม 4,958 ราย 5,301  คน  ได้ของกลางยาบ้า  387,116  เม็ด  
และตรวจยึด/อายัดทรัพย์สิน  5,104,888  บาท  การควบคุมแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด  โดยตั้งจุดตรวจ/
จุดสกัด  36,392  ครั้ง  ผลการจับกุม 1,170 ครั้ง ปิดล้อมตรวจค้น 4,269 ครั้ง  ผลการจับกุม 1,044 ครั้ง 
และได้ดำเนินการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิต
ยาเสพติด   โดยการจัดสัมมนาการปฏิบัติการร่วมในการปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทย-พม่า  เพิ่มการ
เฝ้าระวังการลักลอบขนยาเสพติด   จัดตั้งสำนักงานประสานงานชายแดน และจุดประสานงานชายแดนเพิ่ม
เติม การทดลองจัดระเบียบเรือที่เมืองสีโคดตะบอง  การแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติดที่จับกุมได้ระหว่างกัน
เพื่อนำมาตรวจพิสูจน์  ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ไทย-ลาว   ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการ
ลักลอบค้ายาเสพติดและดำเนินคดีร่วมกัน   ส่วนการดำเนินงานด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด 
เป็นการบำบัดโดยสมัครใจ 242 ราย บังคับบำบัด 426 ราย  และต้องโทษ 27 ราย  ด้านการป้องกันกลุ่ม
ผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด    ได้มีการศึกษาแนวทางการจัดระเบียบสังคมจากหน่วยปฏิบัติงาน
จริง  โดยจัดทำเป็นรูปแบบการดำเนินงานจัดระเบียบสังคมเพื่อประโยชน์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถ
นำไปประยุกต์ใช้ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วประเทศต่อไป ด้านการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดได้ดำเนิน
การเฝ้าระวังการนำเข้ายาเสพติดการเฝ้าระวังปัญหาของการค้ายาเสพติด     การเฝ้าระวังปัญหาการแพร่
ระบาดของยาเสพติด และพื้นที่เฝ้าระวังปัญหายาเสพติด

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอให้นายกิตติพงษ์ กิตยา
รักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดี  (นักบริหาร 10)  กรมคุมประพฤติ  ที่ดำรงตำแหน่งครบ
4 ปี ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2548 ต่อไปอีก 1 ปี  (ครั้งที่ 1)  ตั้งแต่วันที่  1  สิงหาคม  2548  ถึงวันที่ 31
กรกฎาคม 2549

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอา
ชนะยาเสพติด ในห้วงวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2548 โดยมีผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ในภาพรวม สรุปได้ดัง
นี้ ด้านการปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ  4,595  ราย ได้ของเป็นกลางยาบ้า
422,385 เม็ด และตรวจยึด/อายัดทรัพย์สิน 10,692,705 บาท การควบคุมแหล่งแพร่ระบาดโดยตั้งจุดตรวจ/
จุดสกัด 33,700 ครั้ง ปิดล้อม/ตรวจค้น 3,621 ครั้ง และตรวจสถานบริการ 15,977 ครั้ง  การสกัดกั้นยาเสพ
ติดตามแนวชายแดน สามารถจับกุมผู้ต้องหา 441 คน ได้ของกลางเป็นยาบ้า 1,036,538 เม็ด  กัญชา 1,505
กิโลกรัม และยาไอซ์ 54,017 กรัม ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด มีผู้เข้ารับบำบัดรักษาโดยระบบ
สมัครใจ 472 ราย ระบบบังคับบำบัด 666 ราย และระบบต้องโทษ  93  ราย  ด้านการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาส
เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้จัดทำ "โครงการรวมพลังสถานประกอบการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหายาเสพ
ติด" โดยให้ผู้ประกอบการประเภทต่าง ๆ  ได้เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการเป็นส่วนหนึ่งของพลังแผ่นดินที่จะ
ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเป้าหมายของเด็ก  เยาวชน  และผู้ใช้แรงงาน   ตลอดจนการเสริม
สร้างความเข้มแข็งในการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน  ส่วนด้านการบริหารจัดการจากงบ
ประมาณที่ได้รับจำนวน 4,041,888,900 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 มีรายงานการใช้จ่ายงบประมาณ
2,685,417,945 บาท คงเหลือ 1,356,470,955 บาท นอกจากนี้ ได้มีการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดโดยการ
เฝ้าระวังการนำเข้ายาเสพติด  การเฝ้าระวังปัญหาการค้ายาเสพติด  การเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดของยา
เสพติด และพื้นที่เฝ้าระวังปัญหายาเสพติด

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งนายปกรณ์  บูรณุปกรณ์  ดำรง
ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2548 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตาม
มาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่อง
เร่งด่วนของรัฐบาล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 (เมษายน-มิถุนายน 2548) โดยมีผลการดำเนินการป้องกัน
และแก้ไขปัญหายาเสพติดจำแนกตามยุทธศาสตร์  ดังต่อไปนี้  (1) ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาตัวยา/ผู้ค้า
ยาเสพติด  (Supply)  ประกอบด้วย  7  ยุทธศาสตร์ย่อย  คือ   ยุทธศาสตร์การทำลายโครงสร้างเครือข่าย
การผลิตการค้ารายใหญ่และผู้มีอิทธิพล ยุทธศาสตร์การควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ ยุทธ
ศาสตร์การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน   ยุทธศาสตร์การควบคุมเคมีภัณฑ์ ยุทธศาสตร์การเฝ้าระวัง
ปัญหายาเสพติด ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการข่าว  และเทคโนโลยีการปราบปรามและยุทธศาสตร์การ
สร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศ  (2) ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด   
(Demand) ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ  ยุทธศาสตร์การสำรวจค้นหา  ชักจูงให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพ
ติดเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนา   ยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพ
ติด ยุทธศาสตร์การติดตาม  ดูแลช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด  และยุทธศาสตร์การปรับทัศนคติ  เตรียม
ความพร้อมของชุมชน   อาสาสมัคร   เพื่อดูแลช่วยเหลือให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่ชุมชน  (3)  ยุทธ
ศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด  (Potential Demand)   ประกอบด้วย  4  ยุทธศาสตร์
ย่อย คือ  ยุทธศาสตร์การสร้างกระแสและพลังขับเคลื่อนทางสังคม  ยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและเฝ้า
ระวังกลุ่มเป้าหมาย   ยุทธศาสตร์การสร้างครอบครัวและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน  และยุทธศาสตร์การส่ง
เสริมและพัฒนาการทำงานในลักษณะเครือข่าย     และ  (4)  ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเชิงบูรณาการ
ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์การบูรณาการนโยบาย แนวคิด  แนวทางการดำเนินงาน
ยุทธศาสตร์การบูรณาการองค์กรการดำเนินงานในทุกระดับ   ยุทธศาสตร์การบูรณาการเป้าหมาย/แผน
งาน/งบประมาณ การดำเนินงาน และยุทธศาสตร์การบูรณาการระบบอำนวยการ กำกับติดตาม รายงาน
ผลการดำเนินงาน

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชบัญญัติ
ยกเว้นการนำมาตรา  61  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้กับผู้สูญหายในกรณีธรณีพิบัติ
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดไม่ให้นำ
ระยะเวลา และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา  61  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้กับผู้สูญ
หายในกรณีธรณีพิบัติและกำหนดให้ผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการร้องขอต่อศาลซึ่งให้ผู้สูญหาย
จากกรณีธรณีพิบัติเป็นคนสาบสูญได้   และให้ถือว่า ถึงแก่ความตายเมื่อเวลาที่เริ่มเกิดกรณีธรณีพิบัติ
เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าสูญหายในเวลาอื่นก็ไม่ถึงแก่ความตายในเวลานั้น และให้ส่งคณะกรรมการประสาน
งานสภาผู้แทนราษฎรรับไปประสานงาน   และขอความร่วมมือจากสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ร่างพระ
ราชบัญญัติฉบับนี้ได้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายโดยเร็ว    อันจะเป็นการแก้ไขและบรรเทาปัญหา
ความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีธรณีพิบัติ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ยุติธรรม หรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง
สาธารณรัฐทาจิกิสถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และ
สารตั้งต้น ฝ่ายไทยในโอกาสที่ประธานาธิบดีทาจิกิสถานเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการใน
วันที่ 9 สิงหาคม 2548 ทั้งนี้ ให้แก้ไขในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็น