ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 18 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 341 - 360 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 341 | การแก้ไขสัญญาประธานในการจ้างธนาคารโลกเป็นที่ปรึกษาแบบมีค่าใช้จ่าย (Amendments to the Framework Agreement for Reimbursable Advisory Services) | กค. | 21/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขสัญญาประธานในการจ้างธนาคารโลกเป็นที่ปรึกษาแบบมีค่าใช้จ่าย (Amendments
to the Framework Agreement for Reimbursable Advisory Services)
ว่า ไม่จำเป็นต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจเต็ม
เนื่องจากในทางปฏิบัติเป็นที่ยอมรับกันระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารโลก เห็นชอบร่างสัญญาประธานในการจ้างธนาคารโลกเป็นที่ปรึกษาแบบมีค่าใช้จ่าย
ฉบับแก้ไข และอนุมัติให้ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังลงนามในร่างสัญญาประธานในการจ้างธนาคารโลกเป็นที่ปรึกษาแบบมีค่าใช้จ่าย
ฉบับแก้ไข ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงร่างสัญญาประธานในการจ้างธนาคารโลกเป็นที่ปรึกษาแบบมีค่าใช้จ่าย
ฉบับแก้ไข
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 342 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายพีรพันธ์ คอทอง) | กค. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
แทนกรรมการอื่นเดิมที่ขอลาออก ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗
พฤศจิกายน ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 343 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 108 ปี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. .... | กค. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๐๘ ปี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาทเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๑๐๘ ปี
สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 344 | รายงานสถานะของหนี้สาธารณะตามมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม | กค. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะหนี้สาธารณะตามมาตรา ๓๕ (๑)
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ณ วันที่
๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๖ โดยมีหนี้สาธารณะคงค้างจำนวน ๑๑,๐๒๗,๙๘๐.๐๒ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
๖๑.๗๘ ของ GDP
ซึ่งยังอยู่ในกรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่กำหนดให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP
ไม่เกินร้อยละ ๗๐ ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 345 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวขนิษฐา สหเมธาพัฒน์ ) | กค. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวขนิษฐา สหเมธาพัฒน์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(นักวิชาการคอมพิวเตอร์ทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 346 | ร่างพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจ่ายเงินเดือน
เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ
และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า
“เงินเดือน” และปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการโดยสามารถแบ่งจ่ายเป็น ๒
รอบ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้แก่ข้าราชการ
รวมทั้งเป็นการเพิ่มอัตราเงินหมุนเวียนซึ่งจะช่วยเศรษฐกิจของประเทศ
อีกทั้งเพื่อให้เป็นการเบิกจ่ายเงินเดือนของข้าราชการมีความคล่องตัว รวดเร็ว
และสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงแรงงาน
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานศาลปกครอง ที่เห็นว่าข้อสังเกตตามร่างมาตรา
๓ ที่แก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า “เงินเดือน” หมายความว่า
เงินเดือนและเงินอื่นที่มีกำหนดจ่ายเป็นรายเดือน
หรือที่มีกำหนดจ่ายเป็นอย่างอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ... คำว่า “หรือที่มีกำหนดจ่ายเป็นอย่างอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด”
อาจทำให้เกิดการตีความได้ว่าให้สามารถจ่ายเป็นอย่างอื่นที่มิใช่ตัวเงินได้
เพื่อให้เกิดความชัดเจนอาจปรับปรุงถ้อยคำดังกล่าวเป็น “หรือที่กำหนดจ่ายตามรอบระยะเวลาอื่นภายในแต่ละเดือนตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด”
การใช้ถ้อยคำในมาตรา ๒๐ ที่บัญญัติให้ “การจ่ายเงินเดือนข้าราชการประจำเดือน... ทั้งนี้
กรมบัญชีกลางจะกำหนดวันจ่ายหรือวิธีการจ่ายเป็นอย่างอื่นก็ได้” ควรมีการ
การปรับถ้อยคำเป็น “การจ่ายเงินเดือนข้าราชการประจำเดือน... ทั้งนี้
กรมบัญชีกลางจะกำหนดวันจ่ายและหรือวิธีการจ่ายเป็นอย่างอื่นก็ได้” เพื่อให้ครอบคลุมทั้งกรณีที่จะมีการปรับเปลี่ยนกำหนดวันจ่ายและวิธีการจ่ายอย่างอื่นในอนาคตด้วย
และการแก้ไขมาตรา ๒๐ ควรจะเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับระยะเวลาการจ่ายเงินเดือนก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือน
ซึ่งอาจกำหนดให้มากหรือน้อยกว่าสามวันทำการก็ได้
และเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการและเหตุผลในการแก้ไขร่างพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน
เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ .... และนิยามในมาตรา ๔ การกำหนดวันจ่ายหรือวิธีการจ่ายเป็นอย่างอื่นโดยกรมบัญชีกลางจึงควรได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน ก.พ.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เช่น การแบ่งจ่ายเงินเดือนของข้าราชการเป็น ๒ รอบ
ควรเป็นไปด้วยความสมัครใจของข้าราชการแต่ละราย
เนื่องจากภาระหนี้สินของข้าราชการแต่ละรายมีบริบทที่แตกต่างกัน ควรพิจารณาวิธีการดำเนินการจ่ายเงินเดือนที่เหมาะสมและรอบคอบ
และมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับข้าราชการ
รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องด้วย ในกรณีคณะรัฐมนตรีจะกำหนดจ่ายเงินเดือนเป็นอย่างอื่นที่มิใช่กำหนดจ่ายเป็นรายเดือน
หรือในกรณีกรมบัญชีกลางจะกำหนดวันจ่ายหรือวิธีการจ่ายเป็นอย่างอื่นที่มิใช่กำหนดจ่ายเป็นรายเดือนในวันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนสามวันทำการ
เห็นควรขอให้คณะรัฐมนตรีหรือกรมบัญชีกลางพิจารณาในประเด็นว่า
ข้าราชการจะขอแจ้งความประสงค์ต่อหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อให้มีการจ่ายเงินเดือน ๑
รอบ หรือ ๒ รอบ ให้แก่ตน ได้หรือไม่ อย่างไร ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าการแบ่งจ่ายเงินเดือน
๒ รอบนั้น ควรเป็นภาคสมัครใจ
และวิธีการจะต้องไม่เป็นการสร้างภาระเกินควรให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการหักชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ของข้าราชการ
เป็นต้นไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 347 | ทบทวนการพิจารณาการออกสลากการกุศล | กค. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบการพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ (เรื่อง โครงการสลากการกุศล) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยให้ปรับเปลี่ยนข้อเสนอเฉพาะในข้อ ๗.๓.๓ ของหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด
ที่ กค ๑๘๑๗.๒/๙๑๘๘ ลงวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เป็น ดังนี้ เดิม “ในกรณีมีวงเงินโครงการสลากการกุศลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔ คงเหลือจากที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการออกสลากการกุศล ตามข้อ
๗.๑ ให้คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศลพิจารณากลั่นกรองจากโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินจากโครงการสลากการกุศลที่ได้จัดส่งข้อเสนอมาแล้ว...” เป็น “มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณโครงการสลากการกุศลดำเนินการพิจารณาการออกสลากการกุศลสำหรับโครงการสลากการกุศลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง การปรับปรุงหลักการและแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศล)
ที่มีวงเงินคงเหลือ จำนวน ๘๓๘.๖๒ ล้านบาท ตามหลักการและแนวทางการออกสลากการกุศลของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
โดยให้มีการเปิดรับข้อเสนอโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินจากโครงการสลากการกุศลเพิ่มเติมได้
ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศลมีอำนาจกำหนดวงเงินที่จะให้การสนับสนุนแต่ละโครงการ
รวมทั้งความจำเป็นและความพร้อมของการดำเนินโครงการ
เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของเงินสนับสนุนจากโครงการสลากการกุศลและสามารถเบิกจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว” |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 348 | ร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 30 | กค. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ครั้งที่ ๓o (Joint Ministerial
Statement of the 30th APEC Finance
Ministers’ Meeting) จะจัดขึ้นในวันที่
๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงินการคลังระหว่างกัน
เพื่อขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของภูมิภาคเอเปคอย่างครอบคลุมและยั่งยืน โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างเป็นรูปธรรม
เช่น (๑) การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก (๒)
เศรษฐศาสตร์อุปทานสมัยใหม่ (๓) การพัฒนานวัตกรรมและสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความรับผิดชอบ
และ (๔) การเงินเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรวมทั้งข้อสังเกตของธนาคารแห่งประเทศไทย
เช่น ย่อหน้า ๒
น่าจะสามารถเพิ่มถ้อยคำเพื่อย้ำความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายกรุงเทพมหานคร
ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) เพื่อสะท้อนการสานต่อผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี
๒๕๖๕ และย่อหน้า ๓
ถ้อยคำเรื่องสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อเขตเศรษฐกิจเอเปค
ซึ่งคาดว่าน่าจะหมายถึงสถานการณ์รัสเชีย-ยูเครน กระทรวงการต่างประเทศไม่มีข้อขัดข้องหากจะมีการใช้ถ้อยคำเดิม
(Agreed Language) ในประเด็นดังกล่าวตามที่ปรากฏในร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีเอเปค
และปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๒ และร่างเอกสารดังกล่าวปรากฏการใช้คำว่า
“Commit” ที่มีลักษณะผูกมัดการดำเนินนโยบายของประเทศ
ซึ่งอาจเกินกว่าแนวทางความร่วมมือภายใต้กรอบ APEC ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล
และการเงินเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงอาจพิจารณาปรับถ้อยคำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อรองรับการพัฒนาของเรื่องดังกล่าวในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ครั้งที่ ๓๐ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 349 | โครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย (อิสราเอล) | กค. | 31/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย
(อิสราเอล) ภายในกรอบวงเงินประมาณ ๑,๒๐๐ ล้านบาท
พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามผลการดำเนินงานจริงตามขั้นตอน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 350 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (สินค้าน้ำมันเบนซินและน้ำมันที่คล้ายกัน) | กค. | 31/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มีสาระสำคัญเป็นการปรับลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทน้ำมันเบนซิน
๑ บาทต่อลิตร โดยให้อนุพันธ์ของน้ำมันดังกล่าวมีการปรับลดอัตราภาษีตามสัดส่วนเนื้อน้ำมันที่ผสมอยู่
ตั้งแต่วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗
และหลังจากนั้นให้อัตราภาษีกลับสู่อัตราเดิมก่อนการปรับลด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายกระทรวงพลังงานใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อปรับราคาขายปลีกให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะรัฐมนตรีในการลดราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์
๙๑ ต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซินที่สะท้อนต้นทุนตามข้อเท็จจริง ประชาชนตระหนักถึงภาระการชดเชยต้นทุนส่วนต่าง
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์
และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการทางภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ความสำคัญกับการดูแลแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางต่อการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและราคาน้ำมัน
และพิจารณาให้ราคาน้ำมันเบนซินเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก
เพื่อให้ประชาชนและระบบเศรษฐกิจมีการปรับตัวไปสู่การประหยัดพลังงาน
รวมทั้งลดแรงกดดันทางด้านการคลัง
และรักษาขีดความสามารถของกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรองรับความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 351 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี กรณีการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเฉพาะราย (นางสาวขนิษฐา สหเมธาพัฒน์) | กค. | 31/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๖
(เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง)
กรณีการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเฉพาะราย (นางสาวขนิษฐา สหเมธาพัฒน์) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 352 | ขออนุมัติการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับโครงการเช่าพื้นที่บริเวณศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2560 | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๘๙,๗๔๗,๓๐๐ บาท
เพื่อสมทบเพิ่มเติมรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน
ให้เต็มกรอบวงเงินตามสัญญาเช่าพื้นที่อาคารและสัญญาบริการของโครงการเช่าพื้นที่บริเวณศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๖/๔๑๐ ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม
๒๕๖๖) โดยให้เบิกจ่ายในงบดำเนินงาน และให้กรมธนารักษ์จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน ไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 353 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. .... | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี วันประสูติ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๑๐๐ ปี
วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 354 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
(บัญชีสะสม) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยให้กองทุนฯ ทยอยโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีสะสมฯ
ตามปริมาณสภาพคล่องของกองทุนฯ เนื่องจากจำนวนเงินดังกล่าวมีความเหมาะสมกับประมาณการกระแสเงินรับ-จ่ายของกองทุนฯ
และมีเงินสดคงเหลือเพียงพอเพื่อสำรองเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ๒ ปี และภาระชดเชย ที่ต้องดำเนินการ
อย่างไรก็ดี หากกองทุนฯ
ได้รับเงินที่มีนัยสำคัญให้พิจารณาทบทวนเพื่อขออนุมัตินำส่งเงินเข้าบัญชีสะสมฯ
เพื่อเติมต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 355 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 10 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๑๐ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ
กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น
(นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้มีการปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว
โดยมีบางถ้อยคำแตกต่างจากฉบับร่างที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๓
สิงหาคม ๒๕๖๖ เพื่อให้มีความเหมาะสม และสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น
โดยไม่กระทบสาระสำคัญ ไม่กระทบหรือขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย
และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 356 | รายงานผลการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการให้บริการสาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย
(รฟท.)
รวมทั้งข้อสังเกตของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะในการปรับปรุงการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณของ
ขสมก. และ รฟท. สรุปได้ ดังนี้ (๑) รายงานผลการให้บริการสาธารณะของ ขสมก.
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔-๓๐ กันยายน ๒๕๖๕)
ส่วนใหญ่เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการสูงกว่าเป้าหมาย
และการร้องเรียนเหตุการณ์ด้วยความปลอดภัยผ่าน Call
Center เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีผลขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ ๒,๕๓๐.๕๙ ล้านบาท และมีข้อสังเกตเกี่ยวกับผลการดำเนินการ เช่น ขสมก.
ควรรวบรวมข้อมูลร้องเรียนให้ครบทุกช่องทาง รวมทั้งนำข้อมูลที่ได้จากระบบ GPS
และระบบร้องเรียนมาวิเคราะห์สาเหตุและกำหนดแนวทางแก้ไขเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการ
และให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาทบทวนบทบาทของ ขสมก.
ในการให้บริการสาธารณะเชิงสังคมที่เหมาะสมกับความต้องการของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป
และ (๒) รายงานผลการให้บริการสาธารณะของ รฟท. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (ตั้งแต่
๑ ตุลาคม ๒๕๖๔-๓๐ กันยายน ๒๕๖๕) ส่วนใหญ่เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น
ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการสูงกว่าเป้าหมาย
การบริหารเวลาเดินรถให้ตรงต่อเวลาสูงกว่าเป้าหมาย
ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุต่อการเดินรถโดยสารเชิงสังคม ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม มีผลการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น
จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการน้อยกว่าเป้าหมายที่กำหนด ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงกว่าเป้าหมาย
โดยมีผลขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ ๓,๐๖๓.๔๒ ล้านบาท
และมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการดำเนินการ เช่น รฟท. ควรเร่งปรับจำนวนขบวนรถให้มีความเหมาะสมต่อความต้องการเดินทาง
เพื่อให้การให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 357 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายเฉลิมศักดิ์ เลิศวงศ์เสถียร) | กค. | 16/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเฉลิมศักดิ์
เลิศวงศ์เสถียร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (วิชาการคอมพิวเตอร์)
ระดับสูง] ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นักวิชาการคอมพิวเตอร์ทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 358 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน 2566) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๖) ของธนาคารแห่งประเทศไทย สรุปสาระสำคัญได้
ดังนี้ (๑) เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๖ ขยายตัวที่ร้อยละ ๒.๒
ชะลอตัวลงจากช่วงครึ่งหลังของปีก่อน
การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลงจากการลงทุนในเครื่องจักรและเครื่องมือ
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัว ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยแข็งค่าขึ้นจากช่วงครึ่งหลังของปีก่อน
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ ๒.๔๙ ลดลงจากร้อยละ ๖.๕๔ ในช่วงครึ่งหลังของปีก่อนและเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี
๒) ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการดำเนินงาน เช่น ๑)
การดำเนินการนโยบายอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๖
คณะกรรมการนโยบายการเงินทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวม ๓ ครั้ง
อยู่ที่ร้อยละ ๒ (๒) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน เช่น
การทบทวนขอบเขตการประกอบธุรกิจและรูปแบบการลงทุนของธนาคารพาณิชย์และลด ละ
เลิกหลักเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจน และ (๓)
แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน เช่น
การสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการแข่งขันของผู้ให้บริการชำระเงินและใช้เทคโนโลยีใหม่พัฒนานวัตกรรมบริการชำระเงินในประเทศและระหว่างประเทศ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 359 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2566 | กค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน
(กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. ๒๕๖๖ สรุปได้ ดังนี้ (๑) เป้าหมายนโยบายการเงิน ปี
๒๕๖๖ คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕
อนุมัติให้ใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปช่วงร้อยละ ๑-๓ เป็นเป้าหมายนโยบายการเงิน (๒)
ภาวะแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๖
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่การส่งออกฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น
สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (๓) การดำเนินนโยบายการเงิน กนง.
ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราร้อยละ ๑.๒๕ ไปเป็นร้อยละ ๒.๐ เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
ส่วนการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี
๒๕๖๖ เคลื่อนไหวผันผวนตามความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกา
การอ่อนค่าของเงินหยวน และความกังวลต่อปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 360 | ขออนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการโครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง และค่าจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง | กค. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติการเพิ่มกรอบวงเงินตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ได้แก่
โครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง แขวงพญาไท เขตพญาไท
กรุงเทพมหานคร ๑ โครงการ จำนวน ๗๘,๐๖๒,๙๐๐ บาท จากวงเงินตามสัญญา จำนวน ๙๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นวงเงิน ๑,๐๐๓,๐๖๒,๙๐๐ บาท
และรายการค่าควบคุมงานโครงการก่อสร้างตกแต่งภายในอาคารที่ทำการใหม่ กระทรวงการคลัง
แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ๑ โครงการ จำนวน ๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท จากวงเงินตามสัญญา จำนวน ๓๒,๒๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นวงเงิน ๓๙,๗๐๐,๐๐๐
บาท โดยใช้จ่ายวงเงินส่วนเพิ่มจากเงินฝากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภาษีท้องถิ่นร้อยละ ๑๐
และการขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๖
เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. คณะรัฐมนตรีเห็นว่า
การก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารของส่วนราชการของรัฐควรต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานด้วย เช่น
การติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และการเลือกใช้วัสดุที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เป็นต้น
จึงขอให้กระทรวงการคลังรับความเห็นดังกล่าวข้างต้นไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
