ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 195 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 3881 - 3900 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3881 | รายงานกิจการ งบดุล งบกำไรขาดทุน รอบปีบัญชี 2549 (1 เมษายน 2549 - 31 มีนาคม 2550) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค | 22/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานกิจการ งบดุล งบกำไรขาดทุน รอบปี
บัญชี 2549 (1 เมษายน 2549-31 มีนาคม 2550) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้งวิสัยทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ปีบัญชี 2550
|
|||||||||||||||||||||||||||
3882 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (จำนวน 2 ราย นายอำพน กิตติอำพน และ นายนนทพล นิ่มสมบุญ) | กค | 22/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้แต่งตั้ง นายอำพน กิตติอำพน และนายนนทพล นิ่มสมบุญ เป็นกรรมการอื่นในคณะ
กรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง ทั้งนี้ รายที่ 1 ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2550 และรายที่ 2 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2550 เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3883 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายจรัลธาดา กรรณสูต) | กค | 22/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายจรัลธาดา กรรณสูต ผู้แทนกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทน นายบรรพต หงษ์ทอง ที่เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (22 ตุลาคม 2550) เป็น ต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3884 | ร่างกรอบความตกลงทั่วไประหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน | กค | 22/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ เห็นชอบร่างกรอบความตกลงทั่วไป (General Loan
Agreement) ระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (China EXIM Bank) โดยร่างกรอบความตกลงทั่วไป ฯ มีสาระสำคัญคือ รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเสนอการให้สินเชื่อเพื่อการส่ง ออก (Preferential Export Buyer''s Credits) แก่รัฐบาลไทยผ่าน China EXIM Bank ภายใต้กรอบวงเงินกู้สูงสุดไม่ เกิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ และอนุมัติให้กระทรวงการคลังทำความตกลงกับ China EXIM Bank ตามกรอบความ ตกลงทั่วไป ฯ รวมทั้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายลง นามในกรอบความตกลงทั่วไป ฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3885 | การเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 | กค | 16/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการผ่อนผันการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายก
รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และ หน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในสังกัดการบังคับบัญชา หรือการกำกับดูแลของฝ่ายบริหารตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ บริหารราชการแผ่นดิน หรือกฎหมายจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว ดังนี้ การแต่งตั้งคณะกรรมการร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference : TOR) และร่างเอกสารประกวดราคาก่อนเริ่มการจัดหาพัสดุตามระเบียบ ฯ ข้อ 8 (1) เห็น ควรผ่อนผันให้การจัดหาพัสดุในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท หรืองานก่อสร้างในโครงการที่มีแบบและข้อกำหนดใน การก่อสร้างที่เป็นมาตรฐานไว้แล้ว ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าหน่วยงานที่จัดหาพัสดุจะแต่งตั้งคณะกรรมการ ฯ และร่างเอกสาร ฯ หรือไม่ก็ได้แต่ต้องนำร่างขอบเขตงานและร่างเอกสารประกวดราคาดังกล่าวเผยแพร่ทาง Website ของหน่วยงาน หรือของกรมบัญชีกลาง เพื่อให้สาธารณชนเสนอแนะหรือวิจารณ์ สำหรับการแต่งตั้งคณะกรรมการ ประกวดราคา ตามระเบียบ ฯ ข้อ 8 (3) เห็นควรผ่อนผันให้การจัดหาพัสดุในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้มีคณะ กรรมการไม่น้อยกว่า 3 คน และไม่เกิน 7 คน จะมีคณะกรรมการบุคคลภายนอกหรือไม่ก็ได้โดยให้บุคลากรของ หน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุเป็นเลขานุการ กรณีการจัดหาในวงเงินเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้เจ้าหน้าที่พัสดุหรือที่ เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานนั้น เป็นกรรมการและเลขานุการ และจะแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการด้วยหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ การแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคา การคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลาง ตลอดจนการกำหนดวัน เวลา สถานที่ เสนอราคา ผ่อนผันให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานในการแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคา การคัดเลือกผู้ ให้บริการตลาดกลาง และกำหนดวัน เวลา สถานที่เสนอราคา รวมทั้งผ่อนผันให้กรณีการจัดหาพัสดุในวงเงินไม่ เกิน 10 ล้านบาท หน่วยงานได้ดำเนินการจัดหาตามระเบียบ ฯ ข้อ 9 (1) (2) (3) และ (4) แล้ว กรณีไม่มีผู้ เข้าเสนอราคามีผู้มีสิทธิเสนอราคารายเดียว หรือมีผู้มีสิทธิเสนอราคาเพียงรายเดียวเมื่อถึงเวลาเริ่มการเสนอราคา ตามระเบียบ ฯ ข้อ 10 (1) และคณะกรรมการประกวดราคาได้ดำเนินการต่อรองราคากับผู้มีสิทธิเสนอราคาราย นั้นแล้วไม่ได้ผล ให้หน่วยงานดำเนินการจัดหาด้วยวิธีการอื่นตามระเบียบ หรือข้อบังคับว่าด้วยการพัสดุของหน่วย งานนั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ มาตรการ ผ่อนคลายข้างต้น ให้รวมถึงมาตรการผ่อนคลายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 และวันที่ 4 กรกฎาคม 2549 โดยมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2551
|
|||||||||||||||||||||||||||
3886 | รายงานผลการชำระบัญชีของทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา | กค | 16/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการชำระบัญชีของทุนรักษาระดับ
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา พร้อมงบการเงินของกองทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา สำหรับงวดตั้งแต่วัน ที่ 1 มกราคม-8 สิงหาคม 2550 และงบชำระบัญชีของทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสำหรับงวดตั้งแต่ วันที่ 9-31 สิงหาคม 2550 ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
3887 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. .... | กค | 16/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่ง
ออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะ ของส่วนราชการที่จะเข้าร่วมมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2550 กำหนดคุณสมบัติของข้าราชการที่จะเข้าร่วมมาตรการ ฯ รวมทั้งกำหนดการจ่ายเงิน ช่วยเหลือข้าราชการที่เข้าร่วมมาตรการ ฯ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3888 | ขอทุนประเดิมให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. 2550 | กค | 09/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามความเห็นสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการขอทุนประเดิมให้แก่สำนักงาน
คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เพื่อเป็นงบลงทุนในการจัดซื้อ /เช่าอาคารที่ทำการใหม่ การแตกแต่ง ขนย้าย ตลอดจนอุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงานเพื่อรองรับการปฏิบัติ งานของสำนักงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 75 จังหวัด และเป็นงบสำรองฉุกเฉินและค่าใช้จ่ายในการพัฒนา บุคลากร โดยให้สำนักงาน คปภ. ดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ก่อนโดยยังไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนประเดิมตาม วงเงินที่เสนอ และให้สำนักงาน คปภ. จัดทำแผนกลยุทธ์และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ตลอดจนเงินทุนประเดิม เสนอคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยพิจารณาให้ความเห็นชอบ แล้วนำเสนอคณะ รัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้สำนักงาน คปภ. รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับทุนและทรัพย์ สินของสำนักงาน คปภ. จะได้รับโอนทรัพย์สินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จากกรม การประกันภัยด้วย ไปประกอบการดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
3889 | รายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 11 | กค | 09/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 11 โดยกระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นที่ 11 ประจำเดือนสิงหาคม 2550 อายุพันธบัตร 3 ปี วงเงิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.75 ต่อปี เมื่อวันที่ 15 -16 สิงหาคม 2550
|
|||||||||||||||||||||||||||
3890 | การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (จำนวน 7 ราย 1. นายสมัคร เชาวภานันท์ฯ) | กค | 09/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ
กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ดังนี้ ด้านกฎหมาย นายสมัคร เชาวภานันท์ ด้านบัญชี ศาสตรา จารย์เกษรี ณรงค์เดช ด้านบริหารธุรกิจ นายดุสิต นนทะนาคร ด้านการเงิน นายโกวิทย์ โปษยานนท์ ด้าน เศรษฐศาสตร์ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ด้านการประกันภัย ศาสตราจารย์ชูเกียรติ ประมูลผล และนายการุณ กิตติสถาพร
|
|||||||||||||||||||||||||||
3891 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติเงินตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จากการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | กค | 09/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอขอถอนร่างพระราชบัญญัติเงินตรา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ออกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3892 | การแก้ไขพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 | กค | 09/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระ
ราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 เพื่อให้การ แปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนไทย โดย เฉพาะอย่างยิ่งจะมีผลเป็นการส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอ สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3893 | ร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 09/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติหลัก
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ผ่านการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยได้ ตัดร่างมาตรา 298 ออกทั้งมาตราเพื่อให้การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 246-249 และมาตรา 251-256 ยัง คงมีบทกำหนดโทษตามอัตราโทษที่กำหนดไว้ในกฎหมายปัจจุบัน และแก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 299 โดยกำหนดว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 250 หรือมาตรา 250/1 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท และปรับ อีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับประเด็นที่ขอให้ยกข้อความในส่วนที่เกี่ยวกับผู้สอบบัญชีตามร่างมาตรา 89/25 และ 281/8 ออกจากร่างพระราชบัญญัติ ฯ นั้น ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชู ปถัมภ์ เพื่อพิจารณาให้ได้ข้อยุติที่เหมาะสมแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ แล้วส่งให้คณะกรรม การประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3894 | การจัดหาทุนสำหรับกองทุนสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | กค | 09/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับการจัดหาทุนสำหรับกอง
ทุนสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาค ใต้ โดยหากเห็นสมควรกำหนดวัตถุประสงค์/ขอบเขตของการใช้จ่ายงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้สามารถดำเนินการเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้กว้างขวางยิ่ง ขึ้น หรือหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นสมควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาให้ยืด หยุ่น สอดคล้องกับสถานการณ์ในเรื่องอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพ และตอบสนองแนวทาง การแก้ไขปัญหายิ่งขึ้น ให้เสนอคณะกรรการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถาน การณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) พิจารณาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี และนอกจากการปรับปรุง หรือขยายขอบเขตวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายงบประมาณ งบกลางดังกล่าวแล้ว ในชั้นนี้ ควรจัดหารายได้เข้ากอง ทุน ฯ โดยการขอรับการบริจาคจากองค์กร ภาคส่วนต่าง ๆ และประชาชนเป็นการทั่วไป และพิจารณาจัดสรรเงิน งบประมาณรายจ่ายเพื่อสนับสนุนกองทุน ฯ ตามความเหมาะสมในปีงบประมาณต่อไป และให้กระทรวงมหาดไทย รับเรื่องนี้ไปพิจารณาดำเนินการโดยประสานกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (คณะกรรมการนโยบายและ อำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้) ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3895 | อนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย - ทาจิกิสถาน | กค | 02/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน
ไทย-ทาจิกิสถาน ที่คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ทุกข้อบทและได้ลงนามย่อกำกับในร่างอนุสัญญา ดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับวิธีขจัดภาษีซ้อน การเก็บภาษีจากกำไรธุรกิจ การเก็บภาษีจากการขนส่งทาง เรือและทางอากาศ การเก็บภาษีจากทรัพย์สินประเภททุน และการเก็บภาษีจากเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบ แทน และให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการทางการทูตและตามพิธีของกฎหมายภายในโดยให้ปรับปรุงรูป แบบอนุสัญญา ฯ ให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของกระทรวงการต่างประเทศก่อนที่จะมีการลงนามอย่างเป็นทาง การ เพื่ออนุสัญญา ฯ ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3896 | ร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 02/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างกฎหมาย จำนวน 2 ฉบับ
ที่ตรวจพิจารณาแล้ว ดังนี้ ร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับ ปรุงวัตถุประสงค์ อำนาจหน้าที่ ทุน และเงินสำรองของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และให้มีคณะกรรมการ ในการกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่แต่ละด้าน รวมทั้งผู้ว่าการ ธปท. เพื่อประสิทธิ ภาพในการบริหาร รวมทั้งกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และการกำกับดูแล ธปท. ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติ แห่งชาติพิจารณาต่อไป และเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับ ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ ธปท. เป็นหน่วยงานของ รัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เพื่อให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ของ ธปท. ซึ่งปฏิบัติ หน้าที่โดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ ฯ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3897 | การเพิ่มทุนของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย | กค | 02/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ เห็นชอบการซื้อหุ้นเพิ่มทุนธนาคารอิสลามแห่ง ประเทศไทย (ธอท.) ของกระทรวงการคลัง จำนวนประมาณ 1,481.48 ล้านหุ้น วงเงินงบประมาณ 1,600 ล้าน บาท และของธนาคารออมสิน จำนวนประมาณ 1,238.54 ล้านหุ้น วงเงินงบประมาณ 1,337.62 ล้านบาท ใน ราคาหุ้นละ 1.08 บาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นหลังเพิ่มทุนประมาณร้อยละ 48.54 และร้อยละ 39.88 ของหุ้นที่ จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดตามลำดับ และรับทราบการซื้อหุ้นเพิ่มทุน ธอท. ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวนประมาณ 302.99 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.08 บาท วงเงินงบประมาณ 327.23 ล้านบาท โดยมีสัดส่วน การถือหุ้นหลังเพิ่มทุนประมาณร้อยละ 89.83 รวมทั้งเห็นชอบให้ ธอท. ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจทั่วไป เว้นแต่ประเด็นที่ยังต้องถือปฏิบัติ ได้แก่ ระเบียบเรื่องการก่อหนี้ของประเทศ, ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจ, หลัก เกณฑ์และแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ, การให้มีผู้แทนกระทรวงคลังซึ่งเป็นข้าราชการประจำร่วมเป็น กรรมการในคณะกรรมการ และการให้ ธอท. เป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในระบบประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาห กิจเช่นเดียวกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งอื่น ส่วนระบบแรงจูงใจ (incentive) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจกำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||
3898 | ร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กค | 25/09/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ
ข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กรณีหากมีกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคล ของข้าราชการประเภทต่าง ๆ บัญญัติเรื่องการพ้นจากราชการกรณีเกษียณอายุไว้เป็นอย่างอื่นให้เป็นไปตาม นั้น และกำหนดให้คณะกรรมการบริหารงานบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการ แต่ละประเภทเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมเกษียณอายุของข้าราชการประเภทนั้น ๆ ยกเว้นข้าราชการสังกัดกระทรวง กลาโหม ให้กระทรวงกลาโหมเป็นเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยกเลิกบทบัญญัติเรื่องการหมดสิทธิรับบำนาญของผู้รับ บำนาญ และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กรณีข้าราชการออกจากราชการและได้รับบำนาญ เงินประเดิม เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบ แทนเงินดังกล่าวไปแล้วเมื่อกลับเข้ารับราชการใหม่หากประสงค์จะนับเวลาราชการต่อเนื่องต้องคืนเงินประเดิม เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนเงินดังกล่าว และกำหนดกรณีข้าราชการซึ่งกลับเข้ารับราชการใหม่จะคืน เงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนเงินดังกล่าวที่ได้รับแล้วแก่กองทุนเพื่อให้กองทุนนำไปลงทุนหา ผลประโยชน์ต่อไปได้ รวมทั้งยกเลิกบทบัญญัติเรื่องการหมดสิทธิรับบำนาญของผู้รับบำนาญ และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา รวมกับร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
3899 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนสิงหาคม 2550 | กค | 25/09/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ พ.ศ. 2550
ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2550 โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศ จำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ (ประจำ/ลงทุน) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 1,326,605 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.70 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) ต่ำกว่าแผนการใช้จ่ายเงิน จำนวน 123,923 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.54 ของแผนการใช้จ่ายเงิน จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ 1,091,976 ล้าน บาท หรือร้อยละ 87.86 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลง (1,242,815 ล้านบาท) ต่ำกว่าแผนการใช้จ่ายเงิน 32,449 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.89 ของแผนการใช้จ่ายเงิน และรายจ่ายลงทุน 234,629 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.55 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหล้งโอนเปลี่ยนแปลง (323,385 ล้านบาท) ต่ำกว่าแผนการใช้จ่ายเงิน 91,474 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.05 ของแผนการใช้จ่ายเงิน
|
|||||||||||||||||||||||||||
3900 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ. .... | กค | 25/09/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาต
ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งในด้านฐานะการเงิน การ บริหารงาน และความพร้อมในการประกอบธุรกิจสามารถขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยไม่มี การจำกัดจำนวนผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ภายใต้การให้ใบอนุญาตในรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับการทำธุรกิจ หลักทรัพย์อย่างครบวงจร แต่ยังคงธุรกิจหลักทรัพย์บางประเภทซึ่งมิใช่ธุรกิจหลักทรัพย์หลักให้สามารถขอรับ ใบอนุญาตแยกต่างหาก และกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยทั่วไปสามารถจัดหรือปรับเปลี่ยนโครง สร้างองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการในทางธุรกิจของตนเองได้โดยสะดวก และมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|