คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นางสาวกัญญานุช
สอทิพย์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้า ฯ  แต่งตั้งเป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้สำนักงานอัยการสูงสุดจัดจ้างก่อสร้างอาคาร
สำนักงานอัยการจังหวัดพังงา พร้อมบ้านพักอัยการจังหวัดและสิ่งก่อสร้างประกอบ ในวงเงิน 44,400,000 บาท
และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2550 เป็นปีงบประมาณ
พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นางสาวกัญญานุช
สอทิพย์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้า ฯ  แต่งตั้งเป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอการรับโอน นายสุนัย มโนมัย
อุดม ข้าราชการตุลาการ ตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ สำนักงานศาลยุติธรรม  และแต่งตั้ง
ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมสอบสวนคดีพิเศษ  กระทรวงยุติธรรม  ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม
คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548   ส่วนการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ นายสุนัย มโนมัยอุดม
พ้นจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะชะลอเรื่องไว้ก่อนจนกว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ดำเนินการรับโอนพลตำรวจเอก สมบัติ อมรวิวัฒน์ เรียบร้อยแล้ว และกระทรวง
ยุติธรรมได้แจ้งเรื่องขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ  ให้พลตำรวจเอก สมบัติ  อมรวิวัฒน์
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษคนเดิมพ้นจากตำแหน่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 5 ราย ดังนี้ นางชูจิรา กองแก้ว ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจ
ราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง  นายไพศาล  วิเชียรเกื้อ  ดำรงตำแหน่งอธิบดี  กรมพินิจและคุ้มครอง
เด็กและเยาวชน  นายสิรวัต  จันทรัฐ  ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง  สำนักงานปลัดกระทรวง  นายชาญ
เชาวน์  ไชยานุกิจ  ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง  สำนักงานปลัดกระทรวง   และนางสุวณา  สุวรรณจูฑะ
ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้
ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง รองศาสตราจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์
พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ และศาสตราจารย์คณิต ณ นคร เป็นกรรมการผู้ทรง
คุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี (31 ตุลาคม 2549) เป็นต้นไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอให้รับโอน นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัด
สำนักนายกรัฐมนตรี  สำนักนายกรัฐมนตรี  และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามยาเสพติ  (นักบริหาร 10)  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวง
ยุติธรรม  ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกา
ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

           คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มีมติเมื่อวัน
ที่  28  กันยายน  2549 อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นายจรัญ ภักดีธนากุล ให้ดำรงตำแหน่ง
ปลัดกระทรวง (นักบริหาร 11)  สำนักงานปลัดกระทรวง  กระทรวงยุติธรรม  ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี
พ.ศ. 2549 ของสำนักงาน ป.ป.ส. ภายใต้แผนงบประมาณเสริมสร้างความมั่นคงของชีวิตและสังคมผลผลิตที่ 1
: ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเครือข่ายการค้ายาเสพติดได้รับการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม งบเงิน
อุดหนุน  :  โครงการสนับสนุนการสืบสวนปราบปรามยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้าน  เป็นงบรายจ่ายอื่น :
รายการเงินราชการลับ  จำนวน  10,000,000  บาท   โดยให้ใช้จ่ายงบประมาณจำนวนดังกล่าวไปจนถึงปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2550  และให้สำนักงาน ป.ป.ส.  จัดทำแผนปฏิบัติงานซึ่งระบุวัตถุประสงค์และวิธีการใช้จ่ายงบ
ประมาณ เสนอนายกรัฐมนตรีเห็นชอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้งบประมาณเงินราชการ
ลับ พ.ศ. 2547 ด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอขอถอนร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทราบต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม (คณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรม
และส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) เสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความ
ยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอยส.) เพิ่มเติม  โดยให้แต่งตั้งนายเรวัต ฉ่ำ
เฉลิม เป็นรองประธาน กอยส. คนที่ 4 ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม (คณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรม
และส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) เสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความ
ยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอยส.) เพิ่มเติม  โดยให้แต่งตั้งนายเรวัต ฉ่ำ
เฉลิม เป็นรองประธาน กอยส. คนที่ 4 ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริต
คอร์รัปชั่น รอบเดือนมกราคม 2549  ของหน่วยงานระดับกระทรวง  22  หน่วยงาน ดังนี้ ข้อ 1 การส่งเสริมให้
มีการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตั้งแต่เยาว์วัย และตลอดจนทุกช่วงชีวิตให้แก่เยาวชนและประชาชน  มีหน่วยงาน
ระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ 21 หน่วยงาน ข้อ 2 การส่งเสริมการมีส่วน
ร่วมที่เข้มแข็งของภาคประชาชนในทุกระดับ มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา  และ
ข้อเสนอแนะ 18 หน่วยงาน ข้อ 3 การปรับปรุงกฎระเบียบในการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ของทางราชการ มีหน่วย
งานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ 19 หน่วยงาน ข้อ 4 การสร้างกลไกข้อ
มูลข่าวสารให้เกิดความโปร่งใส  มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ
20  หน่วยงาน  ข้อ  5  รัฐต้องสนับสนุนองค์กรภาคประชาชน และองค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ให้มีความเข้มแข็ง มีอิสระ  รวมทั้งมีบุคลากรที่เพียงพอกับการทำหน้าที่
ตรวจสอบสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน  ปัญหา  และข้อ
เสนอแนะ  16  หน่วยงาน  ข้อ 6  การตัดสินใจลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์
ของประเทศชาติเป็นสำคัญ มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผลการดำเนินงาน  ปัญหา  และข้อเสนอแนะ 9
หน่วยงาน  และข้อ 7  รัฐต้องพัฒนาการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย  มีหน่วยงานระดับกระทรวงรายงานผล
การดำเนินงาน ปัญหา และข้อเสนอแนะ 16 หน่วยงาน

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ
คดีพิเศษ ดังนี้ นายเกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ พลตำรวจเอก จุมพล มั่นหมาย นายชัช ชลวร  พลตำรวจตรี พีรพันธุ์ 
เปรมภูมิ นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม และนายโสภณ รัตนากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย  นายวีรพงษ์ รามางกูร ผู้ทรง
คุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินการธนาคาร นาวาตรี  วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศ และนายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(31  กรกฎาคม  2549)  เป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ
คดีพิเศษ ดังนี้ นายเกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ พลตำรวจเอก จุมพล มั่นหมาย นายชัช ชลวร  พลตำรวจตรี พีรพันธุ์ 
เปรมภูมิ นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม และนายโสภณ รัตนากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย  นายวีรพงษ์ รามางกูร ผู้ทรง
คุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินการธนาคาร นาวาตรี  วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศ และนายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(31  กรกฎาคม  2549)  เป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ
ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็บชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการ
พิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอผลการประชุมคณะ
กรรมการ ฯ ครั้งที่ 3/2548, 8/2548 และ 1/2549 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2548,  28 ธันวาคม 2548 และ 
1 กุมภาพันธ์ 2549 ตามลำดับ ที่ประชุมได้พิจารณาตัดสินชี้ขาดกรณีพิพาท  รวม  15  เรื่อง  เป็นกรณีพิพาท
ระหว่างส่วนราชการกับเอกชน จำนวน 8 เรื่อง กรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับส่วนราชการ  ส่วนราชการ
กับรัฐวิสาหกิจ และรัฐวิสาหกิจกับรัฐวิสาหกิจ จำนวน 7  เรื่อง  และในการพิจารณาตัดสินชี้ขาดการดำเนินคดี
ดังกล่าว คณะกรรมการฯ มีมติให้ตั้งเป็นข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรีว่า การที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวง
แรงงาน   อนุมัติให้ผู้รับทุนลาออกจากราชการทั้งที่ยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาการใช้ทุนและยังไม่ได้ชดใช้เงิน
ตามสัญญาเป็นเหตุให้ทางราชการเสียหาย  และกรณีทำนองเดียวกันนี้มีเกิดขึ้นในหน่วยงานของรัฐแห่งอื่น ๆ 
อยู่เนือง ๆ ควรให้มีหนังสือแจ้งกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และหน่วยงาน
อื่นที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติ เพื่อป้องกันเกิดความเสียหายแก่ราชการอีกต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลัก
เกณฑ์ วิธีการ  เงื่อนไขของบุคคลที่จะได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ปฏิบัติราชการแทน พ.ศ. ....
โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ของผู้ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดี
เอกชนกำหนดบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการบังคับคดีเอกชน  ในการพิจารณารับจดทะเบียน  กำหนดหลัก
สูตร วิธีการ และหลักเกณฑ์ในการอบรม  การมอบหมายงานให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเอกชน  การประพฤติผิด
มรรยาทการขาดคุณสมบัติ และการสิ้นสุดการเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีเอกชน รวมทั้งหลักเกณฑ์การอุทธรณ์
คำสั่งของคณะกรรมการ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  โดยรับข้อสังเกตของส่วน
ราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น สำนักงานอัยการสูงสุดมีข้อสังเกตว่า ในร่างกฎกระทรวง ข้อ 14 ควรเพิ่มเติมหลัก
การเรื่อง"การต่อใบอนุญาต" ไว้ด้วย และควรกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ในการขอต่อใบอนุญาตไว้ในหมวด
3 ด้วย ไปพิจารณาประกอบ แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) เสนอขอถอน
เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการคดีพิเศษประเภทกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จำนวน 9 ราย) คืนไปก่อน

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและอนุ
กรรมการในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ดังนี้ ประธานกรรมการให้ได้รับค่าตอบ
แทนเป็นรายเดือน ในอัตราเดือนละ 10,000 บาท เฉพาะเดือนที่มีการประชุม  หากเดือนใดไม่มีการประชุม
หรือมีการประชุมแต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมให้งดจ่าย รองประธานกรรมการให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน
ในอัตราเดือนละ  9,000  บาท   เฉพาะเดือนที่มีการประชุม   หากเดือนใดไม่มีการประชุมหรือมีการประชุม
แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมให้งดจ่าย  กรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน ใน
อัตราเดือนละ 8,000 บาท  เฉพาะเดือนที่มีการประชุม  หากเดือนใดไม่มีการประชุมหรือมีการประชุมแต่ไม่
ได้เข้าร่วมประชุมให้งดจ่าย เลขานุการให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้ง ในอัตราครั้งละ 1,000 บาท โดยได้
รับค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่ง  ผู้ช่วยเลขานุการให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้ง  ในอัตราครั้งละ
1,000  บาท   โดยได้รับค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียวในหนึ่งวัน   สำหรับตำแหน่งที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการ
หรือคณะทำงานและคณะทำงานที่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติแต่งตั้ง ไม่สามารถ
กำหนดให้ได้รับเบี้ยประชุมตามความเห็นของกระทรวงการคลัง

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทาน
อภัยโทษ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ  พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อเป็นการถวายพระราช
กุศล และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้แก้ไขตามข้อสังเกตของ
สำนักราชเลขาธิการ ดังนี้ ร่างมาตรา 3 นิยามคำว่า "ผู้ต้องกักขัง" ให้ตัดข้อความว่า "และให้หมายความรวม
ถึงผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกและมีโทษกักขังรวมอยู่ด้วย" และร่างมาตรา 5 ที่บัญญัติว่า  "ผู้ต้องโทษดังต่อ
ไปนี้ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษพ้นโทษ"  แก้ไขเป็น  "ผู้ต้องโทษดังต่อไปนี้ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ
ปล่อยตัว"  และให้ร่างพระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น
ไป แล้วดำเนินการต่อไปได้