ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 39 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 761 - 780 จากข้อมูลทั้งหมด 1095 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
761 | ขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร | ตช | 08/03/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ
ตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร ตามที่สำนักงานตำรวจแห่ง ชาติเสนอ โดยเห็นชอบในหลักการให้กำหนดเงินเพิ่มพิเศษสำหรับตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นไป โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2548 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่สามารถเจียดจ่ายได้ก่อน และให้สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณในส่วนที่ขาดเพิ่มเติมให้ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปประสานและขอตกลงราย ละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรอบรับต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
762 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพิ่มเติม เพื่อจัดตั้งศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว จำนวน 11 แห่ง | ศย | 08/03/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมายฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2548 เพิ่มเติม เพื่อดำเนินการจัดตั้งศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวที่มีความ พร้อมและสามารถดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 11 แห่ง สำหรับงบประมาณให้ทำความ ตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้จัดสรรอัตรากำลังและงบประมาณให้สำนักงานอัยการสูงสุดควบคู่ ไปกับการเปิดทำการศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวด้วย โดยให้สำนักงานอัยการสูงสุดทำความ ตกลงกับสำนักงบประมาณแล้วดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ อีก รวมทั้ง ให้กระทรวงยุติธรรมรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับการจัดตั้งศาลจังหวัดแผนก คดีเยาวชนและครอบครัวในแต่ละจังหวัดมีความจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับได้แก่ สำนักงาน อัยการจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด ฯลฯ โดยจะ ต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ สำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดใน 12 จังหวัด และอยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว กระทรวงยุติธรรมก็ควรพิจารณาปรับ หรือเกลี่ยงบประมาณเพื่อรอง รับการจัดตั้งศาลเยาวชน ฯ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอต่อไป ส่วนสำนักงานอัยการจังหวัดแผนกคดี เยาวชนและครอบครัว ควรให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับสำนักงานอัยการสูง สุดตามความเหมาะสมและจำเป็นไปพร้อมกันด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
763 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี 2548 งบกลาง สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนากระบวนทัศน์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ | ตช | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่าย
สังคม วิจัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การบริหารกิจการตำรวจ และการป้องกันและปราบปรามการฟอก เงิน) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ การจัดทำโครงการพัฒนากระบวนทัศน์ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับงบประมาณดำเนินการให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้รับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า โดยที่กำลังพลข้าราชการตำรวจชั้นประทวนในกลุ่ม งานต่าง ๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีเป็นจำนวนมากถึง 184,623 คน แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการ ฝึกอบรมแค่ 37,717 คน จะสามารถปรับกระบวนทัศน์ในการทำงานของตำรวจได้หรือไม่ และการกำหนดเนื้อ หาในหลักสูตรยังไม่สอดคล้องกับหลักการและเหตุผลของโครงการ เช่น ยุทธวิธีตำรวจ : การฝึกยิงปืนระบบฉับ พลัน จึงควรมีการประเมินผลว่าการฝึกอบรมครั้งนี้ส่งผลอย่างไร ควรกำหนดตัวชี้วัดอะไรบ้าง และสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติเคยได้รับงบประมาณเพื่อดำเนินการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย เดียวกับโครงการนี้ จำนวน 45 ล้านบาทเศษ หลักสูตรและแผนการฝึกอบรมซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ให้สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติบูรณาการโครงการเข้าด้วยกัน รวมทั้งจัดทำหลักสูตรให้ชัดเจนตามขั้นตอน และควรมีการพัฒนา กำลังคนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และจัดทำเป็นระบบ สำหรับวิทยากรควรเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้า มาร่วม มีคณะกรรมการติดตามประเมินผล โดยอาจมาจากกระทรวงยุติธรรม หรือสำนักงบประมาณ และเนื่อง จากเป็นโครงการใหม่ ควรทำเป็นโครงการนำร่องก่อน โดยมีการทดสอบก่อนอบรมและหลังอบรมแล้วประเมิน ผลเพื่อปรับแนวทางกระบวนการฝึกอบรมและหลักสูตรให้เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ควรประสานสำนักงบประมาณ ในการวางแผนระยะยาว โดยให้เน้นที่คุณภาพเป็นหลัก ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
764 | ขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร | ตช | 22/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ
ตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอ โดยเห็นชอบในหลักการให้ปรับเพิ่มเงินประจำตำแหน่งให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน สายงาน ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สายงานสืบสวน และสายงานจราจร จากเดิมอัตรา 1,200 บาทต่อเดือน เป็นอัตรา 3,000 บาทต่อเดือน และข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรที่ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร สารวัตร และรองผู้กำกับการ สายงานบริหารงานป้องกันและปราบปราม สายงานปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สายงานสืบสวน และสายงานจราจร มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราเท่ากับข้าราชการตำรวจชั้น สัญญาบัตรที่ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร สารวัตร และรองผู้กำกับการ สายงานสอบสวนที่ได้รับในอัตรา 3,500 บาท 4,000 บาท และ 4,700 บาทต่อเดือน ตามลำดับ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา ในรายละเอียดเกี่ยวกับวงเงินและแหล่งเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ เพื่อดำเนินการร่วมกับสำนักงบประมาณ โดยงบประมาณที่ต้องใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้พิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณปกติของสำนัก งานตำรวจแห่งชาติที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วก่อนเป็นลำดับแรก สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้เสนอ ขอจัดสรรงบประมาณประจำปีต่อไป แล้วสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้สำนักงานตำรวจ แห่งชาติเร่งดำเนินการพัฒนาและเพิ่มพูนศักยภาพของข้าราชการตำรวจ ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ มีความโปร่งใสและเป็นธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งขยายโอกาสให้ข้าราช การตำรวจชั้นประทวนที่มีความเหมาะสม มีคุณวุฒิ และมีประสบการณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้รับการ บรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในชั้นสัญญาบัตรให้มากยิ่งขึ้น และให้กระทรวงการคลังถือเป็นหลักปฏิบัติ ว่า การกำหนดเงินเพิ่มพิเศษ เงินเพิ่ม เงินนำจับ เงินสินบนนำจับ เงินที่เป็นรายได้ หรือค่าตอบแทนพิเศษ หรือเงินในลักษณะดังกล่าวที่เรียกชื่ออย่างอื่นของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ที่กฎหมายได้กำหนดให้เป็น อำนาจของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงการคลังพิจารณาเป็นประการใดแล้ว ให้นำเรื่องเสนอคณะ รัฐมนตรีก่อนดำเนินการ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อการพิจารณาค่าตอบแทนภาพรวมของบุคลากรภาค รัฐ และงบประมาณเพื่อการนี้ นอกจากนี้ ให้พิจารณาร่วมกับสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนัก งบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ แนวทางการดำเนินการหรือแก้ไขปรับ ปรุงการกำหนดเงินเพิ่มพิเศษดังกล่าวของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ในภาพรวมให้เหมาะสมและเป็นธรรม แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
765 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง ปี พ.ศ. 2548 เพื่อดำเนินโครงการสำรวจ ออกแบบและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินถนนเลี่ยงเมือง สาย ค.1-ค.3 และ ระบบเชื่อมต่อสาย ข. 2 ค. 2 และ ก. 1 จังหวัดลำพูน | มท | 15/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง ปี พ.ศ. 2548 เพื่อดำเนิน
โครงการสำรวจ ออกแบบ และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินถนนเลี่ยงเมือง สาย ค.1-ค.3 และระบบเชื่อมต่อสาย ข.2 ค.2 และ ก.1 จังหวัดลำพูน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยอนุมัติในหลักการให้กรมโยธิการและผังเมือง ดำเนินโครงการดังกล่าวในวงเงิน 19,392,000 บาท โดยให้ขอตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับการเงินดังกล่าว กับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
766 | ขอรับการสนับสนุนโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้น (จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด) | นร | 15/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ถอนเรื่อง ขอรับการสนับสนุนโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก
ค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้น (จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด) คืนไปก่อน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
767 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวสำหรับบุคลากรท้องถิ่นที่ได้รับเงินเดือนค่าจ้างจากงบประมาณรัฐ | นร | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธาน
กรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็น เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวสำหรับครูผู้ดูแลเด็กที่เป็นบุคลากรซึ่งถ่ายโอนมาจากส่วนราชการ และครูอัตรา จ้างในโรงเรียนเทศบาลที่ได้รับค่าจ้างจากเงินอุดหนุนของรัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 คนละ 1,000 บาทต่อเดือน โดยให้สำนักงบประมาณประสานกับกระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) เพื่อพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งเงินงบประมาณและวงเงินงบประมาณที่จะใช้เพื่อการนี้ แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
768 | การสนับสนุนการประกวดนางงามจักรวาลประจำปี 2548 ในประเทศไทย | กก | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ เห็นชอบให้ปรับปรุงข้อความในมติ
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2547 เรื่อง การสนับสนุนการประกวดนางงามจักรวาล 2005 ในไทย จาก เดิม "เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) เป็นเจ้าภาพจัด การประกวดนางงามจักรวาลประจำปี 2548 ในประเทศไทย" เป็น "เห็นชอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนหลัก (main co-sponsor) การจัดประกวดนางงามจักรวาลประจำปี 2005 ในประเทศไทย" และ อนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว จำนวน 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยให้เบิกจ่ายจาก เงินงบกลาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยขอตกลงในรายละเอียดกับ สำนักงบประมาณแล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประสานขอรับการสนับสนุน ค่าใช้จ่ายจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเป็นลำดับแรกก่อนด้วย รวมทั้งให้ประสานงานและอำนวยความสะดวกร่วม กับส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กระทรวงการคลังที่ เห็นว่า กรณีการนำอุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายทอดโทรทัศน์ และการออกหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ เพื่อลดค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์ และการลดอัตราอากร หรือยกเว้นอากรศุลกากร สามารถปฏิบัติได้โดย ใช้เอกสารค้ำประกัน A.T.A. CARNET ซึ่งออกโดยหอการค้าของประเทศนั้น ๆ และนำเข้าโดยปฏิบัติพิธีการ ศุลกากรทัณฑ์บนนำเข้าชั่วคราวและวางค้ำประกันด้วยเงินสด และ/หรือหนังสือธนาคารค้ำประกัน และกรณีที่ ส่วนราชการ เป็นผู้นำเข้าสามารถใช้หนังสือของส่วนราชการค้ำประกัน ส่วนกรณีที่ขอให้กรมสรรพากรยกเว้น ภาษีอากรทุกประเภทที่เกี่ยวข้อง ในทางปฏิบัติการจัดการแข่งขันหรือการจัดงานรายการใหญ่ ๆ ในประเทศ ไทย กรมสรรพากรมิได้มีการยกเว้นภาษีอากรแต่อย่างใด และเห็นว่า การยกเว้นภาษีอากรให้กับการจัดงาน ประกวดนางงามจักรวาลดังกล่าวยังไม่มีเหตุผลหนักแน่นเพียงพอที่จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม หากเรื่องดัง กล่าวเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล การยกเว้นภาษีอากรก็สามารถกระทำได้ โดยอาศัยอำนาจ ตามมาตรา 3(1) แห่งประมวลรัษฎากร ที่กำหนดว่า บรรดารัษฎากรประเภทต่าง ๆ ซึ่งเรียกเก็บตามประมวล รัษฎากรนี้ จะตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเพื่อลดอัตรา หรือยกเว้นภาษีอากรดังกล่าว เพื่อให้เหมาะสมกับเหตุ การณ์ กิจการ หรือสภาพของท้องที่บางแห่งหรือทั่วไปได้ ไปประกอบการดำเนินการด้วย สำหรับการปฏิบัติ พิธีการศุลกากรและการขอยกเว้นภาษีอากรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการตามข้อกฎหมายและวิธีปฏิบัติ ปกติ ตลอดจนการปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาเกี่ยวกับการรักษาความลับในเอกสารการจัดการประกวดนาง งามจักรวาลในครั้งนี้ ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรับไปประสานเพื่อปฏิบัติให้สอดคล้องกับบทบัญญัติ ของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
769 | การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ | นร | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานคณะกรรมการ
อำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ รายงานผลการดำเนินการให้ความช่วย เหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ สรุปดังนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง ฯ ประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2548 ให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯ รวม 5,972,839,027 บาท คณะกรรมการอำนวยการ ฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการปรับยอดเป้าหมายและค่าใช้จ่าย ดำเนินการเพิ่มเติมโดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่ในกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติไว้แล้ว ดังนี้ การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย ขอปรับลดเป้าหมาย และค่าใช้จ่ายตามแผนงาน/โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแต่ไม่บาดเจ็บ และแผนงาน/โครงการช่วยเหลือผู้สูญหาย กระทรวงแรงงาน ขอปรับลดเป้าหมาย จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการจ้างแรงงานเร่งด่วน และโครงการให้บริการจัดหางานเคลื่อนที่ และกรมประมง ขอปรับลดเป้าหมาย การช่วยเหลือเรือประมง ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เครื่องมือประมง เรือท่องเที่ยว และผู้ประกอบอาชีพประมงอื่น จาก จำนวน 49,707 ราย/ลำ เป็น 21,518 ราย/ลำ ส่วนหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมได้แก่ กระทรวงกลาโหม ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบธรพิบัติเป็นกรณีฉุกเฉิน จำนวนรวมทั้งสิ้น 209,883,718 บาท กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขอรับการสนับสนุน ในส่วนของงบดำเนินงานในการสร้างบ้านพักถาวร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 115,400,000 บาท นอกจากนี้ ได้มีการ ปรับปรุงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯ ของหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ การช่วยเหลือเรือท่องเที่ยว การดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กที่ได้รับผลกระทบ การช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย และ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอาชีพประมง สำหรับยอดเงินกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2548 มียอดเงินบริจาคจำนวน 988,392,500.28 บาท เบิกจ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยช่วยเหลือเร่งด่วนให้แก่จังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งให้หน่วยงาน (กรมประมง) ยืมสำรองจ่ายไปแล้ว รวมจำนวน 325,269,000 บาท ผูกพันการจ่ายตามที่ได้รับอนุมติไว้แล้วอีกจำนวน 159,869,828 บาท คง เหลือยอดเงิน 503,253,672.28 บาท และจะได้รับเงินคืนจากกรมประมง จำนวน 50,000,000 บาท จะเหลือ เงินกองทุนฯ จำนวน 553,253,672.28 บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
770 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม (การเบิกจ่ายเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล) | สธ | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2.1 (ฝ่าย
การศึกษาและการสาธารณสุข) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอรับงบประมาณสนับสนุนเพิ่ม เติมเพื่อชำระหนี้สินค้างชำระ จำนวน 2,306.22 ล้านบาท โดยการชำระหนี้ค่ารักษาพยาบาลนั้น ให้ดำเนิน การให้เป็นไปตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ให้ยึดหลักการชำระหนี้สินในกรณีที่วง เงินที่ได้รับอนุมัติไม่เพียงพอชำระหนี้ได้ทั้งหมดในคราวเดียวโดยให้เรียงลำดับก่อนหลัง และให้ถือเป็นแนวทาง ปฏิบัติต่อไปด้วย ดังนี้ ชำระให้แก่หน่วยบริการนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ชำระให้แก่หน่วยบริการสังกัด กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ หน่วยบริการที่มีลักษณะพิเศษ เช่น ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกับจังหวัดชายแดน หรือ ดำเนินการตามโครงการพระราชดำริ หน่วยบริการที่รับผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน เข้ารับการรักษา และ หน่วยบริการที่รับผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากหน่วยบริการที่ผู้ป่วยได้ขึ้นทะเบียนไว้ อันเนื่องมาจากผู้ป่วยเป็นโรคที่มี ความรุนแรง หรือมีความยุ่งยากซับซ้อนในการรักษา และจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง และให้สำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่าการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรคจะมีค่าใช้จ่ายสูงซึ่งหากมีมาตรการป้องกันล่วงหน้าหรือมีวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะ สมก่อนที่จะเจ็บป่วย เช่น การป้องกันอุบัติเหตุน่าจะเหมาะสมกว่าเข้ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย แล้ว ควรให้มีการศึกษาในเรื่องดังกล่าว และหากมีประโยชน์อาจบรรจุเป็นแนวทางประกอบการพิจารณาด้าน การรักษาพยาบาลด้วย เพื่อให้มีการพิจารณาลงทุนด้านการป้องกัน หรือเพื่อเผยแพร่มาตรการ หรือวิธีการ ดังกล่าวให้ปฏิบัติอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี และสามารถประหยัด ภาระด้านงบประมาณของรัฐลงได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
771 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลางค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ) สำหรับโครงการจัดเก็บ ขน และกำจัดขยะมูลฝอยบนเกาะช้าง | อพท | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่าย การต่างประเทศ วัฒนธรรม ท่องเที่ยวและกีฬา) ที่มีมติตามที่องค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่อง เที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เสนอ ดังนี้ เห็นชอบในหลักการให้ อพท. ดำเนินการก่อสร้างโรงงานคัดแยกและ ระบบกำจัดขยะมูลฝอย วงเงิน 56.6 ล้านบาท (ขนาด 30 ตัน/วัน) และค่าจ้างเก็บ ขน และกำจัดขยะมูล ฝอยในปีแรก วงเงิน 4.5 ล้านบาท วงเงินรวมทั้งสิ้น 61,100,000 บาท และอนุมัติให้สำนักงบประมาณตั้ง งบประมาณสำหรับค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษาผูกพันประจำปีต่อ ๆ ไป อีก 4 ปี ๆ ละ 4.5 ล้านบาท สำหรับเรื่องการเงินให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้ อพท. ใช้จ่ายจากงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและ การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (23,400 ล้านบาท) ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสม มี ความคุ้มค่าและประหยัด สอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
772 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดหาถังน้ำดับไฟป่าใช้กับเฮลิคอปเตอร์ | ทส | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ขอถอนเรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดหาถังน้ำดับไฟป่าใช้กับเฮลิคอปเตอร์ คืนไปก่อน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
773 | การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ | นร | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานคณะกรรมการอำนวยการ
ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ เสนอดังนี้ เห็นชอบกรอบวงเงินเพื่อใช้สำหรับการ บูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของทางราชการ จำนวน 323,691,000 ล้านบาท ในส่วนของกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรอบวงเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ตามโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ใน 6 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 67,080,320 บาท ของกระทรวงยุติธรรม โดยให้ใช้งบประมาณในส่วนของการปลูกสร้างบ้านพักอาศัย ถาวรของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่คณะรัฐมนตรีได้เคยเห็นชอบ จำนวน 506,240,000 บาท แทน เนื่องจากได้มีผู้บริจาคเงินเพื่อปลูกสร้างบ้านพักอาศัยถาวรให้กับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่น คงของมนุษย์เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้แล้ว จึงไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบกลางเพิ่มเติมอีก และรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา จากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ ในส่วนของการอนุมัติงบประมาณเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และรายงานผลการเบิกจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยของกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีความเห็น ว่า การใช้เงินบริจาคนั้น ให้นำไปใช้เพื่อช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยให้มากที่สุดโดยเฉพาะ อย่างยิ่งความช่วยเหลือที่จำเป็น แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการ หรือเบิกจ่าย ได้เพียงบางส่วนและไม่เพียงพอ สำหรับกรณีการนำเงินบริจาคไปใช้เพื่อการอื่นของส่วนราชการหรือหน่วยงาน ของรัฐ ให้ใช้ได้เฉพาะกรณีที่จำเป็นซึ่งส่วนราชหรือหน่วยงานของรัฐไม่สามารถเบิกจ่ายจากงบประมาณได้ตาม ระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการเท่านั้น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
774 | รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศอิสราเอล ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและผลการประชุมระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยออกจากเขตกุชกาติฟ ฉนวนกาซา | รง | 18/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงการ
ต่างประเทศดำเนินการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยทั้งหมดที่ยังไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่เขตกุชกาติฟ ฉนวน กาซา ให้รีบย้ายโดยเร็ว โดยรวมถึงแรงงานไทยที่สมัครใจทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย และให้กระทรวง การต่างประเทศทำหนังสือในนามรัฐบาลไทยถึงรัฐบาลอิสราเอล เพื่อขอความร่วมมือในการย้ายแรงงาน ไทยออกจากเขตกุชกาติฟเพื่อเป็นการย้ำให้เห็นว่า รัฐบาลไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนให้แรง งานไทยทำงานในพื้นที่อันตราย รวมไปถึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายใน การขนย้าย ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ายานพาหนะ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการเตรียมความ พร้อมในกรณีที่ต้องย้ายแรงงานไทยทั้งหมดออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยฉุกเฉินเร่งด่วน สำหรับค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงาน ให้กระทรวงแรงงานจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ แล้วขอทำ ความตตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
775 | การช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติภัยของกระทรวงแรงงาน (วันที่ 4 มกราคม 2548) | รง | 11/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณี
พิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ กระทรวงแรงงานได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยอย่างต่อเนื่อง โดยจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกไปให้บริการรับสมัครงาน และลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ กรณีว่างงานในพื้นที่ประสบภัย มีผู้ลงทะเบียนสมัครงาน จำนวน 305 คน สามารถบรรจุได้ทันที 37 คน และ รับขึ้นทะเบียน กรณีว่างงาน จำนวน 4,160 คน ให้บริการซ่อมเครื่องยนต์ จักรยานยนต์ เครื่องยนต์เรือประมง ขนาดเล็ก และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน จำนวน 1,704 เครื่อง บริการซ่อมแซมบ้านพักอาศัย จำนวน 8 หลัง และจัดที่พักชั่วคราวภายในศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 126 คน ตั้งจุดรับ เรื่องราวร้องทุกข์ และดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อให้ลูกจ้างได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิ จำนวน 4,486 คน สั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกันตนที่ประสบภัย จำนวน 1 74 ราย เป็นเงิน 25,933,662 บาท การจัดสรรเงินอุด หนุนพิเศษ จำนวน 120 ล้านบาท จากกองทุนประกันสังคมให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ประสบภัย ส่วนการให้ความช่วยเหลืออื่น อาทิ การแจกจ่ายถุงยังชีพ จำนวน 14,446 ชุด การประสานและอำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้างที่ประสบภัยในการเดินทางกลับภูมิลำเนา การประสานช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศ รวมทั้งรับลงทะเบียนลูกจ้างที่ขอรับเงินช่วยเหลือ จากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่าง ๆ นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้เสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุน งบประมาณช่วยเหลือผู้ประกอบการ/ลูกจ้างที่ประสบภัย จำนวน 6 โครงการ รวมงบประมาณ 211,478,640 บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
776 | การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ | นร | 04/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1.2 (ฝ่าย
ความมั่นคงและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายและ กำกับดูแลกิจการประปาแห่งชาติเสนอการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญรวม 4 แห่ง ได้แก่ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี : โครงการจัดหาน้ำสะอาดบนเกาะ พะงัน เกาะภูเก็ต : โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี : โครงการปรับปรุง ระบบท่อจ่ายน้ำประปาพัทยา และอนุมัติวงเงินสำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในพื้นที่ท่อง เที่ยวสำคัญ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดหาน้ำสะอาดบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี วงเงิน 175.92 ล้านบาท โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 716 ล้านบาท และโครงการปรับปรุง ระบบท่อจ่ายน้ำประปาพัทยา จังหวัดชลบุรี วงเงิน 245.345 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้การประปาส่วนภูมิภาค รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ อาทิเช่น เห็น ว่าการลงทุนของการประปาส่วนภูมิภาค เป็นการสนองตอบความต้องการที่ขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ควร พิจารณาอัตราค่าน้ำประปาที่แตกต่างกันระหว่างผู้ใช้น้ำประปาที่เป็นครัวเรือน และประเภทธุรกิจ การลงทุน ด้านสาธารณูปโภคสาธารณูปการที่จำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ควรเป็นโครงการลงทุนขนาด ใหญ่และมีลำดับความสำคัญสูง และได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการระดับนโยบายที่รับผิดชอบแต่ละ เรื่องแล้ว สำหรับการลงทุนต่อเนื่องจากโครงการที่ได้ดำเนินการแล้วควรใช้รายได้ของรัฐวิสาหกิจเจ้าของโครง การเอง เป็นต้น ประกอบการทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป สำหรับโครงการก่อ สร้างอ่างเก็บน้ำคลองลิปะใหญ่ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การประปาส่วนภูมิภาคหารือกับกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา และส่งผล กระทบต่อสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 1 A น้อยที่สุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
777 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลางประจำปี พ.ศ.2548 โครงการปรับปรุงแม่น้ำยมสายเก่า | กษ | 04/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย
กรมชลประทาน ดำเนินโครงการปรับปรุงแม่น้ำยมสายเก่า ความยาว 88.43 กิโลเมตร จังหวัดสุโขทัย ใน วงเงิน 815.54 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ได้รับอนุมัติจากกรมบัญชีกลางให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อม ปีแล้ว ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควร ให้นำข้อเสนอโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย จังหวัดสุโขทัย เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบริหาร จัดการลุ่มน้ำยมแบบบูรณาการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อให้ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในลำน้ำยมเป็นไปอย่างบูรณาการและยั่งยืน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
778 | การช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบธรณีพิบัติภัยของกระทรวงแรงงาน | รง | 04/01/2548 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานการช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบธรณี
พิบัติภัยคลื่นสึนามิในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 โดยในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นสึนามิ เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย และจัดตั้งศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นที่จังหวัด กระบี่ เพื่อประสานการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 6 จังหวัดดังกล่าว และประสานกับส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนกรณีขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ และปัจจัยอื่น ๆ ในการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งได้สำรวจและให้ ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมและกองทุน เงินทดแทน การผ่อนผันการจ่ายเงินสมทบกองทุน ฯ การให้การสนับสนุนในการคัดกรองผู้ขอรับการช่วย เหลือจากเงินบริจาคของสำนักนายกรัฐมนตรี และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ และอนุมัติงบประมาณ จำนวน 120 ล้านบาท จากกองทุนประกันสังคม เพื่อสนับสนุนแก่โรงพยาบาลในพื้นที่ 6 จังหวัด รวม 39 โรงพยาบาล นอกจากนี้ ได้ประสานและอำนวยความสะดวกแก่แรงงานไทยที่ประสบภัยในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และ ให้ความช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศ ให้บริการซ่อมแซมรถยนต์ จักรยานยนต์ เรือประมง ขนาดเล็ก และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน จัดที่พักอาศัยภายในศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานในจังหวัดที่ ประสบภัยให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว และได้เสนอโครงการจ้างงานเร่งด่วน และฝึกอาชีพเพื่อ ฟื้นฟูแก้ไขผลกระทบจากสาธารณภัย งบประมาณ 171,072,000 บาท เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ/ลูกจ้างที่ประสบภัย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
779 | การขอรับการสนับสนุนโครงการ Chiangrai Lanna Spa City | นร | 28/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอขอรับงบประมาณ
เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการ Chiangrai Lanna Spa City พื้นที่ดำเนินการ หมู่ที่ 11 บ้านโป่งน้ำร้อน ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ในวงเงิน 31 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการ Chiangrai Lanna Spa City มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวโป่งน้ำร้อน บ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ที่ 11 ตำบลป่าตึง อำเภอ แม่จัน จังหวัดเชียงราย ตามกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 ที่มุ่งเน้นการเพิ่มศักย ภาพในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยให้สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวขอทำความตกลงในรายละ เอียดกับสำนักงบประมาณ และมอบให้จังหวัดเชียงรายดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
780 | นโยบาย "หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งความสามารถพิเศษ" | นร | 21/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่ง
ชาติ (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) เสนอแนวทางการดำเนินนโยบาย "หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งความสามารถพิเศษ" ที่ได้ มีการปรับปรุงทั้งในส่วนของเนื้อหาสาระแนวทางการดำเนินงานและแผนงบประมาณให้สอดคล้องกับสถาน การณ์และช่วงเวลาที่เป็นจริง โดยให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติรับไปหารือในราย ละเอียดกับนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง และให้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว โดยให้ รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการ สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่าย ให้คณะกรรม การกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ พิจารณาบูรณา การร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างประหยัดมีประสิทธิภาพ และเกิด ประโยชน์สูงสุดก่อน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนแผนการดำเนินงานและกิจกรรมที่ดำเนิน การอยู่ในปัจจุบันที่มีลำดับความสำคัญต่ำ ซึ่งควรจะชะลอหรือยกเลิกการดำเนินงาน และนำงบประมาณที่ ปรับแผนได้ดังกล่าวมาสนับสนุนนโยบาย "หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งความสามารถพิเศษ" ในลำดับแรกก่อน และ หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าว ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องจัดทำรายละเอียดแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมทั้งขอรับการสนับสนุนงบ ประมาณตามขั้นตอนและความจำเป็นในแต่ละปีงบประมาณต่อไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้งบประมาณเพื่อการจัดเตรียมข้อมูลและการดำเนินการใด ๆ ในเบื้อง ต้น ให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการเฉพาะส่วนนี้ไปได้ |