ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 955 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 19081 - 19100 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19081 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (จำนวน 10 ราย 1. นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ ฯลฯ) | กต | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๐ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ในจำนวนนี้เป็นการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ จำนวน ๗ ราย ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับแล้ว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ๒. นายธานี ทองภักดี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายเสข วรรณเมธี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สมาพันธ์รัฐสวิส ๔. นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสารนิเทศ ๕. นางสาวพรประไพ กาญจนรินทร์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ๖. นายจักรี ศรีชวนะ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปรตุเกส ๗. นายชัยเลิศ หลิมสมบูรณ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก ๘. นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ๙. นายพิชยพันธุ์ ชาญภูมิดล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ๑๐. นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส สาธารณรัฐอาร์เจนตินา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19082 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงอุตสาหกรรม) (นายเดชา เกื้อกูล และนายอภิจิณ โชติกเสถียร) | อก | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายเดชา เกื้อกูล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอภิจิณ โชติกเสถียร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19083 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา (จำนวน 7 ราย 1. นายชวลิต ชูขจร ฯลฯ) | กษ | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา จำนวน ๗ คน เนื่องจากคณะกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปีแล้ว เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการ ๒. นางจิราวรรณ แย้มประยูร กรรมการ ๓. นายอดิศร พร้อมเทพ กรรมการ ๔. นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ กรรมการ ๕. นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท กรรมการ ๖. พลเรือเอก เริงฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ กรรมการ ๗. นายณพงศ์ ศิริขันตยกุล กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19084 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (จำนวน 4 ราย 1. นายกฤษฎา บุญราช ฯลฯ) | กค | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน ๔ ราย แทนผู้ที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี (๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายกฤษฎา บุญราช แทน นายกำพล ศรธนะรัตน์ ๒. พลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ แทน พลตำรวจเอก เจตน์ มงคลหัตถี ๓. ศาสตราจารย์นฤมล สอาดโฉม แทน ร้อยโท เจษฎา ศิวรักษ์ ๔. นางรัตนา อนุภาสนันท์ แทน นายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19085 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกรีฑา สพโชค) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายกรีฑา สพโชค ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19086 | การตรวจสอบคุณสมบัติของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและหลักเกณฑ์ในการโอนเงินภายใต้มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย (มาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย) | กค | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการตรวจสอบคุณสมบัติของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและหลักเกณฑ์ในการโอนเงินภายใต้มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย (มาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. คุณสมบัติของเกษตรกรตามมาตรการเพิ่มรายได้ฯ เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินโอนตามมาตรการดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่มาลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างวันที่ ๑๕ กรกฎาคม-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๙ ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเป็นผู้ดำเนินการเทียบข้อมูลจากฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งชาติ โดย ๑.๑ คุณสมบัติพื้นฐาน เป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปี ณ วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๙ (วันสุดท้ายของการเปิดให้ลงทะเบียน) และเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี ในปี ๒๕๕๘ ๑.๒ คุณสมบัติเฉพาะสำหรับมาตรการเพิ่มรายได้ฯ เป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนเกษตรกรหรือเป็นสมาชิกในครัวเรือนของผู้ที่อยู่ในทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร หรือเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนผู้เลี้ยงสัตว์ของกรมปศุสัตว์ หรือทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒. หลักเกณฑ์การโอนเงิน ๒.๑ หลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินที่โอนให้แก่เกษตรกรตามาตรการเพิ่มรายได้ฯ จะใช้เส้นความยากจน (Poverty Line) ที่คำนวณโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเกณฑ์ในการอ้างอิง โดยรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่มีรายได้ต่ำกว่า ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี เป็นมูลค่ามากกว่าเกษตรกรที่มีรายได้สูงกว่า ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี เนื่องจากเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบทางรายได้มากกว่า ๒.๒ อัตราเงินโอน (๑) เกษตรกรที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี โอนเงินให้จำนวน ๓,๐๐๐ บาทต่อคน เพียงครั้งเดียวผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ (๒) เกษตรกรที่มีรายได้สูงกว่า ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี แต่ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี โอนเงินให้จำนวน ๑,๕๐๐ บาทต่อคน เพียงครั้งเดียวผ่าน ธ.ก.ส. ๒.๓ วิธีการโอนเงิน กำหนดให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้โอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรดังกล่าวที่มีคุณสมบัติตามข้อ ๑ โดยตรง ทั้งนี้ ในกรณีที่เกษตรกรไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. นั้น ธ.ก.ส. จะดำเนินการประสานงานกับธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยเพื่อโอนเงินให้เกษตรกรต่อไป สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากใน ๓ ธนาคารข้างต้น ให้ ธ.ก.ส. ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมาแจ้งเลขที่บัญชี ชื่อบัญชี และธนาคารที่ประสงค์จะให้โอนเงินไปให้ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19087 | สรุปรายงานการหารือเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการท่องเที่ยว | นร04 | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการหารือเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ
ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) กรรมการและเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เสนอ ดังนี้ ๑. เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะปกติ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงให้ทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมตามประเพณี วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ๒. ในการจัดกิจกรรมตามข้อ ๑ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอความร่วมมือผู้จัดกิจกรรมพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม ดังนี้ ๒.๑ กิจกรรมใดที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน ทุกภาคส่วนสามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ต่อไปได้ เช่น การจัดประชุม สัมมนา งานมงคลสมรส กฐิน กิจกรรมทางวัฒนธรรม ประเพณี หรือการเลี้ยงสังสรรค์ที่ทำในอาคารหรือพื้นที่ที่มีขอบเขตเหมาะสม และเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มตามที่จัดเป็นปกติหรือได้เตรียมการไว้แล้ว เช่น การต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือผู้เข้าร่วมประชุม ๒.๒ ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สามารถจัดกิจกรรมได้ตามปกติ เช่น งานมหรสพ งานแสดงดนตรี วัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยผู้จัดงานพิจารณาความเหมาะสมและให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้คำแนะนำและปรึกษาหารือกับภาคส่วนต่าง ๆ โดยเน้นการใช้กลไกประชาคมเพื่อให้การจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างเหมาะสม ๒.๓ การจัดรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยให้ผู้รับผิดชอบรายการพิจารณาความเหมาะสม และควรมีรายการที่สร้างความรับรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชกรณียกิจในแง่มุมต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและที่จะดำเนินการในห้วงเวลาต่อไปทุกวัน ทั้งนี้ ในกรณีที่มีพระราชกรณียกิจในพระราชพิธีหรือรัฐพิธีสำคัญ หรือมีเรื่องสำคัญอื่นใดให้ดำเนินการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ทั่วกัน ๒.๔ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์มีกำหนด ๑ ปี ส่วนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้เป็นไปตามความเหมาะสม ๒.๕ ในกรณีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ฝ่ายเลขานุการ ศตส. โทร ๐๒ ๒๘๘๖๔๖๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19088 | ร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19089 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2559) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๖๘/๒๕๕๙ วันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๖๙/๒๕๕๙ วันศุกร์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19090 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19091 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19092 | พิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ 9 ของบริการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๙ ของบริการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19093 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้
๑. การเตรียมการรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้าถวายบังคมพระบรมศพ ดังนี้ ๑.๑ ให้ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจัดระเบียบการดำเนินการทุกกิจกรรมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งเรื่องการบริการอาหารและเครื่องดื่ม การดูแลไม่ให้มีการนำสิ่งของที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาแจกจ่ายให้ประชาชนไปจำหน่ายต่อ การรักษาความสะอาด การกำจัดขยะ และการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ ให้ดำเนินการโดยละมุนละม่อม ๑.๒ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดหาที่พักชั่วคราวแก่ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นอกเหนือจากบริเวณสนามหลวง เช่น บริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และจัดรถรับส่งเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและลดปัญหาการจราจรด้วย ๑.๓ บริเวณจุดพักคอยสำหรับประชาชนบริเวณสนามหลวงที่ได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำเสนอข้อมูลการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปพร้อมกันด้วย เพื่อสร้างความรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชน ๒. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย สำรวจความต้องการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรของเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มเกษตรกรที่ทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ กลุ่มสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น และให้การสนับสนุนเครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวตามลำดับความพร้อมในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องมือเครื่องจักรกลดังกล่าว นั้น ให้ขยายการดำเนินการให้ครอบคลุมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวจัดตั้งโรงสีของตนเองขึ้นในพื้นที่ด้วย เพื่อลดต้นทุนการผลิต และให้มีการประเมินผลความสำเร็จของการดำเนินการตามข้อสั่งการและรายงานนายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย ๓. การบริหารจัดการน้ำบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ลงมาจนถึงอ่าวไทย ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๓.๑ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำและประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำ เช่น จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น โดยแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และดูแลประชาชนให้ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวน้อยที่สุด รวมทั้งสร้างความรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ด้วย ๓.๒ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยดำเนินการขุดลอกคูคลองต่าง ๆ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น รวมทั้งเร่งสำรวจและพิจารณาความเป็นไปได้ในการขุดคลองแห่งใหม่เพื่อใช้ประโยชน์ในการกักเก็บน้ำและการระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย ทั้งนี้ ให้ควบคุมดูแลการกักเก็บน้ำและการระบายน้ำให้เหมาะสมแก่สถานการณ์ด้วย ๓.๓ ร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณพิจารณาจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมเพื่อใช้ดำเนินการตามข้อ ๓.๒ โดยอาจขอความร่วมมือจากภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันปรับปรุงกระบวนงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) เช่น การเริ่มประกอบธุรกิจ การขออนุญาตก่อสร้าง การบริการไฟฟ้า การจดทะเบียนทรัพย์สิน การเข้าถึงสินเชื่อ การคุ้มครองนักลงทุน การจ่ายและการคืนภาษี การค้าขายข้ามแดน การดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา การล้มละลาย กฎหมาย และระเบียบที่โปร่งใส ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงาน ก.พ. ร่วมกันกำหนดตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์และเป้าหมายการดำเนินการที่ชัดเจนและเป็นสากล โดยอย่างน้อยต้องกำหนดให้อันดับของประเทศไทยใน Ease of Doing Business สูงขึ้นทุกปี ๕. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เสนอขอเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการต่อคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาทบทวนการเสนอขอเพิ่มอัตรากำลัง โดยคำนึงถึงภาระงบประมาณที่เป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและปริมาณภารกิจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดจ้างผู้มีคุณวุฒิพิเศษมาดำเนินภารกิจเฉพาะ รวมทั้งการจ้างพนักงานราชการเพื่อทดแทนการบรรจุข้าราชการด้วย นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับ คปร. พิจารณากำหนดกรอบอัตรากำลังบุคลากรภาครัฐทุกประเภทให้สอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจในอนาคต รวมทั้งปรับปรุงวิธีการสรรหาบุคลากรภาครัฐ โดยให้มีการจัดจ้างผู้ที่มีคุณวุฒิพิเศษหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาปฏิบัติงานเต็มเวลาหรือไม่เต็มเวลา (part time) ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดตามความจำเป็นของภารกิจ สำหรับการจัดสรรอัตราว่างจากการเกษียณอายุของข้าราชการในแต่ละปี ให้พิจารณากำหนดสัดส่วนการรับบุคลากรภาครัฐที่เป็นข้าราชการประจำกับผู้มีคุณวุฒิพิเศษหรือผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้สอดคล้องกับกรอบอัตรากำลังที่กำหนดข้างต้นด้วย และให้รายงานผลต่อนายกรัฐมนตรีภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ ๖. การจัดงานแสดงสินค้า การประชุม การพบปะหารือกับผู้นำต่างประเทศต่าง ๆ ให้ส่วนราชการผู้รับผิดชอบหรือเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปด้วยว่า ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ใดจากการดำเนินการดังกล่าวด้วย เช่น เป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้า การเพิ่มรายได้ เป็นต้น ๗. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ใช้กลไกการจัดทำประชาคมเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการคิดและการดำเนินการโครงการหรือกิจกรรมเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ และให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เพื่อประกอบการจัดทำและดำเนินโครงการอย่างจริงจังด้วย โดยการทำประชาคมและรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวนั้น ให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และให้ถือว่าการจัดทำประชาคมและการรับฟังความคิดเห็นเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการในทุกโครงการและกิจกรรมด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19094 | ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม - หัวหิน | คค | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ในวงเงิน ๒๐,๐๔๖.๔๑ ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗) โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ ๕ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๕๙-๒๕๖๓) และดำเนินการประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-auction) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ หรือที่ประกาศใช้ล่าสุด ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ อาทิ การพิจารณาให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในการบริหารจัดการการเดินรถ การแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ การจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง การจัดทำแผนธุรกิจของ รฟท. และในการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องไม่มีปัญหาที่เป็นเหตุให้ขออนุมัติวงเงินเพิ่มเติมและขยายระยะเวลาออกไปอีก ทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. สำหรับแนวทางการรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ให้ดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๒.๑ ค่าก่อสร้างและค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้ในประเทศที่เหมาะสมและให้กู้ต่อแก่ รฟท. โดยเห็นชอบให้ รฟท. กู้เงินตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓๙ (๔) ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นงบชำระหนี้เงินกู้รายปีให้แก่ รฟท. ๒.๒ ค่าเวนคืนที่ดินและค่าดำเนินการประกวดราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้กับ รฟท. ๓. ให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแล รฟท. ให้ดำเนินโครงการ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ให้แล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19095 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. ....) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. ....) โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19096 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..)พ.ศ. ....] (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19097 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....)(สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19098 | การเร่งรัดร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาล | นร | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. ให้เร่งรัดการดำเนินการให้มีการเสนอร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติหรือให้มีผลใช้บังคับภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ ดังต่อไปนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... ๑.๗ ร่างพระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. .... ๑.๘ ร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบันการเงินที่ประสบภาวะวิกฤติทางการเงิน ตามมาตรา ๑๙) ๑.๙ ร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๑๐ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ๑.๑๑ ร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... ๑.๑๒ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. .... ๑.๑๓ ร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. .... ๑.๑๔ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๑๕ ร่างพระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๑๖ ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ๒. ในการเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี ให้ทุกส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐพิจารณาความสอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ผ่านความเห็นชอบการออกเสียงประชามติ รวมทั้งพิจารณาความสอดคล้องกับกฎหมายที่ต้องดำเนินการตราตามรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วย อาทิ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ กฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ กฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ โดยให้บรรจุเป็นรายการเพิ่มเติมในแบบตรวจสอบความจำเป็นในการตรากฎหมาย (Checklist ๑๐ ประการ) ที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐทุกแห่งต้องถือปฏิบัติ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอความเห็นในประเด็นความสอดคล้องดังกล่าวก่อนนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19099 | ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ | คค | 01/11/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ในวงเงิน ๒๔,๗๒๒.๒๘ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ๖ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๕๙-๒๕๖๔) โดยดำเนินการประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-auction) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ หรือที่ประกาศใช้ล่าสุด ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ อาทิ การพิจารณาให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในการบริหารจัดการการเดินรถ การแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ การจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง การจัดทำแผนธุรกิจของ รฟท. และในการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องไม่มีปัญหาที่เป็นเหตุให้ขออนุมัติวงเงินเพิ่มเติมและขยายระยะเวลาออกไปอีก ทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. สำหรับแนวทางการรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการให้ดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๒.๑ ค่าก่อสร้างและค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้ในประเทศที่เหมาะสมและให้กู้ต่อแก่ รฟท. โดยเห็นชอบให้ รฟท. กู้เงินตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ ตามมาตรา ๓๙ (๔) ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นงบชำระหนี้เงินกู้รายปีให้แก่ รฟท. ๒.๒ ค่าเวนคืนที่ดินและค่าดำเนินการประกวดราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้กับ รฟท.
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19100 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการดำเนินการเกี่ยวกับเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... | สธ | 25/10/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการดำเนินการเกี่ยวกับเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมหนังสือรับรอง ใบอนุญาต ใบแทน คำขอ และการต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตดำเนินการเกี่ยวกับเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นควรกำหนดเพิ่มเติมในกฎกระทรวงดังกล่าว ให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับ “ใบอนุญาตนำเข้าเชื้อโรคและพิษจากสัตว์” และ “ใบอนุญาตส่งออกเชื้อโรคและพิษจากสัตว์” ให้กับหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานวิจัยร่วมกับหน่วยงานวิชาการต่างประเทศ โดยกรมปศุสัตว์ยังคงปฏิบัติตามระเบียบดำเนินการอื่นตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ อย่างเคร่งครัด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นควรแจ้งห้องปฏิบัติการทางไมโครที่ครอบครองเชื้อโรค แบคทีเรีย และพิษจากสัตว์เพื่อการเตรียมพร้อมและปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....