ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 161 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 3201 - 3220 จากข้อมูลทั้งหมด 6672 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3201 | การค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 6 เดือนแรก ปี 2550 (มกราคม - มิถุนายน) | พณ | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 6 เดือนแรก ปี
พ.ศ. 2550 ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2550 ของกระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้ การส่งออกในระยะ 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2550 มีมูลค่า 71,599.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.6 คิดเป็นร้อยละ 49.05 ของเป้าหมายการส่งออก เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกหมวดโดยหมวด สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร ร้อยละ 20.4 สินค้าอุตสาหกรรม ร้อยละ 17.5 และสินค้าอื่น ๆ ร้อย ละ 21.3 สำหรับการนำเข้าในระยะ 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2550 มีมูลค่า 66,093.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นในหมวดวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 13.9 สินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 18.2 สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ร้อยละ 6.3 ส่วน สินค้าเชื้อเพลิง สินค้าทุน และสินค้าอาวุธ ยุทธปัจจัยและสินค้าอื่น ๆ ลดลงร้อยละ 3.9, 2.6 และ 5.0 ตาม ลำดับ ในส่วนของดุลการค้าในระยะ 6 เดือนแรกปี พ.ศ. 2550 ไทยเกินดุลการค้ารวม 5,505.9 ล้านเหรียญ สหรัฐ ฯ
|
||||||||||||||||||||||||
3202 | รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ | พณ | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์
อยู่ดีมีสุขของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอรนุช โอสถานนท์) เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2550 โดยผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการจัดสรร งบประมาณ 53 ล้านบาท เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ฯ ภายในแผนงานหลัก 5 ด้าน คือ ด้านเศรษฐ กิจพอเพียง จำนวน 109 โครงการ งบประมาณ 19.99 ล้านบาท ด้านพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 54 โครงการ งบประมาณ 12.47 ล้านบาท ด้านการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน จำนวน 6 โครงการ งบ ประมาณ 0.52 ล้านบาท ด้านการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ จำนวน 4 โครงการ งบประมาณ 0.81 ล้านบาท และด้านการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 92 โครงการ งบประมาณ 19.20 ล้านบาท โดยมี หมู่บ้าน/ชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์ ฯ จำนวน 223 หมู่บ้าน/ชุมชน คิด เป็นร้อยละ 46.46 ของจำนวนหมู่บ้าน/ชุมชนทั้งหมด สำหรับการจัดสรรงบประมาณในงวดที่ 2 จังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 21 ล้านบาท และได้ปรับปรุงแผนงานที่ 5 เป็นแผนงานสร้างการ เรียนรู้เพื่อสนับสนุนกระบวนการจัดทำแผนชุมชน ซึ่งจังหวัดได้จัดสรรงบประมาณให้อำเภอ/กิ่งอำเภอ ไปดำเนิน การโดยใช้หลักเกณฑ์เดิมในครั้งแรก
|
||||||||||||||||||||||||
3203 | การขายลำไยอบแห้ง ปี 2546 และ ปี 2547 | กษ | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร รายงาน
ผลการขายลำไยอบแห้ง ปี 2546 และปี 2547 ซึ่งสามารถจำหน่ายลำไยอบแห้ง จำนวน 67,176,990 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 5 บาท คิดเป็นมูลค่า 335,884,950 บาท โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบุบเปลือกและค่าใช้ จ่ายในการจำหน่ายตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินกิโลกรัมละ 1 บาท วงเงินรวมไม่เกิน 67.17 ล้านบาท จะให้ทางทหาร ช่วยดำเนินการ แยกเป็นค่าใช้จ่ายในการบุบเปลือกและค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายลำไย ปี 2546 วงเงิน 22.81 ล้าน บาทซึ่งอยู่ภายใต้โครงการรับจำนำลำไยอบแห้งที่ดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ และมอบให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เป็นผู้จำหน่าย จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายลำไยจ่ายทดรองไปก่อน และค่าใช้จ่ายในการบุบเปลือกและ ค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายลำไย ปี 2547 วงเงิน 44.36 ล้านบาท จะใช้เงินกู้โครงการรับซื้อลำไยสดเพื่อแปรรูปและ การตลาดลำไยอบแห้ง ปี 2547 โดยเมื่อมีการจำหน่ายลำไยอบแห้งปี 2546 แล้ว จะได้จ่ายคืนเงินประกันลำไยอบ แห้งกิโลกรัมละ 3 บาท มูลค่า 68 ล้านบาทเศษ ที่เกษตรกรเรียกร้องมาตลอด
|
||||||||||||||||||||||||
3204 | ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในกรอบ GMS, ACMECS, IMT-GT และ BIMSTEC | นร | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ
ดังนี้ รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน ได้แก่ โครงข่ายเส้นทางคมนาคมทางบกตามแนวพัฒนาพื้นเศรษฐกิจ (Economic Corridors) 3 แนวเส้น ทางหลักซึ่งจะครบเต็มระบบในปี พ.ศ. 2554 และมีแผนจะขยายการพัฒนาออกไปอีก 6 แนวเส้นทาง โดยกำหนด เป้าหมายที่จะพัฒนาให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2560 การพัฒนาไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศเพื่อนบ้าน การดำเนินงาน แผนงานพนมเปญซึ่งเป็นแผนงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของอนุภูมิภาค การจัดตั้งศูนย์ประสานการดำเนินงาน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Environment Operation Center, EOC) และด้านการท่องเที่ยว (MTCO) ของอนุภูมิภาคในประเทศไทย และผลการประชุมหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ กระทรวงการต่าง ประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ สศช. ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเห็นควรให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาความ ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน (กพบ.) ชุดใหม่ เพื่อทำหน้าที่กำหนดทิศทาง นโยบาย และยุทธศาสตร์ความร่วม มือระหว่างไทยและเพื่อนบ้านในกรอบ GMS, ACMECS, IMT-GT และ BIMSTEC ให้มีความเป็นเอกภาพ บูรณา การ และประสิทธิภาพในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำหนดแนวทางการให้ความช่วย เหลือแก่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สศช. ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ และมีองค์ประกอบ ของคณะกรรมการดังกล่าวรวม 30 ท่าน รวมทั้งเห็นชอบในหลักการการแต่งตั้ง กพบ. ชุดใหม่ ทั้งนี้ ให้ สศช. รับ ข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรเพิ่มเติมผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน เช่น ประธาน GMS Business Forum และ รัฐมนตรีหรือปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องในองค์ประกอบของ กพบ. โดยให้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์) ก่อนนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนามในคำสั่งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
3205 | รายงานการส่งออกข้าวของไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2550 | พณ | 01/08/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการส่งออกข้าวของไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2550
ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2550 ของกระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้ การส่งออกข้าว ในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2550 มีการส่งออกประมาณ 4.074 ล้านตัน มูลค่า 1,508.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ (52,983.7 ล้านบาท) ราคาส่งออกเฉลี่ยตันละ 370 เหรียญสหรัฐ ฯ (13,004 บาท) โดยสูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งส่งออกได้ 3.715 ล้านตัน มูลค่า 1,205.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ (46,983.0 ล้านบาท) ราคาส่งออกเฉลี่ยตันละ 324 เหรียญสหรัฐ ฯ (12,647 บาท) โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ เซเนกัล เบนิน อิหร่าน อินโดนีเซีย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ จีน สหรัฐ ฯ และโกตดิวัวร์ สำหรับแนวโน้มการส่งออกข้าว ในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2550 คาดว่า ประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ยังคงมีความต้องการข้าวปริมาณมาก โดยเฉพาะอินโดนีเซีย อิหร่าน อิรัก และฟิลิป ปินส์ จะมีการนำเข้าข้าวเพิ่มเติมเพื่อชดเชยผลผลิตและสต็อกข้าวที่ลดลง ในขณะที่ประเทศคู่แข่งหลายประเทศมี สต็อกข้าวปริมาณจำกัด โดยเฉพาะเวียดนาม สถานการณ์ข้าวภายในประเทศค่อนข้างตึงตัวและระงับการส่งออก ข้าวในช่วงไตรมาสที่ 3 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2550 ส่งผลให้ประเทศผู้นำเข้าดังกล่าวหันมานำเข้าจากไทย มากขึ้น ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันการส่งออกข้าวตามแผนการตลาด และแผนการระบายข้าว สารในสต็อกรัฐบาลต่อเนื่องเพื่อให้การส่งออกข้าวในปี พ.ศ. 2550 บรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ปริมาณ 8.5 ล้านตันมูลค่า 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
|
||||||||||||||||||||||||
3206 | แผนการแก้ไขปัญหาด้านการตลาดผลผลิตลองกองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฤดูกาลผลิต ปี 2550 | มท | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการตลาดผลผลิต
ลองกองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฤดูกาลผลิตปี 2550 โดยกำหนดให้เกษตรกรชาวสวนลองกองจำหน่ายผล ผลิตลองกอง ณ ศูนย์รวบรวมในจังหวัด เกรด B ราคากิโลกรัมละ 20-25 บาท เกรด C ราคากิโลกรัมละ 18-20 บาท และให้กระจายผลผลิตลองกองจากศูนย์รวบรวมในระดับจังหวัดไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ และต่างประเทศ ผ่านพ่อ ค้าภาคเอกชน และกลไกภาครัฐ รวมทั้งมีการจัดงานเทศกาลผลไม้ การจัดงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อส่ง เสริมการขายภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงพาณิชย์ ส่วนงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของ สำนักงบประมาณที่ให้ดำเนินการภายในวงเงินไม่เกิน 185,000,000 บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้รับความเห็นของสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการสนับสนุนประสิทธิภาพ ของศูนย์คัดแยกชุมชน และจุดรวบรวมของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้สามารถจัดการผลผลิตได้อย่างเหมาะสม และ สามารถลดการสูญเสียได้ และในการกระจายผลผลิตลองกองควรดำเนินการในปริมาณที่สอดคล้องกับความต้อง การของตลาดในประเทศและการส่งออก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตลองกองในภาพรวม ไป พิจารณาประกอบการดำเนินงานด้วย |
||||||||||||||||||||||||
3207 | การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การดื่มน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ | พณ | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอโครงการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การ |
||||||||||||||||||||||||
3208 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงพาณิชย์) (นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์) | พณ | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้ง นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ ให้ดำรง
ตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ 10 ชช.) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤษภาคม 2550 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
|
||||||||||||||||||||||||
3209 | รายงานผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ | พณ | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสรุปผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ ประเทศสาธารณรัฐ
แอฟริกาใต้ ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอรนุช โอสถานนท์) ช่วงระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน-1 กรกฎาคม 2550 เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงสินค้า Thailand Exhibition 2007 ณ เมืองเคปทาวน์ ซึ่งจัด ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยวัตถุประสงค์ของงานจัดงานในครั้งนี้ เพื่อขยายการส่งออกสินค้าและธุรกิจบริการของไทยไปยัง สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคแอฟริกาใต้ ตลอดจนผลักดันการสร้างเครือข่ายธุรกิจ และหา แนวทางการค้า การลงทุน มีนักธุรกิจเข้าชมงานเพื่อเจรจาการค้าและผู้ซื้อทั่วไปรวมทั้งสิ้น 6,638 คน อยู่ระหว่าง การติดตามผลการเจรจาการค้า ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อทันทีมากกว่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 44 ล้านบาท และมูลค่าการสั่งซื้อภายใน 1 ปี คาดว่ามากกว่า 22 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 814 ล้านบาท ทั้งนี้ สินค้าที่ได้รับความสนใจและมีศักยภาพสูงในตลาดนี้ ได้แก่ เครื่องประดับแฟชั่น ของตกแต่งบ้าน (โดยเฉพาะ ดอกไม้ประดิษฐ์ และผลิตภัณฑ์ไม้) เสื้อผ้า อาหารกระป๋อง ข้าว เครื่องหนัง เครื่องเขียน และของใช้ในบ้าน สำหรับ ธุรกิจบริการที่ได้รับความสนใจมาก ได้แก่ ธุรกิจการท่องเที่ยว และสปา ในการนี้รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงพาณิชย์ ได้พบปะและหารือถึงแนวทางความร่วมมือทางการค้าร่วมกับสภาหอการค้าแอฟริกาใต้ และผู้นำเข้าสินค้าไทยราย สำคัญ รวมทั้งได้ร่วมพิธีลงนาม M.O.U. ระหว่างผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของไทยและผู้นำเข้าซึ่งทำการเจรจาตกลงซื้อ ขายขาวนึ่ง 100% กับผู้นำเข้าข้าวแอฟริกาใต้ โดยมีปริมาณซื้อ-ขายรวม 400,000 ตัน และมีกำหนดการส่งมอบ ภายในปี พ.ศ. 2550 และช่วงต้นปี พ.ศ. 2551 คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 132 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
3210 | ขอถอนร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 [การสมัครเข้าเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Paris Convention for the Protection of Industrial Property) และสนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (Patent Cooperation Treaty)] | พณ | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขอถอนร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออก
ตามความในพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 (การสมัครเข้าเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการ คุ้มครองทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Paris Convention for the Protection of Industrial Property) และสนธิ สัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (Patent Cooperation Treaty)) ออกจากการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกา และให้แจ้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
3211 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาในการยื่นคำขอทบทวนความจำเป็นในการต่ออายุการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุน พ.ศ. .... | พณ | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขอถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธี
การและระยะเวลาในการยื่นคำขอทบทวนความจำเป็นในการต่ออายุการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและ การอุดหนุน พ.ศ. .... ออกจากการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้แจ้งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
3212 | การประชุมแถลงผลการดำเนินการตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี รัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 | พณ | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำเอกสาร "ผลการดำเนินงานของกระทรวง
พาณิชย์ในรอบ 6 เดือน" (ตุลาคม 2549-มีนาคม 2550 พร้อมข้อเท็จจริงและคำตอบคำอภิปรายของสมาชิกสภานิติ บัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550
|
||||||||||||||||||||||||
3213 | การค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 5 เดือนแรก ปี 2550 (มกราคม - พฤษภาคม) | พณ | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 5 เดือนแรก ปี 2550
(เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2550) ของกระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้ การส่งออกในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2550 มีมูลค่า 58,747.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 คิดเป็นร้อยละ 40.25 ของเป้าหมายการส่งออก เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกหมวด โดยหมวดสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการ เกษตร ร้อยละ 20.8 สินค้าอุตสาหกรรม ร้อยละ 17.2 และสินค้าอื่น ๆ ร้อยละ 23.2 สำหรับการนำเข้าในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2550 มีมูลค่า 53,420.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 15.5 สินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 18.6 สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ร้อยละ 6.6 ส่วนหมวดสินค้าที่มีการนำเข้าลดลง ได้แก่ หมวด สินค้าเชื้อเพลิง ร้อยละ 11.4 สินค้าทุน ร้อยละ 4.1 และสินค้าอาวุธ ยุทธปัจจัยและสินค้าอื่น ๆ ร้อยละ 6.4 ใน ส่วนของดุลการค้าในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2550 เกินดุลการค้ารวม 5,326.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ
|
||||||||||||||||||||||||
3214 | การตรวจเยี่ยมและการติดตามการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดเพชรบุรี ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจเยี่ยมและการติดตามการดำเนินงานตามยุทธ
ศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดเพชรบุรี ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอรนุช โอสถานนท์) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2550 โดยผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จังหวัดเพชรบุรีได้รับงบประมาณ จำนวน 50 ล้านบาท ดำเนินโครงการ 457 โครงการ ใน 5 แผนงานหลักของยุทธศาสตร ฯ จำแนกเป็น ด้านเศรษฐกิจ พอเพียง จำนวน 179 โครงการ งบประมาณ 13.99 ล้านบาท ด้านการพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 155 โครงการ งบประมาณ 16.18 ล้านบาท ด้านการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน จำนวน 48 โครงการ งบประมาณ 11.67 ล้านบาท ด้านการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ 16 โครงการ งบประมาณ 0.72 ล้านบาท และด้านการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 59 โครงการ งบประมาณ 7.41 ล้านบาท ทั้งนี้ ในจำนวน 457 โครงการ ดำเนินการใน 8 อำเภอ เป็นโครงการที่หมู่บ้าน/ชุมชนดำเนินการ จำนวน 447 โครง การ และมอบหมายให้หน่วยราชการเป็นหน่วยดำเนินการ จำนวน 10 โครงการ สำหรับข้อเสนอของจังหวัด เพชรบุรีได้มีการเสนอขอเพิ่มแผนงานหลักของยุทธศาสตร์ ฯ จาก 5 ด้าน เพิ่มอีก 1 ด้าน คือ แผนงานด้านอื่น ๆ และการสนับสนุนการขยายตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น (OTOP) เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
3215 | มาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. ....) | มท | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในระหว่าง
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... ยังไม่มีผลใช้บังคับ ของกระทรวงมหาดไทย โดยออก กฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ฯ อาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง รวม 145 ฉบับ โดยอาศัย อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเพื่อควบคุมการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ในเขตผังเมือง และได้แจ้งเวียนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาเรื่อง การ ขออนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ให้เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ และถูกต้อง ตามกฎหมาย ส่วนมาตรการด้านกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ได้ให้แต่ละจังหวัดออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ในการวางและจัดทำผังเมือง รวมทั้งได้แจ้งให้กระทรวงพาณิชย์เร่งออก กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบกิจการทางการค้าหรือการขยายกิจการทางการค้า ให้มีผลบังคับใช้โดย เร็ว
|
||||||||||||||||||||||||
3216 | การตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ณ จังหวัดสมุทรสงคราม ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์
อยู่ดีมีสุข ณ จังหวัดสมุทรสงคราม ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2550 สรุปผลการ ดำเนินงานในภาพรวมได้ดังนี้ จังหวัดสมุทรสงครามได้รับงบประมาณตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 49 ล้าน บาท และได้กำหนดกรอบวงเงินในการจัดสรรงบประมาณยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขไว้ 2 ส่วน คือ ร้อยละ 70 จัดสรรให้ หมู่บ้าน/ชุมชนเฉลี่ยเท่ากัน 159,090 บาท/หมู่บ้าน และร้อยละ 30 จัดสรรให้ส่วนราชการไปดำเนินการ รวมทั้ง สิ้น 624 โครงการ ส่วนปัญหาอุปสรรคของจังหวัดสมุทรสงคราม อาทิ ปัญหาการประกอบอาชีพ : ลิ้นจี่ ที่ประสบ ปัญหาผลผลิตมากราคาตกต่ำ ปัญหาน้ำเค็ม : ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเพาะปลูก ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค : เนื่องจากน้ำบาดาลกร่อยเค็มในปี พ.ศ. 2549 ปัญหาการใช้แรงงานต่างด้าว : ในภาคประมงต้องใช้แรง งานต่างด้าว มีปัญหาการขาดแคลน ปัญหาขยะและน้ำเสีย เป็นต้น ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ มอบนโยบายการดำเนินงานโดยขอให้จังหวัดใช้ประโยชน์จากการเป็นจังหวัดที่จะผ่านออกสู่จังหวัดในภาคใต้โดยดึง จุดเด่นของจังหวัดที่เป็นเมืองอาหารปลอดภัย เมืองท่องเที่ยว เมืองเกษตรกรรมและประมง ร่วมกับการก่อสร้างกิจ กรรมเพื่อดึงคนเข้ามาภายในจังหวัด เพื่อเพิ่มรายได้เข้าสู่จังหวัด
|
||||||||||||||||||||||||
3217 | การปรับเปลี่ยนระบบการบริหารโควตามันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศไทย | พณ | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอสาระของความตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ
ไทยกับประชาคมเศรษฐกิจยุโรปในเรื่องการผลิต การตลาด และการค้ามันสำปะหลัง โดยยืนยันปริมาณโควตานำ เข้ามันสำปะหลังไทย ในระยะเวลา 4 ปี จำนวน 21 ล้านตัน เฉลี่ยปีละ 5.25 ล้านตัน ยืดหยุ่นได้ไม่เกิน 5.75 ล้าน ตันต่อปี เพิ่มจากเดิมที่ยืดหยุ่นได้ไม่เกิน 5.5 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ สหภาพยุโรปจะบริหารโควตา โดยวิธีการ First Come First Served และฝ่ายไทย โดยกรมการค้าต่างประเทศจะเป็นผู้ออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า Certificate of Origin (C/O) ประกอบการส่งออก โดยจะเริ่มใช้ระบบบริหารใหม่นี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 และมอบให้เอก อัครราชทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์ หรือผู้แทน เป็นผู้แทนไทยลงนามในบันทึกความตกลงแก้ไขมาตรา 5 ของพิธี สารความร่วมมือดังกล่าว รวมทั้งสามารถปรับปรุงถ้อยคำในร่างบันทึกความตกลงได้โดยไม่เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงบรัส เซลส์ หรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามในบันทึกความตกลง ฯ
|
||||||||||||||||||||||||
3218 | สรุปผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐคาซัคสถาน สหพันธรัฐรัสเซีย และยูเครน | พณ | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐคาซัคสถาน
สหพันธรัฐรัสเซีย และยูเครน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้แทนไทย ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการ ระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ผู้บริหารบริษัท ปตท. (มหาชน) จำกัด และนักธุรกิจขนาดกลางและเล็ก 37 บริษัท ระหว่างวันที่ 10-18 มิถุนายน 2550 มีวัตถุประสงค์ เพื่อหารือเรื่องการขยายการค้าสินค้าและการค้าบริการ และการลงทุน ความร่วมมือ/ลงทุนด้านพลังงาน การท่อง เที่ยว และการจับคู่ธุรกิจเพื่อสร้างเครือข่ายการค้า โดยผลการหารือ ไทยกับคาซัคสถาน และไทยกับยูเครน ได้เห็น ชอบให้มีการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน โดยในส่วนของไทยกับคาซัคสถาน เห็นชอบที่จะสนับสนุนให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศจัดตั้งสภาธุรกิจ (business council) ระหว่างกัน นอกจาก นี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ปตท.(มหาชน) จำกัด ได้มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท พลังงานแห่งชาติคาซัคสถานซึ่งเป็นโอกาสดีในการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือทางธุรกิจพลังงานระหว่าง กันในอนาคต รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจรัสเซีย และยูเครน ซึ่งประสบ ความสำเร็จทั้งด้านมูลค่าการค้าและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักธุรกิจด้วยกัน นอกจากนี้ ยูเครนได้ขอให้ไทย เร่งพิจารณาจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนและพิจารณาให้สถานภาพการเป็น market economy ต่อยูเครน
|
||||||||||||||||||||||||
3219 | การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) แก่สินค้ายานยนต์มาเลเซีย | กค | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้เขตการค้า
เสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) แก่สินค้ายานยนต์มาเลเซีย ตามมติคณะกรรมการนโยบายเศรษฐ กิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 30 เมษายน 2550 ที่มีมติเห็นชอบการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี แก่สินค้ายานยนต์ชนิด Completely Built-Up (CBU) จากมาเลเซียภายใต้ AFTA และมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการพิจารณาถ้อยคำที่จะแจ้งมาเลเซีย รวมทั้งเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อ ติดตามผลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ให้หน่วยงาน AFTA ของไทยติดตามผลการนำเข้าหลังจากที่ไทยได้ให้สิทธิประโยชน์ ทางภาษีดังกล่าวแก่มาเลเซีย และรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่า ในการระบุว่ามาเลเซียได้ดำเนิน การตามพันธกรณีภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2549 เป็นต้นมา ไม่สอดคล้องกับ ข้อมูลจากเอกสารนโยบายรถยนต์แห่งชาติมาเลเซีย ฉบับลงวันที่ 22 มีนาคม 2549 และไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่ ได้รับจากกลุ่มผู้ประกอบการ และในการกำหนดว่าจะให้สินค้ายานยนต์จากมาเลเซียใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีภาย ใต้ AFTA ได้ตั้งแต่เมื่อใด นั้น อาจมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการนำรายได้ภาษีของภาครัฐไปให้กับเอกชนบางราย จึงควร ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการ ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
3220 | การจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ในบริษัทจังหวัด | พณ | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการจำหน่ายหุ้นของบริษัทจังหวัดที่มีราคาเกิน
กว่า 10 ล้านบาท จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท กระบี่จังหวัดพาณิชย์ จำกัด จำนวน 20.438 ล้านบาท บริษัท นครปฐมจังหวัดพาณิชย์ จำกัด จำนวน 19.596 ล้านบาท บริษัทสุราษฎร์ธานีจังหวัดพาณิชย์ จำกัด จำนวน 16.256 ล้านบาท บริษัท นครราชสีมาจังหวัดพาณิชย์ จำกัด จำนวน 15.152 ล้านบาท และบริษัท กาญจนบุรี จังหวัดพาณิชย์ จำกัด จำนวน 12.232 ล้านบาท
|