ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 57 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 1121 - 1140 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1121 | ผลการเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงภายใน สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะระหว่างวันที่ 21 - 25 พฤษภาคม 2548 พร้อมบันทึกแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติด และการจัดพิธีส่งมอบโครงการความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 ณ นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | ยธ | 31/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการป้องกันและปราบปราม
ยาเสพติด ของรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงภายใน สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2548 ณ กรุงเทพ ฯ และจังหวัดเชียงราย และการจัดพิธีส่งมอบโครงการความร่วมมือด้านการปราบ ปรามยาเสพติดระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 ณ นคร เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สรุปได้ดังนี้ การเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติดของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงภายใน สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ โดย คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้เดินทางไปศึกษาดูงานการพัฒนาทางเลือก โครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้า หลวง และเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อข้าราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในโอกาสนี้ได้มีการลงนาม ร่วมกันในบันทึกแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพติด โดยพลตำรวจโทกฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และ Mr. Li Yuanzheng รองเลขาธิการคณะกรรมาธิการควบ คุมยาเสพติด (National Narcotics Control Commission-NNCC) เป็นผู้ลงนามฝ่ายจีน โดยบันทึกแสดงเจตจำนง มีสาระสำคัญคือ หน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนตัวอย่างยาเสพ ติดที่จับกุมได้ เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับคุณลักษณะของยาเสพติดอันจะนำไปใช้ประโยชน์ ในการสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ส่วนพิธีส่งมอบโครงการความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติดระหว่าง ไทย และ สปป.ลาว สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติลาวเพื่อการตรวจตราและควบคุมยา เสพติด โดยพลตำรวจโทกฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการ ป.ป.ส. และนายลินทอง เพ็ดสะหวัน หัวหน้าสำนักงาน เลขาธิการประจำคณะกรรมการแห่งชาติลาวเพื่อการตรวจตราและควบคุมยาเสพติด ได้ลงนามในบันทึกส่งมอบ- รับมอบความช่วยเหลือความร่วมมือด้านปราบปรามยาเสพติดระหว่างสำนักงาน เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 ณ นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
|
|||||||||||||||||||||||||||
1122 | ร่างพระราชบัญญัติยกเว้นการนำมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้กับผู้สูญหายในกรณีธรณีพิบัติ พ.ศ... (Agenda based) | ยธ | 24/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเว้นการนำ
มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้กับผู้สูญหายในกรณีธรณีพิบัติ พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ ไม่ให้นำระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มา ใช้กับผู้สูญหายในกรณีธรณีพิบัติ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติที่กระทรวงยุติธรรมเสนอกำหนดเพียงหลัก การว่า ไม่ให้นำระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มา ใช้จึงควรกำหนดให้ครบถ้วนและชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยว่าให้ทายาทและผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องขอต่อศาลเพื่อ สั่งให้เป็นคนสาบสูญได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยไม่นำระยะเวลาตามมาตรา 61 มาใช้ และโดยที่มีการใช้คำว่า "ธรณีพิบัติ" และ "ธรณีพิบัติภัย" ในที่ต่าง ๆ แตกต่างกัน เช่น ร่างพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ และในร่างระเบียบของกระทรวงการคลัง จึงสมควรพิจารณาให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เหมาะสม และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมทั้งพิจารณาว่า หากจะดำเนินการร่างกฎหมายในเรื่องนี้ในรูปแบบพระ ราชกำหนด หากเห็นว่า เหมาะสมให้ดำเนินการยกร่างพระราชกำหนด แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ หากสมควรดำเนินการในรูปของพระราชบัญญัติ ให้นำเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน ราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปได้ ไปพิจารณาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1123 | สรุปรายงานผลการสำรวจประเมินสถานการณ์ยาเสพติด ครั้งที่ 7 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2547) | ยธ | 24/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับผลการสำรวจประเมินสถาน
การณ์ยาเสพติด ครั้งที่ 7 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2547 สรุปได้ดังนี้ ผลการสำรวจสถานการณ์ยา เสพติดด้านกลุ่มผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติด (Supply) ประชาชนมีความเห็นว่า เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย โดย เฉพาะจำนวนผู้ค้ายาเสพติดและเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง และยังระบุว่า สามารถหาซื้อยาเสพติดได้เพิ่มสูง ขึ้นและราคายาบ้าเริ่มลดลง ด้านกลุ่มผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand) ประชาชนมีความเห็นว่า จำนวนผู้เสพ ยาบ้า กัญชา สารระเหย และเฮโรอีน เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่การดำเนินงานกับกลุ่มผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ยังคงมี การดูแลแก้ไขฟื้นฟูพัฒนาอาชีพและรายได้รวมทั้งการปรับเปลี่ยนเจตคติของสังคม/ชุมชนต่อผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพ ติดที่ผ่านการบำบัดฟื้นฟู และพัฒนาแล้วอย่างต่อเนื่อง และด้านกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) ประชาชนมีความเห็นว่า แหล่งมั่วสุม/แพร่ระบาดยาเสพติดมีแนวโน้มลดลง กลไกเฝ้าระวังปัญหายา เสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน มีประสิทธิภาพสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ภายใน 15 วัน ประชาชนในพื้นที่มี ความรู้ ความเข้าใจและเจตจำนงที่จะเข้าร่วมเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด และเห็นว่าโครงการทูบีนัมเบอร์วันมีส่วน ช่วยในการแก้ไขปัญหายาเสพติด สำหรับความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของรัฐบาล (Satisfaction) ภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 84.5 ซึ่งใกล้เคียงกับผลการสำรวจ ฯ ครั้งที่ 6 (ร้อยละ 84.9)
|
|||||||||||||||||||||||||||
1124 | การรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ 2548 (มกราคม - มีนาคม 2548) | ยธ | 24/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับผลความก้าวหน้าของโครงการ
หรือเรื่องเร่งด่วนด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2548 สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาตัวยา/ผู้ค้ายาเสพติด (Supply) สามารถจับ กุมผู้ผลิตได้ 108 คดี ผู้ต้องหา 105 คน จับกุมผู้ค้ารายสำคัญได้ 883 คดี ผู้ต้องหา 1,134 คน จำนวนของกลาง ยาบ้าที่ยึดได้ 2,704,283 เม็ด การควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ ได้ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดและปิด ล้อมตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยได้ 2,191 คดี ผู้ต้องหา 2,625 คน ส่วนการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนว ชายแดนได้จัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจตามแนวชายแดนและจับกุมได้ผู้ต้องหา 548 คน ของกลางยาบ้า 0.521 ล้าน เม็ด และเฮโรอีน 33.98 กิโลกรัม เป็นต้น ผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพ ติด (Demand) ในส่วนของการบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษาใน ระบบสมัครใจ 1,084 ราย ระบบบังคับบำบัด 1,487 ราย และระบบต้องโทษ 1,288 ราย โดยผู้ผ่านการบำบัด ฟื้นฟูและพัฒนาสมรรถภาพ ได้มีการติดตามและดูแลช่วยเหลือเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุขในสังคม พึ่ง ตนเองได้ และได้รับการยอมรับ โดยให้โอกาสในการเข้ารับการศึกษาต่อและประกอบสัมมาอาชีพไม่กลับไปใช้ยา เสพติดซ้ำ เป็นต้น ส่วนผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) ได้จัดฝึกอบรมให้กับแกนนำเยาวชนเพื่อพัฒนาศักยภาพและความเป็นผู้นำป้องกันยาเสพติด และสร้าง จิตสำนึกการมีส่วนร่วมในการช่วยกันป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อเสริมความเข้มแข็ง การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนด้วยการตัดวงจรปัญหา 3 ด้าน ได้แก่ การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด (Supply) การลดความต้องการในกลุ่มผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด (Demand) และการป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) และการดำเนินโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนคน รุ่นใหม่ให้ห่างไกลยาเสพติด และสามารถดึงผู้เสพกลับเข้าสู่ครอบครัวสังคมที่อบอุ่นเริ่มต้นชีวิตใหม่ ภายใต้โครง การ To Be Number One ตามแนวคิดที่ว่า "เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" และ "ใครติดยามือขึ้น" ซึ่งผลการดำเนิน งานนับตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2548 มีจำนวนสมาชิกทั่วประเทศ 27 ล้านคน และสมาชิกชมรมผู้ ประสานพลังแผ่นดิน 3.3 ล้านคน เป็นต้น สำหรับผลการดำเนินงานตามยุทธศาสต์การบริหารจัดการเชิงบูรณา การ เช่น การบูรณาการการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งในระดับนโยบาย แนวคิด และแนว ทางในการดำเนินงานเพื่อทำความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน กำหนดแนวทางให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ประสาน ความร่วมมือในการดำเนินงาน ตลอดจนบูรณาการทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูง สุด และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และการเสริมสร้างศักยภาพและเอกภาพในการดำเนินงานขององค์กรใน ทุกระดับให้มีการดำเนินงานที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ สถานการณ์ยาเสพติด ทิศทาง แผนงาน และโครงการ นอกจากนี้ บุคลากรของหน่วยงานจะต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวให้ทันกับ สถานการณ์และยุทธศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
1125 | มาตรการและโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์การฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน | ยธ | 10/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ปฏิบัติ
หน้าที่ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอันดามัน เสนอการปรับลดเงินงบประมาณการ ดำเนินการตามมาตรการ และโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์การฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 6 จังหวัดชาย ฝั่งทะเลอันดามัน จากเดิมลงเหลือ 1,061,805,200 บาท และอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวจากเงินงบ กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยให้ขอตกลงใน รายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นเจ้าภาพ รับผิดชอบเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามมาตรการและโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์ หากมี ความจำเป็น และไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้เดิมภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2548 ได้ ก็ให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของโครงการและระยะเวลาการดำเนินการที่อาจ จำเป็นต้องปรับขยายให้เหมาะสมด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1126 | รายงานผลการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 | ยธ | 10/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอดังนี้ รับทราบสรุปผลการประชุมสหประชาชาติว่าด้วย
การป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 18-25 เมษายน 2548 ณ ศูนย์ การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 3,221 คน จาก 132 ประเทศ โดยเนิ้อหาและรูปแบบของ การประชุมได้กำหนดกรอบการประชุมภายใต้หัวข้อ "การผนึกกำลังและการโต้ตอบ : การดำเนินกลยุทธ์ร่วม กันในการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา" (Synergiesand responses : strategic alliances in crime prevention and crirninal justice) โดยมีเนื้อหาที่จะนำมาอภิปรายแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบ การณ์ส่วนใหญ่จะสอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน เช่น ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย การคอร์รัปชัน การฟอกเงิน อาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการลงทุน อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ อาชญา กรรมเมือง รวมไปถึงการสร้างมาตรฐานและการปฏิรูปงานด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรม ทางอาญาด้วย รูปแบบการประชุมแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ การประชุมเต็มคณะ (Plenary session) การ ประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และการประชุมคู่ขนาน (Ancillary meeting) ในส่วนของไทยได้เสนอเรื่อง สำคัญในหลายเรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด การจำกัดสารตั้งต้นในเรื่องยาเสพติด เรื่องเศรษฐกิจ พอเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาที่มาของอาชญากรรมการส่งเสริมการต่อต้านการก่อการร้ายกระบวนการยุติธรรมเชิง สมานฉันท์ (Restorative Justice) การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวกับการโจรกรรมวัตถุโบราณ และการลักลอบขนย้ายสัตว์หายาก เป็นต้น และเมื่อเสร็จสิ้นประชุมได้มีการแถลงปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) รวม 35 ข้อ จากการประชุมดังกล่าว ทำให้ไทยได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ได้รับทราบ ประสบการณ์ใหม่ ๆ หลายประการจากต่างประเทศเป็นเวทีสำคัญของไทยที่จะได้แสดงบทบาทความเป็นผู้ นำด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรม ทำให้บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมของไทยมีโอกาสเข้าร่วมการ ประชุมระดับโลก และได้รับรู้เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ของตน ตลอดจนได้แสดงศักย ภาพและความพร้อมในการจัดประชุมระดับโลกทั้งในเชิงเนื้อหาและพิธีการ และเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำสรุปประเด็นสำคัญของปฏิญญากรุงเทพ รวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบัน แนวทางการดำเนินงาน และหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้มีการดำเนินการให้เป็น ไปตามปฏิญญากรุงเทพอย่างเป็นรูปธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||
1127 | บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน [ระหว่างสำนักงาน ปปง. กับ The Central Control Board (CCB) ประเทศพม่า)] | ยธ | 03/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอบันทึกความเข้า
ใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระหว่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กับ The Central Control Board (CCB) ประเทศพม่า ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เป็นต้นแบบในการลงทุน
|
|||||||||||||||||||||||||||
1128 | บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน [(ระหว่าง สำนักงาน ปปง. กับ The Financial Intelligence Unit ประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์)] | ยธ | 03/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอบันทึกความเข้า
ใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระหว่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กับ The Financial Intelligence Unit ประเทศเซนต์วิน เซนต์และเกรนาดีนส์
|
|||||||||||||||||||||||||||
1129 | บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน [(ระหว่าง สำนักงาน ปปง. กับ The Financial Intelligence Agency (FIA) ประเทศบัลแกเรีย)] | ยธ | 03/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอบันทึกความเข้า
ใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระหว่างสำนักงาน ปปง. กับ The Financial Intelligence Agency (FIA) ประเทศบัลแกเรีย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1130 | รายงานผลการดำเนินงานเพื่อเตรียมการจัดประชุมสหประชาชาติฯ ครั้งที่ 11 | ยธ | 05/04/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อเตรียมการ
จัดประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 (The Eleventh UN Congress on Crime Prevention and Criminal Justice) ระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน 2548 ณ ศูนย์การ ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในส่วนของความพร้อมด้านพิธีการ ประกอบด้วย ด้านการอำนวยการทั่วไปด้านการแพทย์ ด้านการงบประมาณ การเงินและการพัสดุ ด้านสถานที่ประชุม สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และยานพาหนะ ด้านพิธีการด้านการต้อนรับ การลงทะเบียน การเลี้ยงรับรอง การทัศนศึกษา ด้านการต้อนรับและอำนวยความ สะดวก ณ ท่าอากาศยาน ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ด้านการประชาสัมพันธ์และสารนิเทศ ด้านการศึกษาดูงาน และด้านการจัดหาเจ้าหน้าที่ประสานงาน ทั้งนี้ ในการเตรียมการจัดประชุมได้มีการจัดจ้าง ผู้บริหารการประชุมมืออาชีพ (Professional Conference Organizer) หรือ PCO ของศูนย์การประชุม ฯ ทำหน้าที่ ในการเตรียมการประชุมในด้านต่าง ๆ ส่วนความพร้อมด้านสารัตถะ ได้มีการกำหนดเนื้อหา นโยบายและความ ร่วมมือทางวิชาการ และการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศ สำหรับการประชุม ฯ โดยมี ภารกิจสำคัญ ได้แก่ การทำรายงานประเทศไทย (Country Report) ประชุมเจรจาและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ สหประชาชาติในการจัดทำปฏิญญากรุงเทพ หรือ Bangkok Declaration ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประสานงานกับคณะกรรมการด้านพิธีการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
1131 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ และนายธนกร นันที) | ยธ | 29/03/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งนายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ ดำรง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายธนกร นันที ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
1132 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด จำนวน 24 จังหวัด) | ยธ | 08/03/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้มีการจัดตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัด จำนวน 24 จังหวัด สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง จำนวน 190,368,000 บาท ให้จัดตั้งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 12 จังหวัด เฉพาะจังหวัดที่มีความจำเป็น เร่งด่วนและมีความพร้อมก่อน ที่เหลือให้จัดตั้งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ต่อไป ส่วนกรอบอัตรากำลังให้ใช้ วิธีการเกลี่ยอัตรากำลังและจ้างพนักงานราชการตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณ สนับสนุนงบประมาณให้กับสถานพินิจที่ต้องรับภาระดำเนินการแทนจังหวัดที่ยังไม่ได้จัดตั้งสถานพินิจด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1133 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | ยธ | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการพิจารณา
ชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอผลการประชุมคณะกรรม การพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 9/2547 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2547, ครั้งที่ 10/2547 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2547, ครั้งที่ 11/2547 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2547 และครั้งที่ 12/2547 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2547 โดยที่ประชุมได้พิจารณาตัดสินชี้ขาด กรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับเอกชน ส่วนราชการกับส่วนราชการ ส่วนราชการกับรัฐวิสาหกิจ และ รัฐวิสาหกิจกับรัฐวิสาหกิจ จำนวน 23 เรื่อง ประกอบด้วย กรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับเอกชน ตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 จำนวน 6 เรื่อง และกรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับ ส่วนราชการ ส่วนราชการกับรัฐวิสาหกิจ และรัฐวิสาหกิจกับรัฐวิสาหกิจ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 จำนวน 17 เรื่อง ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2544 ถึง พ.ศ. 2547 คณะกรรมการ ฯ ได้มีการประชุมรวม 20 ครั้ง พิจารณาตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทไปแล้วจำนวน 195 เรื่อง ทุนทรัพย์ที่พิพาท ทั้งสิ้น 4,404,570,088.39 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
1134 | การโอนงบประมาณรายจ่าย | ยธ | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการโอนงบ
ประมาณรายจ่ายในงบดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองพยาน จำนวน 26 ล้านบาท ไปเป็นงบ รายจ่ายอื่น รายการเงินราชการลับ เพื่อใช้ในการคุ้มครองพยาน โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับความมั่นคงที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีผลในทางปฏิบัติ เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกระบวนการยุติ ธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถคุ้มครองพยานให้เกิดความปลอดภัย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1135 | ความตกลงสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสหประชาชาติฯ ครั้งที่ 11 | ยธ | 01/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาล
แห่งราชอาณาจักรไทยและสหประชาชาติในการจัดประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรม และความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน 2548 และอนุมัติให้เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มและผู้แทนถาวร แห่งราชอาณาจักรไทยประจำสำนักงานผู้แทนถาวรแห่งราชอาณาจักรไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุง เวียนนา หรือผู้รักษาราชการแทน เป็นผู้ลงนามความตกลงดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||
1136 | การรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ 2548 (ตุลาคม - ธันวาคม 2547) | ยธ | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่องเร่ง
ด่วนของรัฐบาลด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ระยะเวลาตุลาคม-ธันวา คม 2547 โดยมีผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจำแนกตามยุทธศาสตร์ ดังต่อไปนี้ (1) ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาตัวยา/ผู้ค้ายาเสพติด (Supply) ประกอบด้วย 8 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์ การทำลายโครงสร้างเครือข่ายการผลิตการค้ารายใหญ่และผู้มีอิทธิพล ยุทธศาสตร์การควบคุมการแพร่ระบาด ของยาเสพติดในพื้นที่ ยุทธศาสตร์การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ยุทธศาสตร์การควบคุมเคมีภัณฑ์ ยุทธศาสตร์การปราบปรามเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ยุทธศาสตร์การเฝ้าระวังยาเสพติดชนิด ใหม่ ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการข่าว และเทคโนโลยีการปราบปราม และยุทธศาสตร์การสร้างความ สัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศ (2) ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์การสำรวจค้นหา ชักจูงให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการ บำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนา ยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ยุทธศาสตร์ การติดตาม ดูแลช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และยุทธศาสตร์การปรับทัศนคติ เตรียมความพร้อมของชุมชน อาสาสมัคร เพื่อดูแลช่วยเหลือให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่ชุมชน (3) ยุทธศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มี โอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์การสร้าง กระแสและพลังขับเคลื่อนทางสังคม ยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ การสร้างครอบครัวและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาการทำงานในลักษณะ เครือข่าย และ (4) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเชิงบูรณาการ ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธ ศาสตร์การบูรณาการนโยบาย แนวคิด แนวทางการดำเนินงาน ยุทธศาสตร์การบูรณาการองค์กรการดำเนิน งานในทุกระดับ ยุทธศาสตร์การบูรณาการ เป้าหมาย/แผนงาน/งบประมาณ การดำเนินงาน และยุทธศาสตร์ การบูรณาการระบบอำนวยการ กำกับติดตาม รายงานผลการดำเนินงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||
1137 | ผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตั้งแต่มีนาคม 2544 ถึง ธันวาคม 2547 (Agenda based) | ยธ | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปผลการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะ
ยาเสพติดที่สำคัญ ระหว่างเดือนมีนาคม 2544-24 ธันวาคม 2547 สรุปได้ดังนี้ ด้านการสกัดกั้นโดยการตั้งจุด ตรวจ/จุดสกัด จับกุมและได้ผู้ต้องหารวม 25,972 คน ปิดล้อมตรวจค้น จับกุมและได้ผู้ต้องหารวม 27,785 คน และตรวจสถานบริการ โดยตรวจปัสสาวะพบสีม่วง 5,049 คน ด้านการปราบปราม/จับกุมผู้กระทำความผิดคดี ยาเสพติด ระหว่างเดือนมีนาคม-ธันวาคม 2544 จับกุมผู้กระทำผิด 177,015 ราย ผู้ต้องหา 187,920 คน เดือนมกราคม-ธันวาคม 2545 จับกุมผู้กระทำผิด 207,871 ราย ผู้ต้องหา 219,084 คน เดือนมกราคม- ธันวาคม 2546 จับกุมผู้กระทำผิด 101,901 ราย ผู้ต้องหา 107,830 คน และเดือนมกราคม-ธันวาคม 2547 จับกุมผู้กระทำผิด 42,884 ราย ผู้ต้องหา 46,584 คน ในส่วนของจำนวนของกลางยาเสพติดในปี พ.ศ. 2544 ยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 72.0 ล้านเม็ด ปี พ.ศ. 2545 จำนวน 95.3 ล้านเม็ด ปี พ.ศ. 2546 จำนวน 71.5 ล้าน และปี พ.ศ. 2547 จำนวน 25.87 ล้านเม็ด พร้อมทั้งได้เฝ้าระวังและยึดของกลางเป็นตัวยาชนิดใหม่ ๆ ที่มี การแพร่ระบาด เช่น เคตามีน ยาอี และไอซ์ เป็นต้น ด้านการยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดตามพระราช บัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2535 ในระหว่างปี พ.ศ. 2544- พ.ศ. 2545 ได้มีการยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2546 สามารถ ยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้จำนวน 2,164.6 ล้านบาท นอกจากนี้ ได้มีการยึดอายัดทรัพย์สินตามพระ ราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และมาตรการทางภาษี สำหรับด้านการบำบัด รักษาฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (ระบบสมัครใจ ระบบบังคับบำบัด ระบบต้องโทษ) เดือนมีนาคม -ธันวาคม 2544 มีจำนวน 66,517 ราย เดือนมกราคม-ธันวาคม 2545 มีจำนวน 74,133 ราย เดือนมกรา คม-ธันวาคม 2546 มีจำนวน 325,333 ราย และเดือนมกราคม-ธันวาคม 2547 มีจำนวน 25,464 ราย และ ด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชนเอาชนะยาเสพติด และพลังแผ่นดิน สามารถดำเนินเสริมสร้าง ความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติด โดยจำแนกเป็น หมู่บ้าน/ชุมชน ประเภท ก จำนวน 61,843 หมู่บ้าน/ชุมชน หมู่บ้าน/ชุมชน ประเภทข จำนวน 20,688 หมู่บ้าน/ชุมชน หมู่บ้าน/ชุมชน ประเภท ค จำนวน 1,562 หมู่บ้าน/ชุมชน และหมู่บ้าน/ชุมชน ประเภท ง จำนวน 128 หมู่บ้าน/ชุมชน รวมทั้งมีผู้ ประสานพลังแผ่นดินกระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวน 3,330,629 คน และสมาชิก TO BE NUMBER ONE จำนวน 26.4 ล้านคน ทำหน้าที่ในการป้องกันยาเสพติด
|
|||||||||||||||||||||||||||
1138 | รายงานผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในจังหวัดภาคใต้ | ยธ | 11/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้
ประสบภัยพิบัติในจังหวัดภาคใต้ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติ ธรรม ได้ร่วมรับบริจาคสิ่งของ และเปิดบัญชีรับบริจาคเงิน ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 329-1-22722 -1 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนแจ้งวัฒนะ มียอดเงินบริจาคตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2547 ถึงวันที่ 7 มกราคม 2548 จำนวนเงิน 1,806,579 บาท และจัดเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ล่ามให้ชาวต่างชาติที่มา ติดต่อเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์บุคคลสูญหาย และตรวจ DNA และการดำเนินงานกรมควบคุมประพฤติ โดย สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพังงา ได้นำรถยนต์เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปส่งที่โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และรับส่งชาวต่างชาติไปส่งที่สนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ส่วนสำนักงานคุม ประพฤติจังหวัดระนอง ได้ดำเนินการประสานงานกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแหลมสนนำผู้ถูกคุมประพฤติ ร่วมบูรณะสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ชำรุดเสียหาย ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน (บางเบน) อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกระบี่ ได้จัดโครงการผู้ถูกคุมประพฤติ จำนวน 100 คน ไปฟื้น ฟูสภาพหาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ร่วมรับข้อมูลการช่วยเหลือผู้ ประสบภัย และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสตูล ได้นำผู้ถูกคุมประพฤติไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในตำบล บ่อเจ็ดลูก อำเภอสะงู จังหวัดสตูล เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
1139 | รายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547) | ยธ | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ
ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 โดยในช่วงดังกล่าวมีผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ 3,217 ราย เป็นเพศชาย 2,769 ราย เพศหญิง 448 ราย อายุของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ มากกว่า 25 ปี 1,311 ราย อายุ 18-25 ปี 1,523 ราย อายุ 15-17 ปี 357 ราย และอายุ 7-14 ปี 26 ราย สถานภาพของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ ถูก ควบคุมตัว 1,662 ราย ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 1,555 ราย ประเภทยาเสพติด จำแนกเป็น เมทแอม เฟตามีน 2,521 ราย แอมเฟตามีน 351 ราย ฐานความผิด ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานเสพติดยาเสพ ติดให้โทษ 2,897 ราย รองลงมาคือ ความผิดฐานเสพและครอบครองยาเสพติด 280 ราย ในส่วนของ การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ได้มีคำวินิจฉัยผู้ เข้ารับการตรวจพิสูจน์ โดยให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบควบคุมตัว 1,373 ราย ให้เข้ารับการฟื้น ฟูสมรรถภาพแบบไม่ควบคุมตัว 1,366 ราย และส่งตัวคืนตำรวจและอัยการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปกติ 160 ราย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1140 | บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ระหว่าง สำนักงาน ปปง. กับ The Financial Monitoring Service ประเทศจอร์เจีย) | ยธ | 04/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เสนอ
ร่างบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงินระหว่างสำนักงาน ปปง. กับ The Financial Monitoring Service ประเทศจอร์เจีย
|
.....