ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 20 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 381 - 400 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
381 | รายงานความก้าวหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และการใช้สิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 | กค. | 27/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
ปี ๒๕๖๕ และการใช้สิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี ๒๕๖๕
ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม-๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖
และสถานะปัจจุบันของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
สำหรับจัดสรรสวัสดิการแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สรุปได้ ดังนี้ (๑) ความก้าวหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
ปี ๒๕๖๕ มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ๑๙,๖๔๗,๒๔๑ ราย
โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์ตามโครงการฯ ปี ๒๕๖๕ จำนวน ๑๔,๕๙๖,๘๒๐ ราย (เริ่มใช้สิทธิ ๑ เมษายน ๒๕๖๖) และมีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ตามโครงการฯ
จำนวน ๕,๐๕๐,๔๒๑ ราย
ซึ่งผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว
และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นอุทธรณ์ดังกล่าว ทั้งนี้
ผู้ที่ผ่านการพิจารณา (รอบอุทธรณ์) จะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม
๒๕๖๖ เป็นต้นไป และยังคงใช้สิทธิย้อนหลังสำหรับวงเงินอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ๓
เดือน รวมเป็น ๙๐๐ บาท นอกจากนี้
กระทรวงการคลังได้ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นเกษตรกรเพิ่มเติม
ทำให้มีผู้ผ่านเกณฑ์ตามโครงการฯ ปี ๒๕๖๕ เพิ่มเติมอีก ๔๑๖,๑๕๓
ราย ส่งผลให้และผู้ผ่านเกณฑ์ตามโครงการฯ ปี ๒๕๖๕ รวมทั้งสิ้น ๑๕,๐๑๒,๙๗๓ ราย และคณะกรรมการใช้สวัสดิการแห่งรัฐสำหรับกลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์เพิ่มเติมด้วยแล้ว
(๒) การใช้สิทธิภายใต้โครงการฯ ปี ๒๕๖๕ ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๖ พบว่าเดือนเมษายน
๒๕๖๖ มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ ๑๒.๓๑ ล้านราย มูลค่าการใช้สิทธิรวม ๔,๐๐๕.๖๕ ล้านบาท และเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖ มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ ๑๒.๗๙ ล้านราย
มูลค่าการใช้สิทธิรวม ๔,๒๕๒.๑๕ ล้านบาท มีการเบิกจ่ายเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการเดือนละ
๒๐๐ บาท ในเดือนเมษายน ๒๕๖๖ มีการจ่ายเงินให้แก่คนพิการ ๗๙๔,๑๘๙
ราย เป็นเงิน ๑๕๘.๘๔ ล้านบาท และในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖
มีการเบิกจ่ายเงินให้คนพิการ ๑,๐๑๖,๐๐๘
ราย เป็นเงิน ๒๐๓.๒๐ ล้านบาท และ (๓) สถานะกองทุนฯ ปัจจุบันกองทุนฯ มีงบประมาณรวม
๕๑,๖๔๔.๕๑ ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายสำหรับจัดสรรสวัสดิการ ๓๕,๙๒๓.๔๕ ล้านบาท คงเหลืองบประมาณ ๑๕,๗๒๑.๐๖ ล้านบาท
(ณ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖) โดยคาดว่าจะเพียงพอใช้จ่ายถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖ ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
382 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565 - 2570 ประจำปี 2565 | กค. | 20/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน
พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๗๐ ประจำปี ๒๕๖๕
และโครงการตามแผนปฏิบัติการ ปี ๒๕๖๖ สรุปได้ ดังนี้ (๑)
ผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ประจำปี ๒๕๖๕
เป็นการวางรากฐานและเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยมีกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะทางการเงินอย่างบูรณาการเพื่อสร้างระบบนิเวศด้านการพัฒนาทักษะทางการเงินที่ยั่งยืน
ประกอบด้วย ๓ เป้าหมาย ได้แก่
คนไทยตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเงินและเข้าถึงข้อมูลการเงิน
คนไทยมีความรู้และทักษะทางการเงินเพียงพอที่จะนำไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม และประเทศไทยมีกลไกขับเคลื่อนการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินอย่างบูรณาการและยั่งยืน
ซึ่งมีแผนงานที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ๗ แผนงาน เช่น การรณรงค์ระดับชาติ
เพื่อสร้างความตระหนักรู้ทางการเงินให้แก่ประชาชน แผนงานที่เป็นไปตามแผน ๑๑ แผนงาน
เช่น การผลักดันการพัฒนาทักษะทางการเงินในหลักสูตรการเรียนในระดับการศึกษาชั้นต่าง
ๆ รวมถึงบุคลากรภาครัฐ และแผนงานที่เป็นไปตามแผน ๑ แผนงาน คือ
กำหนดให้การพัฒนาทักษะทางการเงินเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ
เนื่องจากอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด - ๑๙
จึงต้องเร่งแก้ไขหนี้สินครัวเรือนก่อน (๒)
คณะกรรมการการพัฒนาทักษะทางการเงินเพื่อขับเคลื่อน กำกับ ติดตาม
และประเมินผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ มีข้อเสนอแนะว่า
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญในการให้ความรู้การเงินดิจิทัล ภัย
และกลโกงทางการเงินเพิ่มขึ้น และ (๓) หน่วยงานต่าง ๆ
ได้เสนอโครงการตามแผนปฏิบัติการฯ ปี ๒๕๖๖ เพิ่มเติม ๑๘ โครงการ โดยส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ด้านการเงินการผลักดันการพัฒนาทักษะทางการเงินในระบบการศึกษา
และการให้ความรู้ด้านการเงินแก่กลุ่มเป้าหมาย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
383 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 130 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร พ.ศ. .... | กค. | 20/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๓๐ ปี
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดของเหรียญกษาปณ์โลหะขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท
เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๓๐ ปี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
384 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 | กค. | 13/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
385 | แนวทางส่งเสริมการนำเอทานอลไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากการเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพและการผลิตสุรา ตามมติคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy:BCG Model) ครั้งที่ 2/2565 | กค. | 13/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางส่งเสริมการนำเอทานอลไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากการเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพและการผลิตสุรา
ตามมติคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว
(Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ สรุปได้ ดังนี้ (๑)
การจัดทำมาตรฐานการผลิตเอานอลเพื่อให้การอนุญาตนำเอทานอลแปลงสภาพหรือบริสุทธิ์ไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอื่น
(๒) การจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้ผลิตเอทานอลและผู้ใช้เอทานอล
โดยกำหนดรายละเอียดของปริมาณเอทานอลที่ต้องส่งมอบและระยะเวลาอย่างชัดเจน
เพื่อเป็นกลไกการจัดซื้อและจัดหาเอทานอลล่วงหน้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ
(๓) การแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนดปริมาณการซื้อขายเอทานอลจากผู้ผลิตในประเทศล่วงหน้า
และกำหนดปริมาณการนำเข้าเอทานอลที่จะได้รับสิทธิอากรขาเข้าพิเศษจากการนำเข้าเอทานอลเพื่อนำมาใช้ในการผลิตเอทิลีนชีวภาพ
(๔) การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและผู้ผลิตเอทานอลในประเทศให้สามารถผลิตเอทานอลที่มีคุณภาพและมาตรฐาน
และ (๕) การออกกฎหมายและแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น
การอนุญาตให้ผู้รับใบอนุญาตผลิตสุรากลั่นชนิดเอทานอลสามารถนำเอาเอทานอลไปจำหน่ายให้กับอุตสาหกรรมอื่น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
386 | รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2566 | กค. | 13/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่
๑ ปี ๒๕๖๖ ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. การประเมินภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ ๑ ปี ๒๕๖๖ โดยเศรษฐกิจโลก
เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราร้อยละ ๒.๕ และร้อยละ ๒.๙ ในปี ๒๕๖๖
และ ๒๕๖๗ ตามลำดับ และอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ของประเทศเศรษฐกิจยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย
ส่วนเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัวที่ร้อยละ ๓.๖ และ ๓.๘ ในปี ๒๕๖๖
และ ๒๕๖๗ ตามลำดับ การบริโภคของภาคเอกชน ปี ๒๕๖๖ มีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ ๔.๐
และมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทย ปี ๒๕๖๖ มีแนวโน้มหดตัวลงเล็กน้อย
ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ ๒.๙ และ ๒.๔ ในปี ๒๕๖๖ และ ๒๕๖๗
ตามลำดับ ๒. ภาวะการเงินโดยรวมอยู่ในระดับผ่อนคลาย โดยตึงตัวขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น
ส่วนค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ ๓๓.๙๓ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งแข็งค่าขึ้นจากไตรมาสก่อน ๓. การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสที่ ๑ ปี ๒๕๖๖ กนง.
มีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากร้อยละ ๑.๒๕ เป็นร้อยละ ๑.๕๐ ต่อปี
และจากร้อยละ ๑.๕๐ เป็นร้อยละ ๑.๗๕ ต่อปี ตามลำดับ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
387 | การโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่คู่สัญญาในการขายที่ราชพัสดุที่ตกเป็นของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาล | กค. | 13/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่คู่สัญญาในการขายที่ราชพัสดุที่ได้มาโดยคำพิพากษาของศาลให้ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยการเปิดประมูลขาย จำนวน ๒๗ ราย ๓๒ รายการ (๔๕ แปลง)
และโดยยกเว้นการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป จำนวน ๒ ราย ๒ รายการ (๓ แปลง)
ตามกฎกระทรวงการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่มิใช่ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ เห็นควรที่หน่วยงานจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสม และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ
ไปดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
388 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 130 ปี องค์กรอัยการ พ.ศ. .... | กค. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๓๐ ปี องค์กรอัยการ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๓๐ ปี องค์กรอัยการ
ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
389 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 | กค. | 30/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ
ตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจริง
ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖
ยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด
ได้แก่ สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ กรอบที่กำหนดไม่เกินร้อยละ
๗๐ สัดส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นจริงร้อยละ ๖๑.๓๐
สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ กรอบที่กำหนดไม่เกินร้อยละ
๓๕ สัดส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นจริงร้อยละ ๓๐.๙๑
สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด กรอบที่กำหนดไม่เกินร้อยละ
๑๐ สัดส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นจริงร้อยละ ๑.๖๓
และสัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ
กรอบที่กำหนดไม่เกินร้อยละ ๕ สัดส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นจริงร้อยละ ๐.๐๕
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
390 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเรื่องที่อุทธรณ์ไม่ได้ พ.ศ. .... | กค. | 30/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดเรื่องที่อุทธรณ์ไม่ได้ พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานของรัฐที่ใช้สิทธิอุทธรณ์ไม่ได้
พ.ศ. ๒๕๖๐
เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นที่ต้องห้ามอุทธรณ์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ
เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นว่าในส่วนที่ระบุไม่มีสิทธิอุทธรณ์ในข้อ
๒ (๓) การจัดซื้อจัดจ้างที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามมาตร ๕๖ (๑) (ค) ว่าเป็นกรณีการตัดสิทธิอุทธรณ์ของผู้ซึ่งยื่นข้อเสนอในกระบวนการของฝ่ายบริหาร
ซึ่งอาจมีการนำข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลได้ทันทีก็ตาม
แต่เหตุจำเป็นเร่งด่วนนั้น ไม่อาจเป็นข้ออ้างไม่ให้อุทธรณ์ได้
หากเป็นกรณีอุทธรณ์เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ ผิดข้อบังคับ หรือการกระทำทุจริตเอื้อประโยชน์
เพราะฝ่ายบริหารมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบให้มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่สุจริตโปร่งใส
ตามหลักธรรมาภิบาล และตามกฎหมาย
ทั้งการที่จะมีการพิจารณาในเรื่องอุทธรณ์ลักษณะดังกล่าวก่อนลงนามในสัญญาย่อมเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐได้
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
391 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 | กค. | 23/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการลงทุนมติของที่ประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปี ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการต่อไปให้ถูกต้อง
เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
392 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมศุลกากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษ
สำหรับข้าราชการกรมศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยปรับปรุงชุดเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้นให้มีเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้นข้าราชการกรมศุลกากรหญิง
(จากเดิมข้าราชการกรมศุลกากรหญิงไม่มีชุดเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้น)
และแก้ไขเพิ่มเติมเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้นข้าราชการกรมศุลกากรชาย (เช่น
ปรับปรุงเสื้อเป็นเสื้อคอแบะแบบฝึกปล่อยเอวเป็นสีน้ำเงินดำจากเดิมเป็นเสื้อคอพับติดกับกางเกงสีน้ำเงินดำ
และเพิ่มเติมให้มีกางเกงขายาวแบบฝึกสีน้ำเงินดำ
จากเดิมที่ใช้เป็นกางเกงขายาวสีน้ำเงินดำ)
เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการตรวจค้น ปราบปราม และตรวจการณ์
และเพื่อให้ข้าราชการมีเครื่องแบบที่เหมาะสมกับภารกิจดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
393 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้พัสดุส่งเสริมดิจิทัลตามบัญชีบริการดิจิทัลเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการดิจิทัลของประเทศไทยของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
เป็นพัสดุประเภทที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุดังกล่าวโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจงหรือวิธีคัดเลือก
แล้วแต่กรณี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
394 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2566 | กค. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เสนอ
และให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ปัญหาอุปสรรคในการจัดหาอากาศยานให้เป็นไปตามแผนการจัดหาอากาศยานในปี
๒๕๖๗-๒๕๖๘ ด้วย ๒. ให้คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
395 | รายงานการประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 1 | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ รอบ ๖ เดือน
ครั้งที่ ๑ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
การติดตามประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกำหนดฯ มีโครงการทั้งสิ้น ๒,๔๗๔ โครงการ
ประกอบด้วย ๓ แผนงาน ได้แก่ (๑) เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) (๒) เพื่อช่วยเหลือ
เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ และ (๓)
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ ๒. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกลุ่มที่ปรึกษาภายใต้โครงการและแผนงานภายใต้พระราชกำหนดฯ
ได้จัดทำรายงานผลฯ ซึ่งคณะกรรมการประเมินผลการใช้จ่ายเงินตามพระราชกำหนดฯ
ได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
โดยคัดเลือกโครงการที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมที่แล้วเสร็จ จำนวน ๑๐ โครงการ
มีกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ๑๘๔,๔๑๐.๔๔ ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายรวม ๑๘๓,๔๙๑.๓๐
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๕๐ ของกรอบวงเงิน โดยทั้ง ๑๐ โครงการ
มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก ช่วยให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
จำนวน ๔๒,๓๒๒.๒๒ ล้านบาท
และมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่คาดว่ารัฐจะได้กลับคืนสูงสุดภายใน ๓ ปี จำนวน ๘,๑๖๘.๒๓ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
396 | รายงานการประเมินผลโครงการในภาพรวม รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 3 และรายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการประเมินผลโครงการในภาพรวม รอบ ๖ เดือน
ครั้งที่ ๓ และรายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
พ.ศ. ๒๕๖๓ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) รายงานประเมินผลโครงการในภาพรวม รอบ ๖
เดือน ครั้งที่ ๓ โดยผลการประเมินในภาพรวมฯ พบว่า
เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ๓,๑๘๔,๓๘๕.๓๔ ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ๗๙๖,๘๔๙.๕๓ ล้านบาท และสามารถรักษาการจ้างงาน ๒๐.๕๑ ล้านอัตรา
อีกทั้งผลการประเมินในด้านความสอดคล้องและความเชื่อมโยง ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
ผลกระทบและความยั่งยืน มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก
และผลการประเมินในระดับแผนงานมีผลการดำเนินอยู่ในระดับดีมาก ได้แก่
แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-๑๙
แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยา และชดเชยให้กับภาคประชาชน
เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙
แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ เช่น โครงการ “โคก หนอง นาโมเดล” (๒)
รายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ
โดยใช้ ๓ แบบจำลอง ได้แก่ แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาค ใช้ประเมินผล เช่น ผลกระทบต่อ
GDP เพิ่มขึ้น ๐.๘๐ ล้านล้านบาท แบบจำลองดุลยภาพทั่วไปเชิงพลวัติ
ใช้ประเมินผล เช่น มูลค่า Real GDP เพิ่มสูงขึ้น ๑๗๑,๗๔๑.๕๓ ล้านบาท และแบบจำลองปัจจัยการผลิต ใช้ประเมินผล เช่น
เงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ๓,๑๘๔,๓๕๘.๓๔
ล้านบาท สร้างมูลค่า GDP ๗๙๖,๘๔๙.๕๓
ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
397 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๙๐
ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อเฉลิมพระเกียรติสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้แผ่ไพศาลไปทั้งภายในประเทศและนานาประเทศ
และเป็นที่ระลึก
รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกรมธนารักษ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
398 | ร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองระดับผู้นำทางอาเซียนในการส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และส่งเสริมความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคโดยใช้เทคโนโลยี
รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสนับสนุนการจัดตั้งLocal Currency Transaction Task Force เพื่อสนับสนุนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
399 | รายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม - ธันวาคม 2565) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๕) ของธนาคารแห่งประเทศไทย สรุปได้ ดังนี้ (๑)
เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี ๒๕๖๕ ขยายตัวที่ร้อยละ ๒.๙
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้าและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัว ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งหลัง
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ ๖.๕๔
เพิ่มขึ้นจากในช่วงครึ่งแรกของปีที่อยู่ที่ร้อยละ ๕.๖๑ และเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี
(๒) ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการดำเนินงาน เช่น (๑)
การดำเนินนโยบายด้านอัตราดอกเบี้ย ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๕
คณะกรรมการนโยบายการเงินทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จำนวน ๓ ครั้ง โดย ณ
สิ้นปี ๒๕๖๕ อยู่ที่ร้อยละ ๑.๒๕ (๒) แนวทางการดำเนินงานการประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน
โดยจะทบทวนกรอบการประเมินธนาคารพาณิชย์ให้สอดรับกับภูมิภาคทางการเงินของไทย
และครอบคลุมถึงความเสี่ยงใหม่ ๆ และ (๓)
แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน
โดยจัดทำโครงการเพื่อส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลและการชำระเงินด้วยดิจิทัลอย่างครบวงจร
โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริหารได้ภายในปี ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
400 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 9 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๙ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๘-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ
เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม สรุปได้ ดังนี้ (๑)
การประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังอาเซียน (AFMM) ครั้งที่ ๒๗ ที่ประชุมฯ
ได้ติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือทางการเงินอาเซียน โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ
เช่น การปรับทิศทางการดำเนินงานไปสู่การลงทุนในโครงการสีเขียวเพิ่มขึ้น
และการพิจารณาการเพิ่มทุนมูลค่า ๑๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ของกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (๒) การประชุม AFMGM ครั้งที่ ๙
มีการหารือเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
และรับทราบประเด็นที่สำคัญที่อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนต้องการผลักดันให้สำเร็จภายในปี
๒๕๖๖ ได้แก่ ด้านการฟื้นฟูและการสร้างใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล และความยั่งยืน (๓)
การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ มีการหารือใน ๓
ประเด็น ได้แก่ ความท้าทายของนโยบายการคลังภายหลังสถานการณ์โควิด-๑๙
ความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่นคงทางอาหาร (๔)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีการหารือทวิภาคีกับคู่เจรจาต่าง ๆ เช่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย โดยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขอให้อินโดนีเซียสนับสนุนให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World
Expo 2028 ณ จังหวัดภูเก็ต และสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน
โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวถึงการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเงินที่ยั่งยืน
โดยไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนา BCG Economy และ (๕)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ
“การเปลี่ยนผ่านสู่การเงินที่ยั่งยืนในอาเซียน”
ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย
และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสิงคโปร์ มีสาระสำคัญ เช่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เห็นควรผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และการแก้ไขปัญหาเรื่องพลังงานของไทย เช่น การผลักดันนโยบาย ๓๐@๓๐ ตามแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|