ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 200 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 3981 - 4000 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3981 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาล | กค | 01/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลัง
เป็นพันธบัตรรัฐบาล โดยในไตรมาสที่ 3-4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ได้กำหนดแผนการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงิน คลังเป็นพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 88,000 ล้านบาท โดยการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดในวันพุธของแต่ละ สัปดาห์แล้วประมูลพันธบัตรรัฐบาลทดแทนตั๋วเงินคลัง โดยพันธบัตรรัฐบาลที่ดำเนินการประมูล จำนวน 88,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 5 วงเงิน 48,000 ล้านบาท อายุ 17 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.50 ต่อปี ประมูลระหว่างวันที่ 4 เมษายน-27 มิถุนายน 2550 พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 6 วงเงิน 20,000 ล้านบาท เป็น การเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 1 อายุคงเหลือ 6.91 ปี อัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ 5.25 ต่อปี ประมูลระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน-12 กันยายน 2550 และพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการ บริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 7 วงเงิน 20,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธ บัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 2 อายุคงเหลือ 9.92 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ประมูล ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน-26 กันยายน 2550
|
||||||||||||||||||||||||
| 3982 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงการคลัง) (นางพรพิมล จุรุพันธุ์) | กค | 01/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นางพรพิมล จุรุพันธุ์ ข้าราชการพลเรือน
สามัญ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ (นักบริหาร 9) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอายุ ครบหกสิบปีบริบูรณ์ และต้องพ้นจากราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ (นักวิชาการคลัง 10 ชช.) สำนักงานคณะ กรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2550 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วน สมบูรณ์
|
||||||||||||||||||||||||
| 3983 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 4/2550 | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเสนอมติที่
ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2550 ดังนี้ ให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวง สาธารณสุข จัดทำแผนการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นรายเดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 ถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้ได้หรือใกล้เคียงเป้าหมายร้อยละ 93 ส่งให้กรมบัญชีกลาง โดยให้สำนักงบประมาณดูแลการปรับ แผนของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข และรายงานผลการปรับแผนของส่วนราชการต่อที่ประชุม ครั้งต่อไป กับให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเตรียม ข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินว่า ยังมีเงินค้างอยู่ในธนาคารพาณิชย์เท่าไร และรายงานที่ประชุมในครั้งต่อไป และให้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสมาคมอุตสาห กรรมก่อสร้างไทยหารือร่วมกัน แล้วทำหนังสือแจ้งส่วนราชการในเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง รวมทั้ง ให้กรมบัญชีกลางพิจารณาประเด็นราคากลางต่ำกว่าความเป็นจริง หากต้องมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณ ราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป นอกจากนี้ ให้ สศช. ขอข้อมูลการค้างจ่าย ค่า K ของทุกส่วนราชการ และประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรื่องระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงิน ล่วงหน้า และการซอยโครงการขนาดใหญ่ และให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลในทางปฏิบัติเกี่ยวกับกฎระเบียบ การขึ้นบัญชีดำบุคคลให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น |
||||||||||||||||||||||||
| 3984 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนมิถุนายน 2550 | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2550 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2550 โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ในภาพรวมทั้งประเทศ จำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ (ประจำ/ลงทุน) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงิน จากคลัง จำนวน 1,065,212 ล้านบาท หรือร้อยละ 68.01 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) ต่ำ กว่าแผนการใช้จ่ายเงิน จำนวน 176,428 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.21 ของแผนการใช้จ่ายเงิน จำแนกเป็น ราย จ่ายประจำ 871,189 ล้านบาท หรือร้อยละ 69.97 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลง (1,245,109 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน 194,023 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.43 ของวงเงินงบประมาณราย ลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลง (321,091 ล้านบาท)
|
||||||||||||||||||||||||
| 3985 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะ เวลาในการนำเข้าเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งยกเลิกข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาในการขยายหรือฝากเงินตราต่าง ประเทศซึ่งบุคคลในประเทศได้มา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อ ไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การกำหนดให้ธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสามารถซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อลงทุน โดยตรงในต่างประเทศได้ไม่เกินจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีนั้น ไม่ควรกำหนดในลักษณะตายตัว แต่ ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับขนาดของธุรกิจนั้น ๆ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3986 | งบบุคลากร รายการเงินเดือนและเงินวิทยฐานะของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่เพียงพอเบิกจ่ายถึงสิ้นปีงบประมาณ | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจ่ายเงิน
งบบุคลากร เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พิจารณาเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของหน่วยงานของ ตนก่อนในรายการที่ยังมิได้ก่อหนี้ผูกพันเพื่อขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการมาจ่ายเป็นงบบุคลากรในส่วนที่ยังขาด และเมื่อดำเนินการแล้วหากปรากฏว่ายังมีงบประมาณไม่เพียงพอที่จะจ่ายให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่ สพฐ. สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่ และหากดำเนินการจนถึงที่สุดแล้ว แต่ยังมีงบประมาณไม่เพียงพอที่จะจ่ายให้แก่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก็ให้กระทรวงการคลังพิจารณาสั่งจ่ายเงินจากบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 2 ให้แก่ สพฐ. เพื่อนำไปจ่ายเป็นงบบุคลากร และให้สำนักงบประมาณรับไปจัดสรรเงินงบประมาณ งบบุคลากร ให้ ส่วนราชการให้เพียงพอแก่การเบิกจ่ายทุกปีพร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 เพื่อให้มีการชดใช้เม็ดเงินคืนเข้าบัญชีเงินคงคลังได้จริง ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ กระทรวงศึกษาธิการประสานกับกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาดำเนินการในรายละเอียด ให้รอบคอบ ถูกต้อง เหมาะสมและสอดคล้องกับข้อจำกัดด้านการเงินการคลังด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3987 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2550 ครั้งที่ 3 | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหาร
หนี้สาธารณะเสนอดังนี้ อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ครั้งที่ 3 ประกอบด้วย แผนงานย่อย 4 แผนงาน ได้แก่ แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล แผนการบริหาร และจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ แผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ และแผนการบริหารหนี้ต่างประเทศ โดย คงแผนงานย่อยเดิมไว้ 2 แผน ได้แก่ แผนการบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) และแผนการบริหารเงินกู้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน กับอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจและให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน รวมทั้งวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และ รายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน และหรือการค้ำประกันเงินกู้ภายใต้แผนที่ปรับปรุงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะ สมและจำเป็น
|
||||||||||||||||||||||||
| 3988 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาส 2 (มกราคม - มีนาคม) ปีงบประมาณ 2550 | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาส 2 ของปี
งบประมาณ พ.ศ. 2550 (มกราคม-มีนาคม 2550) สรุปได้ดังนี้ มูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า รวม 290.545 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 จำนวน 37.005 ล้านดอล ลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 14.60 โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่อง สำอางค์ มูลค่านำเข้า 49.768 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลไม้ มูลค่านำเข้า 39.503 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเลนซ์ มูลค่านำเข้า 33.476 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนสินค้าฟุ่มเฟือยในไตรมาส 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 มีอัตราการ นำเข้าเพิ่มขึ้น 12 รายการ โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เลนซ์ ไวน์ กล้อง ถ่ายรูปและอุปกรณ์ ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์ ผลไม้ มีอัตราการนำเข้าร้อยละ 73.76, 62.34, 49.50, 44.54 และ 38.39 ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||
| 3989 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราช
การ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกหลักเกณฑ์ข้อต้องห้ามที่ทำให้ข้าราชการไม่มีสิทธิได้รับค่าเช่า บ้านในกรณีที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในท้องที่ที่เริ่มรับราชการครั้งแรกหรือท้องที่ที่กลับเข้ารับ ราชการใหม่ โดยให้สิทธิกรณีดังกล่าวเริ่มเมื่อได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในต่างท้องที่ตั้งแต่วันที่กฎ หมายมีผลใช้บังคับ รวมทั้งแก้ไขบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านข้าราชการหมายเลข 1 ท้ายพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้าน ข้าราชการ พ.ศ. 2547 และกำหนดให้มีบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการกำหนดให้สิทธิการได้รับค่าเช่าบ้านตามบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านข้าราชการหมายเลข 6 ท้ายพระราช กฤษฎีกานี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2547 เป็นต้นไป อาจไม่สอดคล้องกับวันมีผลใช้บังคับของพระ ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และพระราชบัญญัติเงินดือนและเงิน ประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2547 ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันที่ 24 ธันวาคม 2547 และการคำนวณอัตราค่าเช่า บ้านของข้าราชการ ควรคำนึงถึงแนวทางการปรับค่าตอบแทนภาคราชการตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2550 ซึ่งให้ปรับอัตราเงินเดือนเป็นร้อยละเท่ากันทุกตำแหน่งในอัตราร้อยละ 4 ไปพิจารณาด้วย แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
| 3990 | ร่างข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการซื้อเงินตราต่างประเทศ และหลักทรัพย์ต่างประเทศเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการชำระหนี้เมื่อถึงกำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างข้อบังคับกระทรวงการคลังว่า
ด้วยการซื้อเงินตราต่างประเทศ และหลักทรัพย์ต่างประเทศเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการชำระหนี้เมื่อถึงกำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณาการนำเงินคงคลังไปซื้อ เงินตราและหลักทรัพย์ต่างประเทศ กำหนดให้การซื้อเงินตราต่างประเทศ และการนำเงินตราต่างประเทศฝาก ธนาคาร ให้นำฝากไว้ที่ธนาคารพาณิชย์ของรัฐ หรือธนาคารที่กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ โดยเปิดบัญชี เงินฝากในนามของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกำหนดให้การจัดการดูแลเงินตราต่างประเทศและหลัก ทรัพย์เป็นหน้าที่ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รวมทั้งกำหนดให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนิน การให้จ่ายจากเงินที่ตั้งไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และส่งคณะกรรม การตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3991 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครอง
ชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดตามข้อ บังคับกระทรวงกลาโหม ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับบำนาญปกติ บำนาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพ บำนาญพิเศษ หรือบำนาญตกทอดในฐานะทายาท หรือผู้อุปการะหรือผู้อยู่ในอุปการะตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้า ราชการอยู่แล้ว ในวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ให้ได้รับ ช.ค.บ. ในอัตราเดือนละร้อยละสี่ของจำนวนเบี้ยหวัด หรือ บำนาญ และ ช.ค.บ. ที่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3992 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. .... | กค | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญ
กษาปณ์ที่ระลึกการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ จัดทำเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาว และสีทอง) ราคาสิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ระหว่าง วันที่ 6-15 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 3993 | ร่างพระราชบัญญัติการกำหนดกิจการ หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... (ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....) | กค | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยเงื่อนไขและหลักเกณฑ์
การแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ มีกฎหมายว่าด้วยเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา พร้อมทั้งส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา โดยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยว กับการกำหนดกิจการของรัฐวิสาหกิจที่จะแปลงสภาพมิได้ตามร่างมาตรา 6 อาจไม่เหมาะสมที่จะกำหนดห้ามไว้ใน กฎหมาย ซึ่งจะมีปัญหาในการบริหารงาน สมควรปล่อยให้เป็นไปตามนโยบาย และความเหมาะสมกับสภาวการณ์ เช่น อาจให้แปลงสภาพได้แต่ต้องตราเป็นพระราชบัญญัติ เป็นต้น ส่วนคุณสมบัติของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามร่าง มาตรา 12 (7) ที่กำหนดว่าจะต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือเกี่ยวข้องกับกิจการของรัฐวิสาห กิจที่จะแปลงสภาพตามที่กำหนดภายในระยะเวลาสามปีก่อนวันแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะทำให้หาผู้มีคุณ สมบัติดังกล่าวได้ยาก รวมทั้งการใช้ถ้อยคำ "ผู้มีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้อง" อาจมีปัญหาในการพิจารณาตีความ ไป พิจารณาดำเนินการในชั้นกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 3994 | ขออนุมัติขายอาคารศูนย์พาณิชยกรรมรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในราคาขายขั้นต่ำ | กค | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ขายอาคารศูนย์พาณิชยกรรม
รอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในราคาขายขั้นต่ำจำนวน 663,000 ยูโร และให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการขายตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมทั้งให้นำค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการ ขายมาหักออกจากรายได้ที่มาจากการขายก่อนนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินในกรณีที่ไม่สามารถหาผู้ซื้อในราคาที่ คณะรัฐมนตรีกำหนดได้ ก็ให้อยู่ในดุลพินิจของกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการขายอาคารดังกล่าวใน ราคาต่ำกว่าราคาที่คณะรัฐมนตรีกำหนดได้ไม่เกินร้อยละ 10 และให้ส่วนราชการผู้ครอบครองดูแลใช้ประโยชน์ใน อสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลไทยในต่างประเทศมีหน้าที่สอดส่องดูแลมิให้มีการบุกรุกในอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ไทยในต่างประเทศที่อยู่ในความครอบครอง
|
||||||||||||||||||||||||
| 3995 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2550 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 | กค | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจขนาด
ใหญ่ ประจำปี พ.ศ. 2550 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 โดยรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ จำนวน 17 แห่ง ได้รับอนุมัติงบลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 330,358.01 ล้านบาท การเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมระหว่างเดือนตุลาคม 2549 -พฤษภาคม 2550 สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้จริง 94,423.36 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.58 ของงบลงทุนที่ ได้รับอนุมัติ เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2550 ที่สามารถเบิกจ่ายได้เพียงร้อยละ 24.07 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ โดยรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีงบประมาณ จำนวน 11 แห่ง มีการเบิกจ่ายจริง 65,250.24 ล้านบาท จากที่ได้รับอนุมัติงบ ลงทุนทั้งสิ้น 189,071.58 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.51 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีปฏิทิน จำนวน 6 แห่ง มีการเบิกจ่ายจริง 29,173.12 ล้านบาท จากที่ได้รับอนุมัติงบลงทุนทั้งสิ้น 141,286.43 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.65 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ทั้ง 11 แห่ง ติดตามการเบิกจ่าย ฯ ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเหลือระยะเวลาเพียง 4 เดือน
|
||||||||||||||||||||||||
| 3996 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานและงบการเงินประจำปี 2549 ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย | กค | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการดำเนินงานและงบการเงินประจำ
ปี พ.ศ. 2549 ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) โดยผลการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2549 บสท. มีสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพรับโอนสุทธิทั้งสิ้น 775,778 ล้านบาท ลดลงจาก 777,179 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสเดียวกันของปี พ.ศ. 2548 จำนวน 1,401 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินที่รับโอนสามารถบริหารจัดการจนได้ข้อยุติ จำนวน 771,857 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 99.49 ของสินทรัพย์รับโอนทั้งหมด ลดลงจากสิ้นปี พ.ศ. 2548 จำนวน 403 ล้าน บาท ส่วนการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย บสท. ได้รับโอนทรัพย์สินรอการขายด้วยมูลค่าที่รับโอนรวมทั้ง สิ้นประมาณ 95,938 ล้านบาท แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 74,656 ล้านบาท และสังหาริมทรัพย์ จำนวน 21,282 ล้านบาท และได้มีการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายทั้งที่โอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อแล้ว และอยู่ระหว่างการ โอนกรรมสิทธิ์รวมมูลค่าจำหน่ายตามสัญญาทั้งสิ้น 17,804 ล้านบาท โดยมีมูลค่าต้นทุนที่รับโอนอยู่ที่ 15,316 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นปี พ.ศ. 2549 บสท. มีทรัพย์สินรอการขายคงเหลือที่จะต้องดำเนินการบริหารจัดการต่อไป เป็นมูลค่าต้นทุนที่รับโอนประมาณ 80,622 ล้านบาท สำหรับงบการเงินของ บสท. ณ สิ้นปี พ.ศ. 2549 บสท. มี รายรับรวมมูลค่าประมาณ 46.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี พ.ศ. 2548 ประมาณ 23,54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 100.80 และรายรับสุทธิจากทุนประเดิมของ บสท. มีมูลค่าประมาณ 46.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วัน ที่31 ธันวาคม 2548 ประมาณ 23.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 100.80 ส่วนงบรายรับหรือรายจ่ายสุทธิ รอปันส่วนไปยังสินทรัพย์รับโอน มีมูลค่าประมาณ 18,207.48 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี พ.ศ. 2548 ประมาณ 15,071.24 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 45.29
|
||||||||||||||||||||||||
| 3997 | ขออนุมัติหลักการดำเนินโครงการจัดหาระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้า ระยะที่ 3 | กค | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการดำเนินโครงการจัดหาระบบตรวจสอบตู้คอน
เทนเนอร์สินค้า ระยะที่ 3 โดยปรับเปลี่ยนรายการจัดหาตามโครงการระยะที่ 3 เป็นแบบกึ่งเคลื่อนย้ายหรือถอด ประกอบเคลื่อนย้ายได้ (Relocatable Container Inspection System) จำนวน 2 ชุด และแบบตรวจขบวนรถไฟ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สินค้า (Railway Cargo/Vehicle Inspection System) จำนวน 1 ชุดแทน รวมจำนวน 3 ชุด ในวงเงินเดิมที่ได้รับการบรรจุไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 800 ล้านบาท และให้ดำเนินการโครงการในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) ตามหลักการเดิมที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติไว้ โดยไม่ต้องทำการค้าต่างตอบแทนหรือการค้าแบบแลกเปลี่ยน และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง โดยกรมศุลกากรดำเนินการในนามของรัฐบาลไทยเพื่อทำการเจรจาตกลงกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลสาธารณ รัฐประชาชนจีนให้ได้ราคาและคุณภาพที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์มากที่สุดต่อไป และให้กระทรวงการคลังรับข้อ สังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า เมื่อสะพานมิตรภาพ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ก่อสร้างแล้วเสร็จ และใช้งานแล้ว กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร เร่งรัดดำเนินการจัดหาระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้า เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าผ่านแดนศุลกากรดังกล่าวโดยเร็ว และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานขอความร่วม มือจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่า ในการขนส่งสินค้าผ่านไทยไปยังประเทศที่สาม เช่น กรณีการขน ส่งไม้พะยูงไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น ขอให้บรรจุสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวก ปลอดภัยในการขนส่งและไม่เกิดปัญหาการลักลอบปลอมปนสินค้า |
||||||||||||||||||||||||
| 3998 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีติเห็น
ชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเกี่ยวกับเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาในการจ่ายเงินสมทบ ตลอดจนผลประโยชน์ของเงินสมทบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบจาก รัฐมนตรี และกำหนดบทเฉพาะกาลมิให้นำร่างมาตรา 7 มาใช้บังคับแก่ข้อกำหนดที่นายทะเบียนได้รับจดทะเบียน แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติใช้บังคับ รวมทั้งกำหนดให้ลูกจ้างที่สิ้นสมาชิกภาพเพราะลาออกจากงานมีสิทธิคงเงิน ทั้งหมดที่มีสิทธิได้รับไว้ในกองทุน และขอต่ออายุการเป็นสมาชิกต่อไป ตามระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับของกอง ทุน และส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ต่อไป และให้กระทรวงแรงงานรับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกำหนดเหตุในการตัดสิทธิของลูกจ้าง ไปแปรญัตติในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 3999 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล งบกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 | กค | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานกิจการประจำปี งบดุล งบกำไรและขาดทุน
ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 โดยใน ส่วนของผลการดำเนินการในปี พ.ศ. 2549 ธสน. ประสบผลขาดทุนสุทธิจำนวน 1,346 ล้านบาท จากการตั้งค่า เผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวน ประกอบกับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ธสน. มีรายได้ดอกเบี้ย สุทธิเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 312 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2549 กับปี พ.ศ. 2548 พบว่า การขยายตัวของสินเชื่อมีจำนวนลดลง คุณภาพสินทรัพย์ลดลง เงินกองทุนมีจำนวนลดลง และการลงทุนใน เงินลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||
| 4000 | ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับฐานและอัตราในการคำนวณภาษีสรรพสามิต (แผนพัฒนากฎหมายของกรมสรรพสามิต ประจำปี 2550) | กค | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมหลักการในการประกาศมูลค่าของสุรา เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีสุรา ทั้ง กรณีสุราที่ทำในราชอาณาจักร สุราที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร และสุราที่ทำในเขตปลอดอากร รวมทั้งปรับปรุง บัญชีอัตราภาษีสุราและค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ร่างพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมหลักการในการประมูลค่ายาเส้น หรือยาสูบ เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ ภาษี ทั้งกรณียาเส้นหรือยาสูบที่ทำในราชอาณาจักร ยาเส้นหรือยาสูบที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร และยาเส้นหรือ ยาสูบที่ทำในเขตปลอดอากร รวมทั้งปรับปรุงบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมและค่าแสตมป์ยาสูบท้ายพระราชบัญญัติยา สูบ พ.ศ. 2509 ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงหลักเกณฑ์ ในการประกาศมูลค่าสินค้า ทั้งกรณีสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร สินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร และสินค้า ที่ผลิตในเขตปลอดอากร เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี และร่างพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติพิกัดอัตราสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ในตอนที่ 3 เครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทที่ 03.01 เครื่องปรับอากาศที่ประกอบด้วยพัดลมซึ่งขับด้วยมอเตอร์ และมีส่วนที่ใช้สำหรับ ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิ ไม่ว่าจะมีส่วนที่ใช้ควบคุมความชื้นด้วยหรือไม่ก็ตามเพื่อกำหนดให้มีอัตราภาษีตามปริมาณ และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
.....
