ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 127 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2521 - 2540 จากข้อมูลทั้งหมด 3983 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2521 | ข้อเสนอแนะจากการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยผู้นำชุมชนท้องถิ่น | นร | 21/06/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับข้อเสนอแนะจากการประชุมคณะ
กรรมการแห่งชาติว่าด้วยผู้นำชุมชนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2548 ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะที่ เป็นประโยชน์หลายประการ ได้แก่ การถ่ายทอดประสบการณ์หรือจัดการสอนให้นักเรียนได้เรียนรู้ในเรื่อง ต่าง ๆ ด้วยการลงมือทำ (learning by doing) โดยผู้นำชุมชนท้องถิ่น การปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอ เพียงและแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจประณีตของปราชญ์ชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การทำประมง และ การนำมาตรฐานการดำเนินงานทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice-GAP) มาใช้ในการเพาะ ปลูกของเกษตรกร โดยข้อเสนอแนะที่ได้จากที่ประชุม อาทิ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจประณีตของปราชญ์ชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เน้น ให้ประชาชน ชุมชน ตำบล อำเภอ ทำการเกษตรในพื้นที่ของตนเพื่อบริโภคในครัวเรือนและท้องถิ่น และ หากมีผลผลิตส่วนเกินก็นำไปจำหน่าย ทำให้มีรายได้เพียงพอเลี้ยงตัวเองและครองครัว ซึ่งจะมีส่วนช่วยลด ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า และการใช้พลังงานของประเทศในภาพรวม ส่วนการนำมาตรฐานการดำเนิน งานทางการเกษตรที่ดีมาใช้ในการเพาะปลูก โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนให้เกษตรทำ การเกษตรธรรมชาติ การเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งใช้สมุนไพรในการกำจัดแมลงศัตรูพืช เพื่อให้ผลผลิตการ เกษตรปลอดจากสารเคมีมากขึ้น เป็นต้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น รับข้อเสนอแนะดังกล่าวไปพิจารณา ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2522 | รายงานสถานการณ์ภัยแล้งและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดพัทลุง (วันที่ 1 มีนาคม - 12 พฤษภาคม 2548) | กต | 21/06/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานสถานการณ์ภัยแล้งและการแก้ไข
ปัญหาภัยแล้งจังหวัดพัทลุง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-12 พฤษภาคม 2548 สถานการณ์ความแห้งแล้งของจังหวัด พัทลุงเกิดความแห้งแล้งในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยในช่วงสถานการณ์ความแห้งแล้งวิกฤตเกิดขึ้นในพื้นที่ 7 อำเภอ 23 ตำบล 176 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 9,232 ครัวเรือน 37,537 คน พื้นที่การ เกษตรได้รับความเสียหาย รวม 1,517 ไร่ ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค โดยใช้งบประมาณฉุกเฉินของท้องถิ่น 77,125 บาท และจากสภาวะฝนตกตามธรรมชาติ และการทำฝนหลวงในพื้นที่ทำให้สถานการณ์ความแห้งแล้ง ในพื้นที่ลดลง ส่วนสภาวะอากาศและสภาพน้ำท่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำป่าพะยอม มีปริมาณอยู่ที่ 11.727 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำป่าบอน มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 15.495 ล้านลูกบาศก์เมตร สภาพน้ำท่าบริเวณอ่าง ฝายและประตูระบายน้ำต่าง ๆ มีระดับสูงกว่า และต่ำกว่าสันฝายโครงการชลประทานพัทลุงได้ส่งเครื่องสูบน้ำ เข้าประจำท่าสูบ จำนวน 15 เครื่อง ได้เตรียมแปลงเพื่อทำนาปรัง ปี 2547/2548 จำนวน 15,725 ไร่ นาน้ำ ตม 14,575 ไร่ พืชไร่ 390 ไร่ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำท่าเชือด แผนปลูกพืชฤดูแล้ง พืชไร่-พืชผัก 480 ไร่ ผลการเพาะปลูกพืชไร่ 185 ไร่ พืชผัก 157 ไร่ สำหรับแผนงาน/โครงการแก้ปัญหาภัยแล้งทั้งระบบ ของจังหวัดพัทลุง รวม 6 กิจกรรม จำนวน 205 แห่ง/โครงการ รวมงบประมาณทั้งหมด 38,064,850 บาท สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เสนอแผนงาน/โครงการดังกล่าว เพื่อบรรจุแผนแก้ไขปัญหาทั้ง ระบบของจังหวัดพัทลุง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
|
||||||||||||||||||||||||
| 2523 | ผลการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดน ไทย - ลาว ครั้งที่ 5 | มท | 21/06/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปผลการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัด
และเจ้าแขวงชายแดนไทย-ลาว ครั้งที่ 5 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวระหว่างวันที่ 8 -13 พฤษภาคม 2548 ณ จังหวัดชลบุรี โดยวัตถุประสงค์ของการจัดการประชุมเพื่อสร้างความสัมพันธ์และมิตร ภาพอันดีระหว่างจังหวัดและแขวงตามแนวชายแดนไทย-ลาว โดยได้มีการหารือในประเด็นสำคัญคือ การรักษา ความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามแนวชายแดน การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้า -ออกบริเวณชายแดน การเปิดช่องทางผ่านแดนและระเบียบการสัญจรบริเวณชายแดน ความร่วมมือในการรักษา เส้นเขตแดนไทย-ลาว ความร่วมมือในการดูแลรักษาและป้องกันตลิ่งพังและการแก้ไขปัญหาดูดทรายในแม่น้ำโขง และแม่น้ำเหือง ความร่วมมือกรณีบุคคลของแต่ละฝ่ายถูกจับกุมคุมจัง ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือแก้ไข ปัญหาบุคคลสองสัญชาติ ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นไทย-ลาว และความร่วมมือในการป้องกันและการปราบ ปรามยาเสพติด รวมทั้งการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูง และระดับปฏิบัติ ของกระทรวงมหาด ไทยและกระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้แทนตำรวจระดับสูงเพื่อปรึกษา หารือแผนความร่วมมือในการฝึกอบรมด้านต่าง ๆ สำหรับการประชุม ฯ ครั้งที่ 6 ทางฝ่ายลาวจะเป็นเจ้าภาพใน การจัดประชุม ซึ่งกำหนดเวลาและสถานที่ทางฝ่ายลาวจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2524 | ผลการประชุมปฏิบัติการเรื่อง แนวทางการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษายุคใหม่ | ศธ | 21/06/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการประชุมปฏิบัติการเรื่อง แนวทาง
การพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษายุคใหม่ เมื่อวันที่ 10-11 มิถุนายน 2548 ณ โรงแรมโลตัส ปางสวน แก้ว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายและแนว ทางของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้ทันสมัย ตลอดจนกำหนดยุทธ ศาสตร์การพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษายุคใหม่ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ 16 จังหวัด โดยผลการประชุมสรุปดังนี้ ที่ประชุม ฯ ได้รับทราบและแสดงความชื่นชมแนวทางการดำเนินงานตาม Roadmap การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นซึ่งอาจปรับปรุงรายละ เอียดเพิ่มเติม และควรมีการเผยแพร่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจและใช้เป็นแนวทางในการทำงานร่วมกัน ส่วนการแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนครูเห็นควรให้มีการบรรจุครูในท้องถิ่นเพื่อป้องกันปัญหาการขอโยกย้ายและลดค่าใช้จ่าย ของครู จัดให้มีอัตราพนักงานธุรการของโรงเรียนอย่างน้อยโรงเรียนละ 1 คน ในด้านครูอัตราจ้างต้องมีการ สร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน โดยให้มีสัญญาจ้างในระยะยาว เช่น 1-2 ปี และมีการประเมินผลครูอัตรา จ้างที่ทุ่มเทเสียสละ และมีผลงานเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ นอกจากนี้ ได้มีการดำเนินการพัฒนาครูให้สอด คล้องกับความต้องการ และความเปลี่ยนแปลงของแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา การซ่อมแซมอาคารเรียนที่ชำรุด ทรุดโทรม สร้างอาคารเรียนใหม่ เพื่อทดแทนอาคารที่ชำรุดและรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น จัดสร้างโรง เรียนขนาดเล็กรูปแบบใหม่ พัฒนาห้องสมุดให้มีมาตรฐาน โดยจัดให้มีห้องสมุดให้ครบทุกโรงเรียน และจัดให้ มีหนังสือในห้องสมุดอย่างเพียงพอ จัดหาคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้แก่โรงเรียน ส่ง เสริมให้มีสนามกีฬาของโรงเรียน จัดตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์ให้ทั่วถึงทุกภูมิภาค จัดทำ Smart Card สำหรับ นักเรียนทุกคนเป็นรายบุคคลโดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อใช้ในการปรับระบบอุดหนุนรายหัวให้มีความ เป็นธรรมมากขึ้น รวมทั้งให้มีการสำรวจโรงเรียนในชนบทห่างไกล ทุรกันดารที่มีเด็กยากจนซึ่งมีความจำเป็น ต้องจัดหาที่พักนอนให้นักเรียนในโรงเรียน เช่นเดียวกับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสง เคราะห์ และให้การอุดหนุนเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ตลอดจนการสร้างขวัญและกำลังใจครูที่อยู่ในชนบท ห่างไกล โดยการคัดเลือกครูที่มีความเสียสละมีผลงานให้ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ ปีละ 100 คน โดยรัฐบาล จัดรางวัลเป็นพิเศษ ปีละ 4-5 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
| 2525 | โครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ - น้ำชุน จังหวัดเพชรบูรณ์ และพื้นที่ป่าแม่สรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ | ทส | 07/06/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ เห็นชอบหลักการ
ของโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน จังหวัดเพชรบูรณ์ และพื้นที่ป่าแม่สร้อย อำเภอวัง ชิ้น จังหวัดแพร่ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความรุนแรงของภัยพิบัติธรรมชาติอย่างเร่งด่วนและฟื้นฟูความสมบูรณ์ ของพื้นที่ป่าไม้ในบริเวณดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 45,000 ไร่ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ ความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้มีการ จัดทำงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการดูแลรักษาต้นไม้ที่ปลูก และการดูแลรักษาฝาย เพื่อให้คณะ รัฐมนตรีได้รับทราบถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดของโครงการ ฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในคราว เดียวกัน สำหรับการปลูกป่าและการบำรุงรักษาแปลงปลูกป่าในระยะต้น มอบให้ชุมชนในท้องถิ่นและราษฎร เป็นผู้รับผิดชอบภายใต้การกำกับดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ เพื่อสร้าง งาน สร้างรายได้ สร้างการมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบของราษฎรในพื้นที่ในการรักษาระบบนิเวศน์และ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เป็นต้น ไปประกอบการดำเนินการ สำหรับงบประมาณค่า ใช้จ่ายเพื่อการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้ดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้ จ่ายงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรแล้วก่อน หากไม่เพียงพอให้ขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากงบ กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง หนึ่ง ทั้งนี้ ให้พิจารณาเป้าหมายและความสอดคล้องของแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินกับระยะเวลา ที่เหลืออยู่ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หมวด 2 ส่วนที่ 2 การซื้อการจ้าง ข้อ 18-22 เพื่อ ให้สถาบันการศึกษา หน่วยงาน ชุมชนในท้องถิ่น หรือราษฎรได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการในลักษณะการ รับจ้างเหมาได้ โดยวิธีตกลงราคารายละไม่เกิน 200 ไร่ โดยไม่ถือเป็นการแบ่งจ้างด้วยการลดวงเงินที่จะซื้อ หรือจะจ้างในครั้งเดียวกัน |
||||||||||||||||||||||||
| 2526 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "แนวทางแก้ไขปัญหาการบุกรุก รุกล้ำ และละเลย 25 ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศและแหล่งน้ำสำคัญของชาติ" | สสป | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็น
และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาการบุกรุก รุกล้ำ และละเลย 25 ลุ่มน้ำสำคัญ ของประเทศ และแหล่งน้ำสำคัญของชาติ โดยมีข้อเสนอแนะโดยสังเขปดังนี้ รัฐบาลต้องจริงจังด้วยปรัชญา หลัก การ และเหตุผล พร้อมมาตรการในการรักษา 25 ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ และแหล่งน้ำสำคัญของชาติในทุก ภูมิภาคของประเทศควบคู่กับความเป็นประเทศเกษตรกรรมของประเทศไทย รัฐบาลต้องสั่งการให้มีการสำรวจ สภาพการบุกรุก รุกล้ำ และละเลย รวมทั้งการทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่ทางระบายน้ำหลาก เพื่อ ให้ทราบสถานภาพปัจจุบันของพื้นที่ในทุกภูมิภาคของประเทศโดยการดำเนินงานต้องมีส่วนร่วมขององค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และชุมชน และต้องมีการติดตามสถานภาพพื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ลุ่ม และทาง ระบายน้ำหลากทุกแห่งและทุกภูมิภาคของประเทศโดยใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อทราบสถานภาพ ปัจจุบันและเป็นการตรวจสอบการบุกรุก รุกล้ำ ละเลย และการทำลายพื้นที่ทั้งสามประเภทนี้ เป็นต้น และ รับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับผิดชอบประสานการติดตามผลการดำเนินงานเพื่อราย งานให้สภาที่ปรึกษา ฯ อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานเป็น ระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 2527 | การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลางปี | นร | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับมติที่ประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 3/ 2548 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2548 โดยที่ประชุมได้มีมติกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลางปี จำนวน 4,600,000,000 บาท โดยร้อยละ 10 จำนวน 460,000,000 บาท จัดสรรให้แก่องค์การบริหารส่วน จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ตามสัดส่วนจำนวนประชากรในเขตจังหวัด และกรุงเทพมหานคร และร้อยละ 90 จำนวน 4,140,000,000 บาท จัดสรรให้แก่กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เทศบาล และองค์การบริหารส่วน ตำบล โดยในส่วนนี้จะเป็นการจัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งกรณีเร่งด่วน จำนวน 1,345,190,000 บาท ที่ เหลืออีกจำนวน 2,794,810,000 บาท จะจัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะยาว
|
||||||||||||||||||||||||
| 2528 | นโยบายและพัฒนาระบบการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการดำเนินการพัฒนาระบบ
การบริหารจัดการเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและสอด คล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้จัดทำร่างคำสั่งสำนักนายก รัฐมนตรี เรื่อง นโยบายและการพัฒนาระบบการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาค ใต้ ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ด้านนโยบายกำหนดแนวทางเป้าหมายหลักให้ปฏิบัติ จำนวน 8 เป้าหมาย เรียงตามลำดับความเร่งด่วนให้หน่วยปฏิบัติ โดยหน่วยส่วนกำลังมีหน้าที่เร่งยุติสถาน การณ์การก่อความไม่สงบโดยเร็ว และเป็นฝ่ายรุก เพื่อปรับเปลี่ยนแนวความคิดและความเชื่อของผู้ก่อการ หน่วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติเกี่ยวกับการขจัดเงื่อนไขของการก่อความไม่สงบส่งเสริมการพัฒนายก ระดับมาตรฐานการครองชีพ ให้การศึกษาการใช้พลังประชาชน การดำเนินการด้านต่างประเทศ และการใช้ มาตรการด้านการข่าว การปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ ส่วนที่ 2 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ โดยจัดให้มีคณะกรรมการนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กสชต.) จัดให้มีสำนักงานยุทธ ศาสตร์คณะกรรมการนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กองอำนวยการเสริสร้างสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ในลักษณะพลเรือน ตำรวจ ทหาร และให้ มีกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขในระดับจังหวัด/อำเภอ/กิ่งอำเภอ/ตำบล ในลักษณะพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพื่อสร้างความเข้มแข็งระดับภูมิภาคตั้งแต่ระดับท้องถิ่น (ตำบล) ขึ้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2529 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง"แนวทางการจัดบริการสวัสดิการสังคมแก่ผู้สูงอายุในชนบทของภาครัฐ" | นร | 31/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและ
ข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง "แนวทางการจัดบริการสวัสดิการสังคมแก่ผู้สูงอายุในชนบทของภาครัฐ" โดยมีความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ การจัดสวัสดิการสงเคราะห์ของรัฐ ควรมีการทบทวนการ เพิ่มบริการสถานสงเคราะห์หรือบ้านพักคนชราที่แยกผู้สูงอายุออกจากชุมชน แต่ควรส่งเสริมบริการที่มีลักษณะ หลากหลายในชุมชน โดยรัฐสนับสนุนด้านงบประมาณให้ชุมชนดำเนินการ เป็นต้น การจัดระบบคุ้มครองดูแล ผู้สูงอายุของรัฐ ควรเน้นระบบการคุ้มครองผู้สูงอายุระยะยาว รวมทั้งขยายและกระจายบริการสวัสดิการที่ตอบ สนองความต้องการพื้นฐานให้ผู้สูงอายุในชนบทให้ครอบคลุมกว้างขวางทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพที่ต้องทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดาร และจัดทำระบบฐานข้อมูลผู้สูงอายุในชนบททั้งประเทศ เพื่อแยกแยะ จัดประเภท ระดับการจัดบริการผู้สูงอายุในชนบทให้มีหลายระดับทั้งในระยะวิกฤต ระยะสั้น และระยะยาว เป็นต้น การส่ง เสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุ ควรเตรียมความพร้อมของบริการในอนาคตเพื่อรองรับกับแนวโน้มที่ผู้สูงอายุจะ มีอายุยืนยาวและมีจำนวนมากขึ้น ส่งเสริมบริการการจัดหางานที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุที่เหมาะสมและสอด คล้องกับวัยของผู้สูงอายุ และควรเพิ่มสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นต้น การประสาน ความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรมีมาตรการที่ชัดเจนในการ ส่งเสริมให้ครอบครัวและชุมชนมีความเข้มแข็งเป็นกลไกหลักในการดูแลผู้สูงอายุและผู้คนในชุมชนและจัดทำฐาน ข้อมูลผู้สูงอายุเพื่อจำแนกกลุ่มปัญหา จัดระบบความช่วยเหลืออย่างมีคุณภาพ ปรับรื้อโครงสร้างและทบทวน ภารกิจใหม่ของศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน เป็นต้น การจัดสรรงบประมาณให้แก่ผู้สูงอายุ ควรทบ ทวนระบบการพิจารณาและกระบวนการจ่ายเบี้ยยังชีพ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุเองและชุมชน เพื่อ ให้บริการถึงมือผู้ที่เดือดร้อนและจำเป็นจริง ๆ เพื่อให้ตรงตามเจตนารมณ์และเกิดความเป็นธรรม และมีมาตร การในการลดหรือยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับบุตรที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลบิดามารดา สำหรับการบังคับใช้ตามกฎ หมาย ควรส่งเสริมการจัดบริการพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 โดยส่งเสริม การจัดสวัสดิการทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุที่ครอบคลุมทั่วถึงต่อเนื่องและเป็นธรรม นอกจากนี้ การมีส่วนร่วม ของประชาชนรัฐและหน่วยงานต่าง ๆ ควรสนับสนุนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัว เครือญาติ เพื่อน บ้านเพื่อนผู้สูงอายุในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน โดยเฉพาะความรู้ความเข้าใจและทักษะการดูแลผู้สูงอายุที่ป่วย ด้วยโรคต่าง ๆ เป็นต้น และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับผิดชอบ ประสานการติดตามผลการดำเนินงานเพื่อรายงานให้สภาที่ปรึกษา ฯ อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และเสนอ คณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 2530 | ร่างระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้างลูกจ้างของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้าง
ลูกจ้างของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้าง ลูกจ้างของส่วนราชการ พ.ศ. 2526 โดยกำหนดให้ส่วนราชการในต่างประเทศกำหนดวันเริ่มจ่ายค่าจ้างเกินกว่า เดือนละครั้งได้ตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หรือขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นของ ต่างประเทศที่ส่วนราชการนั้นตั้งอยู่ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ คณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 2531 | การตรวจสอบการจัดซื้อรถยนต์ของเทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา | ตผ | 24/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่าย
กฎหมาย ระบบราชการ และการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติรับทราบตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินราย งานการตรวจสอบการจัดซื้อรถยนต์ของเทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ตามนัยพระ ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 มาตรา 44 วรรคท้าย โดยไม่ต้อง ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2543 ที่ให้ระงับการจัดซื้อรถรับรอง และให้กระทรวงมหาด ไทยรับไปพิจารณาแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้และรักษารถยนต์ของหน่วยบริหารราชการ ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ให้สอดคล้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 และที่ แก้ไขเพิ่มเติมและแจ้งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรับทราบต่อไป รวมทั้งรับทราบรายงานผลการตรวจ สอบการจัดซื้อรถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มเติมรวม 19 ราย ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่น ดินและแจ้งให้กระทรวงมหาดไทยทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2532 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการตรวจสอบสภาพป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่จะกำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ระยะที่ 1 | วท | 17/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับผลการ
ดำเนินงานโครงการตรวจสอบสภาพป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่จะกำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ระยะที่ 1 จำนวน 79 ป่า ดังนี้ กรมป่าไม้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมกันตรวจสอบ และพิจารณาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่จะกำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินแล้วเสร็จ จำนวน 79 ป่า แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ไม่มีสภาพป่า ปี พ.ศ. 2536 มีจำนวน 5 ป่า และปี พ.ศ. 2546 มีจำนวน 6 ป่า กลุ่มที่มี สภาพป่าเห็นชัดเจนจากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม โดยไม่มีข้อสงสัย ปี พ.ศ. 2536 มีจำนวน 56 ป่า และปี พ.ศ. 2546 มีจำนวน 55 ป่า และกลุ่มที่มีสภาพป่าแต่ปรากฏไม่ชัดเจนจากภาพถ่ายดาวเทียม และมีข้อสงสัย มีจำนวน 18 ป่า ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานได้ร่วมลงนามรับรองผลการตรวจสอบสภาพป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่จะกำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ระยะที่ 1 จำนวน 79 ป่า และร่วมลงนามรับรองกำกับไว้ที่ท้ายแผนที่ และ จากผลการตรวจสอบสภาพป่าในพื้นที่ทั้ง 79 ป่า จะมีประโยชน์ในการจัดการและปรับแผนในการปฏิรูปที่ ดินส่วนพื้นที่ป่าขนาดใหญ่สามารถนำไปใช้ในการวางแผนเพื่ออนุรักษ์ให้คงอยู่สภาพเดิมต่อไป สำหรับพื้นที่ ป่าที่มีขนาดเล็กสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในลักษณะป่าชุมชน และเพื่อเพิ่มจิตสำนึกให้ประชาชนในท้องถิ่น ช่วยกันอนุรักษ์ป่าไว้
|
||||||||||||||||||||||||
| 2533 | การพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ (Agenda based) | นร | 17/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เสนอแนวทาง
การพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน โดยการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเพิ่มผลผลิตการเกษตร การพัฒนาการท่องเที่ยว โดยการพัฒนาเมืองพนมรุ้งและปรับปรุงเส้นทางคมนาคม ที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีทุกท่านที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดบุรีรัมย์เร่ง จัดทำสรุปข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรค ตลอดจนแผนงานโครงการที่สมควรจะดำเนินการในพื้นที่เสนอนายก รัฐมนตรีโดยด่วนเพื่อพิจารณา และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) นำไปประกอบการพิจารณา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง เพื่อพิจารณาปรับปรุงแนวทางการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น และอนุมัติวงเงินเบื้องต้น เพื่อดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 2,303.912 ล้านบาท โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) พิจารณาในรายละเอียดของการจัดงบประมาณค่าใช้จ่ายร่วมกับสำนักงบประมาณ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ความจำเป็นเร่งด่วน กำลังเงินงบประมาณของรัฐ รวมทั้งงบ ประมาณที่จะจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วให้นำ เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2534 | กรอบแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | พณ | 17/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ (กรมการค้าภายใน) เกี่ยวกับกรอบ
แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อยกระดับคุณภาพ ข้าวหอมมะลิให้เป็นข้าวที่มีคุณภาพสูง (Premium Grade) และเป็นสินค้าประจำท้องถิ่น โดยจังหวัดได้คัดเลือก โรงสีสหกรณ์/โรงสีเอกชนที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการ และพัฒนาคุณภาพในการแปรสภาพ การรักษาคุณ ภาพและการบรรจุหีบห่อจากเดิมที่บรรจุกระสอบเป็นขนาดบรรจุที่เล็กลงสวยงามหลายขนาด และให้การรับ รองคุณภาพโดยสร้างตรา/เครื่องหมายรับรองในระดับจังหวัด ซึ่งกรมการค้าภายในได้ให้เครื่องหมายรับรอง "รูปพนมมือ" สำหรับตลาดภายในประเทศ รวมทั้งให้การสนับสนุนการทำการตลาดภายในประเทศด้วยการ เชื่อมโยงตลาดกับห้างสรรพสินค้า Discount Store Supermarket และจัดงานแสดงสินค้า โดยให้ความสำคัญ ในตลาดกรุงเทพและปริมณฑลเป็นลำดับแรก และขยายไปในภูมิภาคอื่น ๆ เป็นลำดับต่อไป สำหรับการส่ง ออกข้าวหอมมะลิสู่ผู้ซื้อในต่างประเทศ นั้น กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้ให้การรับรอง มาตรฐาน "Thai Hom Mali Rice" ในการส่งออก (Country Image) พร้อมทั้งเชื่อมโยงจัดหาตลาดต่างประเทศ และจัดงานแสดงสินค้า โดยพื้นที่ที่ดำเนินการ ได้แก่ ในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 19 จังหวัด ระยะ เวลา 4 ปี โดยปี พ.ศ. 2548 จะนำร่องในจังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ. 2549 จำนวน 5 จังหวัด ปี พ.ศ. 2550 จำนวน 6 จังหวัด และปี พ.ศ. 2551 จำนวน 7 จังหวัด
|
||||||||||||||||||||||||
| 2535 | แนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเชิงบูรณาการ(Agende based) | นร | 17/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเชิงบูรณาการ ดังนี้ เห็นชอบในหลักการให้
จัดให้มีระบบประปาหมู่บ้านให้แก่หมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ที่สะอาดให้ครบ 14,580 หมู่บ้าน ภายในปี พ.ศ. 2551 โดยให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องพิจารณาบรรจุโครงการและงบประมาณไว้ในแผนปฏิบัติการภายใต้แผน การบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2551 ต่อไป โดยงบประมาณเพื่อการนี้ในส่วนใดหรือท้องที่ใด ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรับผิดชอบและมีความพร้อม ให้ใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นั้น ๆ ทั้งนี้ อาจเร่งดำเนินการในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อให้เป็นตัวอย่างนำร่องก่อน และเห็นชอบในหลัก การโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ของกระทรวงอุตสาหกรรม และให้กระทรวงการคลัง พิจารณาในรายละเอียดร่วมกับสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา อีกครั้งหนึ่งต่อไป สำหรับโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากภาวะภัยแล้ง ของกระทรวง มหาดไทย ซึ่งเป็นการขอความช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด เป็น ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงิน 177.78 ล้านบาท มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุ สมบัติ) รับไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีบรรทัดฐานที่ชัดเจน เนื่องจากยังมีพืชเกษตรชนิดอื่น ๆ ที่ประสบภาวะภัยแล้งกระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดอื่นอีกมาก และหากเป็นกรณี จำเป็น ให้ใช้จ่ายจากเงินทดรองราชการที่อยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณ ภัย ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเจ้า ภาพหลักตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2551 ร่วมกับกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ เร่งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการบริหารจัดการน้ำ 2 ลุ่มน้ำตัวอย่างแบบบูรณากร โดยพิจารณารวมข้อเสนอการขอ งบกลางเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง วงเงิน 1,238.38 ล้านบาท ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย และให้นำ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป นอกจากนี้ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) พิจารณา แก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเป็นระบบ ครบวงจร ตั้งแต่แหล่งน้ำต้นทุน แหล่งกักเก็บน้ำต่าง ๆ ตลอดจนควบคุม ดูแลการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรอย่างเหมาะสม ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้อง กับสภาพแต่ละพื้นที่ รวมทั้งประสานความร่วมมือในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เร่งพิจารณาร่วมกับรอง นายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดซื้อ ระบบ GIS ให้ได้ข้อยุติที่เหมาะสม และแล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อนำระบบดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา เกี่ยวกับลุ่มน้ำและภัยแล้ง ตลอดจนที่ดินทำกินของประชาชนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2536 | การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง | คค | 10/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพระนคร
ศรีอยุธยา ของกระทรวงคมนาคม สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ปัจจุบันของจังหวัดปทุมธานี น้ำในคลองต่าง ๆ ยัง สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรกรรม และมีการดำเนินการรองรับกรณีเกิดขาดแคลนน้ำ โดยมีเครื่องสูบน้ำสนับ สนุนรองรับอยู่ รวมทั้งมีโครงการชลประทานที่สำคัญๆ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการชลประทานปทุมธานี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองพระยาบรรลือ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ และโครงการส่งน้ำ และบำรุงรังสิตใต้ ส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังประสบปัญหาภัยแล้ง 5 อำเภอ ซึ่งทางจังหวัดและองค์การ บริหารส่วนท้องถิ่นกำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือ สำหรับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้ให้ความ ช่วยเหลือในเรื่องการใช้เครื่องจักรกลในการเก็บกักน้ำ ขุดลอก บำรุงรักษาร่องน้ำ และกำจัดผักตบชวา ตลอดจน การขยายเขตทางที่คับแคบ การสร้างทางขึ้น-ลงเส้นทางยกระดับโทลเวย์ที่รังสิต การสร้างทางเชื่อมต่อในแนว ขนานลำคลองชลประทาน เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 2537 | การตรวจราชการเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด | พน | 10/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจราชการเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในจังหวัดจันทบุรี
และจังหวัดตราด ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายวิเศษ จูภิบาล) สรุปได้ดังนี้ การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค แจกจ่ายน้ำ เพื่อการเกษตร ก่อสร้างฝายชั่วคราว (ฝายกระสอบดิน) ขุดลอกบ่อ ขุดบ่อน้ำตื้น และเป่าล้างบ่อบาดาล โดยใช้ เงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด (50 ล้านบาท) ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรอง ราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 (กรณีภัยแล้ง) ไปแล้ว 14.23 ล้านบาท งบฉุก เฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4.90 ล้านบาท และงบของหน่วยราชการอื่น ๆ (งบปกติ) 14.07 ล้านบาท ในการนี้ จังหวัดได้เสนอโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะยาว อาทิ โครงการวางท่อกระจายน้ำจากโรงสูบ น้ำขององค์การบริหารส่วนจังหวัด โครงการปรับปรุงและเปลี่ยนฝายยางกั้นแม่น้ำจันทบุรี โครงการก่อสร้างอ่าง เก็บน้ำคลองวังโตนด เป็นต้น สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดตราด จังหวัดได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเร่งด่วนในพื้นที่ โดยแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค แจกจ่ายน้ำเพื่อการเกษตร สูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่ การเกษตร และจังหวัดได้เสนอโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะยาว เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ได้แก่ โครงการก่อสร้างเขื่อนดินปิดกั้นลำคลองสะพานหิน ก่อสร้างเขื่อนสะตอ และก่อสร้างฝายตามลำน้ำคลอง สะตอ โดยสถานการณ์ปัจจุบันปัญหาภัยแล้งได้คลี่คลายและทุเลาลงแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
| 2538 | รายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส | คค | 10/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ในส่วนของการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตก่อให้เกิดรายได้ ตลอดจน ให้มีการจ้างแรงงานในท้องถิ่น โดยข้อมูล ณ วันที่ 25 มีนาคม 2548 มีกิจกรรมที่ดำเนินการแล้วเสร็จอาทิ โครง การจัดจ้างลูกจ้างชั่วคราวที่เป็นแรงงานท้องถิ่นเพื่อปฏิบัติงานที่ท่าอากาศยานนราธิวาสและปัตตานีจำนวน 25 อัตรา ของกรมการขนส่งทางอากาศ โครงการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานขับและบังคับใช้เครื่องจักรในงานก่อ สร้างทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รุ่นที่ 1 ของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ฝึกอบรมเกี่ยวกับการขับรถ และบังคับใช้เครื่องจักรกลงานก่อสร้าง จำนวน 5 ประเภท คือ รถดิน รถเกลี่ย รถขุด รถตัก และรถปั่นจั่น และ โครงการ "เชื่อมฟ้า เชื่อมใจ เด็กไทยทุกภาค ฉลอง 1 ปี แพนด้ามาไทย" ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเด็กด้อยโอกาสจากทุกภูมิภาคเดินทางไปทัศนศึกษา ณ สวนสัตว์เชียงใหม่ โดยทางเครื่อง บินเพื่อเป็นการปลอบขวัญเด็กใน 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 2539 | ขอให้พิจารณาอนุมัติวงเงินงบประมาณ เพื่อดำเนินการก่อสร้างตามโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เทศบาลนครนครราชสีมา | มท | 10/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปผลการประชุมหารือผู้เกี่ยวข้องเกี่ยว
กับการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เทศบาลนครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2548 โดยผลการประชุมสรุปได้ว่า เทศบาลนครนครราชสีมายินดีสมทบงบประมาณดำเนินโครงการ ฯ จากเดิม ร้อยละ 20 วงเงิน 760 ล้านบาท เป็นร้อยละ 30 วงเงิน 1,140 ล้านบาท และจะดำเนินการปรับปรุงอัตราค่าใช้ น้ำประปาให้สามารถบริการกิจการประปาให้มีกำไร เพื่อให้ถึงจุดคุ้มการลงทุนโดยเร็ว พร้อมทั้งได้ขอให้รัฐบาล จัดสรรงบประมาณ ในส่วนที่นอกเหนือจากเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งไม่เกี่ยวกับ สัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาล ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า โครงการที่เสนอมีความ จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในเขตชุมชนเมืองของนครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันมี การขยายตัวมากและมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จึงเห็นชอบในหลักการในการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการ ฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551 วงเงิน 2,660 ล้านบาท โดยให้ถือว่า วงเงิน จำนวนดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจะจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามพระราช บัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และให้สำนัก งบประมาณรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และเพื่อให้การดำเนินโครงการ ฯ เกิดประโยชน์แก่ประชา ชนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีส่วนช่วยในการบรรเทาปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อื่น จังหวัดนครราชสีมาและเทศ บาลนครราชสีมาจึงควรพิจารณาดำเนินการให้ท้องที่ซึ่งเป็นทางผ่านท่อส่งน้ำดิบได้ร่วมใช้ประโยชน์เพื่อการอุป โภคและบริโภคด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 2540 | การแก้ปัญหาภัยแล้งทั้งระบบในภาพรวม | อก | 03/05/2548 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการติดตามดูแลการแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั้งระบบในภาพ
รวมในเขตพื้นที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยในเขตพื้นที่จังหวัดกระบี่ ได้มีการ แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคในทุกอำเภอ รวมทั้งขุดลอกแหล่งน้ำ และซ่อมสร้างทำนบ ฝาย ขณะนี้สถานการณ์ ภัยแล้งของจังหวัดได้พ้นวิกฤติแล้ว แต่ยังมีการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคบางพื้นที่ สำหรับในเขตพื้นที่ จังหวัดตรัง ได้มีการช่วยเหลือเช่นเดียวกับจังหวัดกระบี่ ขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งคลี่คลายเนื่องจากมีฝนตกใน พื้นที่ แต่ทุกส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||
.....
