ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 123 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 2441 - 2460 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2441 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรและวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 | นร | 17/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงบประมาณเสนอยุทธศาสตร์การจัดสรรและวง
เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยให้สำนักงบประมาณประสานสำนักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะอีกครั้งหนึ่งก่อน ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) และสำนักงบ ประมาณ รับข้อสังเกตจากคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลประกอบการพิจารณา ดังนี้ การจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 30 (4) กำหนดให้ในช่วงระยะเวลาไม่ เกิน พ.ศ. 2549 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ของรัฐบาลในอัตรา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 นั้น รัฐบาลได้กำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาล เพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 หากมีการจัดงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่ม มากขึ้น เช่น งบประมาณด้านสาธารณสุขและการศึกษา เป็นต้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีรายได้ คิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 จึงควรตรวจสอบข้อมูลในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง และให้หารือรองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักการดังกล่าว นอกจากนี้ ในส่วนของวงเงิน งบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำขั้นต่ำที่จำเป็น (ค่าใช้จ่ายบุคลากร) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามที่ สำนักงบประมาณเสนอมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ประมาณร้อยละ 14.4 จึงขอให้สำนัก งบประมาณพิจารณารายละเอียดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2442 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวนายช่างและบัตรประจำตัวนายตรวจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... | มท | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตร
ประจำตัวนายช่างและบัตรประจำตัวนายตรวจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... ที่สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ให้อธิบดีกรมโยธาธิการและ ผังเมืองเป็นผู้ออกบัตรประจำตัวนายช่างซึ่งแต่งตั้งจากวิศวกรหรือสถาปนิก รวมทั้งให้พนักงานท้องถิ่น เป็นผู้ออกบัตรประจำตัวนายช่างซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการ หรือพนักงานของราชการส่วนท้องถิ่น และ ให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2443 | รายงานผลการจัดโครงการสัมมนา "สื่อท้องถิ่นกับนโยบายรัฐบาล" ครั้งที่ 3 | นร | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการจัดสัมมนาโครง
การ "สื่อท้องถิ่นกับนโยบายรัฐบาล" ครั้งที่ 3 ซึ่งสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีร่วมกับกรมประชา สัมพันธ์ จัดโครงการสัมมนาดังกล่าวขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2548 ณ จังหวัดสุราษฎร์ ธานี โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) เป็นประธานการสัมมนา สำหรับ ประเด็นหัวข้อการสัมมนาในครั้งนี้ประกอบด้วย การชี้แจงนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคใต้ตอนบนของ รัฐบาลแก่สื่อมวลชนท้องถิ่น และการสัมมนากลุ่มย่อยเรื่อง การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนท้องถิ่น เพื่อ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำงานระหว่างสื่อมวลชนกับภาครัฐ และหาแนวทางให้สื่อท้องถิ่นสามารถเข้าถึง ข้อมูลข่าวสารของภาครัฐได้มากขึ้น รวมทั้งตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนในประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ อาทิเช่น ข้อเสนอแนะที่อยากให้สื่อรัฐเปิดโอกาสให้สื่อท้องถิ่นมีช่วงเวลาได้นำเสนอรายการมากขึ้น และไม่เห็น ด้วยกับการกำหนดกรอบ 30-30-15 เพราะเป็นข้อจำกัดขอบเขตการกระจายเสียงรายการที่มีเนื้อหาสาระดี ๆ เป็นต้น โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นปัญหาที่สื่อมวลชนท้องถิ่นภาคใต้ตอนบนนำเสนอในการสัมมนา ไปพิจารณาดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในท้องถิ่น และให้กระทรวงต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์และเผย แพร่ข้อมูลข่าวสารการดำเนินงานของรัฐบาลให้สื่อมวลชนได้รับทราบอย่างถูกต้องชัดเจนและทั่วถึงเพื่อถ่ายทอด ให้ประชาชนทราบและเกิดความเข้าใจต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2444 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การโอน การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของสถานศึกษาไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปโดยความสมัครใจ ของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้ ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2445 | ผลการดำเนินงานของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ส่วนแยกจังหวัดยะลา (สทท.11 ยะลา) | นร | 27/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรายงานสรุปผลการดำเนินงานของ
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดยะลา ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2548 คณะที่ปรึกษาด้านการ พัฒนารายการทาง สทท. 11 ยะลา ได้มีการประชุม ฯ เห็นควรขยายช่วงเวลาการออกอากาศรายการท้องถิ่น ของ สทท.11 ยะลา จากวันละ 3 ชั่วโมง เป็น 8 ชั่วโมง และควรออกอากาศเป็น 2 ภาษา คือ ภาษาไทยและ มลายูถิ่น รายการที่ออกอากาศจะต้องสอดคล้องและเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดย ปัจจุบัน สทท.11 ยะลา ได้มีการปรับปรุงผังรายการแล้ว และได้ออกอากาศรายการท้องถิ่นวันละ 8 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00-12.00 น. และช่วงเวลา 13.00-18.00 น. รายการที่ได้รับความนิยม ได้แก่ รายการ ถ่ายทอดสดการละหมาดดารอเวียะจากกรุงเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในช่วงเดือนรอมฎอน รายการริน น้ำใจสู่พี่น้องชาวใต้เพื่อสอนเสริมในวิชาต่าง ๆ ช่วงเตรียมตัวสอบเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย หลังจากได้มี การปรับผังรายการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 ปรากฎว่า มีการตอบรับที่ดี ทั้งจากหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ จังหวัดยะลา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และหน่วยงานผู้ร่วมผลิตรายการ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้ ทำการประเมินผล "รายการรินน้ำใจสู่พี่น้องชาวใต้ ฯ" พบว่า คุณภาพในการถ่ายทอดสัญญาณเสียงและ ภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีนักเรียนที่รับชมรายการประมาณ 70% ของนักเรียนที่เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย และนักเรียน ครู อาจารย์ ผู้ปกครองมีความพึงพอใจมาก และต้องการให้ดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
2446 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนคณะกรรม การตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ ยกเลิกบัญชีอัตราค่าตอบแทนที่กำหนดในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนกรรมการตาม พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 และกำหนดให้ประธานกรรม การได้รับค่าตอบแทน 10,000 บาท ต่อเดือน (เดิม 5,000 บาท) และกรรมการได้รับค่าตอบแทน 8,000 บาทต่อเดือน (เดิม 4,000 บาท) แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไข เพิ่มเติมอัตราค่าตอบแทนของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการเป็นให้ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้ง ครั้งละไม่ เกิน 1,000 บาท แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
2447 | ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 (การชำระค่าธรรมเนียมรายปีโรงงาน) | อก | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมายฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 โดยมีสาระสำคัญคือ ให้โรงงานที่ถ่ายโอนภารกิจให้ แก่กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (เมืองพัทยา เทศบาล และองค์การบริหาร ส่วนตำบล) สามารถชำระค่าธรรมเนียมรายปีผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของกรุงเทพมหานคร หรือ อปท. นั้นได้ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปราย และ ความเห็นของคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ที่เห็นว่า ควรกำ หนดให้ค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่ง อปท. ได้รับชำระจากผู้ประกอบกิจการโรงงานประเภทที่ถ่ายโอนภารกิจ ให้แก่ อปท. เป็นรายได้ของ อปท. นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับมติ กกถ. เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2546 ซึ่งเห็นชอบให้บรรดาค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้น จากการถ่ายโอนภารกิจตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอน การกระจายอำนาจให้แก่ อปท. เป็นรายได้ อปท. และให้ส่วนราชการต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการแก้ไขกฎ หมายดำเนินการได้สอดคล้องกับหลักการดังกล่าว ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไป ได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2448 | รายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยศักยภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน | พม | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานผลการ
ดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ของชุมชนด้วยศักยภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และ จิตสำนึกของชุมชน จำนวน 34 โครงการ ประกอบด้วย โครงการด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 26 โครง การและโครงการพัฒนาจิตสำนึกชุมชน 8 โครงการ ด้านการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ในการทำงานของ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง จำนวน 13 โครงการ ประกอบด้วย โครงการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของข้าราชการ 8 โครงการ ผู้นำและเครือข่ายภาคประชาชน 5 โครงการ ด้านการสนับสนุนให้มีรูปแบบการพัฒนาสังคม ระดับ ตำบล และปรับแผนทุกรอบ 4 ปี จำนวน 12 โครงการ ด้านการสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ การพัฒนาครอบครัว จำนวน 11 โครงการ สำหรับการดำเนินงานเพื่อให้มียุทธศาสตร์การพัฒนาทุนทาง สังคมขณะนี้ยังไม่ได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีโครงการที่เกี่ยวข้อง จำนวน 12 โครงการ ด้านการเสริม สร้างคุณธรรมและจิตสำนึกที่ดี จำนวน 10 โครงการ อาทิ โครงการเยาวชนพัฒนาชาติ "คาราวาน ความดี" การดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและปราบปรามทุจริตและคอร์รัปชันโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียน ในฝัน เป็นต้น และด้านการติดตาม/ประเมินผลวิทยุชุมชนจำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดรายการวิทยุ ชุมชน จังหวัดสระแก้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
2449 | การเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินและการดำเนินการมาตรการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2548 | นร | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย พลังงาน ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายก รัฐมนตรีเสนอมติคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2548 ซึ่งกำหนดแนวทางปฏิบัติในส่วนของงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ โดยให้จังหวัด เร่งรัดการดำเนินการให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการที่ใช้จ่ายจากงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ (5,000 ล้านบาท) งบประมาณ รายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รายการค่าใช้จ่ายการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การ พัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด (15,000 ล้านบาท) โดยเร็ว ในกรณีงบประมาณ ดังกล่าวมีปัญหาอุปสรรคที่ไม่สามารถดำเนินการได้หรือไม่มีความพร้อมแต่ยังไม่มีคุณลักษณะเฉพาะรูปแบบ รายการละเอียดพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที ให้จังหวัดปรับโครงการไปสนับสนุนมาตรการกระตุ้นการใช้ จ่ายภาครัฐที่เน้นการจ้างแรงงาน สร้างกิจกรรมและสินทรัพย์ของเศรษฐกิจในท้องถิ่นที่สามารถเบิกจ่ายงบ ประมาณได้เร็วกว่าโครงการเดิม และรายงานให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ทราบ กรณีงบประมาณดังกล่าวมีเงินเหลือจ่ายก็ให้จังหวัดพิจารณานำไปใช้สำหรับโครงการอื่นที่สนับสนุน ยุทธศาสตร์จังหวัด ซึ่งสามารถดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว และจะต้องเน้นโครงการที่เป็นการจ้างแรงงาน และใช้วัสดุในท้องถิ่น ตามมาตรการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2548 โดยถือ ปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และรายงานรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาคทราบ ด้วย สำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2549 ให้จังหวัดเตรียมการไปพิจารณาปรับปรุงแผนงาน เพื่อให้มีการเพิ่ม โครงการที่เน้นการจ้างงาน การสร้างกิจกรรม และสินทรัพย์ของเศรษฐกิจในท้องถิ่นที่สามารถดำเนินการ ได้ในช่วงไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 (ตุลาคม-ธันวาคม) ตามมาตรการสร้างเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจ ฯ และเร่งรัดดำเนินการตามแผนงาน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐไปสู่พื้นที่ได้เร็วขึ้นให้มาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมอบหมายให้สำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้ดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2450 | การปรับปรุงโครงสร้างกรมประชาสัมพันธ์ | นร | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอการแปรสภาพวิทยุกระจาย
เสียงแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11) และสถาบันการประชาสัมพันธ์ เป็น หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ในประเด็นเกี่ยวกับการโฆษณา นั้น ให้สถานี วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11) มีโฆษณาได้เฉพาะ โฆษณาที่เป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ขององค์กร (corporate image) เท่านั้น โดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจให้ความสนับสนุนในการจัดทำรายการได้ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะ รัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์ ฯ ควรให้ความสำคัญกับการออกอากาศรายการที่เป็น การเสริมสร้างศักยภาพขององค์กร (capacity building) การสาธิต หรือฝึกปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับ ประเพณีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ อันเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาของไทย เพื่อเผยแพร่แก่ชาวต่างชาติด้วย เช่น การปรุงอาหารไทย เป็นต้น โดยให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) รับไปพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้ว่าการการท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
2451 | การประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2 (ระหว่างวันที่ 2 - 4 กันยายน 2548) | ทส | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยว
กับผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2 (Second Ministerial Meeting on Managing Water Resources in Southeast Asia) ณ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่าง วันที่ 2-4 กันยายน 2548 โดยมีรัฐมนตรีและ/หรือผู้แทนรัฐมนตรีจากประเทศในภูมิภาคเข้าร่วมประชุม จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียด นาม ในการนี้รัฐมนตรีได้เน้นถึงพันธกิจที่มีตามที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ในแถลงการณ์เชียงใหม่ แถลงการณ์แห่ง สหัสวรรษ การประชุมสุดยอดโลกด้านการพัฒนาแบบยั่งยืนรวมทั้งแผนงานโยฮันเนสเบิรก์โดยเน้นย้ำเรื่อง การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมควบคู่กับการรักษาความสมดุลย์ของสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการมีส่วน ร่วมจากทุกฝ่ายในการพัฒนาทรัพยากรน้ำ การจัดหาเครื่องมือเพื่อบรรลุแผนการดำเนินการบริหารจัด การน้ำแบบผสมผสาน และการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการน้ำ นอกจากนี้ รัฐมนตรีได้บรรลุ ข้อตกลงที่จะปฏิบัติตามแผนปฏิบัติงานรวม 5 ด้าน ได้แก่ การบริหารทรัพยากรน้ำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำแบบผสมผสาน (IWRM) ทั้งในระดับนานาชาติและระดับ ท้องถิ่น/ภูมิภาค การจัดการน้ำและสุขาภิบาลสำหรับทุกคน การบริหารจัดการน้ำเพื่อสร้างความมั่นคง ด้านอาหาร ความมั่นคงด้านน้ำ
|
|||||||||||||||||||||||||||
2452 | สรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยจังหวัดภาคใต้ | คค | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับสรุปความเสียหายและการให้
ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยจังหวัดภาคใต้ ดังนี้ สภาพความเสียหาย มีถนนในความรับผิด ชอบของกรมทางหลวง จำนวน 77 สายทาง 120 แห่ง ถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทจำนวน 74 สายทาง ทางรถไฟ มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 8,195,241.00 บาท ในส่วนของกรมการขนส่งทางน้ำ และพาณิชยนาวีได้สำรวจพื้นที่ที่ประสบภัยที่อยู่ในความรับผิดชอบ คือ จังหวัดชุมพร เกิดน้ำเซาะชายฝั่งทะเล และน้ำเซาะตลิ่งแม่น้ำหลังสวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดความเสียหายในพื้นที่รวม 10 อำเภอ 34 ตำบล 201 หมู่บ้าน จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดความเสียหายในพื้นที่รวม 22 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 151 ตำบล 1,103 หมู่ บ้าน จังหวัดสงขลามีระดับน้ำขึ้นสูงในพื้นที่ 9 อำเภอ จังหวัดพัทลุง มีระดับน้ำขึ้นสูงในพื้นที่ รวม 8 อำเภอ จังหวัดปัตตานี เกิดความเสียหายในพื้นที่ 6 อำเภอ จังหวัดนราธิวาส เกิดความเสียหายในพื้นที่รวม 8 อำเภอ จังหวัดตรัง เกิดน้ำท่วมขังบริเวณ 9 อำเภอ จังหวัดสตูลเกิดความเสียหายในพื้นที่ 6 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ราษฎรได้รับความเสียหาย 11,754 ครัวเรือน ถนนในหมู่บ้านเสียหาย 79 สายทาง สะพานเสียหาย 3 แห่ง ส่วนด้านท่าอากาศยาน ไม่มีความเสียหายใดๆ สำหรับการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักร ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในจังหวัดต่าง ๆ รวมทั้งดำเนิน การซ่อมแซมสะพานเหล็กชั่วคราว สะพานรถไฟในจุดที่น้ำท่วม พร้อมทั้งได้ประสานหน่วยงานทหาร เพื่อนำ รถยนต์มาขนถ่ายผู้โดยสารท้องถิ่นที่ประสงค์จะเดินทางระหว่างสถานีเทพากับสถานีปัตตานีที่ถูกน้ำท่วม ให้ สามารถเดินทางได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2453 | การแก้ไขปัญหาการถ่ายโอนสถานศึกษาไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการถ่ายโอนสถานศึกษา
ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า โดยที่ร่างพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้ แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีหลักการเกี่ยวกับการถ่ายโอนสถานศึกษาไปยังองค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ในชั้นวุฒิสภา แต่ปรากฎว่ายังมีการเคลื่อนไหว คัดค้าน และเรียกร้องให้มีการพิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าว จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายสมชาย สุนทรวัฒน์) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปร่วมกันพิจารณาดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด แล้วชี้แจงให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจโดยด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
2454 | สถานการณ์โรคตาแดงระบาดในจังหวัดยะลา อำเภอรามัน อำเภอยะหาและ อำเภอเมือง | สธ | 13/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับสถานการณ์โรคตา
แดงระบาดในจังหวัดยะลา อำเภอรามัน อำเภอยะหา และอำเภอเมือง โดยสถานการณ์ในปี 2548 มีจำนวน ผู้ป่วยโรคตาแดง 1,345 ราย พบผู้ป่วยสูงสุดคือ อำเภอยะหา 369 ราย อำเภอรามัน 278 ราย อำเภอ เมืองยะลา 277 ราย และอำเภออื่น ๆ พบเล็กน้อย ในส่วนของมาตรการดำเนินการได้ออกหน่วยแพทย์ เคลื่อนที่ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลชุมชนในเขตพื้นที่ได้ดำเนินการใน 2 พื้นที่ ได้แก่ หมู่บ้านโต๊ะปาเก๊ะ อำเภอรามัน มีผู้ป่วยทั่วไป 485 ราย เป็นโรคตาแดง 125 ราย และโรงเรียนบาโงยซิแน อำเภอยะหา มีประชาชนมารับบริการ 230 ราย มีโรคตาแดง 8 ราย แนวทางการให้สุขศึกษาและควบคุม การระบาดโรคตาแดงในการสร้างพฤติกรรมแก่ประชาชน อาทิเช่น ควรล้างมือบ่อย ๆ เพราะมือไปจับสิ่ง ของต่าง ๆ อาจมีเชื้อไวรัส อย่าเอามือป้ายตาตนเองหรือไปป้ายตาคนอื่นไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่นให้ผู้ป่วย หยุดอยู่กับบ้าน หากมีการระบาดในโรงเรียนมากควรปิดเรียน น้ำที่ใช้อาบ ล้างหน้า ต้องมีระดับคลอรีนที่ เพียงพอ รวมถึงสระว่ายน้ำ เป็นต้น สำรวจแหล่งน้ำ ล้างบ่อเติมคลอรีน โดยร่วมมือกับท้องถิ่นและจังหวัด เตรียมจัดหาน้ำสะอาดในกรณีเกิดน้ำท่วมซ้ำ
|
|||||||||||||||||||||||||||
2455 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงินเดือน เงินเพิ่ม เงินค่าเบี้ยประชุม และเงินตอบแทนอื่นของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข้าราชการการเมืองอื่นของกรุงเทพมหานคร และกรรมการที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 13/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงิน
เดือน เงินเพิ่ม เงินค่าเบี้ยประชุม และเงินตอบแทนอื่นของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข้าราชการการ เมืองอื่นของกรุงเทพมหานครและกรรมการที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดย มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงอัตราเบี้ยประชุมกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการที่ผู้ ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อ สังเกตของสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาที่เสนอมานี้กำหนดให้ข้าราชการ ลูกจ้างในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือพนักงาน หรือลูกจ้างของการพาณิชย์ของกรุงเทพมหานคร ข้าราช การหรือลูกจ้างของทางราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น ซึ่งมิได้ เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือพนักงาน หรือลูกจ้างของการพาณิชย์ของกรุง เทพมหานคร และบุคคลภายนอกให้ได้รับเบี้ยประชุมในอัตราที่แตกต่างกัน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
2456 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยแบบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต และการอนุญาตสำหรับโรงงานจำพวกที่ 3 พ.ศ. .... | อก | 13/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยแบบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตและการอนุญาตสำหรับโรงงานจำพวกที่ 3 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแบบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต และการอนุญาตสำหรับโรงงานจำพวกที่ 3 ใน การประกอบกิจการโรงงาน การขยายโรงงาน การต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน เพื่อให้เหมาะ สมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับ ประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และความเห็นของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็นว่าการถ่ายโอนภารกิจกำกับดูแลโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายภายใต้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการ และมาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนด กระทรวงอุตสาหกรรมควรที่จะกำหนดแนวทางดำเนิน การ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ วิธีการปฏิบัติ โดยเฉพาะ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องในโรงงานแต่ละประเภทเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า ภารกิจใดเป็นของกระทรวงอุตสาห กรรม และส่วนใดเป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่นต่อไป ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
2457 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานใหญ่ของสหภาพไปรษณีย์แห่งเอเชียและแปซิฟิก พ.ศ. .... | ทก | 06/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอร่างพระราช
บัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานใหญ่ของสหภาพไปรษณีย์แห่งเอเชียและแปซิฟิก พ.ศ. .... โดย มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองการดำเนินงานของศูนย์ฝึกอบรมการไปรษณีย์แห่ง เอเชียและแปซิฟิก โดยกำหนดให้สำนักงานใหญ่ของสหภาพไปรษณีย์แห่งเอเชียและแปซิฟิกเป็นนิติบุคคล และให้ถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย กำหนดให้สำนักงานได้รับความคุ้มกันและยกเว้นเกี่ยวกับทรัพย์ สินของสำนักงาน ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีท้องถิ่น และบรรดาสิ่งของรวมถึงยานยนต์ ที่สำนักงานนำเข้าให้ได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร ฯ ตามที่กำหนด รวมทั้งกำหนดให้ผู้อำนวยการ ผู้ช่วย ผู้อำนวยการ ที่ปรึกษาด้านไปรษณีย์ และคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการของสำนักงานโดยความเห็นชอบของ กระทรวงการต่างประเทศมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีศุลกากร และข้อจำกัดตาม กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองตามที่กำหนด ทั้งนี้ ไม่รวมถึงบุคคลผู้มีสัญชาติไทยหรือผู้มีถิ่นที่อยู่เป็นถาวรใน ประเทศไทย และกำหนดให้สำนักงานมีสิทธิได้รับบริการด้านการสื่อสารไม่น้อยกว่าที่รัฐบาลให้แก่องค์กร ระหว่างประเทศอื่นๆ ในประเทศไทยตามที่กำหนด และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2458 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 | อก | 06/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ดินที่ใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อ อุตสาหกรรมเซรามิกหรือเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เป็นดินอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ไม่รวมถึงดินที่ใช้ในการ ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาของประชาชนในท้องถิ่น หรือสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่น กรอง ฯ และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา โดยในส่วนของประเด็นอภิปรายคณะกรรม การกลั่นกรอง ฯ เห็นว่า การกำหนดดินชนิดใดให้เป็นแร่ ควรพิจารณากำหนดจากคุณสมบัติหรือลักษณะ ของดิน โดยอาศัยองค์ประกอบทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งควรพิจารณากำหนดการควบคุมให้ชัดเจนว่า จะ ควบคุมเฉพาะเพื่อการประกอบอุตสาหกรรมโดยไม่รวมถึงการนำดินมาใช้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาของประชา ชน (OTOP) และผู้ประกอบการ SMEs แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
2459 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 15/11/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการวงศึกษาธิการเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ
ประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เพื่อกำหนดเรื่องความสมัครใจของครูและผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการ สถานศึกษาที่จะให้โอนสถานศึกษาแห่งนั้นไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้กระทรวงศึกษาธิการประสานผู้เกี่ยวข้องและส่งความเห็นของ คณะกรรมการประสานงานองค์กรครูและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีนายปองพล อดิเรกสาร อดีต รองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 ไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีก ครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
2460 | สรุปผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 กรณีนางรัตนา สัจจเทพ ขอความเป็นธรรม | นร | 08/11/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับผลการดำเนิน
การตามมติคณะรัฐมนตรี กรณีนางรัตนา สัจจเทพ ขอความเป็นธรรม โดยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2534 นางรัตนา สัจจเทพ ได้ซื้อที่ดินพร้อมทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น เลขที่ 19/556 ซอยบุญส่งโสพิศ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร กับนายสุทธิจินดา พงษ์โนรี โดยนางรุ่งนภา วาสนาดำรงดี และได้ครอบครองอยู่อาศัยในบ้านดังกล่าว โดยไม่ทราบว่าบริเวณที่ปลูกบ้านอยู่บนที่ดินที่ต้องกันไว้เป็นที่ ว่างตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการก่อสร้างอาคาร คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการพิจารณาแนวทางในการ เจรจากับผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้ขายบ้านและที่ดินให้แก่นางรัตนา สัจจเทพ เพื่อแก้ปัญหาความเดือด ร้อนให้กับนางรัตนาฯ โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายและมอบหมายให้สำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภครับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมที่ดินซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ในการควบคุมการจัดสรรและออกโฉนดที่ดิน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการ อนุญาตก่อสร้างเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันมิให้ผู้ประกอบการที่ไม่สุจริตกระทำการอันเป็นการละเมิด สิทธิของผู้บริโภคเช่นนี้อีก และรองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ได้จัดเตรียมเงินจำนวน 6 ล้านบาท เพื่อมอบให้กับนางรัตนา สัจจเทพ และกำหนดจะมอบแคชเชียร์เช็คตามจำนวนดังกล่าวให้กับ นางรัตนา สัจจเทพ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2548 ณ ทำเนียบรัฐบาล และกำลังประสานกับภาคธุรกิจ เอกชนเพื่อสมทบเงินช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่ง
|
.....