ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 958 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 19141 - 19160 จากข้อมูลทั้งหมด 123969 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19141 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพุทธมณฑลสาย 4 พ.ศ. .... | มท | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพุทธมณฑลสาย ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพุทธมณฑลสาย ๔ ในท้องที่แขวงบ้านช่างหล่อ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย แขวงคลองชักพระ แขวงบางพรม แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร และตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการในการกำหนดราคาและค่าตอบแทนที่เป็นธรรมตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาประกอบกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๗๙๙/๒๕๔๕ และรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับการพิจารณาก่อสร้างทางสายต่าง ๆ ขอให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้างด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19142 | ร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 รวม 3 ฉบับ | รง | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๕๑ รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำงานของคนต่างด้าว สำหรับคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน โดยได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่เกิดในราชอาณาจักรแต่ไม่ได้สัญชาติไทย และคนต่างด้าวซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดประเภทงานให้คนต่างด้าวตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๕๑ สำหรับคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน โดยได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่เกิดในราชอาณาจักรแต่ไม่ได้สัญชาติไทย และคนต่างด้าวซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ ทำได้ ๑.๓ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดประเภทงานให้คนต่างด้าวตามมาตรา ๑๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๕๑ ทำได้ (ฉบับที่ ..) ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีตามข้อ ๑.๒ มีความเชื่อมโยงกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่ควบคุมและการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม ซึ่งหากบุคคลตามร่างประกาศฯ ที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมข้างต้นประสงค์จะออกไปทำงานนอกเขตพื้นที่ที่กำหนด เป็นประเด็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรับไปพิจารณาเพื่อป้องกันปัญหาในทางปฏิบัติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19143 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองบัวลำภู พ.ศ. .... | มท | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองบัวลำภู พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู ตำบลหนองภัยศูนย์ ตำบลโพธิ์ชัย ตำบลลำภู ตำบลนาคำไฮ ตำบลหนองสวรรค์ ตำบลหนองบัว ตำบลบ้านพร้าว และตำบลบ้านขาม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ ร่างกฎกระทรวงฯ มีเขตทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดินในบางท้องที่ จึงขอให้มีการตรวจสอบรูปแผนที่ให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ การกำหนดคำนิยามของคำว่า “การใช้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการ” และ “การใช้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม” ที่ระบุไว้ในการใช้ที่ดินแต่ละประเภทให้ชัดเจน รวมทั้งการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด นอกจากนี้ ร่างกฎกระทรวงฯ ไม่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงที่การประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน ๑๕ ประเภท ๒๖ โรงงาน คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๑๗ ของโรงงานทั้งหมดในพื้นที่วางผังไม่ได้กำหนดไว้ในร่างกฎกระทรวงฯ ส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฯ ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงาน และให้กรมโยธาธิการพิจารณากำกับให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดินประเภทที่โล่งเพื่อนันทนาการและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามผังเมองโดยไม่ให้มีการรุกล้ำลำน้ำ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบมีประสิทธิภาพ สามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและรองรับการขยายตัวของเมืองได้อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19144 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ รวมทั้งมีข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งควรมีการกำหนดระบบสำรองเตียงให้มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยควรกำหนดให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจนที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดมาตรการในการบริหารจัดการเรื่องการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน การกำหนดอัตราค่าบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ตลอดจนการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงเกี่ยวกับการอนุญาตให้สถานพยาบาลใดสามารถจัดให้มีการศึกษา การฝึกอบรม การวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้ ควรมีการกำหนดเงื่อนไขโดยคำนึงถึงลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล อีกทั้งความพร้อมในด้านต่าง ๆ ของสถานพยาบาลนั้นด้วย ทั้งนี้ จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ของสถานพยาบาล โดยให้ความสำคัญกับการศึกษาและการฝึกอบรมหลังปริญญาเป็นสำคัญ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๓. มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19145 | การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเพื่อการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ และร่างพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมได้แก้ไขปรับปรุงแล้ว โดยแก้ไขพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้เป็นไปตามการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเพื่อรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนทางอากาศซึ่งเป็นอนุสัญญาฯ ที่กำหนดกฎเกณฑ์ที่เป็นรูปแบบเดียวกันเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศซึ่งคนโดยสาร สัมภาระ และของ พร้อมทั้งกำหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ขนส่งที่มีต่อคนโดยสาร ผู้ตราส่ง และผู้รับตราส่ง และระหว่างทางอากาศด้วยกัน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19146 | รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนสิงหาคม ปี 2559 | พณ | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนสิงหาคม ปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ กลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ ๕ เดือนที่ร้อยละ ๖.๕ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยตลาดส่งออกสำคัญของไทยปรับตัวดีขึ้นในเกือบทุกตลาด โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการกลับมาขยายตัวอีกครั้งของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะยานยนต์และชิ้นส่วน และสินค้าเกษตรสำคัญ อาทิ มันสำปะหลัง ผลไม้ และไก่แปรรูป กลับมาขยายตัวได้ดี และเป็นผลจากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ รวม ๘ เดือนแรกของปี ๒๕๕๙ หดตัวร้อยละ ๑.๒ (YoY) ๒. การส่งออกรายการสินค้า เดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ลดลงร้อยละ ๔.๑ ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ ๙.๐ รวม ๘ เดือนแรก มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวร้อยละ ๕.๙ ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ ๑.๐ ๓. แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี ๒๕๕๙ คาดว่าช่วงที่เหลือจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น สินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง สินค้า Lifestyle และเครื่องดื่ม ขยายตัวได้ดีในตลาด CLMV สินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะแผงโซล่าเซลล์ มีความต้องการสูงมากในตลาดโลก การอ่อนตัวของค่าเงินบาท รวมทั้งการนำเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19147 | ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิและการเลือกข้าราชการพลเรือนเพื่อเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.พ. สามัญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร10 | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิและการเลือกข้าราชการพลเรือนเพื่อเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.พ. สามัญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.พ. สามัญ ตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิและการเลือกข้าราชการพลเรือนเพื่อเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.พ. สามัญ พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎ ก.พ.ฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อลดขั้นตอนกระบวนการสรรหาและคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.พ. สามัญ ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องใช้ระยะเวลานานในการดำเนินการ และเป็นการส่งเสริมบทบาทหน้าที่ของอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.พ. สามัญ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19148 | ผลการเข้าร่วมประชุมผู้นำ G20 ของนายกรัฐมนตรี | กต | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเข้าร่วมประชุมผู้นำกลุ่ม ๒๐ (G20 Summit) ประจำปี ๒๕๕๙ ของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกลุ่ม ๗๗ (G77) ระหว่างวันที่ ๔-๕ กันยายน ๒๕๕๙ ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ มีประเด็นสำคัญ ดังนี้
๑. ที่ประชุมผู้นำกลุ่ม ๒๐ หารือ ๕ วาระสำคัญ ได้แก่ การประสานนโยบายและแนวทางการพัฒนาใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจและการเงินของโลกที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การเสริมสร้างการค้าการลงทุนที่มีความแข็งแกร่ง การพัฒนาที่มีความเชื่อมโยงและครอบคลุม และประเด็นอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเน้นย้ำความสำคัญของการผนึกกำลังระหว่างกลุ่ม ๒๐ และกลุ่ม ๗๗ ด้านการประสานนโยบายและความร่วมมือทางเศรษฐกิจการเงิน การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจจากภายใน ในสาขาที่สำคัญ เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมผ่านกลไกประชารัฐ และได้เน้นย้ำ ๓ ประเด็น ได้แก่ (๑) การสร้างหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงความต้องการของทุกภาคส่วน (๒) การสร้างความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบสถาบัน และประชาชน และ (๓) การส่งเสริมแนวทางการพัฒนาที่เป็นของตัวเอง ในส่วนของจีนได้เพิ่มประเด็นเรื่องการบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ ให้เป็นวาระสำคัญ สำหรับประเทศต่าง ๆ ได้ใช้โอกาสผลักดันและแสดงท่าทีที่แตกต่างกัน เช่น ญี่ปุ่น ส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทางเลือกและ Clean Energy ทั้งนี้ เยอรมนีจะเป็นประธาน G20 ในปี ๒๕๖๐ ต่อเนื่องด้วยอาร์เจนตินาในปี ๒๕๖๑ ๒. นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน (นายสี จิ้นผิง) ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันยกระดับการประสานความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศและเอเชียโดยรวม รวมทั้งได้หารือกับประธานกรรมการบริหารบริษัท อาลี บาบา กรุ๊ป จำกัด (นายแจ็ค หม่า) โดยได้เชิญชวนให้บริษัทดังกล่าวเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายและให้ความรู้ทางวิชาการและทางธุรกิจเพื่อขยายโอกาสและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19149 | แผนการใช้จ่ายเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปีงบประมาณ 2560 | พณ | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนการใช้จ่ายเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ (แผนพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) จำนวน ๒๔๗ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๙๕๘,๕๐๕,๒๗๕ บาท จากหน่วยงานที่เสนอทั้งภาครัฐและเอกชน รวม ๙ หน่วยงาน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. ยุทธศาสตร์การเร่งรัดทำการตลาดเชิงกลยุทธ์และผลักดันการส่งออก จำนวน ๒๓ โครงการ วงเงินรวม ๑๗๗,๙๔๐,๓๐๐ บาท โดยใช้การตลาดนำการผลิต (Demand-Driven) และการกำหนดกลยุทธ์ในเชิงลึกลงถึงระดับเมือง (city-focus) โดยเจาะเมืองใหม่ เช่น แอฟริกา (ไม่รวมแอฟริกาใต้) เอเชียใต้ (ไม่รวมอินเดีย) ตลาดสินค้าใหม่ เช่น สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง และขยายช่องทางการตลาดอย่างสร้างสรรค์ ๒. ยุทธศาสตร์การเจรจาเชิงรุกเพื่อเปิดตลาด จำนวน ๑๔๑ โครงการ วงเงินรวม ๓๘,๓๐๐,๙๐๐ บาท ได้แก่ การประชุมเจรจาเชิงรุก และการปกป้องผลประโยชน์และการแก้ไขอุปสรรคทางการค้า ๓. ยุทธศาสตร์การปฏิรูปโครงสร้างการส่งออกเพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาว จำนวน ๘๒ โครงการ วงเงินรวม ๖๙๒,๒๖๔,๐๗๕ บาท เช่น การผลักดันคลัสเตอร์กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับ Thailand 4.0 การผลักดันไทยสู่การเป็นประเทศที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางการค้าและบริการ การส่งเสริมโลจิสติกส์ การค้าและเตรียมความพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน การพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ การพัฒนาและส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างแบรนด์สินค้าและบริการ และการพัฒนาองค์กรสู่อนาคต ๔. แผนงานตามนโยบายและมาตรการเร่งด่วน จำนวน ๑ โครงการ วงเงินรวม ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19150 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 34 และ การประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา | พน | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๔ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงเนปยิดอสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ กันยายน ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
๑. การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๔ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเป็นประธานในการประชุมฯ หัวข้อหลักในการประชุม คือ “Towards Greener Community with Cleaner Energy” ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ใช้โอกาสนี้พบปะและหารือข้อราชการแบบทวิภาคีกับประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ กัมพูชาเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำสตรึงมนัม จีนเกี่ยวกับการทบทวนการซื้อขายไฟฟ้า ๓,๐๐๐ เมกะวัตต์ จากยูนนานผ่านประเทศลาว เมียนมาเกี่ยวกับโครงการ LNG Floating Storage Regasification Unit : FSRU และทบวงการพลังงานระหว่างประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตภายใต้การดำเนินงานของการเป็นภาคีความร่วมมือ ๒. วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๙ ได้มีการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน+๓ ครั้งที่ ๑๓ (13th AMEM+3 : จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี) หรือ AMEM+3 การประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเชียตะวันออก ครั้งที่ ๑๐ (EAS Energy Ministers Meeting : EMM : จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนและทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๖
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19151 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายของอ่างเก็บน้ำห้วยลิงโจน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยลิงโจน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายของอ่างเก็บน้ำห้วยลิงโจน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นที่มิใช่เกษตรกรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19152 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวม 6 ฉบับ | นร09 | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวม ๖ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงรวม ๖ ฉบับดังกล่าว เพื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19153 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้งานที่มีการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ไม่ถือเป็นงานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... | นร | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้งานที่มีการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ไม่ถือเป็นงานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของงานที่มีการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ถือเป็นงานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายหรือเดือดร้อนต่อการปฏิบัติงานของผู้ใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์บางลักษณะ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับความใน (๔) และ (๕) ของร่างกฎกระทรวงนี้มีความไม่สอดคล้องกับร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต การต่อใบอนุญาต และใบแทนใบอนุญาตใช้หรือผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งอาจเกิดความไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19154 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนประดิพัทธ์กับถนนกำแพงเพชร พ.ศ. .... | มท | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนประดิพัทธ์กับถนนกำแพงเพชร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนประดิพัทธ์กับถนนกำแพงเพชร ในท้องที่แขวงสามเสนใน เขตพญาไท และแขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกและลดปัญหาความคับคั่งของการจราจรในบริเวณดังกล่าว และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการในการกำหนดราคาและค่าตอบแทนที่เป็นธรรมตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาก่อสร้างทางสายต่าง ๆ โดยกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้าง รวมทั้งควรพิจารณาความเหมาะสมของการสร้างและขยายทางสายดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพมหานครยังอยู่ระหว่างประสานงานกับการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อขอใช้พื้นที่บริเวณถนนกำแพงเพชร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างถนนประดิพัทธ์กับถนนกำแพงเพชร อีกทั้งผลการเข้าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ของกรุงเทพมหานครที่ผ่านมายังไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืน นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการดำเนินการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการเดินทางในบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในภาพรวมได้อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19155 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) | อื่นๆ | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ เหลืออัตราร้อยละ ๐.๐๑ ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับถึงวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๒ ตามที่สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรตัดการอ้างมาตรา ๑๐๓ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑ ประกอบกับข้อ ๒ (๗) (ฎ) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ออก เนื่องจากการออกประกาศในครั้งนี้มิใช่การกำหนดให้เรียกเก็บหรือลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม แต่เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการลดหย่อนค่าธรรมเนียมซึ่งต้องเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และเห็นควรลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้เฉพาะในส่วนที่กำหนดให้ผู้ทำนิติกรรมซึ่งมีฐานะยากจนมีหน้าที่ต้องชำระ โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ยากจนที่จะได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมให้ชัดเจน สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีศักยภาพเพียงพอในการชำระค่าธรรมเนียมฯ ควรจะชำระตามอัตราเดิมที่กำหนด เพื่อให้ภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำเงินที่ได้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือพัฒนาท้องที่ต่อไป ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19156 | รายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | กค | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการเงินการคลัง โดยแบ่งการตรวจสอบเป็น ๓ ลักษณะ ได้แก่ (๑) การตรวจสอบทางการเงินและบัญชี (Financial Auditing) (๒) การตรวจสอบการดำเนินงาน (Operation Auditing) และ (๓) การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (Compliance Auditing) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19157 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การกำหนดฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา 49 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร) | กค | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การกำหนดฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา ๔๙ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้ราคาที่ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันตามความเป็นจริงหรือตามราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า เป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19158 | รายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2559 (ครั้งที่ 19) | มท | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ (ครั้งที่ ๑๙) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปความก้าวหน้างานก่อสร้าง ๑.๑ ผลงานสะสมที่ทำได้ คิดเป็นร้อยละ ๒๔.๕๐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๑๙ ๑.๒ การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง ยังไม่มีการส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติม ปัจจุบันส่งมอบพื้นที่ได้รวมทั้งหมด ๑๐๓-๒-๑๓ ไร่ (คิดเป็นร้อยละ ๘๔) ๑.๓ ปัญหา/อุปสรรคที่สำคัญ คือปัญหาการส่งมอบพื้นที่ที่เหลือยังส่งมอบไม่ได้ตามสัญญาก่อสร้างกระทบกับแผนงานก่อสร้างตามที่ได้รับอนุมัติ ๒. ความเห็นคณะทำงานติดตามความก้าวหน้าโครงการฯ เห็นว่าการขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปจำนวน ๓๘๗ วัน ยังไม่สามารถทำให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จได้ อีกทั้งยังมีเหตุให้ผู้รับจ้างขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปได้อีก จึงได้แจ้งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้ดำเนินการ ๒.๑ แจ้งคณะกรรมการตรวจการจ้างเร่งรัดการพิจารณาขยายระยะเวลาการก่อสร้าง กรณีผู้รับจ้างขอสงวนสิทธิ์อันเนื่องมาจากความล่าช้าในการขนย้ายดินขุดจากงานก่อสร้างชั้นใต้ดินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๒.๒ กำกับดูแลการดำเนินงานของผู้รับซื้อซากอาคารให้อยู่ในกรอบเวลาที่กำหนดเพื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างที่เหลือให้แก่ผู้รับจ้าง [บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)] โดยเร็วต่อไป ๒.๓ เร่งรัดการจัดจ้างผู้ออกแบบระบบ ICT โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างหลักขอสงวนสิทธิ์ในการขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปอีก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19159 | การจ่ายค่าเยียวยาให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร | กค | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการจ่ายค่าเยียวยาให้แก่ราษฎร จำนวน ๕ ราย และค่ารื้อถอนระบบไฟฟ้าของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรมุกดาหาร และสถานีพัฒนาอาหารสัตว์มุกดาหาร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๓๔,๗๙๓ บาท เพื่อนำที่ดินไปใช้ในการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมิให้มีการใช้สิทธิเรียกร้องอื่นเพิ่มเติมในภายหลังด้วย สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของกรมธนารักษ์ที่ได้ดำเนินการขออนุมัติกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกับกระทรวงการคลังแล้ว และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าเยียวยาให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอื่น ๆ ตามความเหมาะสมและเป็นธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19160 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณอาคารวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี | ศธ | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จากวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้เดิม ๑๕๗.๕ ล้านบาท เป็นวงเงิน ๑๖๙.๔๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการ (มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี) ขอรับจัดสรรงบประมาณกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
|
.....