ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 57 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 1121 - 1140 จากข้อมูลทั้งหมด 1937 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1121 | ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (นายสุจริต ปัจฉิมนันท์) | ยธ | 21/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอแต่งตั้ง
นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามยาเสพติด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (21 มิถุนายน 2548) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1122 | ขออนุมัติแต่งตั้งผู้ตรวจราชการกระทรวง (กระทรวงยุติธรรม) (นางชูจิรา กองแก้ว) | ยธ | 21/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นางชูจิรา กองแก้ว
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1123 | รายงานผลการปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ | ยธ | 21/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย
ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2547 ได้จับกุมนางอรนุช ธีราทรง และนางสาววราภรณ์ ธีราทรง พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50,000 เม็ด และในวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ได้ขยายผลไปจับกุม นายเอนก หรือโอฬาร สุดิรัตน์ พร้อมของกลางยาบ้า 1.3 ล้านเม็ด ในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานีและกรุงเทพ มหานคร และได้มีคำสั่งอนุมัติให้จับกุมนายธนพัฒน์ หรือวัธนา อินทรแก้ว กับพวก รวม 7 คน ในข้อหา สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถจับกุมนายธนพัฒน์ ฯ และจ่าโทสมพงษ์ บุญตาม ได้ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2548 นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2548 สามารถจับกุมนางวราพร นธีธาร ตามหมายจับของศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฟอกเงินโดยโอนหรือรับโอน เปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือ ปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินนั้น ส่วนการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินตาม พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 สามารถยึด และอายัดทรัพย์สินได้จำนวน 88 รายการ มูลค่าประมาณ 60.9 ล้านบาท และตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จำนวน 10 รายการ มูลค่าประมาณ 36.6 ล้านบาท รวมทรัพย์ สินที่ยึดและอายัด มูลค่าประมาณ 97.5 ล้านบาท สำหรับบุคลที่มีหมายจับซึ่งหลบหนีและยังจับกุมตัวไม่ได้ จะได้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และจะได้สืบสวนสอบสวน ขยายผลไปยังเครือข่ายที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1124 | ขออนุมัติแต่งตั้งผู้ตรวจราชการกระทรวง | ยธ | 16/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นางชูจิรา กองแก้ว
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1125 | สถานการณ์การปราบปรามยาเสพติดบริเวณภาคเหนือตอนบน (Agenda based) | ยธ | 14/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดทำเอกสารสถาน
การณ์การปราบปรามยาเสพติดบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยเนื้อหาของเอกสารฉบับนี้จะประกอบด้วย สถาน การณ์ยาเสพติดภายนอกประเทศ สถานการณ์การนำเข้ายาเสพติด สถานการณ์การค้ายาเสพติด สถานการณ์ การแพร่ระบาด ผลการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดที่สำคัญ ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการปราบ ปรามการผลิตและค้ายาเสพติด และความร่วมมือระหว่างไทย จีน สปป.ลาว และกัมพูชาในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1126 | การนำเสนอรายงานของประเทศไทยเรื่องการปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง | ยธ | 07/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอเรื่อง การนำเสนอรายงานของประเทศ
ไทย เรื่อง การปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ต่อคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการอนุวัติการตามพันธกรณีตามกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิ พลเมืองและสิทธิทางการเมืองในการประชุม สมัยที่ 84 ระหว่างวันที่ 19 - 20 กรกฎาคม 2548 ณ นคร เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ สิทธิทางการเมือง เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2539 ซึ่งมีผลบังคับใช้กับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2540 และได้จัดส่งรายงานของประเทศไทยต่อคณะกรรมการ ฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2547 ในการนี้ คณะ กรรมการ ฯ ได้ส่งคำถามเกี่ยวกับรายงาน ฯ ดังกล่าว จำนวน 26 ข้อ มายังประเทศไทยเพื่อขอทราบข้อมูล เพิ่มเติม โดยประเด็นคำถาม 26 ข้อดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นการขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการเชิงระบบ ที่ดำเนินการตามพันธกรณี และบางประเด็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการ ใช้กฎอัยการศึก การปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุม การคุ้มครองสิทธิเด็ก การค้ามนุษย์ ฯลฯ โดยขณะนี้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกำลังจัดเตรียมข้อมูลในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบคำถามดังกล่าว ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของ กระทรวงแรงงาน ที่เห็นควรแก้ไขประเด็นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงแรงงานในรายงานของ ประเทศไทย เรื่อง การปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองต่อราย งานสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยมอบให้กระทรวงยุติธรรมและสำนักงาน อัยการสูงสุด ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ประสานงานในการจัดทำรายงาน ฯ ดังกล่าวในครั้ง ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1127 | ขอยืนยันคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน รวม 10 คำสั่ง) | ยธ | 31/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ป.ป.ส. เสนอให้คงการบังคับใช้คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด การปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการต่อสู้เพื่อเอาชนะ ความยากจน รวม 10 คำสั่ง ดังนี้ (1) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 119/2544 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2544 เรื่อง แนวทางการใช้พลัง แผ่นดินเพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติด (2) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 29/2546 ลงวันที่ 28 มกราคม 2546 เรื่อง การต่อสู้เพื่อเอาชนะยา เสพติด (3) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 30/2546 ลงวันที่ 28 มกราคม 2546 เรื่อง จัดตั้งศูนย์อำนวยการ ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (4) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 31/2546 ลงวันที่ 28 มกราคม 2546 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดระดับต่าง ๆ (5) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 75/2546 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2546 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดเพิ่มเติม (6) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 105/2546 ลงวันที่ 21 เมษายน 2546 เรื่อง ปรับปรุงองค์ประกอบ ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (7) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 139/2546 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 เรื่อง การปราบปรามผู้มี อิทธิพล (8) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 271/2546 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 เรื่อง การดำเนินการ ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน (9) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 272/2546 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 เรื่อง จัดตั้งศูนย์อำนวย การต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ (10) คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 279/2547 เรื่อง ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของศูนย์ ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1128 | ผลการเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงภายใน สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะระหว่างวันที่ 21 - 25 พฤษภาคม 2548 พร้อมบันทึกแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติด และการจัดพิธีส่งมอบโครงการความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 ณ นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | ยธ | 31/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการป้องกันและปราบปราม
ยาเสพติด ของรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงภายใน สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2548 ณ กรุงเทพ ฯ และจังหวัดเชียงราย และการจัดพิธีส่งมอบโครงการความร่วมมือด้านการปราบ ปรามยาเสพติดระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 ณ นคร เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สรุปได้ดังนี้ การเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติดของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงภายใน สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ โดย คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้เดินทางไปศึกษาดูงานการพัฒนาทางเลือก โครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้า หลวง และเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อข้าราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในโอกาสนี้ได้มีการลงนาม ร่วมกันในบันทึกแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติด โดยพลตำรวจโทกฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และ Mr. Li Yuanzheng รองเลขาธิการคณะกรรมาธิการควบ คุมยาเสพติด (National Narcotics Control Commission-NNCC) เป็นผู้ลงนามฝ่ายจีน โดยบันทึกแสดงเจตจำนง มีสาระสำคัญคือ หน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพ ติดที่จับกุมได้ เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับคุณลักษณะของยาเสพติดอันจะนำไปใช้ประโยชน์ ในการสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ส่วนพิธีส่งมอบโครงการความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติดระหว่าง ไทย และ สปป.ลาว สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติลาวเพื่อการตรวจตราและควบคุมยา เสพติด โดยพลตำรวจโทกฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการ ป.ป.ส. และนายลินทอง เพ็ดสะหวัน หัวหน้าสำนักงาน เลขาธิการประจำคณะกรรมการแห่งชาติลาวเพื่อการตรวจตราและควบคุมยาเสพติด ได้ลงนามในบันทึกส่งมอบ- รับมอบความช่วยเหลือความร่วมมือด้านปราบปรามยาเสพติดระหว่างสำนักงาน เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 ณ นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1129 | ร่างพระราชบัญญัติยกเว้นการนำมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้กับผู้สูญหายในกรณีธรณีพิบัติ พ.ศ... (Agenda based) | ยธ | 24/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเว้นการนำ
มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้กับผู้สูญหายในกรณีธรณีพิบัติ พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ ไม่ให้นำระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มา ใช้กับผู้สูญหายในกรณีธรณีพิบัติ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติที่กระทรวงยุติธรรมเสนอกำหนดเพียงหลัก การว่า ไม่ให้นำระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มา ใช้จึงควรกำหนดให้ครบถ้วนและชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยว่าให้ทายาทและผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องขอต่อศาลเพื่อ สั่งให้เป็นคนสาบสูญได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยไม่นำระยะเวลาตามมาตรา 61 มาใช้ และโดยที่มีการใช้คำว่า "ธรณีพิบัติ" และ "ธรณีพิบัติภัย" ในที่ต่าง ๆ แตกต่างกัน เช่น ร่างพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ และในร่างระเบียบของกระทรวงการคลัง จึงสมควรพิจารณาให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เหมาะสม และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมทั้งพิจารณาว่า หากจะดำเนินการร่างกฎหมายในเรื่องนี้ในรูปแบบพระ ราชกำหนด หากเห็นว่า เหมาะสมให้ดำเนินการยกร่างพระราชกำหนด แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ หากสมควรดำเนินการในรูปของพระราชบัญญัติ ให้นำเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน ราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปได้ ไปพิจารณาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1130 | สรุปรายงานผลการสำรวจประเมินสถานการณ์ยาเสพติด ครั้งที่ 7 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2547) | ยธ | 24/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับผลการสำรวจประเมินสถาน
การณ์ยาเสพติด ครั้งที่ 7 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2547 สรุปได้ดังนี้ ผลการสำรวจสถานการณ์ยา เสพติดด้านกลุ่มผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติด (Supply) ประชาชนมีความเห็นว่า เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย โดย เฉพาะจำนวนผู้ค้ายาเสพติดและเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง และยังระบุว่า สามารถหาซื้อยาเสพติดได้เพิ่มสูง ขึ้นและราคายาบ้าเริ่มลดลง ด้านกลุ่มผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand) ประชาชนมีความเห็นว่า จำนวนผู้เสพ ยาบ้า กัญชา สารระเหย และเฮโรอีน เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่การดำเนินงานกับกลุ่มผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ยังคงมี การดูแลแก้ไขฟื้นฟูพัฒนาอาชีพและรายได้รวมทั้งการปรับเปลี่ยนเจตคติของสังคม/ชุมชนต่อผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพ ติดที่ผ่านการบำบัดฟื้นฟู และพัฒนาแล้วอย่างต่อเนื่อง และด้านกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) ประชาชนมีความเห็นว่า แหล่งมั่วสุม/แพร่ระบาดยาเสพติดมีแนวโน้มลดลง กลไกเฝ้าระวังปัญหายา เสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน มีประสิทธิภาพสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ภายใน 15 วัน ประชาชนในพื้นที่มี ความรู้ ความเข้าใจและเจตจำนงที่จะเข้าร่วมเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด และเห็นว่าโครงการทูบีนัมเบอร์วันมีส่วน ช่วยในการแก้ไขปัญหายาเสพติด สำหรับความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของรัฐบาล (Satisfaction) ภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 84.5 ซึ่งใกล้เคียงกับผลการสำรวจ ฯ ครั้งที่ 6 (ร้อยละ 84.9)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1131 | การรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ 2548 (มกราคม - มีนาคม 2548) | ยธ | 24/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับผลความก้าวหน้าของโครงการ
หรือเรื่องเร่งด่วนด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2548 สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาตัวยา/ผู้ค้ายาเสพติด (Supply) สามารถจับ กุมผู้ผลิตได้ 108 คดี ผู้ต้องหา 105 คน จับกุมผู้ค้ารายสำคัญได้ 883 คดี ผู้ต้องหา 1,134 คน จำนวนของกลาง ยาบ้าที่ยึดได้ 2,704,283 เม็ด การควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ ได้ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดและปิด ล้อมตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยได้ 2,191 คดี ผู้ต้องหา 2,625 คน ส่วนการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนว ชายแดนได้จัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจตามแนวชายแดนและจับกุมได้ผู้ต้องหา 548 คน ของกลางยาบ้า 0.521 ล้าน เม็ด และเฮโรอีน 33.98 กิโลกรัม เป็นต้น ผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพ ติด (Demand) ในส่วนของการบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษาใน ระบบสมัครใจ 1,084 ราย ระบบบังคับบำบัด 1,487 ราย และระบบต้องโทษ 1,288 ราย โดยผู้ผ่านการบำบัด ฟื้นฟูและพัฒนาสมรรถภาพ ได้มีการติดตามและดูแลช่วยเหลือเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุขในสังคม พึ่ง ตนเองได้ และได้รับการยอมรับ โดยให้โอกาสในการเข้ารับการศึกษาต่อและประกอบสัมมาอาชีพไม่กลับไปใช้ยา เสพติดซ้ำ เป็นต้น ส่วนผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) ได้จัดฝึกอบรมให้กับแกนนำเยาวชนเพื่อพัฒนาศักยภาพและความเป็นผู้นำป้องกันยาเสพติด และสร้าง จิตสำนึกการมีส่วนร่วมในการช่วยกันป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อเสริมความเข้มแข็ง การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนด้วยการตัดวงจรปัญหา 3 ด้าน ได้แก่ การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด (Supply) การลดความต้องการในกลุ่มผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด (Demand) และการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) และการดำเนินโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนคน รุ่นใหม่ให้ห่างไกลยาเสพติด และสามารถดึงผู้เสพกลับเข้าสู่ครอบครัวสังคมที่อบอุ่นเริ่มต้นชีวิตใหม่ ภายใต้โครง การ To Be Number One ตามแนวคิดที่ว่า "เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" และ "ใครติดยามือขึ้น" ซึ่งผลการดำเนิน งานนับตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2548 มีจำนวนสมาชิกทั่วประเทศ 27 ล้านคน และสมาชิกชมรมผู้ ประสานพลังแผ่นดิน 3.3 ล้านคน เป็นต้น สำหรับผลการดำเนินงานตามยุทธศาสต์การบริหารจัดการเชิงบูรณา การ เช่น การบูรณาการการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งในระดับนโยบาย แนวคิด และแนว ทางในการดำเนินงานเพื่อทำความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน กำหนดแนวทางให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ประสาน ความร่วมมือในการดำเนินงาน ตลอดจนบูรณาการทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูง สุด และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และการเสริมสร้างศักยภาพและเอกภาพในการดำเนินงานขององค์กรใน ทุกระดับให้มีการดำเนินงานที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ สถานการณ์ยาเสพติด ทิศทาง แผนงาน และโครงการ นอกจากนี้ บุคลากรของหน่วยงานจะต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวให้ทันกับ สถานการณ์และยุทธศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1132 | มาตรการและโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์การฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน | ยธ | 10/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ปฏิบัติ
หน้าที่ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอันดามัน เสนอการปรับลดเงินงบประมาณการ ดำเนินการตามมาตรการ และโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์การฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 6 จังหวัดชาย ฝั่งทะเลอันดามัน จากเดิมลงเหลือ 1,061,805,200 บาท และอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวจากเงินงบ กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยให้ขอตกลงใน รายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นเจ้าภาพ รับผิดชอบเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามมาตรการและโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์ หากมี ความจำเป็น และไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้เดิมภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2548 ได้ ก็ให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของโครงการและระยะเวลาการดำเนินการที่อาจ จำเป็นต้องปรับขยายให้เหมาะสมด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1133 | รายงานผลการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 | ยธ | 10/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอดังนี้ รับทราบสรุปผลการประชุมสหประชาชาติว่าด้วย
การป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 18-25 เมษายน 2548 ณ ศูนย์ การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 3,221 คน จาก 132 ประเทศ โดยเนิ้อหาและรูปแบบของ การประชุมได้กำหนดกรอบการประชุมภายใต้หัวข้อ "การผนึกกำลังและการโต้ตอบ : การดำเนินกลยุทธ์ร่วม กันในการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา" (Synergiesand responses : strategic alliances in crime prevention and crirninal justice) โดยมีเนื้อหาที่จะนำมาอภิปรายแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบ การณ์ส่วนใหญ่จะสอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน เช่น ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย การคอร์รัปชัน การฟอกเงิน อาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการลงทุน อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ อาชญา กรรมเมือง รวมไปถึงการสร้างมาตรฐานและการปฏิรูปงานด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรม ทางอาญาด้วย รูปแบบการประชุมแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ การประชุมเต็มคณะ (Plenary session) การ ประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และการประชุมคู่ขนาน (Ancillary meeting) ในส่วนของไทยได้เสนอเรื่อง สำคัญในหลายเรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด การจำกัดสารตั้งต้นในเรื่องยาเสพติด เรื่องเศรษฐกิจ พอเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาที่มาของอาชญากรรมการส่งเสริมการต่อต้านการก่อการร้ายกระบวนการยุติธรรมเชิง สมานฉันท์ (Restorative Justice) การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวกับการโจรกรรมวัตถุโบราณ และการลักลอบขนย้ายสัตว์หายาก เป็นต้น และเมื่อเสร็จสิ้นประชุมได้มีการแถลงปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) รวม 35 ข้อ จากการประชุมดังกล่าว ทำให้ไทยได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ได้รับทราบ ประสบการณ์ใหม่ ๆ หลายประการจากต่างประเทศเป็นเวทีสำคัญของไทยที่จะได้แสดงบทบาทความเป็นผู้ นำด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรม ทำให้บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมของไทยมีโอกาสเข้าร่วมการ ประชุมระดับโลก และได้รับรู้เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ของตน ตลอดจนได้แสดงศักย ภาพและความพร้อมในการจัดประชุมระดับโลกทั้งในเชิงเนื้อหาและพิธีการ และเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำสรุปประเด็นสำคัญของปฏิญญากรุงเทพ รวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบัน แนวทางการดำเนินงาน และหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้มีการดำเนินการให้เป็น ไปตามปฏิญญากรุงเทพอย่างเป็นรูปธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1134 | บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน [ระหว่างสำนักงาน ปปง. กับ The Central Control Board (CCB) ประเทศพม่า)] | ยธ | 03/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอบันทึกความเข้า
ใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระหว่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กับ The Central Control Board (CCB) ประเทศพม่า ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เป็นต้นแบบในการลงทุน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1135 | บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน [(ระหว่าง สำนักงาน ปปง. กับ The Financial Intelligence Unit ประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์)] | ยธ | 03/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอบันทึกความเข้า
ใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระหว่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กับ The Financial Intelligence Unit ประเทศเซนต์วิน เซนต์และเกรนาดีนส์
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1136 | บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน [(ระหว่าง สำนักงาน ปปง. กับ The Financial Intelligence Agency (FIA) ประเทศบัลแกเรีย)] | ยธ | 03/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอบันทึกความเข้า
ใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระหว่างสำนักงาน ปปง. กับ The Financial Intelligence Agency (FIA) ประเทศบัลแกเรีย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1137 | รายงานผลการดำเนินงานเพื่อเตรียมการจัดประชุมสหประชาชาติฯ ครั้งที่ 11 | ยธ | 05/04/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อเตรียมการ
จัดประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 (The Eleventh UN Congress on Crime Prevention and Criminal Justice) ระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน 2548 ณ ศูนย์การ ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในส่วนของความพร้อมด้านพิธีการ ประกอบด้วย ด้านการอำนวยการทั่วไปด้านการแพทย์ ด้านการงบประมาณ การเงินและการพัสดุ ด้านสถานที่ประชุม สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และยานพาหนะ ด้านพิธีการด้านการต้อนรับ การลงทะเบียน การเลี้ยงรับรอง การทัศนศึกษา ด้านการต้อนรับและอำนวยความ สะดวก ณ ท่าอากาศยาน ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ด้านการประชาสัมพันธ์และสารนิเทศ ด้านการศึกษาดูงาน และด้านการจัดหาเจ้าหน้าที่ประสานงาน ทั้งนี้ ในการเตรียมการจัดประชุมได้มีการจัดจ้าง ผู้บริหารการประชุมมืออาชีพ (Professional Conference Organizer) หรือ PCO ของศูนย์การประชุม ฯ ทำหน้าที่ ในการเตรียมการประชุมในด้านต่าง ๆ ส่วนความพร้อมด้านสารัตถะ ได้มีการกำหนดเนื้อหา นโยบายและความ ร่วมมือทางวิชาการ และการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศ สำหรับการประชุม ฯ โดยมี ภารกิจสำคัญ ได้แก่ การทำรายงานประเทศไทย (Country Report) ประชุมเจรจาและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ สหประชาชาติในการจัดทำปฏิญญากรุงเทพ หรือ Bangkok Declaration ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประสานงานกับคณะกรรมการด้านพิธีการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1138 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ และนายธนกร นันที) | ยธ | 29/03/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งนายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ ดำรง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายธนกร นันที ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1139 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด จำนวน 24 จังหวัด) | ยธ | 08/03/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้มีการจัดตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัด จำนวน 24 จังหวัด สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง จำนวน 190,368,000 บาท ให้จัดตั้งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 12 จังหวัด เฉพาะจังหวัดที่มีความจำเป็น เร่งด่วนและมีความพร้อมก่อน ที่เหลือให้จัดตั้งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ต่อไป ส่วนกรอบอัตรากำลังให้ใช้ วิธีการเกลี่ยอัตรากำลังและจ้างพนักงานราชการตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณ สนับสนุนงบประมาณให้กับสถานพินิจที่ต้องรับภาระดำเนินการแทนจังหวัดที่ยังไม่ได้จัดตั้งสถานพินิจด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1140 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | ยธ | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการพิจารณา
ชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอผลการประชุมคณะกรรม การพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 9/2547 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2547, ครั้งที่ 10/2547 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2547, ครั้งที่ 11/2547 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2547 และครั้งที่ 12/2547 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2547 โดยที่ประชุมได้พิจารณาตัดสินชี้ขาด กรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับเอกชน ส่วนราชการกับส่วนราชการ ส่วนราชการกับรัฐวิสาหกิจ และ รัฐวิสาหกิจกับรัฐวิสาหกิจ จำนวน 23 เรื่อง ประกอบด้วย กรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับเอกชน ตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 จำนวน 6 เรื่อง และกรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับ ส่วนราชการ ส่วนราชการกับรัฐวิสาหกิจ และรัฐวิสาหกิจกับรัฐวิสาหกิจ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 จำนวน 17 เรื่อง ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2544 ถึง พ.ศ. 2547 คณะกรรมการ ฯ ได้มีการประชุมรวม 20 ครั้ง พิจารณาตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทไปแล้วจำนวน 195 เรื่อง ทุนทรัพย์ที่พิพาท ทั้งสิ้น 4,404,570,088.39 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
