ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 169 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 3361 - 3380 จากข้อมูลทั้งหมด 6672 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3361 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมีนาคม และไตรมาสแรกของปี 2549 | พณ | 18/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้
บริโภคทั่วไป ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมีนาคม 2549 และไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2549 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วประเทศเดือนมีนาคม 2549 เท่ากับ 113.0 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2549 (111.9) สูงขึ้นร้อยละ 1.0 เป็นผลมาจากการสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น มะนาว ผักคะน้า และผักชี โดยเฉพาะส้มเขียวหวานราคาสูงขึ้น ไข่ไก่ราคาเริ่มขยับสูงขึ้น และน้ำตาล ทรายปรับราคาสูงขึ้นจากการปรับราคาควบคุมน้ำตาลทรายอีก 3 บาทต่อกิโลกรัม ในส่วนของดัชนีหมวด อื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.3 จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ในขณะที่ราคา สินค้าอุปโภคต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลง เช่น ผงซักฟอก ยาสีฟัน แชมพู น้ำยาปรับผ้านุ่ม และถ้าพิจารณาเทียบ กับเดือนมีนาคม 2548 ดัชนีราคาสูงขึ้นเล็กน้อย สำหรับช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2549 ดัชนีราคาสูงขึ้น ร้อยละ 5.7 จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 4.1 สินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่ อาหารและเครื่องดื่มดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 6.8 ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมีนาคม 2549 เท่ากับ 103.8 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2549 สูงขึ้นร้อยละ 0.1 เดือนมีนาคม 2548 สูงขึ้นร้อย ละ 2.6 และไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2549 (ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2549 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2548) สูงขึ้นร้อยละ 2.6
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3362 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (นางอรสา มั่นคงขันติวงศ์ และ นางปราณี ภาษีผล) | พณ | 11/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
ระดับ 10 จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นางอรสา มั่นคงขันติวงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ 10 ชช) สำนักงานปลัดกระทรวง และนางปราณี ภาษีผล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการ พาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ 10 ชช) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งเป็นวันที่ มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3363 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงพาณิชย์) (นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์) | พณ | 11/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งนางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอ เรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3364 | การค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2549 (มกราคม - กุมภาพันธ์) | พณ | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับรายงานการค้าระหว่างประเทศ
ของไทยในระยะ 2 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2549 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2549 สรุปได้ดังนี้ การส่งออก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 มีมูลค่า 9,515 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 22.8 และมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่อง จากการขยายตัวของสินค้าเกษตรกรรม/อุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้า อุตสาหกรรม ส่วนการนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 มีมูลค่า 9,801.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับเดือน เดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.0 และเทียบกับเดือนมกราคม 2549 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 สินค้าที่มีมูลค่า การนำเข้าสูง ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง ทุน วัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป สำหรับดุลการค้าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ไทยขาด ดุลการค้า 286.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับเดือนมกราคม 2549 การขาดดุลลดลง ร้อยละ 35.1 ทำให้ใน ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2549 ไทยขาดดุลการค้า 728.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประมาณร้อยละ 60.0
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3365 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" | พณ | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" และความ เห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ อาทิเช่น การสร้างระบบการจัดเก็บค่าลิข สิทธิ์และเพิ่มบทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยการจัดตั้งองค์กรกลางเพื่อทำ หน้าที่ดูแลการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกลาง และปรับปรุงบทกำหนดโทษ ในพระราชบัญญัติ ฯ โดยนำโทษทางอาญา เฉพาะโทษปรับมาใช้กับการกระทำละเมิด เว้นแต่การละเมิดลิข สิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่จะนำโทษจำคุกมาใช้รวมทั้งกำหนดอัตราโทษตามความหนักเบาของพฤติการณ์ ความร้ายแรงของการละเมิดโดยแบ่งฐานความผิดออกเป็น 3 ระดับคือ ความผิดทั่วไปความผิดเพื่อการค้าขนาด เล็กและความผิดเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ และกำหนดโทษจำคุกเฉพาะการละเมิดลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ ขนาดใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้ จะดำเนินการให้มีการทบทวนกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างสม่ำเสมอเป็นระยะ ๆ เพื่อ ให้กฎหมายทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและเศรษฐกิจของโลกสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ระหว่าง ประเทศ และเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยในขณะนั้น เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3366 | ข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยสินค้าประมงและผลิตภัณฑ์นำเข้าและส่งออกระหว่างไทยและเกาหลี | กษ | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ เห็นชอบ
ในหลักการข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยสินค้าประมงและผลิตภัณฑ์ นำเข้าและส่งออกระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงพาณิชย์นาวีและกิจ การประมง สาธารณรัฐเกาหลี กับอนุมัติให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ปลัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์มอบหมาย เป็นผู้ลงนามในข้อตกลง ฯ โดยหากมีการแก้ไขข้อความในข้อตกลงในถ้อยคำที่ไม่ใช่สาระ สำคัญให้อยู่ในดุลยพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ และเห็นชอบในกรณีที่หากระยะต่อไปจะมีการจัดทำพิธีสารหรือความตกลงอื่น ๆ ทางเทคนิคเฉพาะด้านภาย ใต้ข้อตกลง ฯ แล้ว มอบหมายให้เป็นดุลยพินิจและการลงนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีก โดยให้หารืออย่างใกล้ชิดกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวง การต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีที่จะมีการจัดทำพิธีสารหรือความตกลง อื่น ๆ ทางเทคนิคเฉพาะด้าน ซึ่งมอบให้เป็นดุลยพินิจและการลงนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ โดยไม่ต้องเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีกนั้น จะต้องเป็นการจัดทำพิธีสารหรือความตกลงอื่น ๆ ภายใต้ความตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมกันระหว่างไทยและเกาหลีเฉพาะด้านการประมงเท่านั้น และให้ตรวจ สอบข้อความในมาตรา 7 กระบวนการแจ้ง (ก) ให้ถูกต้องและสอดคล้องกับข้อความภาษาอังกฤษตาม Article 7 Notification Procedure (a) ด้วย นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) ควรจัดเตรียมข้อ มูลรายชื่อหน่วยงานตรวจสอบรับรองสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงของฝ่ายไทยให้ครบถ้วน เพื่อพร้อมชี้แจงและ แจ้งแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ในการประชุมนัดแรก โดยให้คำนึงถึงนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารที่เน้นให้ มีการกระจายการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ โดยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ และกรมประมงทำหน้าที่เป็น หน่วยงานรับรองหน่วยตรวจสอบของภาคเอกชนดังกล่าว ไปดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3367 | ขออนุมัติงบกลางสำหรับดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี | พณ | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่องขออนุมัติงบกลางสำหรับดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องใน
วโรกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยให้กระทรวงพาณิชย์นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการฝ่าย โครงการและกิจกรรม [รองนายกรัฐมนตรี (นายสุชัย เจริญรัตนกุล) เป็นประธาน] ในคณะกรรมการอำนวย การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พิจารณาก่อน หากคณะกรรมการฝ่ายโครงการ ฯ เห็นชอบ ให้นำ เสนอคณะกรรมการอำนวยการฯ พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณไปประกอบการ พิจารณาด้วยในกรณีขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการ ฯ เนื่องจากขณะนี้งบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น มีจำนวน จำกัด และยังมีภารกิจในด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ เช่น ภัย ธรรมชาติ สาธารณภัย และอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นรอการจัดสรรอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อ โครงการหรือกิจกรรมที่เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติใด ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แล้ว ก็เห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 หรือใช้เงินเหลือจ่ายไปดำเนินการในลำดับแรกก่อน โดยให้ถือปฏิบัติตาม ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2550 รองรับต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3368 | หลักปฏิบัติในการนำเข้าสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามแนวชายแดนทางบก | นร | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเนวิน ชิดชอบ) เสนอหลัก
ปฏิบัติในการนำเข้าสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้เข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชายแดนทางบกจังหวัดกาญจนบุรีและ จังหวัดตาก โดยให้จังหวัดและคณะกรรมการบริหารกำกับดูแลการนำเข้า-ส่งออกของทั้งสองจังหวัด ดำเนินการ ตรวจสอบสต็อคสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้ของผู้ประกอบการในจังหวัดทั้งหมด ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกา ยน 2548 เพื่อให้ข้อมูลมีความสมบูรณ์ครบถ้วนและตรวจสอบได้ เมื่อจะมีการอนุญาตให้นำเข้าสิ่งประดิษฐ์ที่ทำ ด้วยไม้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2548 อนุมัติให้ผ่อนปรนการนำเข้าสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้ตาม แนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 อนุมัติหลักเกณฑ์การนำเข้า ไม้และสิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้ตามแนวชายแดนจังหวัดตาก ต่อไป และกระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศเรื่องการ นำเข้าไม้และไม้แปรรูป รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นๆ ที่ทำด้วยไม้เข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชาย แดนจังหวัดตากและจังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 อนุมติให้นำสิ่งประดิษฐ์ที่ทำ ด้วยไม้หวงห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านพรมแดนเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และ จุดนำเข้า-ส่งออก ในเขตอำเภอแม่สอด และอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตากประกาศ กำหนด โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องมีใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าหรือหลักฐานการอนุญาตให้ส่งออกของประเทศที่ส่ง ออก มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2548 |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3369 | ร่างข้อตกลง (Arrangement) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้ากับ The United States Commodity Futures Trading Commission | พณ | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับสาระสำคัญของางข้อตกลง
(Arrangement) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) กับ The United States Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ (Independent Agency) ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยร่างความตกลงดังกล่าวเป็นความร่วมมือด้านกฎระเบียบและความ ช่วยเหลือด้านวิชาการระหว่างสองหน่วยงาน ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการ ด้วยว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลทั่วไปและข้อมูลลับตามข้อบทในร่างข้อตกลงข้อ 5 นั้น ก.ส.ล. ควรจำกัดขอบ เขตของข้อมูลไว้เฉพาะข้อมูลที่ ก.ส.ล. มีอยู่แล้ว และอยู่ในกรอบของพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตร ล่วงหน้า พ.ศ. 2542 เท่านั้นไม่ใช่ข้อมูลที่ต้องไปตรวจสอบให้ใหม่ ซึ่งเป็นการดำเนินการในทำนองเดียวกับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เคยทำข้อตกลงกับหน่วยงาน ของต่างประเทศไว้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3370 | ร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ. .... | พณ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล
และห้องเย็น พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3371 | การกำหนดสินค้าและบริการควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า
และบริการ (กกร.) ที่มีมติกำหนดให้สินค้า 17 รายการ เป็นสินค้าควบคุมต่อไป ได้แก่ (1) กระดาษทำลูก ฟูก (2) กระดาษพิมพ์และเขียน (3) กระดาษเหนียว (KRAFT PAPER) (4) ครีมเทียมข้นหวาน นมข้น นมคืน รูป นมแปลงไขมัน (5) แชมพู (6) น้ำยาซักฟอก (7) ปูนซีเมนต์ (8) ผงซักฟอก (9) ผลิตภัณฑ์ล้างจาน (10) ผ้าอนามัย (11) เม็ดพลาสติก (12) ยางรถจักรยานยนต์ ยางรถยนต์ (13) เยื่อกระดาษ (14) สบู่ (15) สายไฟฟ้า (16) สุกร เนื้อสุกร และ (17) อาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท รวมทั้งยกเลิกการกำหนด สินค้าควบคุม 2 รายการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำ และเนื้อไก่ เนื้อไก่ชำแหละ และให้ดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3372 | รายงานการพิจารณา เรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาการผลิต การตลาดสุกรอย่างยั่งยืน | นร | 13/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข เสนอผลการดำเนินการเรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาการ ผลิต การตลาดสุกรอย่างยั่งยืน ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ในภาพ รวม สรุปได้ดังนี้ ได้มีการขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศเพื่อให้การอบรมผู้เลี้ยงสุกรให้มีความรู้ และพัฒนา ฟาร์มสุกรเข้าสู่มาตรฐานฟาร์ม ขึ้นทะเบียนโรงฆ่าทั้งประเทศ จัดทำเกณฑ์มาตรฐานโรงฆ่า บังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ฟาร์มสุกรขนาดกลางและขนาดใหญ่ดำเนินการบำบัดน้ำเสียให้เป็นไปตามมาตรฐาน ส่งเสริมและสนับ สนุนการนำเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดมาประยุกต์ใช้ในระบบการจัดการฟาร์ม ส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วน ร่วมในการลงทุนและดำเนินการทั้งการจัดสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย/กำจัดของเสียรวม และการจัดสร้างโรงฆ่า สัตว์ที่ทันสมัย กำหนดเขตการเลี้ยงสุกรหรือนิคมการเลี้ยงสุกรเพื่อให้การบริหารจัดการด้านการผลิตและด้าน สิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 8 แห่ง จัดมุมจำหน่าย เนื้อสุกรธงฟ้าในช่วงที่เกิดภาวะผลผลิตสุกรขาดแคลนหรือมีมากเกินความต้องการ กำหนดให้มีคณะกรรมการ นโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ทำหน้าที่กำหนดแนวทางการพัฒนาการผลิต การตลาด การแก้ไขปัญหา และอุปสรรคในเรื่องเกี่ยวกับสุกรและผลิตภัณฑ์ทั้งระบบ การดำเนินโครงการตลาดสด น่าซื้อ รวมทั้งปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ ให้เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมกับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ เป็นต้น และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอ เรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3373 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2549 | พณ | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดัชนีราคา
ผู้บริโภคทั่วไป และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2549 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคาผู้ บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เท่ากับ 111.9 เทียบกับเดือนมกราคม 2549 (111.6) สูง ขึ้นร้อยละ 0.3 จากการสูงขึ้นของราคาผลไม้ และสัตว์น้ำ ในขณะที่ราคาอาหารสดต่าง ๆ ได้แก่ เนื้อหมู่ ไก่ สด ไข่ ปลา และผักสด ราคาลดลง ส่วนดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 0.5 ส่งผล ให้ดัชนีในเดือนนี้สูงขึ้นร้อยละ 0.3 ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าสาธารณูปโภค ได้แก่ ค่ากระแส ไฟฟ้า และค่าโดยสารสาธารณะ ในขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงเล็กน้อย เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมัน เบนซินลดลง สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เท่ากับ 103.7 เทียบ กับเดือนมกราคม 2549 สูงขึ้นร้อยละ 0.3 และเดือนกุมภาพันธ์ 2548 สูงขึ้นร้อยละ2.7
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3374 | รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (เรื่อง การให้สิ่งจูงใจเพื่อให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากภาคเอกชนและราชการมาปฏิบัติงานในสำนักงานยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ) | พณ | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมติ
คณะรัฐมนตรี (เรื่อง การให้สิ่งจูงใจเพื่อให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากภาคเอกชนและราชการมา ปฏิบัติงานในสำนักงานยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ) ที่มอบให้กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาร่วมกับ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. โดยเห็นสมควรว่าจะไม่เสนอขอสิ่งจูงใจให้กับบุคลากรที่มาช่วยปฏิบัติ งานในสำนักงาน ฯ แล้ว และเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 ในประเด็น ที่เกี่ยวกับการกำหนดสิ่งจูงใจเพื่อให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากภาคเอกชนและราชการมาปฏิบัติ งานในสำนักงานยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3375 | การแก้ไขปัญหาการนำเข้าไม้ตามแนวชายแดนจังหวัดตราด | นร | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเนวิน ชิดชอบ) เสนอแนว
ทางการแก้ไขปัญหาการนำเข้าไม้ตามแนวชายแดนจังหวัดตราด โดยให้ใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาการนำเข้า ไม้ตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2548 กรณีไม้ ที่นำเข้ามาก่อนระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการกำหนดด่านศุลกากรนำไม้เข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับ ที่ 2) พ.ศ. .... ใช้บังคับ ส่วนการนำเข้าไม้ตามแนวชายแดนจังหวัดตราดในโอกาสต่อไป จะต้องมีใบรับรองถิ่น กำเนิดสินค้า (C/O) หรือมีหลักฐานการอนุญาตให้ส่งออกของประเทศที่ส่งออกแสดงประกอบการทำพิธีการ ศุลกากรนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามหลักการของประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้าในราช อาณาจักร (ฉบับที่ 92) พ.ศ. 2535 และระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการกำหนดด่านศุลกากรนำไม้เข้า มาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 การนำเข้าไม้เพื่อการค้า ผู้นำเข้าจะต้องจดทะเบียนพาณิชย์และ จดทะเบียนเป็นผู้นำเข้า ตามที่คณะกรรมการบริหารกำกับดูแลการนำเข้า - ส่งออกไม้ในพื้นที่จังหวัดตราด กำหนดด้วย การนำเข้าไม้ให้นำเข้าได้ 3 ช่องทางคือ อำเภอเมืองตราด ช่องทางบ้านชำราก อำเภอคลองใหญ่ ช่องทางทะเลอ่าวไทย และอำเภอบ่อไร่ ช่องทางบ้านเขาพลู และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม เป็นต้น รับไปดำเนินการต่อไป โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ สูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ดูแลการดำเนินการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3376 | การกำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศ | อก | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอมติคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
ครั้งที่ 1/2549 วันที่ 6 มีนาคม 2549 ดังนี้ ให้กำหนดราคาน้ำตาลทราย ณ หน้าโรงงาน ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นดังนี้ น้ำตาลทรายขาว 14 บาทต่อกิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 15 บาทต่อกิโลกรัม ให้มีการเรียก เก็บเงินจากชาวไร่อ้อยส่งเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อชำระหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตร (ธ.ก.ส.) ในกรณีที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายสูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้น ให้นำส่วนต่างบางส่วนไปชำระหนี้ตาม แผนการชำระหนี้ ธ.ก.ส. ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบไว้แล้ว และให้กระทรวงพาณิชย์ (กรมการค้า ภายใน) ควบคุม ดูแล ราคาและการจำหน่ายปลีกน้ำตาลทรายให้เหมาะสม และเกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยให้ประสานกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ใกล้ชิด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3377 | การค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนมกราคม ปี 2549 | พณ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่าง
ประเทศของไทย เดือนมกราคม 2549 ดังนี้ การส่งออก มีมูลค่า 8,946 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร ร้อยละ 4.4 สินค้าอุตสาหกรรม ร้อยละ 13.4 สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร สินค้าที่ส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง และสินค้าอาหาร (กุ้งแช่แข็งและแปรรูป อาหารกระป๋องและแปรรูป ผัก ผลไม้สด กระป๋องและแปรรูป ไก่ แปรรูป) สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าว ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง และ ผลิตภัณฑ์เภสัช สินค้าส่งที่ออกลดลง ได้แก่ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้เดินทาง ส่วน การนำเข้าในเดือนมกราคม 2549 มีมูลค่า 9,388 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ซึ่งเป็นอัตราเพิ่มที่ตำสุดในรอบ 43 เดือน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2545) สินค้าที่มีมูล ค่านำเข้าสูงในเดือนมกราคม 2549 ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง และสินค้าทุน สำหรับดุลการค้าในเดือนมกราคม 2549 ไทยขาดดุลการค้า 442.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับเดือนมกราคม 2548 การขาดดุลลดลงมาก กว่าครึ่งหนึ่ง คือ ลดลงร้อยละ 66.7
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3378 | ขอขยายระยะเวลาโครงการจัดตั้งตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า | พณ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้ อนุมัติการขยายระยะเวลาโครงการจัดตั้งตลาด
สินค้าเกษตรล่วงหน้าในกรอบวงเงินอุดหนุน 1,550 ล้านบาท ออกไปจนถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เพื่อไป ใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนพัฒนาธุรกิจของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วง หน้า (ก.ส.ล.) และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (ต.ส.ล.) และอนุมัติเงินงบประมาณอุดหนุน จ่ายขาดเพิ่มเติม จำนวน 127 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาการตลาดและสร้างความรู้ความเข้าใจ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 แก่ ต.ส.ล. ตามแผนพัฒนาธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยให้เบิก จ่ายจากงบโครงการจัดตั้งตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ปรับแผนการดำเนินธุรกิจและ บริหารงบประมาณที่มีคงเหลืออยู่ในจำนวน 130 ล้านบาท ในโอกาสแรกก่อน ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ หากไม่สามารถปรับแผนได้ หรือมีงบประมาณเหลืออยู่ไม่เพียงพอ ให้สำนักงบประมาณสนับสนุน งบประมาณเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด โดยให้กระทรวงพาณิชย์ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ และให้รับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับการพัฒนาตลาดสินค้าเกษตร ล่วงหน้า ควรเน้นสินค้าเกษตรที่รัฐบาลมิได้ทำการแทรกแซงเป็นสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขายล่วงหน้า เช่น ไม่เน่าเสียง่าย มีมาตรฐานชัดเจน เป็นต้น และมีศักยภาพที่จะขยายตลาดในอนาคต รวมทั้งข้อสังเกตเพิ่ม เติมของสำนักงบประมาณที่ให้พิจารณาทบทวนมาตรการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตร โดยให้ความสำคัญกับ การสนับสนุนให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเข้าสู่ระบบตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ามากที่สุด เพื่อลดภาระ งบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ และให้ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าเป็นกลไกในการสร้างเสถียรภาพราคา ตามนโยบายของรัฐบาลในระยะยาว ไปประกอบการดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3379 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การห้ามนำตู้เย็น ตู้ทำน้ำเย็น ตู้แช่ หรือ ตู้แช่แข็ง ที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความเย็น หรือทำให้เย็นจนแข็ง ที่ใช้สาร ซี เอฟ ซี [Chlorlfluororocarbons (CFCs)] เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... | พณ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การ
ห้ามนำตู้เย็น ตู้ทำน้ำเย็น ตู้แช่ หรือตู้แช่แข็งที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความเย็นหรือทำให้เย็นจนแข็ง ที่ใช้ สาร ซี เอฟ ซี (Chlorofluorocarbons (CFCs)) เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้า มาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 120) พ.ศ. 2540 และกำหนดให้ตู้เย็น ตู้ทำน้ำเย็น ตู้แช่ หรือตู้แช่แข็ง ที่เป็น ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความเย็นหรือทำให้เย็นจนแข็ง ที่ใช้สาร ซี เอฟ ซี (Chlorofluorocarbons (CFCs)) เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้า โดยให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุ เบกษาเป็นต้นไป และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3380 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" และร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมายฯ) ที่มีมติดังนี้ เห็นชอบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและข้อ เสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เกี่ยวกับ "แนวทางการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อประชาชน" และ มอบให้กระทรวงพาณิชย์รับไปดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2546 และ 18 พฤษภาคม 2547 ที่เห็นชอบขั้นตอนการจัดทำผลการดำเนินงาน หรือผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อความเห็นและ ข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ และการนำเสนอผล ตลอดจนการเปิดเผยเหตุผลให้สาธารณชนทราบ ตาม มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษา ฯ พ.ศ. 2543 เพื่อรายงานผลการดำเนินการให้สภาที่ปรึกษา ฯ ทราบ และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และอนุมัติหลักการตามที่กระทรวง พาณิชย์เสนอร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบาง ประการของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และส่งให้สำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเด็นอภิปรายของคณะ กรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า การปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญในการคุ้มครอง เจ้าของลิขสิทธิ์และประชาชน ซึ่งต้องคุ้มครองลิขสิทธิ์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จึงควรพิจารณาให้ สอดคล้องกับข้อผูกพันตามที่ไทยได้ตกลงไว้กับนานาประเทศ ไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรม การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
.....