ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 121 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2401 - 2420 จากข้อมูลทั้งหมด 3983 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2401 | การติดตามประเมินผลการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545 - 2549) | นร | 12/09/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติราย
งานสรุปผลการติดตามประเมินผลการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในระยะแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545-2549) โดยด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 5.7 ต่อปี เงินเฟ้อเฉลี่ยยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 3.0 ต่อปี และดุลบัญชีเดินสะพัดเฉลี่ยเกินดุลร้อยละ 3.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเกินเป้าหมาย ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี ด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน ร้อยละ 96.3 มีหลักประกันสุขภาพ และโอกาสใน การทำงานเพิ่มขึ้น แรงงานในระบบร้อยละ 22.73 ได้รับการคุ้มครอง คนไทยมีการศึกษาเฉลี่ย 8.5 ต่อปี และ แรงงานร้อยละ 39.8 มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป ประกอบกับการดำเนินงานป้องกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ส่งผลให้ความรุนแรงของปัญหาลดลง ขณะที่ปัญหาอาชญากรรมยังคงเป็นปัญหา สำคัญที่บั่นทอนความอยู่ดีมีสุขของคนไทย ในส่วนของภาคราชการไทยมีการปรับตัวก้าวสู่ความทันสมัยและมี ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ภาพลักษณ์ความโปร่งใสดีขึ้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญในเรื่องการตรวจสอบและป้องกัน การทุจริตประพฤติมิชอบ รวมทั้งเร่งดำเนินการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปตามเป้า หมาย สำหรับการแก้ไขปัญหาความยากจน จำนวนคนยากจนลดลงเหลือเพียงร้อยละ 11.3 ของประชากรทั้ง หมด ขณะที่ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ระหว่างคนจนกับคนรวยมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังห่างกันถึง 12.2 เท่า นอก จากนี้ยังสามารถพัฒนาศักยภาพและโอกาสเข้าถึงบริการทางสังคมและบริการพื้นฐานทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญที่ยังคงมีอยู่ ได้แก่ ปัญหาหนี้ สิน ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย สำหรับผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ การเสริมสร้างระบบการบริหารการ จัดการที่ดี การพัฒนาคุณภาพคนและการคุ้มครองทางสังคม การปรับโครงสร้างการพัฒนาชนบทและเมือง อย่างยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบริหารเศรษฐกิจส่วนรวม การพัฒนา ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และการพัฒนาความเข้มแข็งทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
|
|||||||||||||||||||||
| 2402 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนสิงหาคม 2549 | พณ | 12/09/2549 | ||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับรายงานความเคลื่อนไหวดัชนี
ราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนสิงหาคม 2549 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคาผู้ บริโภคทั่วไปเดือนสิงหาคม 2549 เท่ากับ 115.4 เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2549 (115.3) สูงขึ้นร้อยละ 0.1 เป็นการเพิ่มขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของราคาข้าวเหนียว และผลไม้สด ขณะที่ อาหารประเภทเนื้อสัตว์มีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ได้แก่ เนื้อหมู ไก่ และไข่ สำหรับดัชนีราคาหมวด อื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีสินค้าสำคัญที่มีการเคลื่อนไหว ได้แก่ น้ำมันเชื้อ เพลิง โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าโดยสารรถเมล์เล็กในท้องถิ่นบางจังหวัด และหนังสือ พิมพ์ ทั้งนี้ คาดว่า ดัชนีช่วงไตรมาสสุดท้ายของปียังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะแรงกดดันของราคา น้ำมันเชื้อเพลิงต่อภาวะเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงตามสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลก และฐานของการคำนวณใน ครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2548 ได้ปรับให้ราคาน้ำมันลอยตัวตามภาวะตลาดแล้ว สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ของประเทศเดือนสิงหาคม 2549 เท่ากับ 104.9 เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2549 สูงขึ้นร้อยละ 0.1 และเดือน สิงหาคม 2548 สูงขึ้นร้อยละ 1.9
|
|||||||||||||||||||||
| 2403 | ขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณปี 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าตอบแทนจ้างครูรายเดือนแก้ปัญหาโรงเรียนที่ขาดแคลนครูขั้นวิกฤต (จ้างต่อเนื่อง) 8,180 อัตรา | ศธ | 05/09/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ดำเนินการจ้างครูรายเดือนต่อเนื่องอัตราเดิม จำนวน 8,180 อัตรา ระยะเวลา 12 เดือน ในวงเงิน 786,408,840 บาท เพื่อแก้ปัญหาสถานศึกษาขาดแคลนครูขั้นวิกฤต โดยเบิกจ่ายตามหลัก เกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไปพลางก่อน ตลอดจนวิธีปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงบประมาณกำหนด ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว รวมทั้งให้เร่งขออนุมัติคงอัตราเกษียณ และวงเงินของ งบประมาณปี พ.ศ. 2549 สำหรับครูสายปฏิบัติการสอนเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและ นโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนครูในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการ ศึกษา ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการรายงานผลการปฏิบัติงานของ สถานศึกษาต่าง ๆ ควรจัดทำในรูปแบบของ electronic files ที่ง่ายและสะดวกแก่ผู้เกี่ยวข้องในการกรอกข้อมูล และการประมวล นอกจากนี้ โรงเรียนทุกแห่งควรมีคณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการบริหารสถานศึกษา เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนและการดำเนินกิจการของสถานศึกษานั้น ๆ สัมฤทธิผล ตอบสนอง และได้รับ ความร่วมมือและการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นจากประชาชนในท้องถิ่นด้วย โดยคณะกรรมการดังกล่าว ควรมีผู้แทนจากหลากหลายอาชีพ รวมถึงผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในท้องที่ที่โรงเรียนตั้งอยู่ ไป พิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||
| 2404 | ผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" | มท | 29/08/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและ
ซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" ครั้งที่ 2 (เดือนเมษายน-มิถุนายน 2549) โดยได้ดำเนินการก่อสร้างและซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธารแล้วเสร็จ 83,638 ฝาย สำหรับงบประมาณดำเนินการ ทางจังหวัดได้บูรณาการงบประมาณ จากงบจังหวัดแบบบูรณาการ งบ ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด งบปกติของส่วนราชการ งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบประมาณรายจ่าย งบกลาง (รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) งบ กปร. และงบจากภาคประชาชนสมทบ รวม ทั้งสิ้น 586,934,893 บาท ในการนี้ กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์โครงการ ฯ โดยให้หน่วย งานดำเนินการใช้สื่อและงบประมาณที่มีอยู่ในความรับผิดชอบดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และตั้ง งบประมาณรองรับจนถึงปี พ.ศ. 2551 เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานตามโครงการ ฯ ผ่านทางสื่อต่าง ๆ
|
|||||||||||||||||||||
| 2405 | สรุปผลความก้าวหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดินถล่มภาคเหนือ 5 จังหวัด (ครั้งที่ 10) | มท | 15/08/2549 | ||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ
อุทกภัยและดินถล่มภาคเหนือ 5 จังหวัด (ครั้งที่ 10) โดยการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย ความก้าวหน้า ในการจัดสร้างเต็นท์พักอาศัยชั่วคราว การจัดสร้างบ้านพักชั่วคราว (บ้านน็อคดาวน์) การจัดสร้างบ้านพักถาวร และการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยม วิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างเครือข่ายแจ้งเตือนภัย เพื่อซักซ้อม แผนเตือนภัยและการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเป็นระบบและต่อเนือง โดยในส่วนของกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินการฝึกอบรมจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครเตือนภัยดินถล่ม หรือ "มิสเตอร์เตือนภัย" ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด พิจารณาคัดเลือกอาสาสมัครเตือนภัยดินถล่ม "มิสเตอร์เตือนภัย" ในหมู่บ้านเสี่ยงอุทกภัยและดินถล่ม ทั้ง 3 ระดับ คือ พื้นที่เสี่ยงภัยสูง (สีแดง) พื้นที่เสียงภัยปานกลาง (สีเหลือง) และพื้นที่เสียงภัยต่ำ (สีเขียว) หมู่ บ้านละ 2 คน เข้ารับการฝึกอบรมและปฏิบัติหน้าที่อาสาสมัครแจ้งเตือน ทั้งนี้ ในการดำเนินงานฝึกอบรมจะเร่ง ให้เสร็จก่อนปลายเดือนสิงหาคม 2549 เพื่อเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุที่อาจมีลมมรสุมเข้ามาในภาคเหนืออีก ครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการดำเนินงานระยะที่ 1 แล้ว จะดำเนินการในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2406 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการใช้งบประมาณโครงการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม | นร | 08/08/2549 | ||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับรายงานผลการพิจารณาเปลี่ยนแปลงรายการใช้งบประมาณโครงการจัดการคุณภาพสิ่งแวด ล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2549 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2549 ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติอนุมัติให้ใช้งบ ประมาณปี พ.ศ. 2548 จำนวน 28,800,000 บาท ไปดำเนินโครงการบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ตามที่สำนัก งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เสนอ โดยให้จัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นตามที่ได้กำหนดไว้ และให้เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์รับไปพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการก่อ สร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยให้อยู่ภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้ผูกพันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 - 2550 โดยประสานการปฏิบัติงานกับ สผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||
| 2407 | ขออนุมัติงบประมาณโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ | ศธ | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการกำกับโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์เสนอดังนี้ เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ วงเงินรวม 8,738.02 ล้านบาท และให้เร่งรัดดำเนินโครงการฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ครั้งที่ 4/2549 วันที่ 4 กรกฎาคม 2549 และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีการกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของแต่ละโครงการเพื่อประโยชน์ในการติดตามและประเมินผลความสำเร็จ และควรคำนึงถึงการสร้างเครือข่ายกับโรงพยาบาลเอกชนโดยเฉพาะโรงพยาบาลที่จัดบริการชั้นเลิศ (World Class) ในงานบริการทางการแพทย์ที่ต้องใช้ครุภัณฑ์ที่มีค่าลงทุนสูง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน รวมทั้งนำองค์ความรู้ของภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย สำหรับงบประมาณดำเนินการในระยะแรก ให้ใช้จากเงินรายได้ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน 3,596.10 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังประสานเพื่อขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (การออกสลากพิเศษ) เป็นเงินรวม 4,000 ล้านบาท โดยให้สำนักงานสลากฯ จ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นงวดๆ ตามความต้องการและแผนการใช้จ่ายเงินในแต่ละปี และในส่วนที่จะต้องใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ ให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลประสานสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณแผ่นดินสนับสนุนตามความจำเป็นและเหมาะสมที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละปีต่อไป และอนุมัติให้ตั้งคณะกรรมการกำกับโครงการฯ เพื่อทำหน้าที่บริหารโครงการฯ
|
|||||||||||||||||||||
| 2408 | การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยการจัดทำทางระบายน้ำหรือทางลอดถนน | นร | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรม
ชลประทาน) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสำรวจและจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับทางไหลของน้ำและจุดตัดกับถนน สายทางต่าง ๆ ทั่วประเทศที่จำเป็นจะต้องก่อสร้าง หรือแก้ไขให้เป็นทางระบายน้ำหรือทางลอดของน้ำ ซึ่ง กรมชลประทานได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย (องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น) กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศ ไทย) นำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการ เพื่อป้องกันและแก้ไขในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และหากจุดใดยังไม่มีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้เสนอขอตั้งงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2550 ต่อไป ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการและรายงานข้อมูลความคืบหน้าต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ภายใน 1 เดือน เพื่อประมวลข้อมูลในภาพรวม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 2409 | รายงานผลการคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี | นร | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานกรรมการการ
กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) เสนอรายงานผลการคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น (อปท.) ที่มีการบริหารจัดการที่ดี โดยในปีที่ผ่านมาการจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อเป็นรางวัลสำหรับ อปท. ที่มี การบริหารจัดการที่ดีส่งผลให้ อปท. ทุกประเภทมีการแข่งขันเพื่อพัฒนาระบบการให้บริการสาธารณะแก่ประชา ชนซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ จึงเห็นควรสนับสนุนให้มีการจัดสรรเงินอุดหนุนดังกล่าวต่อไปตามหลัก เกณฑ์วิธีการและวงเงินที่ กกถ. กำหนด และไม่ควรปรับลดเงินรางวัลเพื่อให้ อปท. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||
| 2410 | การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ดินถล่มแบบบูรณาการ | นร | 18/07/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุชัย เจริญรัตนกุล) รายงานผลการประชุม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2549 เพื่อหารือ ซักซ้อม และติดตามการเตรียมความพร้อมในการ ป้องกันปัญหาน้ำท่วม และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา ศูนย์เตือน ภัยพิบัติแห่งชาติ กรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น ได้รายงานผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาพร้อมกับเสนอแนะ แนวทางแก้ไข ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้มีการและดำเนินงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ซึ่งประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญคือการประสานงานในระดับท้องถิ่นพื้นที่เสี่ยงภัย ดังนั้น เพื่อให้การประสานงานในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับ ประชาชน จึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการสร้างเครือข่ายเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยกำหนดผู้ รับผิดชอบในพื้นที่โดยตรง ซึ่งเรียกชื่อว่า "มิสเตอร์เตือนภัย" เพื่อทำหน้าที่ประสานงาน และแจ้งเตือนภัยให้กับ ประชาชนในพื้นที่เสียงภัย และมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาตั้งงบประมาณสนับสนุนเพิ่ม เติมในการเตรียมฝึกซ้อมแผนเตือนภัยเสมือนเหตุการณ์จริง เพื่อนำปัญหาที่เกิดจากการฝึกซ้อมแผนมากำหนด แนวทางแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา และ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ร่วมกันเพื่อซักซ้อมแผนเตือนภัยและการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||
| 2411 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | ทส | 18/07/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระ
ราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ จัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพขึ้นเป็นองค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหา ชน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศมีข้อสังเกตว่า การกำหนดให้สำนักงาน ฯ มีอำนาจทำความตกลง และร่วมมือกับองค์กรหรือหน่วยงานในประเทศหรือต่างประเทศ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกิจการที่ เกี่ยวกับการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของสำนักงาน ฯ นั้น โดยที่สำนักงาน ฯ มิได้มีสถานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม จึงไม่เข้าข่ายตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2535 วันที่ 1 ตุลาคม 2545 วันที่ 7 มกราคม 2546 ที่ระบุให้กระทรวง ทบวง กรม ที่จะจัดทำความตกลงกับหน่วยงานต่างประเทศส่งเรื่องให้ กระทรวงการต่างประเทศพิจารณา ก่อนนำเรื่องเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการลงนาม ไป พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
| 2412 | รายงานการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 17 จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ | นร | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) รายงานผลการกำกับ
การปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 17 จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2549 เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานของจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ เกี่ยวกับการดำเนินการพัฒนาตาม ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด การดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนในระดับพื้นที่ ปัญหาข้อจำกัดในการดำเนินการ และข้อเสนอของจังหวัด ตลอดจนได้มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ ให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการเบิก จ่ายเงินงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมาย กับให้กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต พิจารณาฟื้นฟูและสร้างจุดขายในเรื่องวัฒนธรรมเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรมเช่น วัฒนธรรมท้องถิ่น ผ้าบาติค เป็นต้น และให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจังหวัดจัดทำแผนส่งเสริมการ ท่องเที่ยวที่จะขอเงินงบกลางที่เน้นในเรื่องการตลาด สำหรับโครงการน้ำมันปาล์มไบโอดีเซล ให้กระทรวงพลัง งานเป็นหลัก ให้เป็นนโยบายของจังหวัด มีแผนที่ชัดเจน ช่วยกันผลักดัน ให้เร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ง ดำเนินการ นอกจากนี้ ให้กรมทางหลวงพิจารณาเร่งรัดเชื่อมโยงเครือข่ายถนน จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา เพื่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญอยู่ในลำดับต้น
|
|||||||||||||||||||||
| 2413 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. .... | ทส | 27/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดองค์ ประกอบและอำนาจหน้าที่ขององค์กรบริหารจัดการลุ่มน้ำในระดับชาติและระดับลุ่มน้ำ รวมทั้งแนวทางในการ บริหารจัดการและบำรุงรักษาแหล่งน้ำขนาดเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้มีการจัดทำทะเบียน แหล่งน้ำขนาดเล็ก และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปา หมู่บ้าน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ วางหลักเกณฑ์การดำเนินการด้านการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบ ประปาหมู่บ้านให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดย ให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากร น้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... กรณีที่กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำขนาดเล็กและจัดทำ รายงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่ใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรายงานจังหวัดและคณะ กรรมการลุ่มน้ำอีก เป็นการกำหนดให้องค์กรปกครองท้องถิ่นปฏิบัติงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มภาระ สำหรับร่าง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. .... เป็นการ เสนอกฎหมายที่ซ้ำซ้อนกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปา หมู่บ้าน พ.ศ. 2548 และจะเป็นเหตุให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดความสับสนในการปฏิบัติ ไปพิจารณา ด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
| 2414 | ร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... | มท | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหา
นคร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ เพื่อจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษมีฐานะเป็นจังหวัด เพื่อ บริหารจัดการพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพ และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตบางประเด็น เช่น การ จัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครตามร่างพระราชบัญญัติ ฯ ในระยะเริ่มต้น ควรใช้ชื่อสุวรรณภูมินครไปก่อน และเมื่อมี ความเหมาะสมด้านองค์ประกอบ และเกณฑ์การพิจารณารูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น จำนวน และความหนาแน่นของประชากรในท้องถิ่น ความเจริญทางเศรษฐกิจ และความสำคัญทางการเมืองของท้องถิ่น จากศักยภาพในการพัฒนาความเจริญ จึงเปลี่ยนชื่อเป็นสุวรรณภูมิมหานคร ในภายหลัง และการกำหนดให้ บริเวณโดยรอบพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือ เขตลาดกระบัง เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร อำเภอบาง พลีและกิ่งอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นเป็นสุวรรณภูมิมหานคร ควรคำนึงถึงความเหมาะสมของ การใช้ประโยชน์ที่ดิน เนื่องจากพื้นที่บางส่วนของบริเวณใกล้เคียงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาจจะไม่เหมาะสม สำหรับการใช้เป็นพื้นที่พักอาศัย หรือพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อเสียงรบกวน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล เป็น ต้น จึงควรประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจัดผังการใช้ที่ดินให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ เกิดจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะผลกระทบด้านเสียงรบกวน ไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
| 2415 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ เดือนพฤษภาคม 2549 | พณ | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับรายงานความเคลื่อนไหวดัชนี
ราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2549 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคา ผู้บริโภคทั่วไปเดือนพฤษภาคม 2549 เท่ากับ 115.1 เทียบกับเดือนเมษายน 2549 (114.3) สูงขึ้นในอัตราที่ ชะลอตัวลง คือร้อยละ 0.7 โดยดัชนีราคาหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 0.9 สาเหตุหลัก มาจากการขึ้นของดัชนีราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 2.8 ส่งผลให้มีการปรับค่าธรรมเนียมรถไฟ รวมถึงค่าโดย สารประเภทอื่น เช่น รถเมล์เล็กในท้องถิ่น รถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้มีการปรับขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้ จ่ายเพื่อการศึกษา และค่าใช้จ่ายของใช้ส่วนบุคคล ส่วนดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ในเดือนนี้สูงขึ้น เล็กน้อยร้อยละ 0.3 โดยสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผลไม้สด น้ำอัดลม ปลาและสัตว์น้ำ ข้าวสารเหนียว และ ขนมปังปอนด์ สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2549 เท่ากับ 104.7 เทียบกับ เดือนเมษายน 2549 สูงขึ้นร้อยละ 0.6 และเดือนพฤษภาคม 2548 สูงขึ้นร้อยละ 2.7
|
|||||||||||||||||||||
| 2416 | รายงานผลการปฏิบัติของหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วมปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย | กห | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการปฏิบัติของหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วมปฏิบัติการ
เพื่อมนุษยธรรม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย โดยกองบัญชาการทหารสูงสุด ได้จัดกำลัง จากกองบัญชาการทหารสูงสุด และเหล่าทัพ รวม 49 นาย ประกอบกำลังเป็นหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วม ฯ ประกอบด้วยชุดแพทย์เคลื่อนที่ 4 ชุด กำหนดพื้นที่เป้าหมายในเขตเมืองโซโลและคลาเทน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้ รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยได้ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ตั้งแต่วันที่ 1-12 มิถุนายน 2549 รวมยอดผู้เข้ารับการรักษา 6,913 ราย การปฏิบัติภารกิจของหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วม ฯ ในพื้น ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอินโดนีเซีย เป็นอย่างดี และได้รับคำชื่นชมจากประชาชนชาวอินโดนีเซีย ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของอินโดนีเซียเป็นอย่างมาก
|
|||||||||||||||||||||
| 2417 | การถ่ายโอนสถานศึกษาเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรี | นร | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับเรื่อง
การถ่ายโอนสถานศึกษาเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 ไปพิจารณาร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการถ่าย โอนโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ หรือที่อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ หรือโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อ เฉลิมพระเกียรติในโอกาสต่าง ๆ ไว้ก่อน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 2418 | แผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พ.ศ. 2550 | ทส | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอมติคณะกรรมการ
พัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ครั้งที่ 1/2549 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549 เรื่องแผนงบประมาณในเชิงบูรณา การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พ.ศ. 2550 โดยเห็นชอบในหลักการของแผนงบประมาณ ฯ จำนวน 83 โครงการ 83 โครงการ วงเงิน 1,287.464 ล้านบาท และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการตามแผนเสนอ คำขอตั้งงบประมาณต่อสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาต่อไป และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการ มีส่วนร่วมของประชาชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่ได้ รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2550 เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการปฏิบัติอย่างแท้จริง สำหรับ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ในปีต่อไป ให้ผู้แทนภาคประชาชนร่วมเป็นฝ่ายเลขานุการด้วย และให้รีบดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามขั้นตอนโดยเร็วต่อไปเมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว
|
|||||||||||||||||||||
| 2419 | ผลการดำเนินงานนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ | นร | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติการตามนโยบายการเตรียม
พร้อมแห่งชาติ ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำร่างกรอบ แนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการสาธารณภัยของหน่วยงานทุกภาคส่วนให้สอดรับกับแผนป้องกันภัยฝ่าย พลเรือนแห่งชาติ โดยครอบคลุมประเภทภัยต่าง ๆ และให้ความสำคัญกับการดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติ การระดับชาติแผนปฏิบัติการระดับจังหวัด และแผนปฏิบัติการระดับอำเภอ/ท้องถิ่น ส่วนกระทรวงกลาโหม ได้จัดทำร่างแผนบรรเทาสาธารณภัยกลาโหม โดยร่างแผนดังกล่าวจะมุ่งเน้นการเตรียมและการใช้ทรัพยากร ของกองทัพในการป้องกันบรรเทา ระงับภัย รวมทั้งฟื้นฟูภายหลังเกิดเหตุ
|
|||||||||||||||||||||
| 2420 | รายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง ความสัมพันธ์และปัญหาพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา | กต | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอผลการดำเนินการเกี่ยวกับรายงาน
การพิจารณาศึกษาเรื่อง ความสัมพันธ์และปัญหาพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวมความสัมพันธ์ไทย- กัมพูชา ผู้นำระดับสูงทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และในแต่ละปีไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่กัมพูชาในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และสังคม แต่ในพื้นที่ชายแดนซึ่งยังคง ปรากฏปัญหาต่าง ๆ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความใกล้ชิดกันทางภูมิศาสตร์และความเหลื่อมล้ำของการ พัฒนาทางเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ใช้ความพยายามร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาผ่านกลไกทั้งในระดับรัฐบาล และในระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 5 ที่กรุงพนมเปญ ทั้งสองฝ่ายได้ปรึกษาหารือกันในเรื่องต่าง ๆ กว่า 30 หัวข้อ ครอบคลุมกว่า 70 ประเด็น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความคืบหน้าและหลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความ สัมพันธ์และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนไทย-กัมพูชา และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ทราบต่อไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548 |
|||||||||||||||||||||
.....
