ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 51 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 1001 - 1020 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1001 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (กระทรวงยุติธรรม) (จำนวน 2 ราย นายวันชัย รุจนวงศ์ และนายนัทธี จิตสว่าง) | ยธ | 11/09/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นายวันชัย รุจนวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1002 | รายงานการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน | ยธ | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอรายงานการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
ครั้งที่ 1 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2550 จากหน่วงานในระดับกระทรวง กรม จำนวน 23 หน่วย งาน ขาดกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้รายงานผลการดำเนินงาน ซึ่งรายงานของหน่วยงานดังกล่าวมีผลการดำเนิน การ ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1003 | การจัดตั้งองค์กรฝ่ายบริหารเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตภาครัฐ (ร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....) | ยธ | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหาร
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมพระ ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีส่วนราชการในฝ่ายบริหารรับผิดชอบดำเนินการด้านนโยบาย ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเป็นศูนย์กลางประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในฝ่ายบริหารสามารถดำเนินการ ในลักษณะบูรณาการและมีประสิทธิภาพ และกำหนดมาตรการให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. สามารถมอบหมายให้ หน่วยงานของรัฐอื่นที่มีอำนาจหน้าที่ในลักษณะเดียวกันดำเนินการแทนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางตำแหน่งหรือบาง ระดับภายใต้การกำกับของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ และปรับปรุงหลักเกณฑ์การไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรม การ ป.ป.ช. เพื่อให้กระบวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1004 | ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 01/08/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอขอถอนร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... คืนไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1005 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (กระทรวงยุติธรรม) (นายวีระยุทธ สุขเจริญ) | ยธ | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นายวีระยุทธ สุขเจริญ ให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1006 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา พ.ศ. .... | ยธ | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขต
อำนาจของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เปลี่ยนแปลงเขตอำนาจ ของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา โดยให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา มีเขตอำนาจตลอดจังหวัดยะลา ยกเว้นท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดเบตง ให้มีเขตอำนาจตลอดท้องที่ จังหวัดยะลา รวมทั้งท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดเบตง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1007 | ร่างกฎหมายเพื่อพัฒนาระบบงานตำรวจ | ยธ | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนา
ระบบงานตำรวจ เสนอร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระ ราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 เพื่อให้มีการกระจายอำนาจในการบริหารราชการตำรวจให้มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้ตำรวจชั้นผู้น้อยมีช่องทางความก้าวหน้าในอาชีพ และผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบงานตำรวจ และร่าง พระราชบัญญัติคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับตำรวจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีระบบการร้อง ทุกข์ วิธีพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ องค์กรพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ และหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านธุรการให้แก่องค์ กรพิจารณาเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับการใช้อำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ หรือผู้ซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการ รักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยสาธารณะ และผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากตำรวจให้ปฏิบัติงานดังกล่าว ขึ้นเป็นการเฉพาะ และส่งสำนักงานคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้ว ส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา โดย รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า ในการกระจายอำนาจการบริหารงานตำรวจ (Decentralization) ควรมีความชัดเจนและเข้าใจตรงกันว่า เป็นการกระจายอำนาจการบริหารงานตำรวจไปสู่หน่วยงานตำรวจในระดับ รอง (Deconcentration) มิใช่การกระจายอำนาจไปยังหน่วยงานหรือองค์กรอื่น และในการกำหนดให้ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎรเป็นกรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติควรพิจารณาความเหมาะ สมและเทียบเคียงองค์ประกอบในคณะกรรมการอื่นที่ใกล้เคียงกัน ส่วนการกำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้อง เป็นผู้ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือจากประชาชน เป็นถ้อยคำที่มีความหมายไม่ชัดเจน และควรให้ความสำคัญกับภาร กิจของตำรวจในมิติทางสังคม เช่น ความเสมอภาค สิทธิมนุษยชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นต้น ให้มาก ยิ่งขึ้น สำหรับการกำหนดให้มีสำนักงานพัฒนาระบบงานตำรวจขึ้นตรงต่อประธาน ก.ต.ช. โดยมีเลขาธิการเป็นข้า ราชการพลเรือนสามัญจะทำให้ภารกิจของตำรวจมีข้าราชการ 2 ประเภท คือ ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการ พลเรือน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ 2 ฉบับที่แตกต่างกัน อาจมีความขัดแย้งในทางปฏิบัติ เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ควรกำหนดบทบาท อำนาจหน้าที่ และความสัมพันธ์ของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ต.ร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจ (ก.ต.ช.) กับบทบาทอำนาจหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาให้เหมาะสม เพื่อ มิให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อนในอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับระบบบริหารงานบุคคลและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ |
||||||||||||||||||||||||||||||
1008 | ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานในการสั่งให้มีการทดสอบ ข้อสันนิษฐานทางกฎหมาย ในกรณีผู้ขับขี่รถไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร บทกำหนดโทษ และอัตราโทษในกรณีการฝ่าฝืนคำสั่ง รวมทั้ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจใช้ไฟฉายเรืองแสงเพื่อช่วยในการแสดงสัญญาณจราจร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและ เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนมากยิ่งขึ้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งคณะกรรม การประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
1009 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การบังคับคดี) | ยธ | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎ
หมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องและอุปสรรค ในการดำเนินงานด้านการบังคับคดี โดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งได้รับแต่งตั้งจากศาลถือเสมือนเป็นเจ้าพนักงาน ศาลมีอำนาจในฐานเป็นผู้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในอันที่จะรับชำระหนี้ ยึดหรืออายัดและยึดถือทรัพย์สินของลูก หนี้ เอาทรัพย์สินออกขายทอดตลาด และจำหน่ายทรัพย์สินหรือเงินรายได้จากการนั้น รวมทั้งกำหนดอำนาจการส่ง คำคู่ความหรือเอกสารโดยวิธีอื่นของเจ้าพนักงานบังคับคดี และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อ ไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
1010 | การตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ณ จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล | ยธ | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์
อยู่ดีมีสุข ณ จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 7-8 มิถุนายน 2550 สรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมได้ดังนี้ จังหวัดสงขลาได้รับงบประมาณตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข รวม 63 ล้าน บาท มีแผนงาน/โครงการที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติรวม 734 โครงการ 53,952,494 บาท แบ่งเป็น 5 ด้าน ดังนี้ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 377 โครงการ 28,887,742 บาท ด้านสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 85 โครงการ 7,116,700 บาท ด้านฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ จำนวน 27 โครงการ 2,042,250 บาท ด้านสงเคราะห์ จำนวน 40 โครงการ 2,792,300 บาท และด้านบริการขั้นพื้นฐาน จำนวน 205 โครงการ 13,113,502 บาท สำหรับการ ดำเนินการโครงการ/ชุมชน ที่ได้รับอนุมัติ 734 โครงการ ส่วนจังหวัดสตูลได้รับงบประมาณตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมี สุข จำนวน 49 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุขจังหวัดสตูลได้อนุมัติ แผนงาน/โครงการและงบประมาณรวม 483 โครงการ ประกอบด้วย แผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 159 โครงการ 17.61 ล้านบาท แผนงานพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 171 โครงการ 14.61 ล้านบาท แผน งานการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน จำนวน 23 โครงการ 1.85 ล้านบาท แผนงานการสงเคราะห์ผู้ด้อย โอกาสและผู้สูงอายุ จำนวน 9 โครงการ 0.98 ล้านบาท และแผนงานการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 121 โครงการ 13.96 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1011 | ร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ คือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เนื่องจากมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่อาจนำ มาบังคับใช้ในการดำเนินคดีพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การกำหนดลักษณะคดีพิเศษยังไม่ครอบคลุมถึงคดี ความผิดทางอาญาที่พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเป็นผู้เสียหาย ผู้ต้องสงสัย ผู้ถูกกล่าวหา การไม่มีผู้ชี้ขาด กรณีมีข้อโต้แย้งว่าคดีใดเป็นหรือไม่เป็นคดีพิเศษ และการที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษไม่สามารถสอบสวนคดีพิเศษ ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้กระทำผิดได้จนแล้วเสร็จ เป็นต้น และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และข้อสังเกตของ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ มีความเห็นในบาง ประเด็นดังนี้ การกำหนดให้คดีความผิดทางอาญาที่มีพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้เสียหาย ผู้ต้องสงสัย ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา เป็นคดีพิเศษตามร่างมาตรา 4 นั้น กำหนดไว้ค่อนข้างกว้าง เพราะหากเกิดกรณีที่พนัก งานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีธรรมดา เช่น คดีลักทรัพย์ ก็อาจทำให้กลายเป็นคดีพิเศษไป ด้วย จึงเห็นควรกำหนดไว้ชัดเจน ส่วนการกำหนดให้พนักงานคดีพิเศษมีอำนาจร้องขอเจ้าพนักงานอื่นของรัฐให้ ช่วยเหลือ สนับสนุน หรือเข้าร่วมในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีพิเศษตามร่างมาตรา 9 เป็นกรณีที่มีความจำเป็น แต่การช่วยเหลือ สนับสนุนหรือเข้าร่วมดังกล่าวต้องมิให้เกิดความเสียหายแก่ภารกิจของหน่วยงานต้นสังกัด รวมทั้ง จะต้องไม่ก่อให้เกิดความรับผิดแก่เจ้าพนักงานที่เข้าช่วยเหลือทั้งในทางแพ่งและทางอาญาด้วย และการกำหนดให้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจฟ้องคดีได้ นั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือ อาจทำให้ระบบการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง คดีแตกออกเป็นหลายระบบซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาการควบคุมในประสิทธิภาพของการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีได้ เป็นต้น แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่ง ชาติพิจารณาต่อไป และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของกระทรวงกลาโหม และข้อสังเกตของ คณะรัฐมนตรีไปพิจารณาเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามร่างพระราชบัญญัติ ฯ ซึ่งมี วาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ อาจไม่สอดคล้องกับกฎหมายเดิมและกฎหมายอื่น ที่จำกัดจำนวนวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไว้ เพื่อมิให้เกิดปัญหาในส่วนที่เกี่ยวกับการแสวง หาประโยชน์หรือใช้อิทธิพลใด ๆ จึงสมควรจำกัดวาระที่สามารถดำรงตำแหน่งไว้ให้ชัดเจน และการให้อธิบดีเป็นผู้ ชี้ขาดกรณีมีการโต้แย้ง หรือสงสัยว่าการกระทำใดเป็นความผิดคดีพิเศษ ควรพิจารณาว่าหากจะให้คณะกรรมการ ทำหน้าที่ชี้ขาดกรณีดังกล่าวจะเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ ให้พิจารณาศึกษาและติดตามแนวทางประเด็นเกี่ยวกับ อำนาจในการฟ้องคดีของหน่วยงานอื่น ๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ในร่างรัฐ ธรรมนูญฉบับใหม่ประกอบด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
1012 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1013 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... | ยธ | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลา
การใช้บังคับมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ที่ต้องทำการชันสูตรพลิกศพตามมาตรา 148 แห่งประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อ ไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
1014 | ร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2552 - 2555 | ยธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2552-2555 โดยร่างแผนแม่บท ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานในกระบวนการ ยุติธรรมมีศักยภาพทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถตอบสนองการให้บริการกระบวนการยุติธรรมได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งประสาน ติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานใน กระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปตามนโยบาย ทิศทาง และเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตลอดจนศึกษา วิเคราะห์และวิจัย ระบบงานยุติธรรมให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ การจัดทำแผนการ ดำเนินงานและโครงการตามแผนแม่บท ฯ ให้กระทรวงยุติธรรมประสานหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำตาม ความจำเป็นและความพร้อม แล้วนำเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
1015 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบ
ปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไข อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน เพิ่ม เติมอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน การนำทรัพย์สินของกลางที่ไม่เหมาะสมที่จะเก็บรักษา ไว้ หรือหากเก็บรักษาไว้จะเป็นภาระแก่ทางราชการมากกว่านำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น มาใช้ประโยชน์หรือขายทอด ตลาด โดยขออนุญาตจากศาล รวมทั้งการให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดและทรัพย์สินของกลางตก เป็นของกองทุนในกรณีที่ไม่อาจฟ้องคดีต่อศาลได้ เนื่องจากผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนี หรือถึงแก่ความตาย ผ่าน กระบวนการกลั่นกรองของศาล และปรับปรุงกองทุนและบทกำหนดโทษ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรมีการอบรมชี้แจงกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องให้เข้าใจถึงกฎหมายดังกล่าว กฎกระทรวงและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจ พนักงานสอบสวน อัยการ และศาล เป็นต้น ไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอ สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1016 | ขออนุมัติจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษกรณีไม่ทำเวชปฏิบัติส่วนตัวให้แก่แพทย์และทันตแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ | ยธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติไม่อนุมัติ การจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษกรณีไม่ทำเวชปฏิบัติส่วนตัวให้แก่แพทย์และทันตแพทย์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตามข้อ เสนอ ของกระทรวงยุติธรรม และให้สำนักงาน ก.พ. เ ร่งรัดดำเนินการนำเสนอ ก.พ. เพื่อพิจารณาว่า ลักษณะงาน ของแพทย์ในสังกัดสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดังกล่าว จะสามารถกำหนดเป็นตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษให้มีสิทธิได้รับเงิน เพิ่ม สำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ได้ หรือไม่ โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า ลักษณะงานของแพทย์ในสถาบันนิติ วิทยาศาสตร์น่าจะถือเป็นตำแหน่งที่มีเหตุผลพิเศษให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุผลพิเศษตาม มาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 จึงสมควรพิจารณาการได้รับเงินเพิ่มพิเศษ ตามกฎหมายดังกล่าวโดยสิทธิที่จะได้รับเงินเพิ่มไม่ควรต่ำกว่าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับแพทย์ ฯ ตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2544 โดยให้มีผลตั้งแต่ปีงบประมาณรายจ่ายปี พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป และให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2550 ที่ตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว ไปประกอบการพิจารณา ด้วย ส่วนการจ่ายเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการนั้น ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. 2550
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1017 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (กระทรวงยุติธรรม) (นายพิษณุโรจน์ พลับรู้การ) | ยธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นายพิษณุโรจน์ พลับรู้การ ให้ดำรง
ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร 10) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1018 | นายเบนนี่ เบห์นาม จันทรกุล หรือเบห์นาม โมฟี่ ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวก รวม 4 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด เกี่ยวกับการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2547 | ยธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอผลการวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดกรณี
นายเบนนี่ เบห์นาม จันทรกุล หรือเบห์นาม โมฟี่ ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวก รวม 4 คน เกี่ยวกับการออกพระ ราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2547 ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1019 | ร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... | ยธ | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้าย ข้ามแดน และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่ง ชาติพิจารณาต่อไป สำหรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมที่เห็นควรให้คงความในเรื่องการให้งดการประหาร ชีวิตและการเปลี่ยนการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตไว้ นั้น ให้กระทรวงยุติธรรมประสานงานกับคณะกรรม การประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาดำเนินการในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1020 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 08/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบ
ปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพ ติดหรือคณะอนุกรรมการที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจสั่งปิดหรือพักใช้ใบอนุญาตประกอบการสถานประกอบการ ได้ และกำหนดให้เจ้าพนักงานมีอำนาจจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยไม่ต้องมีหมายจับในกรณีมีเหตุจำเป็น รวม ทั้งให้ผู้จับมีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับไว้เพื่อการสอบสวนขยายผลก่อนส่งพนักงานสอบสวน และส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับกรณีการควบคุมตัวผู้ ถูกจับเพื่อการสอบสวนขยายผลก่อนส่งพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเป็นการ บัญญัติให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจเพื่อควบคุมตัวผู้ถูกจับ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้ถูกจับโดย ไม่ชอบธรรม และไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 มาตรา 3 ที่มุ่งคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคบรรดาที่ชนชาวไทย เคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งบทบัญญัติดังกล่าว ยังขาดกลไกการตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้จับกุมอย่างถูกต้องเหมาะสม จึงควรบัญญัติหลัก การตรวจสอบและการคานอำนาจของเจ้าหน้าที่ไว้ในกฎหมายให้ถูกต้องเหมาะสม ไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้ คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |