ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 33 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 641 - 660 จากข้อมูลทั้งหมด 1095 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
641 | ผลการประชุมสุดยอดผู้นำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT-GT Summit) ครั้งที่ 3 | นร | 27/11/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอดัง
นี้ รับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT Summit) ครั้งที่ 3 โดยที่ประชุม ฯ ได้รับรองการเข้าร่วมในพื้นที่ IMT-GT ของ 6 จังหวัดภาคใต้ตอบบนของไทย ได้แก่ จังหวัด สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา และกระบี่ และการปรับแนวพื้นที่เศรษฐกิจของ IMT-GT โดยเพิ่มแนวพื้นที่ เศรษฐกิจที่ 5 ได้แก่ แนวเศรษฐกิจระนอง-ภูเก็ต-อาเจห์ (Ranong-Phuket-Aceh Economic Corridor) เพื่อให้ครอบ คลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนบนของไทย และเห็นชอบเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ การประกาศให้ปี พ.ศ. 2551 เป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยว (Visit IMT-GT Year 2008) การเร่งรัดการเปิดดำเนินการศูนย์ความร่วมมืออนุภูมิภาค IMT-GT (CIMT) ณ รัฐสลังงอร์ มาเลเซีย ภายในปี พ.ศ. 2551 การขอรับการสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาเอเชีย ในการจัดทำแผนปฏิบัติการและจัดลำดับความสำคัญแผนงานโครงการ และประมาณการค่าใช้จ่ายรายแผนงานโครง การเพื่อการพัฒนาตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจทั้ง 5 ของ IMT-GT การให้สภาธุรกิจ IMT-GT และธนาคารพัฒนาเอเชีย ปรึกษาหารือและประสานงานกันในด้านการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดำเนินโครงการของภาคเอกชน IMT -GT และการให้คณะทำงานภายใต้กรอบ IMT-GT 6 สาขาเร่งดำเนินโครงการที่มีความสำคัญเร่งด่วน โดยเฉพาะด้าน พลังงานทางเลือก และพลังงานทดแทน การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจ IMT-GT การ จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ การจัดทำมาตรฐานการตรวจรับรองตราฮาลาล การร่วมทำการตลาดสินค้าและบริการฮา ลาล การรับรองร่วมด้านมาตรฐานและการรับรองวิชาชีพแรงงาน (MRA) และความร่วมมือด้านประมง ปศุสัตว์ พืช ผลเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร ทั้งนี้ มอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดในภาคใต้ ซึ่งเป็นสมาชิกภายใต้แผนความร่วมมือทาง เศรษฐกิจอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ให้มีบทบาท และมีส่วนร่วมมากขึ้นในการจัดเตรียมแผนการดำเนินงานที่เป็น รูปธรรมที่จะสนับสนุนภาคเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่ดำเนินการของแผนงานความร่วมมือ 3 ฝ่าย รวมทั้ง ประสานงานและสร้างความร่วมมือในระดับผู้ว่าราชการจังหวัดและมุขมนตรีของทั้งสามประเทศ เพื่อส่งเสริมกิจกรรม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคม และเห็นชอบในหลักการและมอบให้ สศช. จัดส่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ฯ ไป ร่วมปฏิบัติงานที่ศูนย์ความร่วมมืออนุภูมิภาคของ IMT-GT ณ รัฐสลังงอร์ มาเลเซีย (IMT-GT CIMT)
|
|||||||||||||||||||||||||||
642 | การปรับปรุง (ร่าง) กรอบแผนปฏิบัติการส่งเสริมสถาบันครอบครัว (พ.ศ. 2550 - 2554) | พม | 20/11/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
แผนปฏิบัติการส่งเสริมสถาบันครอบครัว (พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2556) เพื่อให้การดำเนินงานพัฒนาสถาบันครอบ ครัวไทยเป็นไปอย่างมีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ในทุกภาคส่วนของสังคม ที่ดำเนินงานด้านครอบครัวยึดถือในการดำเนินงานพัฒนาสถาบันครอบครัว รวมทั้งเพื่อให้สถาบันครอบครัวไทย ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์หลักที่ 1 : การ พัฒนาศักยภาพของครอบครัวแบบองค์รวม ยุทธศาสตร์หลักที่ 2 : การสร้างหลักประกันคุ้มครองทางสังคมของ ครอบครัว ยุทธศาสตร์หลักที่ 3 : การสร้างระบบกลไกบริหารจัดการให้เกื้อหนุนความเข้มแข็งของครอบครัว และ ยุทธศาสตร์หลักที่ 4 : การพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายทางสังคมเพื่อพัฒนาครอบครัว โดยในส่วนของกรอบวง เงินงบประมาณดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนจากงบ ประมาณที่ได้รับจัดสรรแล้วไปดำเนินการ ส่วนงบประมาณในปีต่อไปให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณตามความเหมาะสมกับความจำเป็นตามแผนปฏิบัติการในแต่ละปีตามความเห็นของสำนัก งบประมาณ และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับงบประมาณดำเนินการในปี พ.ศ. 2551 ให้พิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณที่ได้รับการ จัดสรรแล้ว สำหรับงบประมาณในปี พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2556 ให้พิจารณาทบทวนรายละเอียดการดำเนินงานและ ขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคม ฯ ประสาน และบูรณาการการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามเป้าหมายตามที่กำหนดในแผนปฏิบัติการ ฯ ต่อไป และความเห็นของสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับยุทธศาสตร์หลักที่ 3 ซึ่งสำนักงาน ก.พ. ได้จัดสรรทุนการศึกษา และฝึกอบรมให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านครอบครัวมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ดังนั้น ต่อไปหากส่วน ราชการมีความประสงค์ที่จะขอรับการจัดสรรทุนการศึกษาและฝึกอบรม ก็ควรมีการวิเคราะห์และวางแผนพัฒนา ทรัพยากรบุคคลด้านกิจการสถาบันครอบครัวและขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เป็นต้น ไป พิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
643 | การขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสามัญ ครั้งที่ 11 ของสมาคมผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเอเชีย ในปี 2552 | ผร | 30/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสามัญ
(The Asian Ombudsman Association : AOA) ครั้งที่ 11 ของสมาคมผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเอเชีย ในปี พ.ศ. 2552 และการเตรียมการในเรื่องที่เกี่ยวข้อง สำหรับค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม สำนักงบประมาณได้ตั้งงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 1.9 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้สำนักงานผู้ตรวจการ แผ่นดินเตรียมการเบื้องต้นในการประชุมในปี พ.ศ. 2552 โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรม การบริหารสมาคม ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ในปี พ.ศ. 2551 เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการ กำหนดหัวข้อหลักในการประชุม ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมที่ประมาณการไว้ จำนวน 12.1 ล้านบาท นั้น ให้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยให้ดำเนินการจัด การประชุมโดยประหยัด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
644 | การสนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | รง | 30/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการสนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎร ของกระทรวงแรงงาน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการสนับสนุนการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายจ้าง ลูกจ้าง และกำหนดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้นายจ้าง ลูกจ้าง ในราชอาณาจักร ประมาณ 9,000,000 คน และลูกจ้างที่ทำงานนอกราชอาณาจักรประมาณ 400,000 คน ได้ไปใช้สิทธิลงคะแนน เสียงเลือกตั้ง รวมทั้งสร้างจิตสำนึกต่อต้านการซื้อสิทธิ ขายเสียงแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยได้ขอรับการสนับสนุนงบ ประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นเงิน 17,209,000 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
645 | ขอความเห็นชอบสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนโอลิมปิคฤดูร้อน ครั้งที่ 1 ปี 2010 (พ.ศ. 2553) | กก | 22/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอการเป็นเจ้าภาพจัดการ
แข่งขันกีฬาเยาวชนโอลิมปิคฤดูร้อน ครั้งที่ 1 ปี 2010 (พ.ศ. 2553) และหากกรุงเทพมหานครได้รับการยืนยันจาก คณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) ให้เป็นเมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนโอลิมปิคฤดูร้อน ครั้งที่ 1 ปี 2010 (พ.ศ. 2553) แล้ว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรุงเทพมหานคร จัดทำรายละเอียด กรอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดการแข่งขันเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้กรุงเทพ มหานครรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรศึกษาวิเคราะห์ ถึงโอกาสความเป็นไปได้ในการเป็นเจ้าภาพ พร้อมทั้งจัดทำแผนการดำเนินการที่ชัดเจนเป็นระบบครอบคลุมตั้งแต่ ขั้นการเตรียมการ ขั้นการดำเนินการแข่งขัน รวมทั้งมีการพิจารณาการจัดสรรผลประโยชน์ และการดำเนินการภาย หลังการแข่งขันแล้วเสร็จ และกำหนดบทบาทความรับผิดชอบในการดำเนินการเป็นเจ้าภาพภายใต้ความร่วมมือของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร และการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพหลักและร่วมรับ ภาระค่าใช้จ่าย โดยเตรียมการจัดทำรายละเอียดแผนงบประมาณค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนและเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเอก ชนมีส่วนร่วมสนับสนุนการดำเนินการด้วย และความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ให้กรุงเทพมหานครมีส่วนร่วมใน การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนงบประมาณกับกรุงเทพมหานครในสัด ส่วนไม่เกินร้อยละ 60 ของวงเงินค่าใช้จ่ายที่จะดำเนินการ โดยให้กรุงเทพมหานครขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ตามความจำเป็นเป็นปี ๆ ไป ในสัดส่วนเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่จัดสรรให้กรุงเทพมหานคร ตามมติคณะกรรมการ การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
646 | การรณรงค์สนับสนุนการเลือกตั้ง | ศธ | 22/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอโครงการรณรงค์ส่งเสริมประชา
ธิปไตยในสถานศึกษาและอาสาสมัครส่งเสริมประชาธิปไตย โดยวัตถุประสงค์ของโครงการ ฯ เพื่อส่งเสริมประสบ การณ์การเรียนรู้ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งของนักเรียน นิสิต นักศึกษา รณรงค์เผยแพร่การไปใช้สิทธิเลือก ตั้งโดยไม่ซื้อสิทธิขายเสียง และเพื่อให้ข้าราชการในสังกัดไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยพร้อมเพรียง วางตัวเป็นกลางทาง การเมือง และสร้างกระบวนการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ แจ้งเหตุ รายงานการตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยว กับการเลือกตั้ง รวมทั้งสร้างจิตสำนึกอาสาสมัครการมีส่วนร่วมและรับใช้สังคมให้เกิดขึ้นในตัวนักเรียน นิสิต นัก ศึกษา โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2551 โดยในส่วนของการ ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 20,008,000 บาท ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและ แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 หรือขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานหลักอื่น เช่น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อจัดกิจกรรมสนับสนุนการรณรงค์การเลือกตั้งต่อไป ตามความเห็นของ สำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
647 | การจัดหารถยนต์ดับเพลิงและอุปกรณ์กู้ภัยให้แก่อำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา | มท | 16/10/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการจัดหารถยนต์ดับเพลิงและอุปกรณ์กู้
ภัยให้แก่อำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา สรุปได้ดังนี้ ตามที่กรมป้องกันและบรร เทาสาธารณภัย ขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายการพัฒนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เพื่อเป็นค่าจัดหารถยนต์ดับเพลิง และอุปกรณ์กู้ภัย ฯ ในวงเงิน 508,750,000 บาท ซึ่ง กอ.รมน. แจ้งว่าไม่สามารถให้การสนับสนุนงบประมาณดัง กล่าวได้ เนื่องจากได้จัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามแผน งานแล้วโดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินการจัดหารถยนต์ดับเพลิงและอุปกรณ์กู้ภัย ฯ ต่อไป นั้น ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้จัดการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางบูรณาการการจัดหารถยนต์เก็บกวาดตะปูเรือใบ พร้อมอุปกรณ์กู้ ภัยและระบบไฟฟ้าส่องสว่าง โดยที่ประชุมเห็นว่า การจัดหารถยนต์เก็บกวาดตะปูเรือใบ ฯ รถยนต์ดับเพลิง ฯ และ รถยนต์บรรทุกน้ำ ฯ สนับสนุนให้แก่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา รวม 37 อำเภอ จะ เป็นประโยชน์ต่อการช่วยเหลือประชาชน และการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน อีกทั้งอุปกรณ์ดังกล่าวเป็น การเสริมภารกิจทางยุทธการของฝ่ายทหารและตำรวจด้วย จึงเห็นชอบตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะดำเนินการจัดหาทั้งประเภทของอุปกรณ์ จำนวน และราคาตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไว้แล้ว ทั้งนี้ กรมป้อง กันและบรรเทาสาธารณภัยจะดำเนินการจัดหารถยนต์ดับเพลิงและอุปกรณ์ ฯ โดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
648 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 18/09/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเห็นว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายอุดหนุนองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว จึงให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้จ่ายจากเงินดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||
649 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง | ตช | 11/09/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณราย
จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง ในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์เพิ่มเติม จำนวน 2 เครื่อง เพื่อสนับสนุน การปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพิจารณาเห็นความจำเป็นในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าว แต่โดยที่มีข้อจำกัดในการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรอง จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จึงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งในปี งบประมาณ พ.ศ. 2551 ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
650 | ขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าชดเชยให้แก่มหาวิทยาลัยรามคำแหง [โครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมช่วงจากถนนรามคำแหง (ผ่านซอยรามคำแหง 24) ถึงถนนศรีนครินทร์] | มท | 04/09/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติให้
กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) รับเรื่องขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าชดเชยให้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง [โครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมช่วงจากถนนรามคำแหง (ผ่านซอยรามคำแหง 24) ถึงถนนศรีนครินทร์] ไปหารือกับสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนค่าชดเชยในการปรับแผน การก่อสร้างอาคารให้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหงตามความเหมาะสม แล้วดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
651 | โครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 21/08/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยดำเนินโครง
การจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ยกเว้นการปฏิบัติตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 (การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) สำหรับงบประมาณเพื่อการนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวง มหาดไทยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2552 วงเงินไม่เกิน 969,400,000 บาท โดยงบประมาณที่ จะใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 145,410,000 บาท ให้พิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ที่ได้รับไปดำเนินการในอันดับแรกก่อน หากไม่เพียงพอที่จะดำเนินการ ให้เสนอ ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น หรืองบกลางรายการอื่น โดยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนงบประมาณปี พ.ศ. 2551 เนื่องจากสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยได้รับการพิจารณาจัดสรรไว้แล้ว จำนวน 386,252,500 บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน 437,737,500 บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดด้วย และโดยที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วม ดำเนินการ อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นศูนย์บัญชาการทุกพื้นที่ใน 5 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นศูนย์เฝ้าติดตามสถานการณ์ เป็นต้น จึงเห็นควรให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมบริหารจัดการระบบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาด ไทยเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการบริหารจัดการระบบตามโครงการ ฯ |
|||||||||||||||||||||||||||
652 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 21/08/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรงมหาดไทยเสนอขอถอนเรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
จัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คืนไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
653 | ขออนุมัติเพิ่มจำนวนนักศึกษาในโครงการเพชรในตม | นร | 07/08/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็น
ชอบหลักการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ในการเพิ่มจำนวนนักศึกษาในโครงการ เพชรในตมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) จังหวัดละ 5 คน รวม 15 คนต่อปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551-2555 โดยให้ กอ.รมน. รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไป พิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมห่งชาติมีข้อเสนอแนะเพิ่ม เติมในส่วนของการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ ควรให้ความสำคัญกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่ สงบเป็นลำดับแรก และเปิดโอกาสให้นักศึกษาในโครงการ ฯ พักอาศัยในหอพักร่วมกับนักศึกษาทั่วไปเพื่อเรียน รู้การใช้ชีวิตร่วมกับนักศึกษาที่มาจากต่างพื้นที่ ส่วนคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาค รัฐ เห็นควรมีการวางแผนและบริหารจัดการอัตรากำลังที่มีอยู่ เพื่อให้มีอัตราว่างรองรับการบรรจุแต่งตั้งผู้สำเร็จ การศึกษาแต่ละรุ่น รวมทั้งมีการติดตามเพื่อประเมินผลการดำเนินโครงการ ฯ ด้วย และความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนอัตรากำลังและบริหารจัดการอัตราว่างที่มีเงินได้ เพื่อรองรับการบรรจุ แต่งตั้งผู้สำเร็จการศึกษาในแต่ละรุ่น ส่วนงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้ กอ.รมน. รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่ให้จัดทำรายละเอียดของงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุน ให้ชัดเจนและครบถ้วนว่า ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง อย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะ รัฐมนตรี โดยค่าใช้จ่ายในส่วนของการประชาสัมพันธ์ และสัมมนาด้านความมั่นคงปีละ 2,000,000 บาท ให้ใช้ จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ กอ.รมน. ได้รับจัดสรร ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
654 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพิ่มเติม | ศป | 24/07/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณในการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำ
|
|||||||||||||||||||||||||||
655 | การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การดื่มน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ | พณ | 24/07/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอโครงการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การ |
|||||||||||||||||||||||||||
656 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 (งบกลาง) | นร | 10/07/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงบประมาณเสนอให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิ
และเสรีภาพ เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 170,691,800 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่า ใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยใน คดีอาญา พ.ศ. 2544
|
|||||||||||||||||||||||||||
657 | ขออนุมัติเสนอแผน 5 ปี รองรับการดำเนินงานการสำรวจภาวะสุขภาพและตรวจร่างกายประชาชนไทย | สธ | 03/07/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็นชอบ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอหลักการของแผน 5 ปี (พ.ศ. 2551-2555) รองรับการดำเนินงานการสำรวจภาวะ สุขภาพและตรวจร่างกายประชาชนไทยเพื่อให้การดำเนินงานการสำรวจภาวะสุขภาพและตรวจร่างกายประชาชนเกิด ความต่อเนื่อง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการกำหนดนโยบายสุขภาพและการจัดระบบสาธารณสุข และเป็นที่ยอมรับ ในมาตรฐานข้อมูลสุขภาพทั้งในและต่างประเทศ โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า การดำเนินการตามแผน ฯ เป็นลักษณะงานที่ต้องมีการดำเนินการในระยะยาว และประสานงานกับภาคเอกชนเป็น หลัก จึงควรประสานระดมทุนจากภาคีภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสนับสนุน เพื่อลดภาระการพึ่งพางบประมาณ จากภาครัฐด้วย และในการดำเนินการตามแผน ฯ ซึ่งผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงเพิ่มเติมว่าไม่ได้มีการตั้งหน่วย งานขึ้นใหม่แต่เป็นหน่วยงานที่มีอยู่แล้วในสังกัดของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ดังนั้น หากมีภารกิจใดที่เพิ่มขึ้น ก็ เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่มีอยู่แล้วเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อลดภาระต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับภาครัฐโดยไม่จำเป็น และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณ รองรับการดำเนินงานดังกล่าว ให้กระทรวงสาธารณสุขประสานขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 หาก สสส. ไม่สามารถสนับสนุนได้หรือให้การสนับ สนุนไม่เพียงพอ ก็ให้เสนอขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตามขั้นตอนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
658 | การส่งเสริมประชาธิปไตยเพื่อสนับสนุนการออกเสียงประชามติและการเลือกตั้งกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 03/07/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอโครงการส่งเสริมประชาธิปไตยเพื่อสนับ
สนุนการออกเสียงประชามติและการเลือกตั้ง โดยกำหนดขั้นตอนการดำเนินงานออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 การเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในร่างรัฐธรรมนูญและการออกเสียงประชามติ ดำเนินการในช่วงเดือนกรกฎา คม-19 สิงหาคม 2550 เป็นการสร้างความเข้าใจเนื้อหาสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ และการรณรงค์การใช้สิทธิ ออกเสียงประชามติ และช่วงที่ 2 การรณรงค์ให้ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง โดยใช้งบประมาณดำเนินการจำนวน 45.3204 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย งบประมาณที่เจียดจ่ายจากงบปกติของหน่วยงานและสถานศึกษา จำนวน 15.5920 ล้านบาท งบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 8.0 ล้านบาท และ งบประมาณที่ขอรับการสนับสนุน (งบกลาง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 21.7284 ล้านบาท โดยให้กระทรวงศึกษาธิการประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการจากคณะกรรม การการเลือกตั้งต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
659 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัล (เงินเพิ่มพิเศษ) สำหรับผู้บริหารและเงินรางวัลประจำปีสำหรับหน่วยงาน | ศป | 26/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็นชอบ
ในหลักการการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับผู้บริหาร และเงินรางวัลประจำปีสำหรับข้าราช การและลูกจ้างประจำ ของสำนักงานศาลปกครอง ตั้งแต่ปีงบปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป โดยในส่วนงบ ประมาณให้สำนักงานศาลปกครองเจียดจ่ายจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรร หากไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงกับ สำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยให้สำนักงานศาลปกครองรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรม การกลั่นกรอง ฯ ที่ให้นำหลักเกณฑ์และแนวทางการจ่ายค่าตอบแทน (เงินเพิ่มพิเศษ) สำหรับผู้บริหารและเงินราง วัลสำหรับหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงาน โดยการจัดทำข้อตกลงว่าด้วยผลงานหรือคำรับรองการปฏิบัติราชการ ตาม ที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ มาเป็นเกณฑ์ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการเพื่อให้เป็นมาตรฐาน เดียวกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาดำเนิน การต่อไป และมอบให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ. รับไปพิจารณากรอบแนวทาง การดำเนินการตามมาตรการปรับค่าตอบแทนภาคราชการ ของหน่วยงานอื่นของรัฐที่มิได้อยู่ในกำกับของราชการ ฝ่ายบริหารในภาพรวมทั้งระบบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าราชการประเภทต่าง ๆ ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ และสำนักงาน ก.พ.ร. |
|||||||||||||||||||||||||||
660 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 26/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาย
ใน (กอ.รมน.) เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 35 โครงการ ในวงเงิน 271,040,000 บาท ดังนี้ จังหวัดปัตตานี จำนวน 10 โครงการ เป็นเงิน 63,858,000 บาท จังหวัดนราธิวาส จำนวน 7 โครงการ เป็นเงิน 106,820,000 บาท จังหวัดยะลา จำนวน 12 โครงการ เป็นเงิน 55,774,000 บาท จังหวัดสตูล จำนวน 3 โครงการ เป็นเงิน 31,000,000 บาท และจังหวัดสงขลา จำนวน 3 โครงการ เป็นเงิน 13,588,000 บาท ส่วน โครงการที่เหลือจำนวน 10 โครงการ เมื่อโครงการมีความพร้อมและมีรายละเอียดโครงการชัดเจน ให้ กอ.รมน. ประสานขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|