สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอผลการพิจารณาของศาลปกครองเกี่ยวกับกรณีนางจุฑารัตน์ จันทร
ฟ้องคณะรัฐมนตรี กับพวกรวม 6 คน  ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายกรณีได้รับผลกระทบเสียงดังจากเครื่องบินที่บินผ่าน
ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ  ซึ่งศาลปกครองได้มีหมายแจ้งคำสั่งศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2550 ว่า
ไม่รับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดี ในส่วนของคณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 2  ที่มีมติตามที่
กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ อนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิต พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่าง
การตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา   และอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษา
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย  พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญคือ  ให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษานอก
ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนของสังคม และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณา   โดยให้รับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  และผลการพิจารณาตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรม
การกลั่นกรอง  ฯ  กรณีข้อสังเกตเกี่ยวกับโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและการศึกษา
ตามอัธยาศัย การกำหนดให้มีเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็น
อธิบดี  และการกำหนดให้การแบ่งส่วนราชการของสำนักงาน  ฯ  ให้ออกเป็นกฎกระทรวง  รวมทั้งองค์ประกอบของ
คณะกรรมการนั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรและอาจมีผลกระทบกับงบประมาณในระยะยาวจึงเห็นควรมอบ
ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อยุติ แล้วส่งผลการหา
รือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป  ไปประกอบการพิจารณาด้วย  แล้ว
ส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อ
ไป ทั้งนี้ ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติ ฯ ให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) พิจารณาเสนอความเห็นในส่วน
ที่เกี่ยวข้อง แล้วแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบโดยเร็ว

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ....  มี
สาระสำคัญคือ ให้จัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐเพื่อให้มีอิสระในการบริหาร
งาน  ทำให้การดำเนินงานเกิดความรวดเร็ว  ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานของราชการ  คุ้มค่า  ประหยัด   และอำนวย
ประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาของชาติ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อ
สังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผลการพิจารณาตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง  ฯ  เกี่ยว
กับการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา แหล่งที่มา  การกำหนดยกเว้นรายได้  โดยให้สถาบันเก็บไว้ใช้
จ่ายได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรซึ่งอาจมีผลกระทบกับงบประมาณในระยะยาวจึงเห็นควรมอบให้กระทรวง
ศึกษาธิการร่วมกับสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อยุติ   แล้วส่งผลการหารือไปยัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป   ไปประกอบการพิจารณาด้วย   แล้วส่งให้
คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา   ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า   หน่วยงานกลางที่จะ
จัดตั้งขึ้นตามร่างพระราชบัญญัติ ฯ ควรมีหน้าที่หลักในด้านการประสานงานและกำหนดนโยบายไม่ควรรวมอำนาจ
หน้าที่ในการดำเนินการทั้งหมดไว้ที่หน่วยงานเดียว  และส่งคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) พิจารณา
เสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้อง และแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบโดยเร็ว

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติหลัก
การตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  พ.ศ. 2547
ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป  เพื่อให้มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการบริหารงาน
บุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  โดยรับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผลการพิจารณา
ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง  ฯ  เกี่ยวกับองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา   การกำหนดให้การแบ่งส่วนราชการของสำนักงาน  ก.ค.ศ.  ให้ออกเป็นกฎ
กระทรวง การกำหนดให้ยกเลิก การนำบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับ
สำหรับบุคลากรทางการศึกษานั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรและอาจมีผลกระทบกับงบประมาณในระยะยาว
จึงเห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อยุติ  แล้วส่ง
ผลการหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป  ไปประกอบการพิจารณา
ด้วย  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติว่า โดยที่การประกอบธุรกิจประกันภัยมีความสำคัญต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจของ
ประเทศ  ดังนั้น  หลักการที่กำหนดให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องเป็นบริษัทมหาชนจำกัด  จึงเป็นหลักการที่
มีความถูกต้องและเหมาะสมอยู่แล้ว   สำหรับกำหนดเวลาที่จะกำหนดให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจอยู่เดิมต้องแปรสภาพ
เป็นบริษัทมหาชนจำกัด  นั้น  ให้กระทรวงพาณิชย์หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง   แล้วแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาทราบเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ
ร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการมอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยสำนัก
งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ  เป็นหน่วยงานหลักในการพิจารณาข้อเสนอแนวทางการฟื้นฟูองค์การรับ
ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) และการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่ทำหน้าที่เช่นเดียวกับ ร.ส.พ.  ของสหภาพแรงงาน
รัฐวิสาหกิจองค์การ ร.ส.พ. ร่วมกับกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติ สำนักงบประมาณ  สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  เป็นหน่วยงานสนับสนุนและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันพิจารณาเพื่อหาแนวทางให้ได้ข้อยุติ เพื่อนำผลการพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชบัญญัติ
คุมประพฤติ พ.ศ. ....  ที่ตรวจพิจารณาแล้ว  มีสาระสำคัญคือ  ให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุมประพฤติ  โดยส่งสำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  เพื่อปรับปรุงในประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดให้ตำแหน่งพนักงาน
คุมประพฤติเป็นตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษที่จะได้รับเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน (ร่างมาตรา
19) ให้เป็นไปตามความข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.  และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  และโดยที่ร่างพระราช
บัญญัติ  ฯ  ได้กำหนดให้จัดตั้งกองทุนป้องกันอาชญากรรมและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดขึ้น  จึงให้กระทรวงการคลังและ
สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาในประเด็นความเหมาะสมเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุน  และองค์ประกอบของ
คณะกรรมการบริหารกองทุน  แล้วแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบโดยเร็ว  เพื่อปรับ
ปรุงร่างพระราชบัญญัติให้เหมาะสมต่อไป   แล้วส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อน
เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2551 ในส่วนของการกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รายละเอียด
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของกระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ
รวมทั้งการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของนายกรัฐมนตรี  รองนายก
รัฐมนตรี  รัฐมนตรีเจ้าสังกัดแต่ละกระทรวง  โดยให้เลื่อนกำหนดเวลาที่ให้กระทรวง  ส่วนราชการ   รัฐวิสาหกิจ   และ
หน่วยงานอื่นของรัฐส่งผลการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงจากเดิมภายในวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2550   เป็นวัน
จันทร์ที่  28  พฤษภาคม  2550  และให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์)  รับไปหารือรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังและผู้อื่นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปรับปรุงวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551
เพิ่มเติมให้เหมาะสมกับสภาวการณ์และความต้องการในการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน  แล้วให้นำเสนอนายกรัฐมนตรี
พิจารณาโดยด่วนต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีขอรับ
มาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมส่งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี
ไปเพื่อประกอบตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้อ 111  ด้วยว่า  คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลัก
การร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการ
ตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะได้เร่งนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติโดยเร็ว จึงขอให้
ชะลอการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติดังกล่าวไว้ก่อน เพื่อจะได้พิจารณา
พร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมครอบครัว พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณา
ก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมทั้งส่งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปประกอบ
ตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  ข้อ  111  ด้วยว่า  คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราช
บัญญัติส่งเสริมครอบครัว พ.ศ. .... ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ  และขณะนี้อยู่ระหว่าง
การตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยจะได้เร่งนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติโดยเร็ว  จึงขอ
ให้ชะลอการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อจะได้พิจารณา
พร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30  เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ
เสียหายแก่รัฐ  ลงวันที่  30  กันยายน  พุทธศักราช  2549  พ.ศ. ....   ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับ
หลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลาพร้อมทั้งส่งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปเพื่อประกอบ
ตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  ข้อ 111  ด้วยว่า  คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระ
ราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ  ลงวันที่  30  กันยายน  พุทธ
ศักราช 2549 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกา โดยจะได้เร่งนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติโดยเร็ว จึงขอให้ชะลอการพิจารณาร่างพระราช
บัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อจะได้พิจารณาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติ
ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาเสนอผลการพิจารณาของผู้
ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา  เรื่อง  การทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย  โดยไม่ได้รับความเห็นชอบ
จากรัฐสภา  มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ  ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาพิจารณาเห็นว่า การ
ทำความตกลง ฯ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา
38 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  (ฉบับชั่วคราว)  พุทธศักราช 2549  ประกอบมาตรา 224  ของรัฐ
ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช 2540  จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. 2542  มาตรา  17  จึงเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ
เพื่อพิจารณาวินิจฉัยแล้ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. .... (นางสาว
กัญจนา ศิลปอาชา กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมส่งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปเพื่อประกอบตามข้อบังคับการประชุมสภานิติ
บัญญัติแห่งชาติ ข้อ 111 ด้วย ว่า  คณะรัฐมนตรีเห็นด้วยในหลักการที่จะจัดให้มีกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกัน
และปราบปรามการค้ามนุษย์    โดยได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้า
มนุษย์ พ.ศ. ....  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  และจะได้เร่งนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่ง
ชาติโดยเร็ว   จึงขอให้ชะลอการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติดังกล่าวไว้
ก่อน เพื่อจะได้พิจารณาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความ
เห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการดำเนินการด้านสถานะบุคคลของ
กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย  และเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอผลการพิจารณา ผลการดำเนิน
การของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ รวม
ทั้งความเห็นและข้อเสนอเพิ่มเติม   สรุปได้ดังนี้   การดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลของกลุ่มชาติพันธุ์และผู้
ไม่มีสถานะทางกฎหมาย  ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะ
และสิทธิของบุคคล  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548  และให้จัดทำแผนปฏิบัติการ (Roadmap)
เพื่อเป็นแนวทางให้มีความชัดเจน  รวมทั้งสนับสนุนให้ภาคส่วนต่าง ๆ และองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมสนับ
สนุนด้วย   ส่วนการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสถานะบุคคลของกลุ่มชาวมอแกน  ในเรื่องสิทธิและสวัสดิการ
ต่าง ๆ ของชาวมอแกน  ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความเห็นของสภาที่ปรึกษา  ฯ  ไปพิจารณาดำเนินการเพื่อให้
สอดคล้องกับความต้องการ ประเพณี วัฒนธรรม สภาพวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวมอแกนต่อไป สำหรับการ
ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสถานะบุคคลของกลุ่มบุคคลและชุมชนบนพื้นที่สูง    ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับ
แนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านสถานะบุคคลของกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้มีความชัดเจน  เพื่อประโยชน์ของ
บุคคลที่จะแก้ไขปัญหาสถานะและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ  และให้มีตัวแทนภาคประชาชน  ชุมชน  และองค์กรปกครอง
ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในระดับต่าง ๆ ตามความเหมาะสม กับเห็นด้วยที่จะให้มีการช่วยเหลือ
และปรับปรุงการดำเนินการ เพื่อให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง  ๆ   มากขึ้น   โดยต้อง
อยู่ภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง  ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมไป
ดำเนินการต่อไปด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนิน
การของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ เรื่อง ปัญหาขนมเด็กกับสุขภาพเด็ก ในประเด็นการควบคุมคุณภาพขนมเด็ก  และฉลากโภชนาการ
การจำกัดการขายขนมเด็กในโรงเรียนและสถานศึกษา  การดูแลการโฆษณาขนมเด็ก  รวมทั้งการส่งเสริมขนมเด็กที่มี
คุณค่าทางโภชนาการ  และให้กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงศึกษาธิการ  สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  และ
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภครับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิด
ชอบประสานการติดตามผลการดำเนินงานในเรื่องนี้เพื่อรายงานให้สภาที่ปรึกษา ฯ อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และ
เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ด้วย

           คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติปราบปรามวัตถุยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... (นางสาว
กัญจนา  ศิลปอาชา กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติภายในกำหนดเวลา  พร้อมทั้งส่งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปเพื่อประกอบตามข้อบังคับการประชุมสภา
นิติบัญญัติแห่งชาติข้อ 111 ด้วยว่า  คณะรัฐมนตรีเห็นว่าวัตถุประสงค์ของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังไม่มีความ
ชัดเจนเพียงพอ  ประกอบกับมีบทบัญญัติที่ซ้ำซ้อนกับกฎหมายหลายฉบับที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน  รวมทั้งร่างกฎ
หมายที่อยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว  ได้แก่  ร่างพระราช
บัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  มีหลักการแก้ไขความผิดเกี่ยวกับการทำให้แพร่
หลายหรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกให้เหมาะสมยิ่งขึ้น  และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยว
กับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ....  มีหลักการครอบคลุมถึงการปราบปรามการเผยแพร่และการค้าวัตถุลามก จึงเห็นว่าไม่มี
ความจำเป็นที่จะต้องจัดทำร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้แต่อย่างใด   และให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติขจัดความรุน
แรงในครอบครัว พ.ศ. ....  (นางสาวกัญจนา  ศิลปอาชา  กับคณะ เป็นผู้เสนอ)  ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณา
ก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา   พร้อมทั้งส่งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปเพื่อ
ประกอบตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติข้อ 111  ด้วยว่า  คณะรัฐมนตรีเห็นด้วยในหลักการที่จะ
จัดให้มีกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว  พ.ศ. ....   ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์เสนอ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้วและให้นำเสนอสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติพิจารณาต่อไปด้วยแล้ว    จึงให้นำร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติดังกล่าว
พิจารณาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความ
เห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง  การสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมและจริยธรรม อาทิ รัฐบาลควร
ถือเรื่องการสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมและจริยธรรมเป็นวาระแห่งชาติและเป็นนโยบายของชาติ และสนับสนุน
ให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมและจริยธรรม    รวมทั้งส่ง
เสริมยกย่องบุคคล หน่วยงาน และสถานศึกษาที่ปฏิบัติตามคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้เป็นตัวอย่างและแบบ
ฉบับที่ดี เป็นต้น  และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอผลการพิจารณาร่างพระราช
บัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. ....  (พลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง  และคณะเป็นผู้เสนอ)  และให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติดัง
กล่าวที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา  พร้อม
ทั้งส่งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปเพื่อประกอบตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  ข้อ 111  ด้วย
ว่าคณะรัฐมนตรีเห็นด้วยในหลักการที่จะจัดให้มีกฎหมายว่าด้วยป่าชุมชนขึ้น   โดยได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระ
ราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเร่องด่วน เพื่อจะได้เร่งนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติโดยเร็วต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็น
และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน อาทิ รัฐบาลต้อง
กำหนดให้การจัดการทรัพยากรน้ำเป็นนโยบายแห่งชาติ  โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เพื่อให้
การบริหารจัดการสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และการจัดสรรที่เป็นธรรม การจัดสรรน้ำต้องจัดสรรอย่างเป็น
ธรรม  โดยจัดลำดับความสำคัญจากน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค น้ำเพื่อใช้ในการเกษตร น้ำเพื่อการรักษาระบบนิเวศ และ
น้ำเพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ  รวมทั้งมีองค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่เป็นอิสระระดับชาติทำหน้าที่บริหาร
จัดการน้ำอย่างเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ มีกฎหมายว่าด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำ มีการศึกษาการใช้น้ำทั้ง
ในอดีต ปัจจุบัน  และแนวโน้มในอนาคต เพื่อเป็นพื้นฐานในการจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรน้ำโดยให้ประชาชน
มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างทั่วถึงและเป็นจริง  และมีการบูรณาการองค์ความรู้ท้องถิ่น
และงานศึกษาวิจัยเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดทำแผน   และรัฐควรเร่งดำเนินการมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบ
เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติภัยน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนและทันต่อเหตุการณ์ โดยเน้นให้ความช่วยเหลืออย่างทั่ว
ถึง  เป็นธรรม  และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะการจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย
แก่ครอบครัวที่ยอมให้ผันน้ำเข้าพื้นที่ตนเอง เป็นต้น และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการ
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสนอดังนี้ รับทราบผลการดำเนินงาน
ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการในปี พ.ศ. 2549 และเป้าหมายการดำเนินงานของคณะกรรมการ ฯ
ในปี พ.ศ. 2550 ได้แก่ การเร่งส่งเสริมและพัฒนาความรู้  ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญ  ประโยชน์และแนวทาง
การใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 กับทุกกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่มมาตรการใน
การออกตรวจและนำการปฏิบัติงานของศูนย์ข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ การติดตามผลการปฏิบัติ
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่  28  ธันวาคม  2547    เกี่ยวกับการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐนำข้อมูลข่าวสาร
เกี่ยวกับประกาศประกวดราคาและสอบราคา   รวมทั้งสรุปผลการพิจารณาการจัดซื้อจัดจ้างในรอบเดือนเผยแพร่
ผ่านทาง  Web site  ของหน่วยงาน  การดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาระบบสารสนเทศ และการจัดให้มีกระบวน
การหรือหน่วยรับเรื่องร้องเรียนและเผยแพร่สิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนในส่วนภูมิภาค กับเห็นชอบแนว
ทางดำเนินการเพื่อให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติ  ดังนี้  ให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น  กระทรวงมหาด
ไทยนำข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประกาศประกวดราคาและสอบราคา และผลการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างในรอบเดือน
เผยแพร่ทางเว็ปไซต์ของหน่วยงาน   รวมทั้งการนำเรื่องความโปร่งใสเรื่อง การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร  เรื่อง การมี
ส่วนร่วมของประชาชน เป็นเครื่องมือในการประเมินประสิทธิภาพของหน่วยงานส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง โดยให้เริ่มตั้ง
แต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551  เป็นต้นไป   และให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การรักษาหนังสือราช
การ   และการทำลายหนังสือราชการ  ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ  พ.ศ. 2526  โดย
เคร่งครัด  และให้กระทรวงศึกษาธิการขอความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาให้นำความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อ
มูลส่วนบุคคล  ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ  พ.ศ. 2540  และความรู้เกี่ยวกับสิทธิของบุคคลใน
ครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ความเป็นอยู่ส่วนตัว บรรจุเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตรของสถาบันการศึกษา  ทั้งนี้ ให้
หน่วยงานของรัฐทุกแห่งสรุปผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ  พ.ศ. 2540  ไว้ในราย
งานประจำปีของหน่วยงาน