ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 54 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 1061 - 1080 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1061 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ | ยธ | 31/07/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ
คดีพิเศษ ดังนี้ นายเกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ พลตำรวจเอก จุมพล มั่นหมาย นายชัช ชลวร พลตำรวจตรี พีรพันธุ์ เปรมภูมิ นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม และนายโสภณ รัตนากร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย นายวีรพงษ์ รามางกูร ผู้ทรง คุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินการธนาคาร นาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ และนายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (31 กรกฎาคม 2549) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการ ประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
||||||||||||||||||||||||
1062 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | ยธ | 27/06/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็บชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการ
พิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอผลการประชุมคณะ กรรมการ ฯ ครั้งที่ 3/2548, 8/2548 และ 1/2549 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2548, 28 ธันวาคม 2548 และ 1 กุมภาพันธ์ 2549 ตามลำดับ ที่ประชุมได้พิจารณาตัดสินชี้ขาดกรณีพิพาท รวม 15 เรื่อง เป็นกรณีพิพาท ระหว่างส่วนราชการกับเอกชน จำนวน 8 เรื่อง กรณีพิพาทระหว่างส่วนราชการกับส่วนราชการ ส่วนราชการ กับรัฐวิสาหกิจ และรัฐวิสาหกิจกับรัฐวิสาหกิจ จำนวน 7 เรื่อง และในการพิจารณาตัดสินชี้ขาดการดำเนินคดี ดังกล่าว คณะกรรมการฯ มีมติให้ตั้งเป็นข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรีว่า การที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวง แรงงาน อนุมัติให้ผู้รับทุนลาออกจากราชการทั้งที่ยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาการใช้ทุนและยังไม่ได้ชดใช้เงิน ตามสัญญาเป็นเหตุให้ทางราชการเสียหาย และกรณีทำนองเดียวกันนี้มีเกิดขึ้นในหน่วยงานของรัฐแห่งอื่น ๆ อยู่เนือง ๆ ควรให้มีหนังสือแจ้งกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และหน่วยงาน อื่นที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติ เพื่อป้องกันเกิดความเสียหายแก่ราชการอีกต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1063 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 22) | ยธ | 20/06/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลัก
เกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขของบุคคลที่จะได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ปฏิบัติราชการแทน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ของผู้ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดี เอกชนกำหนดบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการบังคับคดีเอกชน ในการพิจารณารับจดทะเบียน กำหนดหลัก สูตร วิธีการ และหลักเกณฑ์ในการอบรม การมอบหมายงานให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเอกชน การประพฤติผิด มรรยาทการขาดคุณสมบัติ และการสิ้นสุดการเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีเอกชน รวมทั้งหลักเกณฑ์การอุทธรณ์ คำสั่งของคณะกรรมการ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับข้อสังเกตของส่วน ราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น สำนักงานอัยการสูงสุดมีข้อสังเกตว่า ในร่างกฎกระทรวง ข้อ 14 ควรเพิ่มเติมหลัก การเรื่อง"การต่อใบอนุญาต" ไว้ด้วย และควรกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ในการขอต่อใบอนุญาตไว้ในหมวด 3 ด้วย ไปพิจารณาประกอบ แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
1064 | การแต่งตั้งคณะกรรมการคดีพิเศษประเภทกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จำนวน 9 ราย) | ยธ | 06/06/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) เสนอขอถอน
เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการคดีพิเศษประเภทกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จำนวน 9 ราย) คืนไปก่อน
|
||||||||||||||||||||||||
1065 | การกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและอนุกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 23/05/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและอนุ
กรรมการในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ดังนี้ ประธานกรรมการให้ได้รับค่าตอบ แทนเป็นรายเดือน ในอัตราเดือนละ 10,000 บาท เฉพาะเดือนที่มีการประชุม หากเดือนใดไม่มีการประชุม หรือมีการประชุมแต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมให้งดจ่าย รองประธานกรรมการให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน ในอัตราเดือนละ 9,000 บาท เฉพาะเดือนที่มีการประชุม หากเดือนใดไม่มีการประชุมหรือมีการประชุม แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมให้งดจ่าย กรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน ใน อัตราเดือนละ 8,000 บาท เฉพาะเดือนที่มีการประชุม หากเดือนใดไม่มีการประชุมหรือมีการประชุมแต่ไม่ ได้เข้าร่วมประชุมให้งดจ่าย เลขานุการให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้ง ในอัตราครั้งละ 1,000 บาท โดยได้ รับค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่ง ผู้ช่วยเลขานุการให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายครั้ง ในอัตราครั้งละ 1,000 บาท โดยได้รับค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียวในหนึ่งวัน สำหรับตำแหน่งที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานและคณะทำงานที่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติแต่งตั้ง ไม่สามารถ กำหนดให้ได้รับเบี้ยประชุมตามความเห็นของกระทรวงการคลัง |
||||||||||||||||||||||||
1066 | การขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี | ยธ | 23/05/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทาน
อภัยโทษ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อเป็นการถวายพระราช กุศล และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้แก้ไขตามข้อสังเกตของ สำนักราชเลขาธิการ ดังนี้ ร่างมาตรา 3 นิยามคำว่า "ผู้ต้องกักขัง" ให้ตัดข้อความว่า "และให้หมายความรวม ถึงผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกและมีโทษกักขังรวมอยู่ด้วย" และร่างมาตรา 5 ที่บัญญัติว่า "ผู้ต้องโทษดังต่อ ไปนี้ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษพ้นโทษ" แก้ไขเป็น "ผู้ต้องโทษดังต่อไปนี้ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัว" และให้ร่างพระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น ไป แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1067 | การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (จำนวน 3 ราย) | ยธ | 02/05/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรม
การพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายโสภณ รัตนากร ผู้ทรงคุณด้าน กฎหมาย นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานยุติธรรม และพลตำรวจเอกชาญชิต เพียรเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาชญาวิทยา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (2 พฤษภาคม 2549) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
||||||||||||||||||||||||
1068 | รายงานการดำเนินงานของรัฐต่อสาธารณะรายปี (รายงานประจำปี 2548) | ยธ | 25/04/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอรายงานการดำเนินงานของรัฐต่อสาธารณะ
รายปี (รายงานประจำปี พ.ศ. 2548)
|
||||||||||||||||||||||||
1069 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล คดียาเสพติด (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอัตราการจ่ายเงินสินบนเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 25/04/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่าย
ความมั่นคง) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงาน ป.ป.ส. เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอัตราการจ่ายเงินสินบนเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยสาระสำคัญของร่าง ระเบียบและร่างประกาศดังกล่าวเป็นการแก้ไขหลักเกณฑ์ วิธีการ รวมทั้งอัตราการจ่ายเงินสินบนเงินรางวัล คดียาเสพติด การสร้างเสริมแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปราบปรามยาเสพติดและสร้างขวัญ กำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ โดยรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาดังนี้ กระทรวง การคลังเห็นว่า ควรเพิ่มบทเฉพาะกาลที่กำหนดให้การขอและจ่ายเงินสินบนหรือเงินรางวัลสำหรับคดียาเสพ ติดที่มีการจับผู้ต้องหา หรือยึดยาเสพติดเป็นของกลางที่กระทำก่อนร่างระเบียบใช้บังคับ ให้ดำเนินการตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. 2537 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2526 และสำนักงบประมาณเห็นว่าการแก้ไขหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล คดียาเสพติดตามระเบียบและประกาศ ฯ มีผลให้เกิดภาระด้านงบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 3,280,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่สูงมาก ประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้รับ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้แล้ว จำนวน 110,000,000 บาท และส่งคณะกรรมการตรวจร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2548 แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1070 | การแต่งตั้งข้าราชการ ระดับ 10 | ยธ | 15/03/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นายชาติชาย สุทธิกลม ให้ดำรงตำแหน่ง
ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช) สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
||||||||||||||||||||||||
1071 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขึ้นในจังหวัดชัยนาท จังหวัดชุมพร จังหวัดตาก จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดพะเยา จังหวัดพังงา จังหวัดพิจิตร จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยโสธร และจังหวัดระนอง พ.ศ. .... | ยธ | 14/03/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถานพินิจ
และคุ้มครองเด็กและเยาวชนขึ้นในจังหวัดชัยนาท จังหวัดชุมพร จังหวัดตาก จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดพะเยา จังหวัดพังงา จังหวัดพิจิตร จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยโสธร และจังหวัด ระนอง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้จัดตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนชั้นในจังหวัดชัยนาท จังหวัดชุมพร จังหวัดตาก จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดพะเยา จังหวัดพังงา จังหวัดพิจิตร จังหวัด มหาสารคาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยโสธร และจังหวัดระนอง โดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดดังกล่าว และให้เปิดทำการตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1072 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 | ยธ | 28/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้อธิบดีกรมราช ทัณฑ์สามารถแต่งตั้ง หรือสั่งการให้ข้าราชการหรือพนักงานราชการในสังกัดไปปฏิบัติหน้าที่พัศดีหรือผู้คุมได้ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของสำนักเลขา ธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงที่เสนอมานี้ออกโดยอาศัยอำนาจมาตรา 13 และมาตรา 58 แห่ง พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ซึ่งกำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดอำนาจ และหน้าที่ของเจ้าพนักงานเรือนจำเท่านั้น มิได้ให้อำนาจรัฐมนตรีที่จะออกกฎกระทรวงกำหนดให้อธิบดีกรม ราชทัณฑ์มีอำนาจให้พนักงานราชการในสังกัดกรมราชทัณฑ์ทำการในหน้าที่พัศดีหรือผู้คุม ดังนั้น การออก กฎกระทรวงดังกล่าว จึงไม่สอดคล้องกับบทอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ฯ ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1073 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายบทเฉพาะกาลระยะเวลาการชันสูตรพลิกศพ) | ยธ | 28/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่ายความ
มั่นคง) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ กำหนดให้ขยายระยะเวลาผ่อนผันให้แพทย์ที่ต้องชันสูตรพลิกศพซึ่งมีเหตุจำเป็นไม่สามารถไปตรวจชัน สูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุได้ด้วยตนเอง กรณีตายโดยถูกสัตว์ทำร้าย ตายโดยอุบัติเหตุ และตายโดยยังไม่ปรากฏ เหตุ อาจมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ผ่านการ อบรมทางนิติเวชศาสตร์ไปร่วมตรวจชันสูตรพลิกศพจากเดิมที่กำหนดไว้ 5 ปี เป็น 10 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญ ญัตินี้ใช้บังคับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะ กรรมการกลั่นกรองฯ ที่เห็นว่า การผลิตแพทย์นิติเวชยังมีข้อจำกัดในการเพิ่มจำนวนอยู่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความ สนใจและสิ่งจูงใจของแพทย์ในการศึกษาต่อเพื่อเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านนิติเวชที่มีไม่มากพอ และข้อจำกัดด้าน กรอบอัตรากำลังของสำนักงาน ก.พ. กรณีนี้จะต้องมีการแก้ไขอย่างเป็นระบบต่อไป ในการสร้างสิ่งจูงใจ เช่น การให้ทุนการศึกษาและค่าตอบแทน เป็นต้น บทบัญญัติและมาตรการที่กำหนดตามกฎหมาย จะต้องสอดรับ กับความเป็นจริงในสังคมและให้เจ้าหน้าที่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง มิเช่นนั้นอาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ต่ำกว่า มาตรฐานหรือมีข้อกำหนดไว้แต่ไม่ได้ปฏิบัติ และการแก้ไขปัญหาเรื่องการชันสูตรพลิกศพจะต้องวางระบบกัน ใหม่ให้เหมาะสมและเป็นไปได้จริง ซึ่งอาจกำหนดให้แพทย์นิติเวชตรวจชันสูตรพลิกศพเฉพาะกรณีสำคัญที่มีข้อ โต้แย้งหรือเป็นที่ต้องการความเชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะเท่านั้น สำหรับกรณีทั่วไปอาจให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่ ผ่านการอบรมนิติเวชศาสตร์ดำเนินการได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย และส่งให้คณะกรรมการประสานงาน สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1074 | รายงานการติตตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2547 - 2549) และแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2550 - 2551 | ยธ | 21/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย พลังงานระบบราชการและประชาสัมพันธ์) ที่มีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอดังนี้ รับทราบรายงาน การติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2547- พ.ศ. 2549) และเห็นชอบแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2550-พ.ศ. 2551 โดยให้กระทรวง ยุติธรรม ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และความ เห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็นว่า ในการดำเนิน การตามแผนแม่บทฯ ควรมีการประสานงานเพื่อให้เกิดการบูรณาการและสามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะ สม เพื่อให้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้แผน ฯ สามารถบริหารงานได้อย่างมีอิสระตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมาย กำหนด และให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญ ความจำเป็นเร่งด่วนของเรื่อง รวม ทั้งพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขอจัดสรรงบประมาณ และกำลังคน แจ้งให้สำนักงบประมาณทราบเพื่อ พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ตามลำดับความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนต่อไป นอกจากนี้ แผนแม่บท ฯ ไม่ได้ ระบุงานในหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมในส่วนที่เกี่ยวกับศาลทหาร งานราชทัณฑ์ทหาร และเรือนจำทหาร ซึ่งมีอยู่ทั้งในกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ จึงควรประสานกับกระทรวงกลาโหมเพื่อเพิ่มเติมใน เรื่องนี้ด้วย และให้ขอความร่วมมือจากองค์กรอิสระในกระบวนการยุติธรรมนำไปใช้ประกอบในการพิจารณา จัดทำแผนการดำเนินงานให้มีความสอดคล้อง สนับสนุน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย กับให้สำนักงบ ประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมตามแผนแม่บท ฯ ตามกรอบและ แนวทางเนื้อหาสาระของแผนแม่บท ฯ ลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนตามประเด็นอภิปรายต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1075 | การรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม - ธันวาคม 2548) | ยธ | 14/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเรื่องเร่ง
ด่วนของรัฐบาลด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ระยะเวลาตุลาคม-ธันวา คม 2548 โดยมีผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจำแนกตามยุทธศาสตร์ ดังนี้ (1) ยุทธ ศาสตร์การแก้ไขปัญหาตัวยา/ผู้ค้ายาเสพติด (Supply) ประกอบด้วย 7 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์การ ทำลายโครงสร้างเครือข่ายการผลิตการค้ารายใหญ่ และผู้มีอิทธิพล ยุทธศาสตร์การควบคุมการแพร่ระบาด ของยาเสพติดในพื้นที่ ยุทธศาสตร์การควบคุมเคมีภัณฑ์ ยุทธศาสตร์การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ยุทธศาสตร์การเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการข่าวและเทคโนโลยีการปราบปราม และยุทธศาสตร์การสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ (2) ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผู้ เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์การสำรวจค้นหา ชักจูงให้ผู้ เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนา ยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาฟื้นฟูและพัฒนาผู้เสพ /ผู้ติดยาเสพติด ยุทธศาสตร์การติดตาม ดูแลช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และยุทธศาสตร์การปรับทัศนคติ เตรียมความพร้อมของชุมชนอาสาสมัคร เพื่อดูแลช่วยเหลือให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่ชุมชน (3) ยุทธ ศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์การสร้างกระแสและพลังขับเคลื่อนทางสังคม ยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและเฝ้าระวังกลุ่ม เป้าหมาย ยุทธศาสตร์การสร้างครอบครัวและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนา การทำงานในลักษณะเครือข่าย และ (4) ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเชิงบูรณาการ ประกอบด้วย 4 ยุทธ ศาสตร์ย่อย คือ ยุทธศาสตร์การบูรณาการนโยบาย แนวคิด แนวทางการดำเนินงาน ยุทธศาสตร์การบูรณา การองค์กรการดำเนินงานในทุกระดับ ยุทธศาสตร์การบูรณาการ เป้าหมาย/แผนงาน/งบประมาณ การ ดำเนินงาน และยุทธศาสตร์การบูรณาการระบบอำนวยการ กำกับติดตาม รายงานผลการดำเนินงาน
|
||||||||||||||||||||||||
1076 | ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดียาเสพติด พ.ศ. .... | ยธ | 14/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมเสนอร่างพระ
ราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ โดยสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ เป็นการกำหนดกระบวนการพิเศษในการดำเนินคดีขึ้นโดยเฉพาะในความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณารวมเป็นฉบับเดียว โดยให้รับประเด็นอภิปรายตาม มติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย ฯ) ที่ให้มีกฎหมายวิธีพิจารณา คดียาเสพติดเป็นการเฉพาะ เพื่อการพิจารณาคดียาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่การจะจัดให้มีกฎ หมายวิธีพิจารณาคดียาเสพติดเป็นการเฉพาะ ต้องระมัดระวังไม่ให้มีผลกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชา ชนตามรัฐธรรมนูญและหลักการสำคัญในการอำนวยความยุติธรรมตามกระบวนวิธีพิจารณาความอาญา โดย พิจารณาในรายละเอียดให้รอบคอบ ไปพิจารณาด้วย แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป และเพื่อให้การดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับปริมาณคดีที่มีมากในปัจจุบัน จึงเห็นด้วยในหลักการ ที่จะให้มีการดำเนินคดียาเสพติดเพียง 2 ชั้นศาล แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่งบประมาณของประเทศ สมควร ดำเนินการ โดยการจัดตั้งแผนกคดียาเสพติดขึ้นในศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาคดียาเสพติดโดยเฉพาะแทนการ จัดตั้งศาลอุทธรณ์คดียาเสพติด โดยในระยะเริ่มแรกอาจพิจารณาจัดตั้งแผนกคดียาเสพติดขึ้นในศาลอุทธรณ์ ก่อน เพื่อให้มีแนวทางในการวินิจฉัยคดีที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันและสร้างมาตรฐานในการพิจารณาพิพาก ษาคดียาเสพติด
|
||||||||||||||||||||||||
1077 | รายงานผลการสำรวจประเมินการปฏิบัติการพลังแผ่นดิน ร่วมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 4 (1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2548) | ยธ | 14/02/2549 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับผลการสำรวจประเมินการ
ปฏิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2548 โดยผล การสำรวจ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 85.1 มีความเห็นว่า ในหมู่บ้าน/ชุมชนของตนเองในปัจจุบันมีปัญหา ยาเสพติดน้อยถึงไม่มีปัญหาเลย ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 89.7 มีความพึงพอใจต่อการแก้ไข ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลในระดับปานกลางถึงมากที่สุด และร้อยละ 72.0 มีความเชื่อมั่นต่อความเอาจริง เอาจังในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||
1078 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาฯ จำนวน 5 ราย) | ยธ | 14/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ
พิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาชุดใหม่ จำนวน 5 คน ประ กอบด้วย นายแพทย์วิวัฒน์ ยถาภูธานนท์ นายแพทย์ 10 วช. ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธาณ สุข ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ นางดาราวรรณ ธรรมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการสหทัยมูลนิธิ ผู้ทรงคุณ วุฒิด้านสังคมสงเคราะห์ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน นายมานิจ สุขสมจิตร บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยให้มีผล ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (14 กุมภาพันธ์ 2549) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
||||||||||||||||||||||||
1079 | ร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... | ยธ | 07/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่าย
ความมั่นคง) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุมประพฤติ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอาทิ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่าหลัก การของร่างพระราชบัญญัติ ฯ ยังไม่ชัดเจนในเรื่องขอบเขตการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งซ้ำซ้อนกับที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 อาจเกิด ปัญหาการขัดกันของการใช้อำนาจระหว่างสถานพินิจและพนักงานคุมประพฤติ จึงควรแก้ไขบทบัญญัติของกฎ หมายที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดการขัดแย้งหรือกำหนดยกเว้นไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้สอดคล้องกับมติ คณะรัฐมนตรีที่ให้กรมคุมประพฤติเป็นหน่วยงานหลักในการคุมประพฤติชั้นพิจารณาคดีและหลังการพิจารณา คดีของชั้นศาลทั้งผู้กระทำผิดที่เป็นเด็กและผู้กระทำผิดที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย และ ให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1080 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 07/02/2549 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่าย
ความมั่นคง) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระ ราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมพระราช บัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และส่งให้สำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และความเห็นของ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณา โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็นว่า หลัก การตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นไปตามหลักทัณฑวิทยาที่ถูกต้อง และการปรับเปลี่ยนแนวคิดเดิมไป สู่แนวคิดใหม่ที่ให้การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพมากยิ่งขึ้น ก็เป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์แก่สังคม อย่างไร ก็ตาม การนำแนวคิดดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติต้องดูความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติด้วย บางเรื่องมีความจำเป็น แต่บางเรื่องก็อาจก้าวเร็วไปกว่าสังคมอยู่เดิม รวมทั้งควรดูภาระด้านงบประมาณ การสนับสนุนต่าง ๆ และ ความพร้อมในการนำไปปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าวด้วย และส่งให้คณะกรรมการประสานงาน สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
.....