ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
201 | รายงานผลการดำเนินการสถาบันการเงินประชาชนประจำปี 2566 | กค. | 23/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการของสถาบันการเงินประชาชนประจำปี
๒๕๖๖ ของคณะกรรมการพัฒนาระบบสถาบันการเงินประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๙ (๑๓)
แห่ง พระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑)
ในปี ๒๕๖๖ คณะกรรมการฯ ได้ออกประกาศคณะกรรมการฯ เพิ่มเติมจำนวน ๑ ฉบับ (จากเดิม ๑๙
ฉบับ) เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจสอบสถาบันการเงินประชาชน
ส่งผลให้มีประกาศคณะกรรมการ ภายใต้พระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. ๒๕๖๒
รวมทั้งสิ้น ๒๐ ฉบับ ๒) ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๖
มีสถาบันการเงินประชาชนที่ได้รับจดทะเบียนจัดตั้ง สะสมรวมทั้งสิ้น ๑๘ แห่ง
มีสมาชิกรวม ๕,๐๗๑ คน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ
๑๑๐.๓๓) ยอดเงินค่าหุ้นรวม ๖๓.๓๖ ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ ๙๖.๒๑)
ยอดเงินรับฝากรวม ๒๒๕.๘๓ ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ ๑๘.๑๔) ยอดเงินกู้รวม
๑๘๓.๒๘ ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ ๖๓.๓๐) และผลกำไรสุทธิรวม ๗.๒๑ ล้านบาท
(เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ ๒๒.๗๗) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
202 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 23/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
พ.ศ. ๒๕๖๑ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
กรณีการจัดซื้อจัดจ้างจากรัฐวิสาหกิจหรือนิติบุคคลในเครือของหน่วยงานของรัฐเดียวกัน
โดยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของหน่วยงานของรัฐในรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทที่เป็นนิติบุคคลในเครือของหน่วยงานของรัฐเดียวกัน
จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๕ ของทุนทั้งหมด เป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของทุนทั้งหมด
เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุของรัฐวิสาหกิจมีความโปร่งใสมากขึ้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เห็นควรนำนิยาม
“รัฐวิสาหกิจ” ในพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
มาปรับใช้กับร่างกฎกระทรวงฯ ฉบับนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างความชัดเจน
และยากต่อการใช้ช่องว่างของกฎหมายเพื่อเอื้อต่อการทุจริต และเห็นควรกำหนดรูปแบบ
หลักเกณฑ์ และกระบวนการต่าง ๆ
เพื่อรับรองสิทธิของประชาชนในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
และตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
และพระราชบัญญัติฯ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สามารถคุ้มครองสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
รวมทั้งยังเป็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐโดยประชาชนด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
203 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (นายมหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์) | กค. | 23/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายมหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์
ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
แทนผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝากเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
204 | โครงการสลากการกุศลเพิ่มเติม | กค. | 23/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้มีการออกสลากการกุศลเพื่อสนับสนุนโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการฯ
จำนวน ๑๑ โครงการ วงเงินรวม ๘๓๗.๖๕ ล้านบาท ๒.
มอบหมายให้สำนักงานสลากฯ ดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ เป็นผู้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย
และจ่ายเงินรางวัลสลากการกุศล ๒.๒
ประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับการสนับสนุน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการออกสลากการกุศล
การขออนุญาตการออกสลากการกุศลโดยปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และการนำส่งเงินให้หน่วยงานเจ้าของโครงการตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโดยให้ผู้รับใบอนุญาตการออกสลากการกุศลเสียภาษีการพนันเหลือร้อยละ
๐.๕ แห่งยอดราคาสลากซึ่งมีผู้รับซื้อก่อนหักรายจ่ายตามข้อ ๑๒ (๔)
ของกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน
พุทธศักราช ๒๔๗๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ๒.๓
จัดทำแผนการออกสลากการกุศลและแผนการใช้เงินของแต่ละโครงการ และรายงานต่อคณะกรรมการฯ
เพื่อประโยชน์ในการกำกับ
ติดตามการดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ ๒.๔
บริหารการจ่ายเงินให้หน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากโครงการสลากการกุศลตามความเหมาะสมและเร่งด่วนเพื่อให้โครงการสลากการกุศลสามารถเบิกจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว ๓.
มอบหมายให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการ ดังนี้ ๓.๑
กำหนดระยะเวลาในการผูกพันวงเงินของโครงการที่ได้รับการสนับสนุน
และหากเกิดกรณีที่หน่วยงานเจ้าของโครงการไม่สามารถผูกพันวงเงินได้ตามกำหนด
ให้คณะกรรมการฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบการขอขยายระยะเวลาผูกพันวงเงิน หรือหากคณะกรรมการฯ
พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการดังกล่าวไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้
ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกวงเงินสนับสนุนโครงการดังกล่าว ๓.๒
เปลี่ยนแปลงรายละเอียดการเงินภายในโครงการที่ได้รับการสนับสนุน โดยจะต้องไม่เปลี่ยนแปลงเป็นกิจกรรมที่แตกต่างจากโครงการที่ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการติดตามและประเมินผลความก้าวหน้าของการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
เพื่อให้การดำเนินโครงการสลากฯ เกิดความคุ้มค่าในการสนับสนุนงบประมาณ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อย่างแท้จริง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
205 | การขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค. | 16/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่อัตราร้อยละ
๐.๑๒๕ ต่อปี
ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน เป็นระยะเวลา ๑ ปี สำหรับรอบการนำส่งเงินในปี พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
รวม ๔ แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยปรับลดอัตราเงินนำส่งเหลือร้อยละ ๐.๑๒๕ ต่อปี
ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน สำหรับรอบการนำส่งเงินในปี พ.ศ. ๒๕๖๗
โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
206 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 11 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 16/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๑๑ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑ - ๖ เมษายน ๒๕๖๗ ณ
เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยในการประชุมฯ ได้มีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุม
AFMGM ครั้งที่
๑๑ ซึ่งในระหว่างการประชุมได้มีการปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว เช่น
การปรับรายงานประมาณการเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับรายงานล่าสุดของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน
+ ๓ และเพิ่มถ้อยคำสนับสนุนให้มีการหารือเพื่อผลักดันการจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่ ๒ โดยมีบางถ้อยคำแตกต่างจากฉบับร่างตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒ เมษายน ๒๕๖๖๗ เพื่อให้มีความเหมาะสม และสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น
โดยไม่กระทบสาระสำคัญ ไม่กระทบหรือขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย
และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
207 | การแยกบัญชีโครงการให้สินเชื่อตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนรายย่อยและโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสินเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบาย (Public Service Account : PSA) | กค. | 16/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแยกบัญชีโครงการให้สินเชื่อตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนรายย่อยและโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
(Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสินเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ
(Public Service Account : PSA) พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้ความสำคัญมากขึ้นกับการพิจารณาให้สินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ในระยะยาว
เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาวต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
208 | แนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติเพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ | กค. | 16/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการตามแนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ
(กอช.) เพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว
กอช. จะมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายได้เมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๔ ในส่วนที่เกี่ยวข้องเสียก่อน และมอบหมาย กอช.
ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔
ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินโครงการสลากสะสมทรัพย์ฯ ข้างต้นต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นและเงินรางวัลที่จะขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำทุกปีนั้น
ให้กระทรวงการคลังพิจารณาถึงความคุ้มค่า ต้นทุน ความจำเป็นเร่งด่วน
ความเหมาะสมกับสภาวการณ์ และประโยชน์สูงสุดของทางราชการและที่ประชาชนจะได้รับ โดยให้คำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน
และพิจารณาแนวทางในการบริหารเงินสะสมที่สมาชิกซื้อสลากเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม
รวมทั้งความเป็นไปได้ในการนำผลตอบแทนดังกล่าว หรือรายได้อื่นใดมาสมทบกับเงินรางวัลที่ภาครัฐจะต้องสนับสนุน
เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับการดำเนินโครงการและลดภาระงบประมาณในระยะยาวของภาครัฐ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการคลังและกองทุนการออมแห่งชาติดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรพิจารณาขยายผู้มีสิทธิซื้อสลากฯ
ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ ข้าราชการ พนักงานของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
กลุ่มแรงงานในระบบ กลุ่มผู้ประกันตนตามมาตราต่าง ๆ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม
พ.ศ. ๒๕๓๓ ฯลฯ เพื่อให้มีเงินออมที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตยามเกษียณได้อีกช่องทางหนึ่ง
ควรพิจารณามาตรการสร้างแรงจูงใจในการส่งเสริมการออมหรือแนวทางการเพิ่มมูลค่าและสวัสดิการอื่น
ๆ เพิ่มเติม เช่น การออมเงินที่คุ้มครองชีวิตและสุขภาพในรูปแบบของประกัน เป็นต้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เห็นควรพัฒนาแพลตฟอร์มโดยเน้นการสร้างความมั่นคงปลอดภัยของระบบเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลกับการฉ้อโกงและการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่นใจและความสะดวกสำหรับการซื้อสลากแบบออนไลน์
และควรคำนึงถึงการเชื่อมโยงแอปพลิเคชันภาพรวมและฐานข้อมูลเพื่อประโยชน์ในด้านความสะดวกในการใช้งานและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้านอื่น
ๆ ที่อาจมีความเกี่ยวข้องเชิงนโยบายภาครัฐ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
209 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (1. นายธีรลักษ์ แสงสนิท ฯลฯ รวม 5 คน) | กค. | 16/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รวม ๕ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖
กรกฎาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายธีรลักษ์ แสงสนิท ประธานกรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒. นายอาทิตย์ สุริยาภิวัฒน์ กรรมการ ๓. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ กรรมการ ๔. นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการ ๕. นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
210 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 60 ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. .... | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๖o ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท
เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
211 | ร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet
ลงวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๖ ตามนัยข้อ ๓.๗
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงนามในร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา
๑๑ (๖) และ (๙) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีการแก้ไข ดังนี้ ๑. แก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการนโยบายฯ
ให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน เช่น จากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (รองประธานกรรมการคนที่
๒) เป็น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการการคลัง (รองประธานกรรมการคนที่
๒) ๒. ยกเลิกความในข้อ ๒.๒ ของคำสั่ง นร. ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ ที่ระบุว่า
“กำกับ ดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินโครงการ ให้เป็นไปตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบ”
เป็น “กำกับ ดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินโครงการในภาพรวม
รวมทั้งการกระทำที่เข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ให้เป็นไปตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบ” ๓. ยกเลิกความในวรรคท้ายของคำสั่ง นร. ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ ที่ระบุว่า
“สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายของคณะกรรมการนโยบายฯ
ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือตามระเบียบทางราชการ
แล้วแต่กรณี โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ส่วนการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายของคณะอนุกรรมการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ
พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือตามระเบียบทางราชการแล้วแต่กรณี
โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง” ๔. เพิ่มความข้อ ๓ ของคำสั่ง นร. ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ “๓.
สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายของกรรมการนโยบายฯ และคณะอนุกรรมการ
ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หรือตามระเบียบทางราชการ แล้วแต่กรณี ดังนี้ ๓.๑ คณะกรรมการ
ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ๓.๒
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital wallet และคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๓.๓ คณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
212 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธนรัช จงสุทธานามณี) | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายธนรัช
จงสุทธานามณี เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
213 | การต่ออายุความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา (Bilateral Swap Agreement) ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังญี่ปุ่น | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการต่ออายุความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา
(Bilateral Swap
Agreement) ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังญี่ปุ่น มีสาระสำคัญเพื่อขยายอายุความตกลงปัจจุบันออกไปอีก
๓ ปี ถึงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๗๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
214 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์) | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมศุลกากร
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
215 | แนวทางการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย | กค. | 02/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย ดังนี้ ๑) แนวทางการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
ด้านคลังสินค้าทัณฑ์บน เพื่อขายสำหรับร้าน Duty
Free ขาเข้าของผู้ประกอบการ และ ๒)
ผลประโยชน์และผลกระทบของการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้าน
Duty Free ขาเข้าที่กระทรวงการคลังได้ศึกษาไว้ในเบื้องต้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการติดตามและประเมินผลของการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บน
เพื่อขายสำหรับร้าน Duty Free ขาเข้าอย่างใกล้ชิดต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
216 | มาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในบัญชีนวัตกรรมไทย | กค. | 02/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาและความเห็นในภาพรวมของข้อเสนอแนะตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในบัญชีนวัตกรรมไทย
โดยมีสาระสำคัญครอบคลุม ๑๑ ประเด็น ตามข้อเสนอแนะตามมาตรการฯ แบ่งเป็น ๑)
ประเด็นที่หน่วยงานต้องดำเนินการต่อ ๕ ประเด็น เช่น การดำเนินนโยบายที่อาจมีอุปสรรค
หากในอนาคตประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกความตกลงการค้าระหว่างประเทศ
ปัญหานวัตกรรมไทยไม่มีความชัดเจน ๒) ไม่มีประเด็นที่ต้องพิจารณา ๕ ประเด็น เช่น คุณสมบัติของผู้ขายผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมไทยไม่สอดคล้องกับคุณสมบัติของผู้เสนอราคากับหน่วยงานของรัฐ
ผู้ประกอบการไม่แสดงข้อมูลโครงสร้างราคาต้นทุนของผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมไทย และ
๓) ประเด็นที่ควรเน้นให้ดำเนินการ ๑ ประเด็น ได้แก่
การปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
217 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 | กค. | 02/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ครั้งที่ ๒
ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ในคราวประชุมครั้งที่
๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๗ โดยมีรายละเอียดของการปรับปรุงแผนฯ ในครั้งนี้
เช่น ๑) การปรับเพิ่มวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
(เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน) จำนวน ๒๖๙,๐๐๐ ล้านบาท ๒)
การปรับเพิ่มวงเงินปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘-๒๕๗๑ จำนวน ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท และ ๓)
การปรับเพิ่มวงเงินแผนการชำระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
จำนวน ๒๙,๒๐๐ ล้านบาท เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
ทั้งนี้ ในส่วนการจัดสรรงบประมาณเพื่อการชำระต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย
และค่าใช้จ่ายในการกู้เงินของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่รัฐบาลรับภาระ ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดสัดส่วนต่าง
ๆ เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๓
ซึ่งกำหนดให้สัดส่วนงบประมาณเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลรับภาระ
ต้องตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละสองจุดห้าแต่ไม่เกินร้อยละสี่ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
รวมทั้งพิจารณาสถานการณ์ทางการเงิน ประมาณการรายรับ ฐานะทางการคลังของประเทศ
และภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายในด้านต่าง ๆ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรกำกับ ติดตาม
และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า
และเกิดประสิทธิผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแท้จริง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
218 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ) | กค. | 02/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เนื่องจากประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
219 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พ.ศ. .... | กค. | 25/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘
กรกฎาคม ๒๕๖๗ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ รวม ๕ ชนิด
ได้แก่ ๑) เหรียญกษาปณ์ทองคำ ชนิดราคาสองหมื่นบาท ๒) เหรียญกษาปณ์เงิน
ชนิดราคาหนึ่งพันบาท ๓) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคาห้าสิบบาท
๔) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทขัดเงา และ ๕) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทธรรมดา
เพื่อเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘
กรกฎาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
220 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พ.ศ. .... | กค. | 25/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘
กรกฎาคม ๒๕๖๗ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘
กรกฎาคม ๒๕๖๗ โดยกำหนดรายละเอียดของลักษณะเหรียญ บุคคลผู้มีสิทธิประดับเหรียญ
วิธีการประดับเหรียญ การสร้างเหรียญและกิจการอื่นที่จำเป็นของเหรียญ
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเต็มเปี่ยมที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า
ทรงแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรให้มีความร่มเย็นเป็นสุข
เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรและความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดิน
และเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณให้แผ่ไพศาลไปทั้งภายในประเทศและนานาประเทศทั่วโลก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|