ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 34 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 661 - 680 จากข้อมูลทั้งหมด 1095 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
661 | การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) | นร | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เสนอสรุปข้อมูลการ
กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย และตาก เมื่อวันที่ 13 และ 14 มิถุนา ยน 2550 ประกอบด้วย สรุปผลการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการแยกเป็นประเด็นต่าง ๆ คือ การติดตาม การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข การแก้ไขปัญหาอุทกภัย การดำเนินงานโครงการสำคัญของจังหวัด และข้อ เสนอร่วมของ 3 จังหวัด ได้แก่ ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด การแก้ไขปัญหาอุทกภัย และระบบงบประมาณ รวมทั้งข้อเสนอเฉพาะจังหวัด ดังนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แก่ การจัดหาพื้นที่นอกเขตเมือง เพื่อรองรับน้ำท่วมขังจาก ในเขตเมือง และการจ่ายค่าชดเชยค่าเสียโอกาสให้เจ้าของที่ดิน จังหวัดสุโขทัย ได้แก่ การขอรับการสนับสนุนงบ ประมาณบูรณะอุทยานประวัติศาสตร์ และจังหวัดตาก ได้แก่ การแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว ปัญหาภัยแล้ง และ ปัญหาโครงการส่งเสริมช่วยเหลือด้านการผลิตและการตลาดให้กับเกษตรกรประเทศเพื่อนบ้านด้านการลงทุนสิน ค้าเกษตรแบบมีสัญญา (Contract Farming) และการมอบนโยบาย ได้แก่ การบริหารจัดการปัญหาต่าง ๆ ใน ระดับพื้นที่ (จังหวัด) และการแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย พิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอของ 3 จังหวัด และการมอบนโยบายไปพิจารณาร่วมกันต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
662 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าหนังสือแบบเรียน และเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน | พม | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้ปรับอัตราเงินอุดหนุนปัจจัยพื้น
ฐานนักเรียนยากจน (ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนต้น) วงเงินทั้งสิ้น 3,745,985,000 บาท ประกอบด้วย ระดับประถมศึกษา 1,000 บาท/คน/ปี โดยจัดสรรให้นักเรียนร้อยละ 40 ของจำนวนนักเรียน ระดับประถมศึกษาทั้งหมด และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3,000 บาท/คน/ปี โดยจัดสรรให้นักเรียนร้อยละ 30 ของจำนวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นทั้งหมด โดยเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2551 ดังนี้ ระดับประถมศึกษา รวม 1,624,766,000 บาท และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รวม 2,121,219,000 บาท และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
663 | กรอบแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | ทส | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการพัฒนาลุ่ม
น้ำทะเลสาบสงขลาเสนอ ดังนี้ เห็นชอบกรอบแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ปี งบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 36 โครงการ วงเงินงบประมาณ 925.193 ล้านบาท กับเห็นชอบแนวทางใน การติดตามประเมินผลของคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตามและประเมินผล ได้แก่ การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมติด ตามประเมินผลการดำเนินงานโครงการร่วมกับการติดตามโดยชุมชนในพื้นที่และการกำกับติดตามการใช้จ่ายงบ ประมาณในการดำเนินโครงการภายใต้กรอบแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการ ฯ และเห็นชอบให้หน่วยงานที่มี โครงการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนจัดทำคำขอตั้งงบประมาณเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณตาม ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัด ทั้งนี้ ภายใต้กรอบแผนงบประมาณ ฯ จำนวน 34 โครงการ วงเงินงบประมาณ 329.303 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเพิ่มเติม |
||||||||||||||||||||||||
664 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการประกอบอาชีพ พ.ศ. .... | รง | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงแรงงานเสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการประกอบอาชีพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการประกอบอาชีพ โดยจัดให้มีการบันทึกประสบการณ์ของบุคคล การรับรองความ สามารถของบุคคล การกำหนดให้การประกอบอาชีพในบางสาขาอาชีพหรือตำแหน่งงานต้องดำเนินการโดยผู้ผ่าน การรับรองความสามารถ การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกอบอาชีพและการส่งเสริมสนับสนุนให้บุคคลและสถาน ประกอบกิจการมีความต้องการในการพัฒนาตนเอง และบุคลากรในสถานประกอบกิจการให้มีความสามารถในการ ประกอบอาชีพ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรม การกลั่นกรอง ฯ และข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยในส่วนของคณะกรรม การกลั่นกรอง ฯ มีข้อสังเกตว่า การจัดตั้งกองทุนของส่วนราชการในปัจจุบันมี 2 รูปแบบ คือ (1) จัดตั้งกองทุนตาม กฎหมายและรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี แล้วบริหารงานตามปกติจากงบประมาณ และ (2) จัดตั้ง กองทุน โดยอาศัยงบประมาณบางส่วนกับขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ แล้วจะมีปัญหาในการบริหารจัดการกองทุน จึงเป็นภาระของรัฐที่ต้องเข้ามารับภาระในเรื่องงบประมาณ จึงเห็นควร จัดตั้งคณะกรรมการมาศึกษาเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนเป็นการเฉพาะ โดยมอบให้กระทรวงการคลัง และส่วนราช การที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณากำหนดหลักการ แนวทางการจัดตั้ง และการบริหารจัดการเพื่อให้เป็นระบบ แล้วนำ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อน เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
665 | การตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ณ จังหวัดระยอง ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม | อก | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์
อยู่ดีมีสุข ณ จังหวัดระยอง ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์) เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2550 สรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมได้ดังนี้ จังหวัดระยองได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุน โครงการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 46,000,000 บาท โดยได้แบ่งงบประมาณออกเป็น 2 ส่วน คือจัดสรรให้กับอำเภอ/กิ่งอำเภอจัดทำโครงการ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับ จังหวัด จำนวน 39,400,000 บาท และจัดสรรให้กับโครงการตามแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในพื้นที่จังหวัด ระยอง พ.ศ. 2550-2554 จำนวน 6,600,000 บาท ซึ่งมีการกระจายโครงการครอบคลุมใน 5 แผนงานหลักตาม แผนงานยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ดังนี้ แผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 94 โครงการ 9,654,036 บาท แผน งานพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 142 โครงการ 11,544,080 บาท แผนงานการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ ของชุมชน จำนวน 49 โครงการ 4,285,762 บาท แผนงานการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ จำนวน 37 โครงการ 3,895,000 บาท และแผนงานการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 106 โครงการ 10,021,122 บาท สำหรับปัญหาของจังหวัดระยอง ได้แก่ ปัญหาเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการภายใต้ แผนงานยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข เนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจังหวัดประกอบด้วยภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก ปัญหาเรื่องประชากรแฝงที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม ทำให้การคิดรายได้ประชากรเฉลี่ยต่อคนต่อปีสูงตามไปด้วย งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร จึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งปัญหาในพื้นที่กิ่งอำเภอนิคมพัฒนาเกี่ยวกับ ผลกระทบจากการปล่อยน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรมนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และกิ่งอำเภอเขาชะเมาเกี่ยวกับ ความต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร
|
||||||||||||||||||||||||
666 | ขออนุมัติงบประมาณโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ | ศธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๔๙ (เรื่อง ขออนุมัติงบประมาณโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์) ในส่วนของข้อ ๒ “สำหรับงบประมาณดำเนินการในระยะแรกให้ใช้จากเงินรายได้ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน ๓,๕๙๖.๑๐ ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังรับไปประสานขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (การออกสลากพิเศษ) เป็นเงินรวม ๔,๐๐๐ ล้านบาท โดยให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นงวด ๆ ตามความต้องการและแผนการใช้จ่ายเงินในแต่ละปี และในส่วนที่ต้องใช้จ่ายจากเงินงบประมาณให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลประสานสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณแผ่นดินสนับสนุนตามความจำเป็นและเหมาะสมที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละปีต่อไป” เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้แก่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (การออกสลากพิเศษ) ที่สนับสนุนงบประมาณได้เพียงบางส่วน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการ (มหาวิทยาลัยมหิดล) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๒.๑ ก่อสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการวิจัยและบริการทางการแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการ ภายในวงเงินไม่เกินประมาณราคากลาง จำนวน ๖,๑๕๓.๙๕ ล้านบาท โดยพิจารณาจัดสรรแหล่งเงินตามหลักเกณฑ์ระเบียบการใช้เงิน และศักยภาพทางการเงินของแต่ละแหล่งเงิน รวมทั้งกำหนดสัดส่วนการจัดสรรวงเงินงบประมาณมาก - น้อย ตามลักษณะการเข้าใช้ประโยชน์และผลตอบแทนที่จะได้รับของแต่ละพื้นที่ ตามแนวทางที่เคยเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรี โดยใช้จ่ายจากแหล่งเงิน ๓ แหล่ง คือ เงินงบประมาณ จำนวน ๒,๕๐๐.๐๐ บาท ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ แล้ว จำนวน ๑๑๗.๓๘๔ ล้านบาท และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๑ - พ.ศ. ๒๕๕๔ อีก จำนวน ๒,๓๘๒.๖๑๖ ล้านบาท สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน ๓๒๓.๗๖ ล้านบาท และเงินรายได้ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน ๓,๓๓๐.๑๙ ล้านบาท ทั้งนี้ หากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถให้การสนับสนุนรายได้จากการจำหน่ายสลากพิเศษให้แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้เพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ ให้พิจารณานำวงเงินดังกล่าวมาปรับลดจากเงินงบประมาณลงด้วย โดยให้ตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ๒.๒ ให้มหาวิทยาลัยมหิดลก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการวิจัยและบริการทางการแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการ ซึ่งมีวงเงินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีทั้งสิ้นเกินกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท ภายในวงเงิน ๖,๑๕๓.๙๕ ล้านบาท โดยให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ - พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒.๓ ให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเร่งจัดทำแผนการดำเนินงานให้ชัดเจน สอดคล้องกับแผนการก่อสร้างอาคาร การวางแผนอัตรากำลัง แผนการจัดหาครุภัณฑ์ แผนการบริหารจัดการ โดยเฉพาะแผนการระดมทุนเพื่อให้มีความพร้อมในการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว |
||||||||||||||||||||||||
667 | ร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2552 - 2555 | ยธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2552-2555 โดยร่างแผนแม่บท ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานในกระบวนการ ยุติธรรมมีศักยภาพทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถตอบสนองการให้บริการกระบวนการยุติธรรมได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งประสาน ติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานใน กระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปตามนโยบาย ทิศทาง และเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตลอดจนศึกษา วิเคราะห์และวิจัย ระบบงานยุติธรรมให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ การจัดทำแผนการ ดำเนินงานและโครงการตามแผนแม่บท ฯ ให้กระทรวงยุติธรรมประสานหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำตาม ความจำเป็นและความพร้อม แล้วนำเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
668 | ขออนุมัติงบประมาณปี 2550 จากงบกลาง เพื่อเป็นค่าตอบแทนจ้างนักการภารโรง | ศธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
ในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐานดำเนินการจ้างนักการ ภารโรง จำนวน 8,745 อัตรา เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นให้โรงเรียนที่ไม่มีนักการภารโรง จำนวน 8,745 โรงเรียน ค่า จ้าง 4,880 บาท/เดือน ระยะเวลา 5 เดือน (1 พฤษภาคม-30 กันยายน 2550) ในวงเงิน 213,378,000 บาท ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ กรณีตำแหน่งนักการภารโรงเป็นตำแหน่งลูกจ้างประจำ ที่ได้ถูกยกเลิกตามยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551 ที่กำหนดให้ยุบเลิกอัตราลูก จ้างประจำที่ว่างลงจากผลการเกษียณอายุราชการและลูกจ้างประจำที่ว่างลงระหว่างปี ทำให้ครูและนักเรียนต้องช่วย กันทำหน้าที่แทน อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนได้ และโดยเฉพาะโรงเรียนชนบทที่ห่างไกลที่ต้องมีนักการ ภารโรงช่วยทำหน้าที่ดูแลและรักษาความปลอดภัยอีกด้วย สำหรับข้อเสนอของกระทรวงศึกษาธิการอาจแก้ไขปัญหา ได้ในระยะสั้น ควรมีการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดในระยะยาว โดยอาจเสนอให้คณะทำงานที่จะพิจารณาเรื่องราย งานผลการศึกษาวิจัยเรื่องสภาวะการขาดแคลนครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และข้อเสนอแนวทางแก้ ไขพิจารณาไปในคราวเดียวกัน รวมทั้งรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจาณาดำเนินการด้วย ส่วนงบประมาณ ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานบริหารเงินงบประมาณปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายเงิน งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 หรือเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณเหลือจ่าย และหากยังมีความจำเป็น จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมให้ขอรับการสนับสนุนจากสำนักงบประมาณตามความจำเป็น โดยให้ควรคำนึงถึงความ ประหยัดและความคุ้มค่าในการบริหารจัดการงบประมาณของภาครัฐ |
||||||||||||||||||||||||
669 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปีงบประมาณ 2550 เพิ่มเติม | นร | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงบประมาณเสนอให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในใช้จ่ายงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 735,243,220 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสนับสนุนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดน ภาคใต้ ตามรายการดังนี้ ภารกิจกลุ่มที่ 1 การดำเนินการด้านยุทธการและการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย ในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การข่าวกรองและต่อต้านข่าวกรอง สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก เป็นเงิน 169,000,000 บาท ภารกิจกลุ่มที่ 2 การสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานของ หน่วย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการปฏิบัติงานมวลชนในการปรับความคิดและความเชื่อการจัดระเบียบชุมชนและการ ปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก เป็นเงิน 48,835,000 บาท ภารกิจกลุ่มที่ 3 การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตามโครงการสร้างงาน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการจ้างแรงงานในพื้นที่ จำนวน 23,700 อัตรา สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก เป็นเงิน 330,750,000 บาท และภารกิจกลุ่มที่ 4 การปฏิบัติการด้านการ เมืองเชิงรุก และการสร้างความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับอำนาจรัฐ การอำนวยความยุติธรรม การเสริมสร้างความเข้าใจ และความ สมานฉันท์ สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก เป็นเงิน 186,658,220 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
670 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 (งบกลาง) โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอด ระยะที่ 2 | มท | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) โดยเทศบาลเมืองแม่
สอดดำเนินโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอดระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2551) โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุก เฉินหรือจำเป็นจำนวน 46,560,000 บาท และงบประมาณส่วนที่เหลือจำนวน 186,240,000 บาท ให้กรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่นพิจารณาปรับรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ในขั้นปรับปรุง รายละเอียดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่อไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ปัจจุบันองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มี ความเป็นอยู่ดีขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เช่น โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอดระยะที่ 2 เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงเกินกว่าศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาและไม่เป็นภาระงบกลาง จึงให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาปรับแผนการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ สำหรับแก้ไขปัญหาเร่งด่วนขององค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ไว้เป็นวงเงินตามความจำเป็นด้วย |
||||||||||||||||||||||||
671 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าหนังสือแบบเรียน และเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน | ศธ | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้การสนับสนุนงบประมาณในรายการค่าวัสดุการศึกษา หนังสือ
แบบเรียน รวม 5 วิชาหลัก คือ วิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา และวิชาวิทยา ศาสตร์ ให้แก่นักเรียนระดับการศึกษาภาคบังคับ (ประถมศึกษาปีที่ 1-มัธยมศึกษาปีที่ 3) ยืมเรียนเป็นเวลา 1 ปีการศึกษา ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และจัดหาหนังสือทดแทนที่ชำรุดในปีต่อ ๆ ไป อีกปีละร้อยละ 30 ใน ระดับประถมศึกษา และร้อยละ 20 ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการขอทำความตกลง ในรายละเอียดเรื่องงบประมาณกับสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนการขออนุมัติปรับอัตราเงินอุดหนุนปัจจัยพื้น ฐานนักเรียนยากจน ให้นำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 พิจารณาอีก ครั้งหนึ่งก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
672 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนชาวอินโดนีเซียที่ประสบอุทกภัย | นร | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณใน
การให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพและประชาชนชาวอินโดนีเซียที่ประสบอุทกภัย จำนวน 4,000,000 บาท ให้แก่กอง บัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ซึ่งได้ทดรองจ่ายไปล่วงหน้า โดยใช้งบประมาณในขั้นต้นจากงบประมาณ ของกองบัญชาการทหารสูงสุดและได้นำส่งของไปมอบให้รัฐบาลอินโดนีเซียแล้ว โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้กองบัญชา การทหารสูงสุดขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
673 | การกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) | มท | 08/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอหลักการในการเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณภาค
รัฐเป็นปัจจัยหลักสำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปี พ.ศ. 2551 และมอบหมาย ให้กระทรวง/กรมที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี พ.ศ. 2551 เพื่อ ดำเนินแผนงาน/โครงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในกรอบแผนงาน/โครงการสำคัญ ๆ รวมทั้ง มอบหมายสำนักงบประมาณให้ความสำคัญกับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ เพื่อสนับสนุนแผนงาน/โครงการ ฯ และให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเน้นในด้านการพัฒนอาชีพการเกษตรและด้านการ พัฒนาด้านสังคม เพื่อยกระดับการบริการภาครัฐทางด้านการศึกษาและสาธารณสุขให้มีมาตรฐานที่อาจจะสูงกว่า เกณฑ์มาตรฐานของประเทศ และเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐในด้านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยปรับแผน งบประมาณของกระทรวงในแผนงานที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 สนับสนุนให้แผน งานที่มีความพร้อมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทบทวนโครงการที่ภาคเอกชน ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากภาวะต้นทุนการก่อสร้างและความปลอดภัย ให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดำเนินการ ตามแนวทางของมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายของสำนักงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2550 ส่วนการจัดสรรงบประมาณในปี พ.ศ. 2551 ควรให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณตามกรอบแผนงานที่เน้น ด้านการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรด้านสาธารณสุขและการศึกษา โดยเพิ่มงบประมาณใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 และเพิ่มงบด้านชุดพัฒนาชุมชนตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของชุมชน โครงการ คพพ. และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับตำบลเป็น 2 เท่าจากที่ได้รับจัดสรรในปัจจุบัน ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
674 | คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2550 ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม | รง | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัด งานวันแรงงานแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2550 เพิ่มเติมเฉพาะค่าใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นรวม 1,500,000 บาท จำแนกเป็น งบประมาณการจัดริ้วขบวนเฉลิมพระเกียรติ ฯ ริ้วขบวนกลาง เป็นเงิน 350,000 บาท การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน และประชาชนผู้เข้าร่วมงานวันแรงงานแห่งชาติ ฯ ดำรงชีวิตภายใต้แนวนโยบาย เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเงิน 250,000 บาท การรณรงค์ ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์การทำงานของลูกจ้าง นายจ้าง ในสถานประกอบกิจการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัด โปร่งใส และเป็นธรรม เป็นเงิน 200,000 บาท สนับสนุนกิจกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติในส่วนภูมิภาค เพิ่มเติม เป็นเงิน 500,000 บาท และสนับสนุน ค่ารถยนต์โดยสารของ ขสมก. เพิ่มเติม เป็นเงิน 200,000 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
675 | การพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข | มท | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอดังนี้ ให้ศูนย์พัฒนาการเมืองการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (ศพป.) ทุกระดับเป็นองค์กรขับเคลื่อนและบูรณาการ การพัฒนาประชาธิปไตย รวมทั้งให้อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.) เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกิจ กรรมในทุกพื้นที่ กับให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ ศพป. ทุกระดับ และนำหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขบรรจุไว้ในหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ พร้อมทั้งบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียน การสอนทุกระดับ โดยหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างความรู้ความ เข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯ และการปรับเปลี่ยนทัศนะคติของ ประชาชนให้ "ถูกต้อง เป็นธรรม เป็นไทย" ดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูก ต้องเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่นไทย การให้มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมและได้ คนดี และการนำกรณีศึกษาระบอบประชาธิปไตยเป็นแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน และ ให้สำนักงบประมาณ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนงบประมาณการพัฒนาการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่ ศพป. ในแต่ละระดับจะขอรับการสนับสนุนเพิ่ม เติม ตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นและข้อเสนอแนะของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรประสานกับคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสภาพัฒนา การเมืองและยกร่างแผนแม่บทพัฒนาการเมือง สภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ภาคประชาสังคม กลุ่มเครือข่ายองค์กร NGO และภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องและเชื่อมโยงในภารกิจที่คล้ายคลึงกัน ส่วนกำหนดหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ควรประสานกับสถาบันการศึกษา สถาบัน พระปกเกล้า และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์ โดยเนื้อหาหลักสูตร ให้เน้นสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย นอกจากนี้ ควรคิดรูปแบบและกลไกการฝึกอบรมวิทยากร ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเน้นการฝึกปฏิบัติ และกำหนดวิธีการประเมินผลการดำเนินการเพื่อให้เกิดผลการ ดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
676 | ขอรับการสนับสนุนบุคลากรและงบประมาณเพื่อการตรวจสอบทรัพย์สินที่บริษัท ไอทีวี จำกัด ส่งคืน | นร | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์) เสนอ
เกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนบุคลากรและงบประมาณเพื่อการตรวจสอบทรัพย์สินที่บริษัท ไอทีวี จำกัด ส่งคืน โดยให้หน่วยงานในพื้นที่ เช่น กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ให้ความร่วมมือสนับสนุน การปฏิบัติงาน และร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ณ จังหวัดที่มีสถานีตั้งอยู่ และให้สำนักงานปลัดสำนัก นายกรัฐมนตรี จัดจ้างลูกจ้าง/พนักงานราชการชั่วคราว เพื่อช่วยดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินให้เป็นที่เรียบร้อย จำนวน 50 คน เป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่บริษัทฯ ส่งคืน จำนวน เงิน 3,056,940 บาท จากเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อรองรับการดำเนิน การ
|
||||||||||||||||||||||||
677 | การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนกรณีสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ | ทส | 13/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอการแก้ไข
ปัญหาเร่งด่วนกรณีสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ โดยสังเขปดังนี้ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ระดมกำลังพนักงานดับไฟป่าจากพื้นที่อื่น ๆ ไปสนับสนุนการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด และจัดทำประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้งดเว้นการใช้ไฟในการทำกิจกรรมในพื้นที่ป่าโดยเด็ดขาด รวม ทั้งลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟป่า ให้กองทัพภาคที่ 3 สนธิกำลังในการดำเนินการ ลาดตระเวน ป้องปราม และเข้าดำเนินการดับไฟในพื้นที่นอกเขตป่าอนุรักษ์ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนิน การควบคุมการเผาในที่พื้นที่เกษตรกรรม ให้กระทรวงคมนาคมตั้งทีมเฉพาะกิจในการระงับไฟในเขตทางหลวงที่รับ ผิดชอบ ให้สาธารณสุขจังหวัดจัดเตรียมคลินิกพิเศษ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษหมอก ควัน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในท้องที่ภาคเหนือทั้ง 17 จังหวัด เป็นผู้มีอำนาจสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนิน การกำกับดูแล การบังคับใช้กฎหมาย ได้แก่ ดำเนินการตามประกาศเขตควบคุมไฟป่าอย่างเคร่งครัด เร่งรัดประชา สัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนในการงดการจุดไฟเผาป่า ระมัดระวังการใช้ไฟในพื้นที่ป่า ทำแนวกันไฟและควบ คุมการเผาเศษวัสดุ เพื่อป้องกันมิให้ไฟลุกลามเข้าป่า กับให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุร้องเรียนด้านการเผาในที่ โล่ง และพิจารณาใช้งบฉุกเฉินเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษ จากหมอกควัน หากมีความจำเป็นให้จังหวัดพิจารณาขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ หาก การดำเนินมาตรการข้างต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ อาจใช้อำนาจตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ประกาศเหตุฉุกเฉินหรือเหตุภยัน ตรายต่อสาธารณชนอันเนื่องจากภัยธรรมชาติ หรือภาวะมลพิษ เพื่อให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการกำหนด มาตรการป้องกันและจัดทำแผนฉุกเฉินเพื่อแก้ไขสถานการณ์ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) ติดตามประเมินสถานการณ์ในช่วงเดือนเมษายน ถึง เดือนมิถุนายน 2550 เพื่อใช้ประกอบ การตัดสินใจในการประกาศเหตุฉุกเฉินตามมาตรา 9 ในราชกิจจานุเบกษา ต่อไป และเห็นชอบในหลักการตาม ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเพิ่มเติม ให้มีการเตรียมการป้องกัน และแก้ไข ปัญหาการเกิดสถานการณ์ดังกล่าวให้ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ ความร่วมมือและประสานการดำเนินการกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
678 | การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการนโยบายและ
อำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอการ แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผล กระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด ชายแดนภาคใต้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแทนสำนักงาน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีอำนาจอนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณให้ความช่วยเหลือจากงบประมาณราย จ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยประสานและขอทำความตกลงกับสำนัก งบประมาณ ส่วนการช่วยเหลือกรณีพิเศษอื่น ๆ นอกเหนือตามหลักเกณฑ์และการดำเนินการตามอำนาจหน้า ที่ของคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบ ประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้ประสานและขอทำความ ตกลงกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นต่อไป ทั้งนี้ ในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฯ ให้ยึดถือ การรับรองว่า เป็นเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้จากความเห็นของคณะกรรมการ 3 ฝ่ายใน พื้นที่ (ทหาร ตำรวจ และพนักงานปกครอง) ประกอบผลการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวนโดยหากกรณี เหตุการณ์ปรากฏชัดเจนว่า เกิดจากเหตุความไม่สงบ ให้จังหวัดจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบได้ครบ ถ้วน (ร้อยละ 100) ตามหลักเกณฑ์ ฯ จากเงินทดรองราชการ และหากการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฯ ซึ่งมิ ได้กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์ ฯ ก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของ กยต. พิจารณาตามความเหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||
679 | การอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ | นร | 13/02/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติอนุมัติ
ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์) ประธานกรรมการดำเนินการอนุรักษ์ ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสนอขอรับการสนับสนุนงบกลาง ราย การเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปี พ.ศ. 2550 จำนวน 198.55 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่งส่วนพระองค์ ประกอบด้วย ค่าที่ดินและค่าก่อสร้าง จำนวน 60 ล้านบาท ค่าครุภัณฑ์การอนุรักษ์ฟิล์มภาพยนตร์และภาพนิ่ง จำนวน 128 ล้านบาท เงินเดือนและค่า จ้างบุคลากร จำนวน 5 ล้านบาท และค่าใช้วัสดุใช้สอยและค่าจ้างดำเนินงานในปีแรก จำนวน 5.55 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
680 | การประชาสัมพันธ์และชี้แจงทำความเข้าใจกับสื่อและประชาชน (ยกเลิกโดยมติ ครม. วันที่ 18 กันยายน 2550) | นร | 23/01/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้รัฐมนตรีทุกท่านให้ความสำคัญกับการชี้แจง
และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารผลการดำเนินงานของแต่ละกระทรวง รวมทั้งให้ส่วนราชการในกำกับเร่งชี้แจง และประชาสัมพันธ์ถึงผลการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงให้สื่อและประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงและเร่ง ด่วนบนพื้นฐานความเป็นจริง หากกระทรวงใดมีความจำเป็นจะต้องขอรับการสนับสนุนในเรื่องใด ให้ประสาน รายละเอียดกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อจะได้พิจารณาดำเนินการต่อไป |
.....