ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 37 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 721 - 740 จากข้อมูลทั้งหมด 1095 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
721 | ขอให้พิจารณาทบทวนการขอรับการสนับสนุนเงินกู้ในการขยายการดำเนินการโครงการจัดทำระบบคอมพิวเตอร์ ฯ | สธ | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ยกเลิกโครงการจัดทำระบบคอม
พิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข และคืนเงินส่วนที่เหลืออยู่ จำนวน 77,782,565 บาท ให้กับโครงการ เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคราชการ (ธนาคารโลก) ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
722 | ขอรับการสนับสนุนงบกลาง ปีงบประมาณ 2549 | นร | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการ/กิจกรรม
สำคัญเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 9 โครงการ/กิจกรรม วงเงินรวม 18,497.1 ล้านบาท ตาม ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติม ซึ่งได้แก่ งบประมาณสำหรับพัฒนากำลังคน ค่าบริการ ทางการแพทย์สำหรับผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โครงการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัด นกและการเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2549 โครงการถุงรับขวัญเด็กแรก เกิด โครงการ To Be Number One การพัฒนาศักยภาพการอาสาสมัครสาธารณสุขในการดำเนินงานสุข ภาพภาคประชาชน ปี 2549 โครงการพัฒนาเด็ก 3-5 ปี โครงการสนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ ให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และโครงการความปลอด ภัยด้านอาหาร โดยค่าบริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า อนุมัติงบ ประมาณดำเนินการจำนวน 14,761.8 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบกลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ส่วนงบประมาณโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน จำนวนประมาณ 56.23 ล้านบาท ให้กระทรวง การคลังประสาน เพื่อขอรับการสนับสนุนจากเงินรายได้ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป สำหรับ งบประมาณโครงการ To Be Number One จำนวน 50,000,000 บาท ให้กระทรวงสาธารณสุขขอรับการ สนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่า การกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) และสำนักงบ ประมาณรับโครงการ/กิจกรรม ไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง โดยยึดหลักความจำเป็นเร่ง ด่วนตลอดจนความผูกพันตามนโยบายของรัฐ และจัดลำดับความสำคัญ รวมทั้งจำนวนเงินงบประมาณที่จะ ต้องใช้จ่ายจริงในแต่ละช่วงเวลา ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของแต่ละโครงการ/กิจกรรมที่จะต้องดำเนินการ โดยในบางโครงการ/กิจกรรม อาจพิจารณาปรับแผนการดำเนินงาน และแผนการใช้จ่ายเงินประจำปีงบ ประมาณพ.ศ. 2549 หรือขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2550 ตามความเหมาะสมต่อไป และให้ รับความเห็นของส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
723 | ขอจัดตั้งเงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัชกรรมทหารขึ้นใหม่ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2549 และรวมเงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัชกรรมทหาร | กห | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอการจัดตั้งเงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัช
กรรมทหารขึ้นใหม่ และให้กระทรวงการคลังดำเนินการรวมเงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัชกรรมทหารเดิม เข้ากับเงินทุนหมุนเวียน ฯ ที่ขอจัดตั้งใหม่ โดยในส่วนของทุนประเดิมสำหรับการจัดตั้งเงินทุนหมุนเวียน ฯ ใหม่ จำนวน 1,000,000 บาท ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปประสานเพื่อขอรับการสนับสนุนจากองค์ การเภสัชกรรม โดยให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่า เพื่อ ให้การดำเนินงานของโรงงานเภสัชกรรมทหารมีความก้าวหน้า ทันสมัยและเป็นไปอย่างเต็มศักยภาพ ให้ โรงงานเภสัชกรรมทหารประสานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การเภสัชกรรม และพิจารณาให้ผู้อำนวย การ หรือผู้แทนองค์การเภสัชกรรม เข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการโรงงานเภสัชกรรมทหารด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
724 | โครงการสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวคิดวิสาหกิจชุมชน | กษ | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ประธาน
คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเสนอโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวคิดวิสาหกิจชุมชน โดยให้ กรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาปรับลดวงเงินการดำเนินโครงการ ฯ จากที่กำหนดไว้เดิม (204,000,000 บาท) โดยยึดหลักประสิทธิภาพประสิทธิผลและการใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นแล้วดำเนินโครงการต่อไปได้ สำหรับ งบประมาณค่าใช้จ่าย กับให้กรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ได้รับไปดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาองค์กรและวิสาหกิจ ชุมชนในเรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูงก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ครบตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ให้ เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยจัดลำดับความสำคัญของโครงการกิจ กรรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ ทั้งนี้ หากกรมส่งเสริมการเกษตรสามารถดำเนินโครงการกิจกรรมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ได้ เร็วและงบประมาณที่ได้จากการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไม่เพียงพอแก่การดำเนินการจริง ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มาอีกครั้งหนึ่ง และให้กรมส่งเสริมการเกษตรรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และข้อสังเกต ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไป พิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ การจัดทำหลักสูตรเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวคิดวิสาหกิจชุมชนต้อง มีความชัดเจน เข้าใจง่าย ครูผู้สอนควรมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระในเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง และ สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เข้ารับการอบรมนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจคัดเลือกครูผู้สอน ที่เป็นมืออาชีพ มีความรู้และประสบการณ์จากภายนอกองค์กร (outsource) ด้วย เช่น จากผู้ที่เป็นปราชญ์ ชาวบ้าน และจากภาคเอกชน เป็นต้น การดำเนินการสอนควรนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ตาม ความเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ใช้ในการอบรมได้ และเป็นการประหยัดค่า ใช้จ่ายในการดำเนินโครงการและกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ารับการฝึกอบรม ต้องตรวจสอบจำนวนและจัดกลุ่ม บุคคลให้ถูกต้อง เพื่อมิให้เกิดการเข้ารับการอบรมซ้ำซ้อนเนื่องจากบุคคลเดียวกันอาจเป็นสมาชิกของหลาย องค์กร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
725 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เพิ่มเติม เพื่อปรับเงินเดือนของข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง ลูกจ้างประจำ พนักงานศาลปกครองและลูกจ้างชั่วคราว | ศป | 27/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เพิ่มเติม จากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายการปรับเงินค่าตอบแทนบุคลา กรภาครัฐ จำนวน 12,594,900 บาท ให้แก่ศาลปกครอง เพื่อใช้ในการปรับอัตราเงินเดือนพื้นฐานของ ข้าราชการฝ่ายศาลปกครองลูกจ้างประจำพนักงานศาลปกครอง และลูกจ้างชั่วคราว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 เป็นต้นไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
726 | การแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 27/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) รองนายก
รัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กสชต.) เสนอผลการ ดำเนินการของ กสชต. ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2548 และแนวความคิดและการปฏิบัติในระยะสั้น ระยะปาน กลาง และระยะยาว รวมทั้งข้อมูลงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 ในมิติต่าง ๆ ที่ได้รับอนุมัติและจัดสรรไป แล้ว และข้อมูลงบประมาณที่กระทรวง กรม และหน่วยงานเสนอเพิ่มเติม และเห็นชอบยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ เสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 10 ด้าน ที่ กสชต. กำหนด และให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงาน ใช้เป็นกรอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพิจารณาปรับแผนงาน โครง การ และงบประมาณให้สอดคล้อง รวมทั้งให้ กสชต. รับผิดชอบในการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของแผน งาน โครงการ และงบประมาณของทุกส่วนราชการ หน่วยงานที่เสนอขอเพิ่มเติม สำหรับงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มเติมอีกในวง เงินจำนวน 3,500 ล้านบาท ให้คณะกรรมการ กสชต. จัดทำข้อมูลรายละเอียดเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา อีกครั้งต่อไป และให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เพื่อใช้ในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ 10 ด้าน นั้น เนื่องจากงบกลางทุกรายการมีอยู่อย่างจำกัด และมีภาระค่าใช้จ่ายในรายการที่สำคัญกำหนด ไว้แล้ว ประกอบกับกิจกรรมที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณส่วนใหญ่เป็นการดำเนินงานตามกรอบ ภาระหน้าที่ของส่วนราชการ ซึ่งควรดำเนินการอยู่ภายใต้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเห็น ควรปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณจากงบประมาณที่มีอยู่ มาดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนที่มีความสำคัญก่อน ไปประกอบการดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
727 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลางเพื่อดำเนินการสำรวจและออกแบบเส้นทางสาย เมียวดี - กอกะเร็ก ในสหภาพพม่า | คค | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอของบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 งบกลาง
จำนวน 15 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสำรวจและออกแบบเส้นทางสาย เมียวดี-กอกะเร็ก ในสหภาพ พม่า ช่วงกิโลเมตรที่ 18 (เชิงเขาตะนาวศรี)-กอกะเร็ก |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
728 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี แทนตำแหน่งที่ว่าง | นร | 06/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี แทนตำแหน่งที่ว่างให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้ จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 23,000,000 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
729 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิจิตร สตูล สิงห์บุรี และอุทัยธานี แทนตำแหน่งที่ว่าง | นร | 29/11/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายใน
การดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิจิตร สตูล สิงห์บุรี และอุทัยธานี แทนตำแหน่งที่ว่าง ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 18,500,000 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
730 | โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 15/11/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษา
ธิการ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินโครงการจัดหาคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนทั่วประเทศในปี 2549 จำนวน 250,000 เครื่อง และให้เบิกจ่ายงบประมาณเพื่อการนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) และ ขอตกลงในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้รับไปพิจารณาทบ ทวนและบูรณาการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง และให้จัดทำแผนงาน/โครง การ ภายใต้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของแต่ละระดับการศึกษา ที่จะดำเนินการตามลำดับความสำคัญในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ให้ชัดเจน โดยประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาความเหมาะ สมด้านงบประมาณในการดำเนินการแผนงาน/โครงการดังกล่าว รวมทั้งวงเงินงบประมาณที่อาจต้องจัดสรร เพิ่มเติมให้แก่กระทรวงศึกษาธิการด้วย แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ อาจทยอยนำข้อมูลดัง กล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีแยกเป็นแต่ละระดับการศึกษาได้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ให้รับความเห็นและ ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย อาทิเช่น ความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ที่เห็นว่าการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 12,396.72 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ควรพิจารณาความเป็นไปได้ในแผนงานโครงการที่ เสนอโดยให้สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน นโยบายรัฐบาลภายใต้เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และการกำหนดเป้าหมายที่คาดว่าจะได้รับ ตลอดทั้งกลยุทธ์ การดำเนินงานที่ชัดเจนเป็นสำคัญ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
731 | ขอสนับสนุนงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มเติม | ศธ | 15/11/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษา
ธิการ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินโครงการจัดหาคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนทั่วประเทศในปี 2549 จำนวน 250,000 เครื่อง และให้เบิกจ่ายงบประมาณเพื่อการนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) และ ขอตกลงในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้รับไปพิจารณาทบ ทวนและบูรณาการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง และให้จัดทำแผนงาน/โครง การ ภายใต้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของแต่ละระดับการศึกษา ที่จะดำเนินการตามลำดับความสำคัญในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ให้ชัดเจน โดยประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาความเหมาะ สมด้านงบประมาณในการดำเนินการแผนงาน/โครงการดังกล่าว รวมทั้งวงเงินงบประมาณที่อาจต้องจัดสรร เพิ่มเติมให้แก่กระทรวงศึกษาธิการด้วย แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ อาจทยอยนำข้อมูลดัง กล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีแยกเป็นแต่ละระดับการศึกษาได้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ให้รับความเห็นและ ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย อาทิเช่น ความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ที่เห็นว่าการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 12,396.72 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ควรพิจารณาความเป็นไปได้ในแผนงานโครงการที่ เสนอโดยให้สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน นโยบายรัฐบาลภายใต้เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และการกำหนดเป้าหมายที่คาดว่าจะได้รับ ตลอดทั้งกลยุทธ์ การดำเนินงานที่ชัดเจนเป็นสำคัญ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
732 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 25/10/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณี ฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 ดังนี้ ให้ส่วนราชการขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติ ตามข้อกำหนดในระเบียบ ฯ ได้ ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุญาตให้ ส่วนราชการมีวงเงินทดรองราชการ และขยายวงเงินได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ ฉุกเฉินรุนแรง ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเบิกเงินทดรองราชการ เพื่อเตรียมเงินสดไว้สำรองจ่ายในกรณี ที่คาดว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นและมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินในวันหยุดราชการเพื่อสามารถให้ความช่วย เหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ รวมทั้งให้ส่วนราชการส่วนกลางสามารถโอนเงินทด รองราชการให้แก่ที่ทำการปกครองจังหวัดได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอการขอรับการสนับสนุนจากจังหวัดก่อน ตามวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติ ที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณกรณีที่กำหนดให้รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังมีอำนาจให้ส่วนราชการเบิกจ่ายเงินทดรองราชการ โดยไม่มีการกำหนดวงเงินที่แน่ นอน ควรจะมีมาตรการอื่น ๆ สนับสนุนด้วย เช่น การประกาศเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยความเห็นชอบ ของนายกรัฐมนตรี หรือเสนอขอรับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เป็นต้น ไป พิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
733 | การเตรียมรับงานด้านการปฏิบัติภารกิจการถวายความปลอดภัยด้านอัคคีภัยฯ | มท | 18/10/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอเพิ่มเติม
เกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจด้านการถวายความปลอดภัยด้านอัคคีภัยในเขตพระราชฐานและที่ประทับใน เขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดไปเป็นภารกิจของสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถปฏิบัติภารกิจได้โดยไม่มีความจำเป็นต้องจัดตั้ง เป็นกองกำกับการตำรวจถวายความปลอดภัยจากสาธารณภัยและอุบัติภัยเพิ่มเติม ขึ้นในสังกัดสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติแต่ประการใด ทั้งนี้ ให้ระงับการดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็น กองบังคับการหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย พลังงาน ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ครั้งที่ 7/2548 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2548 โดยยกเว้นในส่วนที่เกี่ยวกับร่างกฎกระทรวง ฯ ซึ่งให้ระงับการดำเนินการแล้ว และให้รับความเห็น ของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า การจัดตั้งกองกำกับการตำรวจถวายความปลอดภัยจากสาธารณภัยและ อุบัติภัย สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ถ่ายโอนภารกิจด้านการดับเพลิง พร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิงและบุคลากรบางส่วนให้กับกรุงเทพมหานคร รวมทั้ง จัดบุคลากรของตำรวจดับเพลิงเดิมลงตามโครงสร้างใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว หากกระทรวง มหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องยังไม่มีความ พร้อมในด้านบุคลากร เครื่องมือเครื่องใช้ และอุปกรณ์ที่จะปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ก็ให้ประสานกับสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานครเพื่อบูรณาการการปฏิบัติภารกิจ และขอรับการสนับสนุนเรื่อง บุคลากร เครื่องมือเครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อไป จนกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีความพร้อมและ สามารถดำเนินภารกิจดังกล่าวได้ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
734 | ภาพรวมและแนวทางการแก้ไขปัญหากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กลุ่มที่ 2 และจังหวัดกาฬสินธุ์ | นร | 04/10/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอดังนี้
เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กลุ่มที่ 2 และกรอบยุทธ ศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มีความเห็นเพิ่มเติมในประเด็นการพัฒนาทรัพยา กรมนุษย์และคุณภาพชีวิต เกี่ยวกับการเสริมสร้างความอบอุ่นและเข้มแข็งให้แก่สถาบันครอบครัว เนื่องจาก ครอบครัวเป็นศูนย์รวมของสมาชิกทุกกลุ่มวัยและเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาคมและสังคมโดยส่งเสริม ให้มีกิจกรรมครอบคลุมทุกกลุ่มวัยในครอบครัว และความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับกรอบยุทธ ศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กลุ่ม 2 ควรเน้นการขยายฐานการผลิตและ การลงทุนอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้ทรัพยากรในประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กับประเทศเพื่อนบ้าน (GMS และ ACMECS) และการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิ ภาพและรักษาดุลยภาพของสิ่งแวดล้อม ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย และเห็นชอบในหลัก การแผนงานโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กลุ่มที่ 2 และแผนงานโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยใน ส่วนของโครงการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน ให้ดำเนิน การให้ครอบคลุมการบริหารจัดการปัญหาต้นน้ำและท้ายน้ำด้วย สำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ ผลิตการเกษตร และโครงการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยง East West Economic Corridor เห็นชอบ ในหลักการให้ดำเนินการได้ ส่วนโครงการปรับปรุงถนน 4 ช่องจราจรของกลุ่มจังหวัด และโครงการปรับ ปรุงสนามกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไป พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดความจำเป็นและเหมาะสมของโครงการก่อน ทั้งนี้ ให้ กระทรวงที่เกี่ยวข้องตามแผนงานโครงการรับไปจัดทำรายละเอียดโครงการ เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุน งบประมาณ ตามความจำเป็นต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
735 | สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือจากพายุไต้ฝุ่น "ดอมเรย" | มท | 04/10/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรม
ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่ประสบภัยจากพายุ "ดอมเรย" โดยสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2548 มีพื้นที่ประสบ ภัยรวม 13 จังหวัด 49 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 141 ตำบล 470 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน กาฬสินธุ์ เพชรบูรณ์ มุกดาหาร อุตรดิตถ์ เลย และตาก ความเสีย หาย ด้านชีวิต ราษฎรเสียชีวิต 10 คน บาดเจ็บ 7 คน สูญหาย 3 คน เดือดร้อน 33,572 คน 11,058 ครัวเรือน อพยพ 2,108 คน ด้านทรัพย์สิน ถนน 40 สาย สะพาน 24 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ฝาย/พนัง กั้นน้ำ 15 แห่ง บ้านเรือนทั้งหลัง 18 หลัง บ้านเรือนบางส่วน 78 หลัง บ่อปลา/กุ้ง 10 แห่ง โรงเรียน 3 แห่ง มูลค่าความเสียหาย อยู่ระหว่างการสำรวจ สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน จังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัย คลี่คลายแล้ว ได้แก่ จังหวัดพะเยา แพร่ น่าน มุกดาหาร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เลย และแม่ฮ่องสอน และที่ยัง คงมีน้ำท่วมขัง ได้แก่ จังหวัดลำปาง ที่อำเภอเถิน จังหวัดเชียงใหม่ ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสารภี จังหวัดเชียงราย ที่อำเภอเมือง อำเภอเทิง อำเภอแม่ลาว อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อำเภอ หนองกุงศรี อำเภอเมือง อำเภอยาตลาด และจังหวัดตาก ที่อำเภอสามเงา อำเภอบ้านตาก ในส่วนของการ ให้ความช่วยเหลือได้แจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก และ ศูนย์ ปภ.เขต ในพื้นที่ เพื่อให้ติดตามสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและให้เตรียมการช่วยเหลือประชาชน พร้อมกับระดมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เรือท้องแบน จากทุกหน่วยงานให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิด ความเสียหายรวมทั้งจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรคสำหรับแจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และจุดที่เป็นสถานที่รองรับการอพยพ รวมทั้งให้จังหวัดถือปฏิบัติ ดังนี้ ในขณะที่มีสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก กัดเซาะคอสะพาน และน้ำท่วมผิวจราจรในระดับสูงที่ไม่สามารถมองเห็นสภาพพื้นผิว จราจรได้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการกำชับแขวงการทาง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ติดตั้ง ป้ายเตือน/วางแผนปิดกั้นช่องทางจราจร เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้ทราบ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ ตำรวจหรืออาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกการจราจร ในจุดอันตราย ส่วนกรณีมีผู้สูญหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว โดยให้สนธิกำลังจากทุก ภาคส่วนทั้งหน่วยทหาร ตำรวจศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตพื้นที่ อาสาสมัคร ฯ เข้าไปกู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายและผู้ติดค้างในพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วน และภายหลัง น้ำลด ให้จังหวัดแจ้งแขวงการทางทางหลวงชนบทจังหวัด หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเครื่อง จักรกลเข้าซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่คอสะพานถูกน้ำกัดเซาะขาดให้สามารถใช้สัญจรไปมาได้เป็นการ ชั่วคราวโดยเร็วที่สุด หากความเสียหายมีมาก ให้ขอรับการสนับสนุนจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ในพื้นที่หรือพื้นที่ใกล้เคียง หรือศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต (กรม ปภ.) เข้าไปสนับสนุน ช่วยเหลือ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
736 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย | คค | 04/10/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบ
อุทกภัยจากพายุดีเปรสชั่น วาชิ วีเซนเต้ ดอมเรย ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย เชียงราย แม่ ฮ่องสอน และลำปาง โดยในส่วนของทางหลวงที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย กรมทางหลวงได้ดำเนินการแก้ ไขปรับปรุงทางหลวงที่ได้รับความเสียหาย ให้การจราจรผ่านได้ในทางหลวงทุกสายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 รวมทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่และยานพาหนะสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย และได้นำสิ่ง ของเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายประชาชนที่ประสบภัย เป็นต้น และเนื่องจากกรมทางหลวงไม่มีงบประมาณ เหลือเพียงพอจะนำมาเป็นงบปรับปรุงซ่อมแซมสายทางที่เสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้ จึงขอรับการสนับสนุน งบกลาง จำนวน 502 ล้านบาท เพื่อดำเนินการซ่อมบำรุงสายทางต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ได้รับการจัดสรรไว้ แล้ว ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการซ่อมบำรุงสายทางที่เสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นก่อนและให้รวมถึงการ ซ่อมบำรุงสายทางหนองคาย-บึงกาฬ ด้วย โดยให้ขอตกลงรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ แล้ว ดำเนินการต่อไป และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมติดตามดูแลการดำเนินการซ่อมบำรุงสายทางต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และให้มีการสุ่มตรวจความถูกต้อง เรียบร้อย ของสายทางด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
737 | ขอรับการสนับสนุนเงินงบกลางสำหรับการปฏิบัติการฝนหลวง ปี 2548 | กษ | 27/09/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนเงินงบกลางสำหรับการปฏิบัติการฝนหลวง
ปีพ.ศ. 2548 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้จ่ายจากงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มี เหลือจ่ายอยู่ประมาณ 16.353 ล้านบาท ในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงใช้จ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุก เฉินหรือจำเป็น กับสำนักงบประมาณ ให้สอดคล้องกับความจำเป็นตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายสำหรับการบินสนับ สนุนการปฏิบัติการฝนหลวงจากหน่วยงานอื่นด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
738 | การจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ. 2548 | กก | 27/09/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ. 2548 ตาม
ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยอนุมัติเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่จ่ายจริง ในวงเงิน 13,328,560 บาท เพื่อเป็นค่า ใช้จ่ายเพิ่มเติมในการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออกรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ (อาคารกรีฑาในร่ม) ให้เสร็จสมบูรณ์ โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทยประสานและตกลงในรายละเอียดกับ สำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การจัดหาผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬา ฯ ซึ่งเป็น หน้าที่โดยตรงของบริษัทตัวแทนการตลาด (Marketing Agent) จะไม่ประสบผลสำเร็จทำให้มีเงินค่าใช้จ่ายไม่ เพียงพอในการจัดการแข่งขัน แต่รัฐบาลไทยจะขอรับการสนับสนุนด้านการเงินเท่าที่จำเป็นจากรัฐวิสาหกิจ ที่มีศักยภาพเพื่อให้สามารถจัดการแข่งขันได้ ดังนั้น เงินสนับสนุนดังกล่าว ควรเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนิน การจัดการแข่งขันของคณะกรรมการฝ่ายและสาขาต่าง ๆ เท่านั้น ไม่ควรต้องถูกหักเป็นเงินส่วนแบ่งให้แก่ สภาโอลิมปิคแห่งเอเชีย (OCA) และค่านายหน้าหรือค่าดำเนินการของบริษัทตัวแทนการตลาด จึงมอบให้ การกีฬาแห่งประเทศไทยรับไปเจรจากับ OCA ว่า รัฐบาลไทยจะขอความร่วมมือรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ของไทย เป็นผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 1 แต่เงินสนับสนุนการจัดการแข่งขันจะ ต้องไม่ถูกหักเป็นส่วนแบ่งให้ OCA และเป็นค่านายหน้าหรือค่าดำเนินการของบริษัทตัวแทนการตลาด หาก การเจรจาไม่เป็นที่ยุติตามเงื่อนไขดังกล่าว ก็จำต้องระงับการจัดการแข่งขัน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
739 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) ตามแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะภัยแล้ง หรือประสบอุทกภัย (ในช่วงสิงหาคม - กันยายน 2548) | กษ | 27/09/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) ตามแผนการช่วยเหลือ
เกษตรกรที่ประสบภาวะภัยแล้งหรือประสบอุทกภัยในช่วงสิงหาคม-กันยายน 2548 ของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ (กรมชลประทาน) โดยให้ปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับในปี งบประมาณ พ.ศ. 2548 จากรายการที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ของกรม ชลประทานตามมาตรการและแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ที่คณะรัฐมนตรีได้ มีมติอนุมัติไปดำเนินการตามแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะภัยแล้ง หรือประสบอุทกภัย ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณก่อน ทั้งนี้ หากไม่เพียงพอ ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย งบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และขออนุมัติงบประมาณปี พ.ศ. 2549 (งบกลาง) ในส่วน ที่ขาดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
740 | หลักเกณฑ์การกลั่นกรองแผนงาน/โครงการเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) | นร | 20/09/2548 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณากลั่น
กรองแผนงาน/โครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการ เปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณ งบกลาง รายการดังกล่าวเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล สนองตอบต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยกรอบแผนงาน/โครง การที่จะได้รับการสนับสนุน ประกอบด้วย แผนงาน/โครงการที่มีผลต่อการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจและ สังคมอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงพลวัตรโลก แผนงาน/โครงการที่เสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐ กิจระดับฐานราก และวิสาหกิฐขนาดกลางและขนาดย่อม แผนงาน/โครงการที่เอื้อต่อการสร้างสภาพแวด ล้อมในการประกอบการธุรกิจ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ แผนงาน/ โครงการที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และแผนงาน/โครงการที่ขออนุมัติงบกลาง รายการ ฯ ต้องอยู่ ภายใต้แผนงบประมาณ และอยู่ภายในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานที่สอดคล้องกับแผนการ บริหารราชการแผ่นดิน ส่วนกรณีเป็นแผนงาน/โครงการใหม่ ให้เสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และเมื่อ คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบกลางแล้วหน่วยงานที่ได้รับงบกลางดังกล่าว จะต้องดำเนินการปรับแผนปฏิบัติราช การประจำปีของหน่วยงาน และดำเนินการขอแก้ไขแผนการบริหารราชการแผ่นดินด้วย ทั้งนี้ แผนงาน/ โครงการที่ขอรับการสนับสนุนต้องอยู่ภายใต้กรอบแผนงานดังกล่าว และจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก รัฐมนตรีเจ้าสังกัด
|
.....