ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 10 จากทั้งหมด 13 หน้า แสดงรายการที่ 181 - 200 จากข้อมูลทั้งหมด 250 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
181 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารจอดรถ 9 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 20,841 ตารางเมตร โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 1 หลัง | สธ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อสร้างอาคารจอดรถ ๙ ชั้น พื้นที่ใช้สอย ๒๐,๘๔๑ ตารางเมตร โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน ๑ หลัง ในวงเงิน ๑๓๙,๔๒๙,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามนัยมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
182 | โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ยธ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน ๑๖
ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบเงินอุดหนุน
ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.)
และให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มีอำนาจอนุมัติโครงการ แผนงาน และกิจกรรมภายใต้กรอบงบประมาณ
งบเงินอุดหนุน
รายการโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
และสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ
เพื่อให้มีการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตามที่ได้รับจัดสรร
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้จ่ายและเบิกจ่ายงบประมาณ
รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้าง เห็นควรดำเนินการขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการประเมินผลประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินโครงการที่ผ่านมา
เพื่อนำมาปรับปรุงการกำหนดกิจกรรมของโครงการในปีต่อ ๆ ไป
เพื่อให้การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
183 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) | กค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
184 | การเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2565 (ครั้งที่ 2) | กค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
185 | การเพิ่มทุนในโครงการเหมืองแร่โพแทชของอาเซียน | อก. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
186 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 10 | กค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
187 | ขออนุมัติหลักการการสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" โดยการสนับสนุนงบประมาณอุดหนุนให้กับมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ | นร.52 | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการการสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้"
และเห็นชอบให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี
เป็นเงินอุดหนุนให้แก่มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ภายในกรอบวงเงิน ๑๑,๐๘๒,๐๐๐ บาท ต่อปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
เห็นควรให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
หรือโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการและงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานที่ได้รับมอบภารกิจให้ร่วมจัดโครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้น
เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการในแต่ละปีได้แลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ถอดบทเรียน สะท้อนความคิดเห็น และถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจไปยังกลุ่มเยาวชนอื่น
ๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นการสร้างแรงกระตุ้น
แรงบันดาลใจในการเรียนและการปฏิบัติตนให้กับเด็กและเยาวชน
พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
หรือโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการและงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ต่อไป พิจารณาจัดทำฐานข้อมูลผู้เข้าร่วมโครงการรายบุคคลในมิติต่าง ๆ
อย่างเป็นระบบ เพื่อติดตามผลของการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เร่งรัดการดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ (เรื่อง
ขออนุมัติหลักการโครงการส่งเสริมการสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนาที่ถูกต้องเพื่อสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
188 | โครงการพัฒนาระบบเคเบิ้ลใต้ทะเลไปยังบริเวณอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า | พน. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
189 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-พ.ศ. 2568 | มท. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กรมโยธาธิการและผังเมืองก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนตาลเดี่ยว
ระยะที่ ๒ อำเภอหล่มศักดิ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะเวลาดำเนินการ ๙๐๐ วัน
ภายในวงเงิน ๒๖๙,๘๕๐,๐๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๑๘๙,๘๕๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๖๘
โดยให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
สำหรับการขออนุมัติการดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายในกรอบสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดว่าต้องไม่เกินกว่าร้อยละ
๘ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ
เรื่องกำหนดสัดส่วนต่าง ๆ เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
190 | ขออนุมัติดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย | กษ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทาน ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย ภายในกรอบวงเงิน ๑,๓๒๕,๒๘๕,๐๐๐ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ๓ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๖๙) ทั้งนี้
ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะกรรมการการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย
ให้กรมชลประทานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ตามความสามารถในการใช้จ่ายและการก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณ
ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอย่างเคร่งครัด
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เช่น กรณีประชาชนได้รับผลกระทบและประสงค์จะขอรับการจัดที่ดินทำกินสามารถยื่นความประสงค์ผ่านคณะกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดในพื้นที่ได้ได้
ให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข ทั้งในระยะก่อนก่อสร้าง
ระยะก่อสร้าง และระยะดำเนินการ ที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
191 | การประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทค ครั้งที่ 19 | กต. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ
(Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral
Technical and Economic Cooperation : BIMSTEC) หรือบิมสเทค
ครั้งที่ ๑๙ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างถ้อยแถลงฯ
โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
เป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมที่แสดงถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกบิมสเทคในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง
ๆ ได้แก่ การค้า การลงทุน การต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
เกษตรและความมั่นคงทางอาหาร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
ความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิก ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานภายใต้ร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ไทยพึงจะได้รับ
รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
192 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดฯ | มท. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย
เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๘๒๖,๖๘๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าาใช้จ่ายในการดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด
ของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
193 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีนำเงินค่าปรับที่อยู่ในอำนาจเปรียบเทียบปรับคดีอาญาที่เป็นอำนาจของข้าราชการตำรวจ เงินค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เฉพาะส่วนที่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และเงินค่าปรับทางปกครองที่ข้าราชการตำรวจสั่งปรับตามกฎหมาย สมทบเข้ากองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | ตช. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำเงินค่าปรับที่อยู่ในอำนาจเปรียบเทียบปรับคดีอาญาที่เป็นอำนาจของข้าราชการตำรวจ
เงินค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกเฉพาะส่วนที่ต้องนำส่งรายได้แผ่นดิน
และเงินค่าปรับทางปกครองที่ข้าราชการตำรวจสั่งปรับตามกฎหมายสมทบเข้ากองทุนเพื่อการสืบสวน
สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา
โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำความตกลงกับกระทรวงการคลังในการกำหนดอัตราการนำเงินค่าปรับดังกล่าวที่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินสมทบเข้ากองทุน
เพื่อประโยชน์ในการกำกับการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถติดตามประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน
และควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรเร่งดำเนินการเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกับกรมการขนส่งทางบก
และบังคับใช้กฎหมายในการติดตามการชำระเงินค่าปรับจากผู้กระทำความผิด
เพื่อให้การจัดเก็บค่าปรับและนำส่งเงินเข้ากองทุนครบถ้วนตามระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละปีงบประมาณ
และทราบประมาณการรายได้ได้อย่างถูกต้อง
สามารถกำหนดแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินกองทุน
และเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับ
และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง
เรื่องการกำหนดสัดส่วนเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ทั้งในเรื่องการเบิกจ่ายเงินจากกองทุน การเก็บรักษาเงิน
และการควบคุมตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสสูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
194 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 | ทส. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
195 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1) | นร.52 | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน
(เรือชุดที่ ๑) จำนวน ๙๖ ลำ งบประมาณรวม ๑๖๓,๓๖๓,๔๐๐ บาท ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
ทั้งนี้ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าในส่วนวงเงินงบประมาณและแหล่งดำเนินการ
ควรให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และให้ความสำคัญกับกระบวนการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของกลุ่มเรือประมงที่ประสงค์จะเลิกอาชีพประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานีกับภาครวมของประเทศ
และพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการนำเรือประมงออกนอกระบบเช่นเดียวกับโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบที่มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
196 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เรื่อง แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” | ทส. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
197 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการจัดหากล้องบันทึกภาพและเสียงตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 | ตช. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
198 | ขออนุมัติจ่ายเงินค่าขนย้าย (ค่าที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ) เป็นกรณีพิเศษให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี | กษ. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้มีการจ่ายเงินค่าเยียวยาให้แก่เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายห้วยหลวงหรือทายาทของบุคคลดังกล่าว
[ตามหนังสือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ด่วนที่สุด ที่ กษ ๐๓๐๗ (คกร)/๕๒๔๖ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๕] สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร
๐๗๐๗/๓๑๗ ลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจ่ายเงินดังกล่าวให้ถูกต้อง
รอบคอบ
โดยคณะรัฐมนตรีไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงิน
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง
แนวทางการใช้ระบบคณะกรรมการเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล)
ที่เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามแนวทางการใช้ระบบคณะกรรมการเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โดยไม่ควรกำหนดให้คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามคำสั่งของฝ่ายบริหารทำงานปกติประจำ
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
(หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๔๐๒.๕/๑๔๗๗๔ ลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕)
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เช่น
จะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าต่อการใช้งบประมาณและภาระทางการคลัง
โดยดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และกรมชลประทานควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐในกรณีต่าง
ๆ มีการประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐในกรณีต่าง
ๆ เช่น กรณีที่ดินมีเอกสารสิทธิ กรณีที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ
และกรมชลประทานควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบคอบและครบถ้วน เพื่อให้การจ่ายเงินค่าขนย้ายทำได้ในครั้งเดียว
และไม่เกิดปัญหาเช่นเดียวกับโครงการอื่น ๆ ที่ผ่านมา เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
199 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พันตำรวจโท อนุรักษ์ จิรจิตร) | นร.04 | 14/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
พันตำรวจโท อนุรักษ์ จิรจิตร เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
200 | ขออนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลการต่อต้านการทำการประมงผิดกฎหมาย ระหว่างกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และกรมประมง กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม | กษ. | 14/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|