ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 36 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 701 - 720 จากข้อมูลทั้งหมด 1095 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
701 | การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรชาวเขา | นร | 15/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร
ชาวเขาที่เข้ามาอยู่ในนิคมเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับวิถีการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ ซึ่งแตกต่างไปจากเดิม และมีความเป็นห่วงว่าจะประสบปัญหาหนี้สินและปัจจัยยังชีพ รวมถึงการเพาะปลูกพืชเพื่อ เป็นรายได้จะยังไม่ได้ผลผลิต จึงมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) รับไปประสาน กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาข้อห่วงใยของ ราษฎรกลุ่มดังกล่าว หากมีความจำเป็นอาจพิจารณาพักหนี้หรือให้สินเชื่อที่จำเป็นเหมาะสม รวมทั้งให้กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ประสานกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอรับการสนับสนุนข้าวสารที่กระทรวงพาณิชย์จัดซื้อไว้แล้ว เพื่อ ให้สามารถยังชีพอยู่ได้ในช่วงปรับตัวและรอรายได้จากผลผลิต ตลอดจนจัดหาตลาดรองรับผลผลิตที่จะเกิดขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
702 | ขออนุมัติงบประมาณโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ | ศธ | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการกำกับโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์เสนอดังนี้ เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ วงเงินรวม 8,738.02 ล้านบาท และให้เร่งรัดดำเนินโครงการฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ครั้งที่ 4/2549 วันที่ 4 กรกฎาคม 2549 และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีการกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของแต่ละโครงการเพื่อประโยชน์ในการติดตามและประเมินผลความสำเร็จ และควรคำนึงถึงการสร้างเครือข่ายกับโรงพยาบาลเอกชนโดยเฉพาะโรงพยาบาลที่จัดบริการชั้นเลิศ (World Class) ในงานบริการทางการแพทย์ที่ต้องใช้ครุภัณฑ์ที่มีค่าลงทุนสูง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน รวมทั้งนำองค์ความรู้ของภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย สำหรับงบประมาณดำเนินการในระยะแรก ให้ใช้จากเงินรายได้ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน 3,596.10 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังประสานเพื่อขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (การออกสลากพิเศษ) เป็นเงินรวม 4,000 ล้านบาท โดยให้สำนักงานสลากฯ จ่ายเงินสนับสนุนให้เป็นงวดๆ ตามความต้องการและแผนการใช้จ่ายเงินในแต่ละปี และในส่วนที่จะต้องใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ ให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลประสานสำนักงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณแผ่นดินสนับสนุนตามความจำเป็นและเหมาะสมที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละปีต่อไป และอนุมัติให้ตั้งคณะกรรมการกำกับโครงการฯ เพื่อทำหน้าที่บริหารโครงการฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||
703 | การจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ | กก | 04/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้จัดหางบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬา
ของชาติ ตลอดจนการพัฒนาองค์กรกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาตามวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาการกีฬา แห่งชาติ ในวงเงินจำนวน 50 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณรับไปดำเนินการให้ถูกต้อง สอดคล้องกับข้อ กฎหมายต่อไป โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง จำนวน 25 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังรับไปประสานเพื่อขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในส่วนที่เหลือ อีกจำนวน 25 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติรับไปเร่งรัดดำเนินการ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติว่าด้วยการจัดการเงินกองทุนพัฒนา การกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. 2548 ให้เหมาะสม สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับโดยเร็ว รวมทั้งให้รับความเห็นของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้ระดมทุนจากภาคีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาค เอกชน และหารายได้เพิ่มเติมโดยวิธีการต่าง ๆ เช่น ผลประโยชน์ที่เกิดจากการขายลิขสิทธิ์ตราสัญลักษณ์การ แข่งขันกีฬาต่าง ๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมสนับสนุนการกีฬาของชาติอย่างต่อเนื่อง และเสริมสร้างกองทุน ฯ ให้ มีความยั่งยืน นอกจากนี้ การใช้จ่ายเงินกองทุน ฯ ควรมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน พัฒนานักกีฬาให้มีศักยภาพสูง เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน ไปพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
704 | ขอรับการสนับสนุนงบกลาง (แก้ไขปัญหาหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด ที่ประสบอุทกภัยใน 10 จังหวัดภาคใต้) | ศธ | 27/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
ประจำปี พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ปัญหาหน่วยงานและ สถานศึกษาในสังกัดที่ประสบอุทกภัยใน 10 จังหวัดภาคใต้ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนและปรับแผน การปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2549 (เรื่อง มาตรการส่งเสริมการเพิ่ม ประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และการเตรียมความพร้อมในการจัดการงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550) เป็นลำดับแรกก่อน โดยให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบ ประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
705 | ติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2548 - 2549 | มท | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและให้ดำเนินการต่อไปตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอรายงานสรุปผลการ
ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2548-2549 ที่ได้ดำเนินการแล้ว ในส่วนของการช่วยเหลือจากเงินทดรองราช การตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท) ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเงิน ทั้งสิ้น 2,724,057,273.48 บาท โครงการซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ชำรุดเสียหายจากอุทกภัยการช่วย เหลือเกษตรกรที่พืชผลการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ได้รับความเสียหาย การฟื้นฟูแหล่งน้ำ ระบบประปาหมู่ บ้าน และบ่อบาดาล การซ่อมแซมถนน/สะพาน ในการนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัด การจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรจากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติแล้วให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2549 กรณีการช่วยเหลือด้านพืชผลการเกษตรที่ค้างการช่วยเหลือ การซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ชำรุดเสียหาย และการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัยที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ หรือยังไม่ได้รับการช่วยเหลือให้หน่วยงาน ที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม และให้ความช่วยเหลือต่อไปโดยเร็ว รวมทั้ง ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) สำนักงบ ประมาณ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันพิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรค ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยให้มีความคล่องตัวและรวดเร็วต่อการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชน อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง นอกจากนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยว ข้องเพื่อเร่งดำเนินการขุดลอก คู คลอง และสิ่งกีดขวางทางเดินของน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด โดยให้รอง นายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) กำกับติดตามการดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยเร็ว ทั้งนี้ ในการดำเนินการดังกล่าวให้พิจารณาจ้างแรงงานในพื้นที่ก่อนเป็นลำดับแรก และให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ (กรมชลประทาน) เร่งรัดสำรวจและกำหนดเส้นทางเดินของน้ำในปัจจุบันของพื้นที่ภาคเหนือดังกล่าว ให้ชัดเจนและแล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและเส้นทางเดินของน้ำเปลี่ยนไปจากการถูกน้ำกัด เซาะพังทลาย รวมทั้งถูกโคลนและเศษซากไม้ทับถมกันอยู่เป็นระยะทางยาวกว่า 100 กิโลเมตรทำให้เกิดปัญหา กรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณฝั่งแม่น้ำทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำข้อมูลการกำหนดเส้นทางเดินของน้ำไป ดำเนินการในพื้นที่ที่รับผิดชอบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
706 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) ตามแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะภัยแล้ง หรือประสบอุทกภัย (ในช่วงเมษายน 2549 - กันยายน 2549) | กษ | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) รับเรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบ
ประมาณ (งบกลาง) ตามแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะภัยแล้ง หรือประสบอุทกภัย (ในช่วง เมษายน 2549 - กันยายน 2549) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปพิจารณาในคณะกรรมการอำนวย การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
707 | รายงานความก้าวหน้าโครงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ และขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม | กษ | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอดังนี้ รับทราบรายงานความก้าวหน้าการ
ดำเนินงานมหกรรมพืชสวนโลก ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ดังนี้ ด้านก่อสร้างและภูมิสถาปัตยกรรม ดำเนินการได้ตามแผนงานที่กำหนด การเข้าร่วมของประเทศต่าง ๆ ได้ตอบรับแล้ว จำนวน 32 ประเทศ และ การดำเนินการเกี่ยวกับการจัดสวน การจัดนิทรรศการ การประกวด และกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งการเตรียมการและการดำเนินงาน และเห็นชอบในหลักการให้ปรับปรุงการจัดงานเป็นระดับ A1 โดยอนุมัติ ในหลักการค่าใช้จ่ายโครงการ ฯ เพิ่มเติมเฉพาะในส่วนที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน วงเงินรวม 327 ล้านบาท ใน กลุ่ม ก. ประกอบด้วย ค่าก่อสร้างและการจัดตั้งระบบสาธารณูปโภคเพิ่มเติม ค่าสิ่งก่อสร้างอาคารและสิ่งก่อ สร้างชั่วคราว ค่าครุภัณฑ์ภายในอาคารต่าง ๆ ที่มิได้จัดเตรียมไว้ก่อน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องกับการจัดสาระและจัด นิทรรศการ และค่าใช้จ่ายส่วนบริหารจัดการเพิ่มเติม โดยให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ ต่อไป สำหรับอาคารและสิ่งก่อสร้างถาวรที่จะขอรับการสนับสนุนการก่อสร้างจากภาคเอกชน ควรพิจารณา จารึกชื่อผู้บริจาคไว้ที่อาคารและสิ่งก่อสร้างนั้น ๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บริจาคด้วย นอกจากนี้ กรณีพืชพันธุ์ ที่ต่างประเทศนำเข้ามาปลูกเป็นการถาวรในงานนี้ ควรให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) พิจารณาดำเนิน การเกี่ยวกับพิธีการทางศุลกากรให้เหมาะสมด้วย กับเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมวิชาการ เกษตร) เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างการดำเนินโครงการ ฯ ในวงเงิน 327 ล้านบาท โดยให้บริษัทเอกชนที่ ชนะการประมูล และกองบัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้ดำเนินโครงการส่วนเพิ่มเติมดังกล่าว โดยให้สามารถถัว จ่ายได้ภายใต้ความเห็นชอบของสำนักงบประมาณ รวมทั้งรับไปศึกษารูปแบบและแนวทางการบริหารจัดการ และการบำรุงรักษาสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (รวมตลอดถึงไนท์ซาฟารี) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมี ความยั่งยืนถาวร โดยอาจจัดตั้งเป็นองค์กรซึ่งมีระบบบริหารจัดการที่มีความคล่องตัวแบบภาคเอกชนและมีราย ได้เพียงพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
708 | การปรับปรุงเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร กระทรวงกลาโหม และลูกจ้างประจำของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กค | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางการกำหนดเงินเพิ่มสำหรับ ตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ของข้าราชการทุกประเภทมีมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงการกำหนดเงินเพิ่มพิเศษให้แก่พนักงานและลูกจ้าง และ การกำหนดค่าตอบแทนอื่นนอกเหนือจากเงินเพิ่มพิเศษ แต่มีลักษณะเดียวกันกับเงินเพิ่มพิเศษตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 โดยให้รวมถึงค่าตอบแทนอื่นที่จ่ายจากเงินนอก งบประมาณด้วย โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา กับเห็นชอบการกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่ง ที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการทหาร กระทรวงกลาโหม และลูกจ้างประจำของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณากำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุ พิเศษของหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีการปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกัน เช่น ข้าราชการตำรวจ พร้อมไปในคราวเดียว กันด้วย ทั้งนี้ การกำหนดเงินเพิ่มดังกล่าวให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2549 และให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 (เรื่อง ขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร) เฉพาะในส่วนที่มอบหมายให้กระทรวง การคลังถือเป็นหลักปฏิบัติว่า การกำหนดเงินเพิ่มพิเศษ เงินเพิ่ม เงินนำจับ เงินสินบนนำจับ เงินที่เป็นรายได้ หรือค่าตอบแทนพิเศษหรือเงินในลักษณะดังกล่าวที่เรียกชื่ออย่างอื่นของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ที่กฎหมาย กำหนดให้เป็นอำนาจของกระทรวงการคลัง นั้น เมื่อกระทรวงการคลังได้พิจารณาเป็นประการใดแล้ว ให้นำ เรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
709 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเร่งรัดป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง | กษ | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้กรมชลประทานดำเนิน
โครงการเพื่อป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยให้ดำเนินการตามลำดับความสำคัญ ความจำเป็นเร่ง ด่วน และความพร้อมในการดำเนินการ ตลอดจนงบประมาณที่จะรองรับ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมพิจารณาและตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนกับโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2549 (เรื่อง รายงานสรุป สถานภาพการอนุมัติการจัดสรรงบประมาณ และผลการเบิกจ่ายงบประมาณของโครงการนายกรัฐมนตรีตรวจ ราชการ โครงการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และโครงการตามแผนยุทธ ศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด) และให้นำความเห็นของกระทรวงการคลังที่ให้กรมชลประทานคัดเลือก โครงการที่มีความพร้อมและเรียงลำดับความสำคัญของโครงการเพื่อให้การดำเนินการสมประโยชน์ และคุ้มค่าแก่ การลงทุน สำหรับการจัดสรรเงินงบประมาณผูกพันในแต่ละปีให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่จะ พิจารณาจัดสรรตามความจำเป็น เหมาะสม โดยคำนึงถึงฐานะการคลังของประเทศ และความเห็นของสำนักงบ ประมาณเกี่ยวกับงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้กรมชลประทานพิจารณาดำเนินการใช้เงิน เหลือจ่ายไปดำเนินการเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอ ให้พิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับ และมีความสำคัญต่ำไปสนับสนุนการดำเนินการเพิ่มเติม ส่วนงบประมาณที่จะใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ต่อไป ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการ โดยเร็วต่อไป รวมทั้งยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 (เรื่อง การปรับปรุง แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) เพื่อ การดำเนินโครงการ ฯ เป็นกรณีพิเศษ |
|||||||||||||||||||||||||||
710 | ขออนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงาน ก.พ. เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และการเช่าอาคารเป็นสถานที่ปฏิบัติงาน | นร | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่า
ใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงาน ก.พ. เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และการ เช่าอาคารเป็นสถานที่ปฏิบัติงาน โดยค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารสำนักงาน ก.พ. ระบบโทรศัพท์ ระบบ เสียงตามสาย การย้ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การติดตั้งกล้องวงจรปิด การย้ายครุภัณฑ์สำนักงาน และ สร้างที่จอดรถโครงเหล็กและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำรายละเอียดขอตกลง กับสำนักงบประมาณตามที่ต้องจ่ายจริงและเป็นไปโดยประหยัด โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับการเช่าพื้นที่ อาคารเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 3,729 ตารางเมตร หากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาภาพรวมของ พื้นที่อาคารสำนักงาน ก.พ. โดยคำนวณตามหลักเกณฑ์มาตรฐานการกำหนดพื้นที่ใช้สอยของอาคาร ตามนัย มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2521 แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ สร 0203/ว 120 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2521 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549 แล้ว ก็ให้ดำเนินการ เช่าพื้นที่อาคารดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอัตราค่าเช่าตารางเมตรละ 400 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นเงิน 53,697,600 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 13,590,360 บาท เพื่อเป็นค่าเช่าอาคาร 2 เดือน (สิงหา คม-กันยายน 2549) ค่าเช่าล่วงหน้าร้อยละ 15 ของยอดรวมค่าเช่าตามอายุสัญญาเช่า 3 ปี และค่าประกัน เสียหาย สำหรับส่วนที่เหลือ จำนวน 43,107,240 บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-พ.ศ. 2552 (ตุลาคม 2549-กรกฎาคม 2552) เพื่อจ่ายเป็นค่าเช่ารายเดือนที่หักค่าเช่าล่วงหน้า ร้อยละ 15 และในส่วนของค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จำนวน 21,212,100 บาท ที่เสนอขอรับการสนับสนุนนอกเหนือ จากค่าเช่าอาคาร ให้จัดทำรายละเอียดขอตกลงกับสำนักงบประมาณตามที่จ่ายจริงและประหยัด โดยให้ใช้จ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นได้ต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเจรจาต่อรองกับผู้ให้เช่าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้ ราคาค่าเช่าที่ถูกลง และเงื่อนไขการเช่าที่เหมาะสมเป็นไปตามหลักการเช่าอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปมากยิ่งขึ้น เช่น การกำหนดให้ชำระค่าเช่าล่วงหน้า แต่ไม่เรียกเก็บเงินประกันความเสียหาย เป็นต้น ก่อนดำเนินการต่อไป ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
711 | ผลการเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรู (วันที่ 25 - 27 กุมภาพันธ์ 2549) | นร | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรายงานผลการเยือนไทยอย่างเป็น
ทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ของนาย Oscar Maurtua de Romana รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเปรู ระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2549 มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความเป็นหุ้น ส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ และฉลองวาระครบรอบ 40 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการ ทูตไทย-เปรู โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างกัน อาทิ ความร่วมมือด้าน การค้า การลงทุน ไทยและเปรูเห็นพ้องการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยไทยเห็นว่าสาขาที่เปรูมี ศักยภาพและไทยสามารถเข้าไปลงทุน ได้แก่ การสำรวจขุดเจาะแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ การก่อสร้าง เส้นทางคมนาคม การบริหารจัดการโรงแรมและท่าเรือ การเปิดร้านอาหารไทย การขอสัมปทานป่าไม้เพื่อ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ เห็นว่าความตกลงด้านบริการเดินอากาศจะเป็นโอกาส ขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน โดยฝ่ายเปรูเสนอให้บริษัทการบินไทยพิจารณาเปิดบริการเที่ยวบิน ไปยังกรุงลิมา สำหรับกรณีที่ไทยขอรับการสนับสนุนในการสมัครเป็น UNSG ของรองนายกรัฐมนตรี (นาย สุรเกียรติ์ เสถียรไทย) นั้น ฝ่ายเปรูยืนยันที่จะสนับสนุนโดยเห็นว่าครั้งนี้ควรเป็นวาระของเอเชีย ส่วนการเปิด สอท. ณ กรุงลิมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่ารัฐบาลไทยให้ความเห็นชอบแล้ว และพร้อม จะเปิดดำเนินการในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นต้น และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็น ต่าง ๆ ดำเนินการและเร่งรัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||
712 | การปรับอัตราเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของอาสาสมัครทหารพราน | กห | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้ปรับอัตรา
เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของอาสาสมัครทหารพราน เช่นเดียวกับการปรับอัตราเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ของข้าราชการระดับต้น ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ และพนักงานราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2548 ตามมติที่ประชุมร่วมระหว่างกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกรมบัญชีกลาง เมื่อ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สำหรับงบประมาณที่จะต้องใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 จำนวน 23,650,940 บาท ที่ขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม ให้กองทัพบกและกองทัพเรือดำเนินการ โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ได้รับจัดสรรเพื่อเป็นค่าตอบแทนอาสา สมัครทหารพรานของกองทัพบก และของทหารพรานนาวิกโยธินของกองทัพเรือไปก่อน หากไม่เพียงพอก็ให้ พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ในโครงการ/ รายการที่มีความจำเป็นลำดับต่ำ และ/หรือพิจารณาใช้เงินเหลือจ่ายไปสนับสนุนดำเนินการเพิ่มเติม โดยขอให้ ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธี การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้กระทรวงกลาโหม เสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
713 | การรับรองข้อเสนอโครงการขอรับทุนสนับสนุนกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) | ทส | 09/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้ปลัดกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติหน้าที่ Operational Focal Point มีอำนาจในการพิจารณาให้การ รับรองข้อเสนอโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility) หรือ GEF และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนลงนามในข้อตกลงทางการ เงิน สำหรับกรณีที่โครงการได้รับอนุมัติสนับสนุนทางการเงินจาก GEF และมีข้อผูกพันทางการเงินที่เป็นตัว เงิน (In Cash) ร่วมสนับสนุนในการดำเนินโครงการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
714 | รายงานสรุปสถานภาพการอนุมัติการจัดสรรงบประมาณ และผลการเบิกจ่ายงบประมาณของโครงการนายกรัฐมนตรีตรวจราชการ โครงการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด | นร | 09/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงบประมาณเสนอดังนี้ รับทราบสถานภาพการอนุมัติการจัดสรรงบ
ประมาณ และผลการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานตามโครงการนายก รัฐมนตรีตรวจราชการ โครงการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และ โครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด และเห็นชอบให้สำรองเงินงบกลาง ราย การค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ส่วนที่ 2 (10,000 ล้านบาท) จำนวน 2,916.714 ล้านบาท เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีใน การประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการสนับสนุน งบประมาณตามความพร้อมของโครงการและความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายจริงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับเร่งรัดหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว ให้ดำเนินโครงการโดย เร็ว และให้หน่วยงานที่ยังไม่ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ โดยเร็ว พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งจังหวัดเพื่อประสานงานหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เร่งดำเนิน การอีกทางหนึ่ง โดยให้ดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไป ตามแผน เป้าหมาย และสามารถแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) เป็นเจ้าภาพในการประชุมหารือร่วมกันระหว่างสำนักงบ ประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยว ข้อง เพื่อพิจารณาปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขในการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
715 | คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติปี 2549 ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม | รง | 25/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอขออนุมัติงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการ
จัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2549 เพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษอีกจำนวน 1,400,000 บาท ทั้งนี้ ให้เบิกจ่ายเงินงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้กระทรวงแรงงาน (กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน) ประสานกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
716 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (โครงการปรับปรุงแหล่งประวัติศาสตร์บ้านเชียง) | วธ | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการก่อหนี้
ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2550 ในวงเงิน 56,940,000 บาท สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมศิลปากรพิจารณาปรับ แผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน หากมีงบประมาณ ไม่เพียงพอ ก็ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัดตามความจำเป็นที่ต้อง ใช้จ่ายจริง ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้ จ่ายกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้กรมศิลปากร เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
717 | ขออนุมัติงบกลางสำหรับดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี | พณ | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่องขออนุมัติงบกลางสำหรับดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องใน
วโรกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยให้กระทรวงพาณิชย์นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการฝ่าย โครงการและกิจกรรม [รองนายกรัฐมนตรี (นายสุชัย เจริญรัตนกุล) เป็นประธาน] ในคณะกรรมการอำนวย การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พิจารณาก่อน หากคณะกรรมการฝ่ายโครงการ ฯ เห็นชอบ ให้นำ เสนอคณะกรรมการอำนวยการฯ พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณไปประกอบการ พิจารณาด้วยในกรณีขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการ ฯ เนื่องจากขณะนี้งบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น มีจำนวน จำกัด และยังมีภารกิจในด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ เช่น ภัย ธรรมชาติ สาธารณภัย และอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นรอการจัดสรรอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อ โครงการหรือกิจกรรมที่เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติใด ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แล้ว ก็เห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 หรือใช้เงินเหลือจ่ายไปดำเนินการในลำดับแรกก่อน โดยให้ถือปฏิบัติตาม ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2550 รองรับต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
718 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป กรณีมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ปี 2549 | ลต | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอกรอบวงเงินงบประมาณราย
จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,151,081,200 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้ง ทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2549 และให้ขอตกลงในรายละเอียดการใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณที่ ต้องจ่ายจริงต่อไป รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเร่งดำเนินการรณรงค์ให้ประชาชนออก มาใช้สิทธิเลือกตั้งให้ทั่วถึง และเป็นไปอย่างโปร่งใส สุจริต และเที่ยงธรรมอย่างแท้จริง
|
|||||||||||||||||||||||||||
719 | การพิจารณาทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ | นร | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) เสนอผล
การพิจารณาทบทวนแผนงาน/โครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด ตามมติคณะรัฐมน ตรีในการประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ดังนี้ โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 รวมทั้งสิ้น 90 โครงการ วงเงิน 2,392.144 ล้านบาท ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ พิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณปกติของหน่วยงานเป็นอันดับแรก หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง ตามความจำเป็นที่ต้องใช้ จ่ายจริงโดยรีบด่วน สำหรับโครงการที่อยู่ในแผนดำเนินงานปี 2550 เห็นควรที่รัฐมนตรีและหน่วยงานได้ดำเนิน การเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยให้ถือเป็นโครงการที่มีลำดับความสำคัญ สูง ในส่วนของโครงการที่ขาดรายละเอียดหรือไม่มีความพร้อมหรือมีปัญหาอุปสรรคอื่น ให้หน่วยงานรีบจัดทำ รายละเอียดโครงการและเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ เห็น ควรให้มีระบบการติดตามผลการดำเนินงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของหน่วย งานซึ่งรับผิดชอบโครงการ กำกับติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานของหน่วยงานเพื่อให้การดำเนินงานโครงการ เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลและให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงบประมาณและส่วนราชการที่เกี่ยว ข้องยึดแผนงาน/โครงการ ฯ ซึ่งได้ผ่านการทบทวนและจัดลำดับความสำคัญนี้ ในการจัดสรรงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้จัดตั้งคำของบประมาณดังกล่าวตามแนวทางและแผนงานโครงการเป็น ลำดับความสำคัญสูงสุด และจะต้องปรับลดงาน และโครงการเดิมของหน่วยงานที่มิได้อยู่ในแผนงานนี้ โดย สำนักงบประมาณพิจารณางบประมาณฯ ปี พ.ศ. 2550 ตามหลักฐานศูนย์ (Zero base budgeting) และสำนัก งบประมาณควรให้ความสำคัญ และมีส่วนร่วมในการพิจารณาจัดทำแผนงานโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การ พัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด รวมทั้งจะต้องติดตามและรายงานการใช้งบกลางของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ จะต้องรับผิดชอบในกรณีที่โครงการที่ของบประมาณ ดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ ไปประกอบการดำเนินการที่เกี่ยวข้องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
720 | ยุทธศาสตร์ 4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ. 2548 - 2551) | นร | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอยุทธศาสตร์
4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ. 2548-2551) ที่ได้ปรับปรุงตามที่ได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 14 ธันวาคม 2547 แล้ว และให้คณะกรรมการ เพื่อกำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำนินงานตาม ยุทธศาสตร์ 4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ. 2548-2551) รับไปจัดทำข้อมูลรายละเอียดของการดำเนินการ ตามแผนงาน โครงการ/กิจกรรม ภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้ชัดเจน ครบถ้วน ครอบคลุมถึงลักษณะกิจ กรรม สถานที่ ระยะเวลา หน่วยงานที่รับผิดชอบ จำนวนงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับ ข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี รวมทั้งความเห็นของส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาประกอบการ ดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีมีดังนี้ สถานที่ตั้งของศูนย์กีฬาหรือสนามกีฬา ควรมีการกระจายตัวอย่างเหมาะสม โดยมีสำรวจตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับอาคาร สถานที่ และสนามกีฬา ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วประกอบการพิจารณาด้วย และในกรณีที่จะต้องก่อสร้าง ขึ้นใหม่ ก็จะต้องเป็นไปตามรูปแบบและมาตรฐานที่เป็นยอมรับกันทั่วไป อย่างไรก็ตาม ควรใช้ทรัพยากร ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์มากที่สุดก่อน เช่น อาคารสถานที่ และสนามกีฬา เป็นต้น ส่วนการก่อ สร้างหรือจัดหาใหม่ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และให้ขอความร่วมมือและขอรับการสนับสนุนจาก ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชน โดยให้องค์กร หน่วยงาน และภาคเอกชน เข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินการและสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยกรณีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาระงบ ประมาณที่ต้องใช้อาจเป็นส่วนหนึ่งของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจะจัดสรรให้ สำหรับภาคเอกชน รัฐบาลอาจ ให้การสนับสนุนจูงใจให้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานและมีผู้รับผิดชอบดำเนินการ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โครงการ/กิจกรรมใดมีความจำเป็นเร่งด่วนหรือต้องดำเนินการต่อเนื่อง และใช้ งบประมาณจำนวนไม่สูงมาก ให้เสนอขอใช้จ่ายจากเงินงบกลาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ได้ตาม ความจำเป็น โดยขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป |
.....