ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 720 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 14381 - 14400 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
14381 | การจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2561)] | นร | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอหนังสือของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ถึงกระทรวงการต่างประเทศ ที่ TCE/PU 446 (18) ลงวันที่ ๕ กันยายน ค.ศ. ๒๐๑๘ และร่างหนังสือกระทรวงการต่างประเทศถึงสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อตอบหนังสือสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ถึงกระทรวงการต่างประเทศฯ ดังกล่าว ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้เสนอหนังสือและร่างหนังสือดังกล่าวไปเพื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไปแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14382 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศย | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกรอบระยะเวลาของกระบวนการโต้แย้งเขตอำนาจศาล และเพิ่มระยะเวลาการพิจารณาคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดกรณีคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ถึงที่สุดระหว่างศาลขัดแย้งกัน รวมทั้งแก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ให้มีตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล โดยได้รับประโยชน์ตอบแทนตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14383 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน จำนวน 2 ฉบับ | อก | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกเทมเปอร์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกเทมเปอร์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด ๓๖๕ วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกนิรภัยหลายชั้นต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกนิรภัยหลายชั้นต้องเป็นไปตามมาตรฐาน โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด ๓๖๕ วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14384 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การแลกเปลี่ยนข้อมูลตามคำขอระหว่างประเทศและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติระหว่างประเทศ) | กค | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร เพื่อให้บุคคลผู้มีหน้าที่รวบรวมและนำส่งข้อมูลทางภาษีและข้อมูลอื่น ๆ ตามที่ได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือรวบรวมและนำส่งแบบอัตโนมัติ และให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจสามารถเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศตามสัญญาที่รัฐบาลไทยได้ทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศหรือตามสัญญาที่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจได้ทำไว้กับหน่วยงานของต่างประเทศ รวมทั้งกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ผู้มีหน้าที่รายงานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการรวบรวมและนำส่งข้อมูล ตลอดจนกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ผู้ล่วงรู้ข้อมูลที่ต้องรายงานหรือข้อมูลที่ได้รับมาจากต่างประเทศแล้วนำไปเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนแก่บุคคลอื่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและสำนักงานศาลยุติธรรมที่เห็นควรกำหนดคำนิยามให้สอดคล้องกับคำนิยามของพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ และควรเพิ่มหลักการเพื่อให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ สำหรับการสั่งให้บุคคลมีหน้าที่รวบรวมและนำส่งข้อมูลทางภาษีและข้อมูลอื่น ๆ อาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้กำหนดบทลงโทษในกรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ดังนั้น การให้ความหมายที่ชัดเจนในเรื่องเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจและบุคคลที่จะต้องมีหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาในชั้นจัดทำกฎหมายลำดับรอง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานศาลยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14385 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน พ.ศ. .... | กค | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โดยให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินและสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน เพื่อให้การประกอบวิชาชีพการประเมินมูลค่าทรัพย์สินมีมาตรฐานอยู่ภายใต้จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเดียวกัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นว่าการกำหนดให้สำนักประเมินราคาทรัพย์สินรับผิดชอบงานธุรการและวิชาการของคณะกรรมการตามร่างพระราชบัญญัติฯ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งหน่วยงานของรัฐขึ้นใหม่ การกำหนดหลักเกณฑ์การกำกับดูแลในรายละเอียดในกฎหมายระดับพระราชบัญญัติหรือกฎกระทรวง ทำให้ไม่เกิดความยืดหยุ่นและไม่รองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป การจดทะเบียนนิติบุคคล การกำหนดประเภททรัพย์สินอื่นที่จะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนที่จะทำการประเมินไม่ควรครอบคลุมถึงทรัพย์สินที่ผู้ประกอบวิชาชีพอื่นมีความชำนาญในการประเมินมูลค่าและมีหน่วยงานอื่นทำหน้าที่กำกับดูแลอยู่แล้ว รวมถึงขอบเขตการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพประเมินราคายังไม่ครอบคลุมถึงการประเมินมูลค่าทรัพย์สินประเภทที่สามารถนำมาเป็นหลักประกันตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ และควรปรับปรุงจำนวนและองค์ประกอบของคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน รวมทั้งมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบระยะเวลาที่กำหนดให้ผู้สอบบัญชีรายงานผลการสอบบัญชี ความชัดเจนในประเด็นต่าง ๆ ของร่างพระราชบัญญัติฯ บทกำหนดโทษในร่างพระราชบัญญัติฯ และการกำหนดให้คณะกรรมการเปรียบเทียบความผิดต้องเป็นพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ควรทบทวนกรณีที่จะก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคตด้วย และเห็นควรกำหนดให้สำนักงานฯ บูรณาการภารกิจกับสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย โดยให้หน่วยงานของภาครัฐมีหน้าที่ในการกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14386 | ร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อยกเลิกลักษณะต้องห้ามในการเป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาของผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลผู้เคยกระทำความผิดเหล่านี้สามารถเข้าสู่การประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพได้ทันทีภายหลังพ้นโทษ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยคณะกรรมการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วนเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรให้คงลักษณะต้องห้ามของผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการตามมาตรา ๒๓ ข.(๒) แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ ไว้ และเห็นควรให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมซึ่งมีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมผู้กระทำผิด การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดและการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้กระทำผิด ได้แก่ กรมราชทัณฑ์ หรือกรมคุมประพฤติ หรือกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน รับรองความประพฤติของบุคคลเหล่านั้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14387 | ขออนุมัติการจัดทำโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปี 2560 (โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จังหวัดลำปาง) | พม | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปี ๒๕๖๐ จำนวน ๑ โครงการ ได้แก่ โครงการอาคารเช่าจังหวัดลำปาง รวม ๒๒๙ หน่วย วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น ๑๑๑.๖๕๒ ล้านบาท แหล่งที่มาของเงินลงทุนเป็นเงินรายได้ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จำนวน ๑๒.๐๓๗ ล้านบาท และเงินอุดหนุนจากรัฐ จำนวน ๙๙.๖๑๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้ กคช. ดำเนินโครงการฯ ได้ต่อเมื่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว สำหรับการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้ กคช. ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของ กคช. เป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และหรือเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีไปดำเนินการ โดยควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างให้เป็นไปอย่างประหยัดและอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่วนที่เหลือให้ กคช. จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และ กคช. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ กคช. จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงการดำเนินงานเกี่ยวกับต้นทุนค่าก่อสร้าง และอัตราค่าเช่าให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติของลูกค้าที่ประสงค์จะเช่าอยู่ในโครงการฯ และให้ กคช. เร่งรัดก่อสร้าง การขายหน่วยก่อสร้าง และการเช่าให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ตลอดจนจัดทำแผนการดำเนินโครงการฯ และการเบิกจ่ายลงทุนให้สอดคล้องกับระยะเวลาการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีของภาครัฐ และประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณเงินอุดหนุนจากรัฐให้มีความชัดเจน เหมาะสม และสอดคล้องกับความเป็นจริงในแต่ละพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14388 | ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 | นร | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๑ ประกอบด้วย (๑) เรื่องทราบ จำนวน ๔ เรื่อง ได้แก่ รายงานผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จำนวน ๔ คณะ ความก้าวหน้าแผนงานโครงการด้านทรัพยากรน้ำที่เสนอในคณะรัฐมนตรีสัญจร และงานนโยบายที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ ความก้าวหน้าการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... และความก้าวหน้า (ร่าง) พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... (๒) เรื่องพิจารณา ๑ เรื่อง ได้แก่ แผนงานโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ จำนวน ๗ โครงการ และ (๓) เรื่องอื่น ๆ ได้แก่ การแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14389 | การขอเลื่อนฐานะกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองคอรัลเกเบิลส์ สหรัฐอเมริกา (นางมาเรีย โดโลเรส แซริออล) | กต | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเลื่อนฐานะ นางมาเรีย โดโลเรส แซริออล (Mrs. Maria Dolores Sariol) กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองคอรัลเกเบิลส์ สหรัฐอเมริกา โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐฟลอริดา สืบแทน นายจอร์จ เอ็ม. คอร์ริแกน (Mr. George M. Corrigan) ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ โดยคงสถานะสถานที่ทำการกงสุล เป็น สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ไว้เช่นเดิม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14390 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลแสนตอ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลท่าอิบุญ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (จังหวัดอุตรดิตถ์) | มท | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลแสนตอ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลแสนตอ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๒ งาน เพื่อมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบลแสนตอใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลแสนตอและใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการ ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลท่าอิบุญ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลท่าอิบุญ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๑๕๐ ไร่ เพื่อมอบหมายให้กรมการข้าวใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์พร้อมทั้งแปลงเปรียบเทียบพันธุ์ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้องค์การบริหารส่วนตำบลแสนตอ และกรมการข้าว ปฏิบัติตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14391 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายพงศ์ธร พากเพียรทรัพย์) | กค | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพงศ์ธร พากเพียรทรัพย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14392 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | พณ | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ ภายในวงเงินทั้งสิ้น ๓,๑๖๔,๗๖๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๕๙๐,๐๔๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๒,๕๗๔,๗๒๐ บาท และยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี กรณีเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการต่ำกว่า ๕ ปี ด้วย หากการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ดังกล่าวมีระยะเวลาต่ำกว่า ๕ ปี ๒. สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ควรดำเนินการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ตามความจำเป็นและเหมาะสมกับเงื่อนเวลาของภารกิจ โดยอัตราค่าเช่าไม่เกินอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14393 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวกับการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ปี ๒๕๖๒ สามารถใช้วิธีเฉพาะเจาะจงเพิ่มเติมได้ เพื่อให้การเตรียมความพร้อมในการจัดการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14394 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ตผ | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14395 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟ ความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) พ.ศ. .... | คค | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางและสะพานข้ามทางรถไฟ สร้างทาง สร้างย่านสถานี และพื้นที่บริการผู้โดยสาร สร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและพื้นที่อำนวยความสะดวก สร้างสถานีไฟฟ้าย่อย และสร้างทางรถไฟและเครื่องประกอบราง ตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนบูรณาการเส้นทางการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยทั้งระบบ โดยให้คำนึงถึงปัจจัยสำคัญต่าง ๆ เช่น (๑) ความทับซ้อนของเส้นทางตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบิน และโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต (๒) การผังเมือง (๓) การเชื่อมโยงของโครงข่ายถนน และ (๔) การเชื่อมต่อของระบบราง ทั้งนี้ ให้จัดทำเป็นแผนระยะสั้น ๕ ปี ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ๓. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้าง และให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตทางรถไฟให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งกำหนดแนวเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามความจำเป็นเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและเพื่อช่วยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สามารถควบคุมวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินให้อยู่ภายในกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติ และเร่งดำเนินโครงการฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ เพื่อให้ รฟท. สามารถเปิดให้บริการโครงการฯ ในปี ๒๕๖๗ ได้ตามเป้าหมายต่อไป นอกจากนี้ ควรให้ รฟท. ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ ในส่วนที่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับแนวเขตที่ดินและเขตท้องที่การปกครองในบริเวณที่ที่จะเวนคืนที่มีพื้นที่ต่อเนื่องกัน เพื่อประกอบการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14396 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 | นร11 | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่งมีประเด็นการพัฒนาและข้อสั่งการ ได้แก่ (๑) การพัฒนาสภาพแวดล้อมในการพัฒนาการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์เชื่อมโยงกับต่างประเทศ (๒) การสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรปลอดภัยที่มีศักยภาพ (๓) การพัฒนาและสนับสนุนการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ด้านศาสนาศิลปวัฒนธรรมและสุขภาพ เพื่อเป็นการสร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน และ (๔) การดำรงฐานทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนสู่การเป็นกลุ่มจังหวัดสีเขียว โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการไปพิจารณาดำเนินการต่อไป รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทราบ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14397 | ผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 | นร11 | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ ห้องประชุมแสนหวี หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จังหวัดเชียงราย ๑.๒ เห็นชอบตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ได้แก่ (๑) การขับเคลื่อนนโยบายเชิงพื้นที่ (๒) ด้านการท่องเที่ยว (๓) ด้านการค้าและการลงทุน (๔) ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (๕) ด้านการเกษตร (๖) ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต (๗) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวพะเยา-หลวงพระบาง และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ รวมทั้งรายงานผลการดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14398 | การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย น่าน พะเยา และ แพร่) | คค | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) ภายใต้แนวคิด “เหนือสุดแห่งสยาม คมนาคมเชื่อมทาง เชื่อมน้ำ เชื่อมฟ้า เชื่อมประชา ร่วมสร้างฐานเศรษฐกิจไทย สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประกอบด้วยยุทธศาสตร์สำคัญ ๔ ด้าน คือ (๑) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงข่ายถนน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน (๒) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบรางไทย ให้เป็นโครงข่ายหลักของประเทศ (๓) ยุทธศาสตร์เปิด Gateway ทางน้ำ สนับสนุนท่าเรือหลักเชื่อมโยงอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และ (๔) ยุทธศาสตร์เปิดห้วงอากาศ ให้เป็นประตูแห่งโอกาสการเดินทาง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งการดำเนินการปรับปรุงเส้นทางเข้าสู่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ให้เหมาะสมเพื่อให้ผู้ใช้เส้นทางได้รับความสะดวก คล่องตัว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นโดยเร็ว ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดระเบียบการพัฒนาพื้นที่และเส้นทางการจราจรในการเดินทางเข้าสู่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในภาพรวม รวมถึงการกำหนดพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น พื้นที่สำหรับขายสินค้าและบริการ พื้นที่จอดรถ เป็นต้น เพื่อให้วนอุทยานดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่ยังคงอนุรักษ์สภาพธรรมชาติและสามารถรองรับการเดินทางมาเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นได้อย่างเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14399 | แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 | กก | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) โดยมีแนวทางการพัฒนาที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การพัฒนาและยกระดับคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในแต่ละประเภทให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล (๒) การพัฒนาระบบคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพภายในกลุ่มจังหวัด ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ (๓) การพัฒนาและยกระดับศักยภาพของบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (๔) การส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน (๕) การกระตุ้นอุปสงค์ของการท่องเที่ยวในเมืองรองผ่านการประกาศใช้มาตรการทางภาษี การทำการตลาดเชิงรุกที่มีประสิทธิภาพ และการประชาสัมพันธ์ เน้นการส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชุมชน และ (๖) การส่งเสริมการบูรณาการการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ๆ เพื่อการเพิ่มสัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในพื้นที่ให้สูงขึ้น ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางส่งเสริมด้านการตลาดเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ของการท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับจุดเด่นและสภาพพื้นที่ของกลุ่มจังหวัด รวมทั้งให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ข่าวสารการท่องเที่ยวดังกล่าวไปยังประเทศต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น ประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป เป็นต้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาประเทศไทยมากยิ่งขึ้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14400 | การส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 และการใช้มิติทางวัฒนธรรมสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ : ผลการดำเนินงานกรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย | วธ | 30/10/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ และการใช้มิติทางวัฒนธรรมสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ : ผลการดำเนินงานกรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ เช่น การส่งเสริมกิจกรรมเพื่อการสืบสานสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม และสร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นและความมั่งคั่งสู่ประเทศจากต้นทุนทางวัฒนธรรม อาทิ การส่งเสริมตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม จำนวน ๑๒ แห่ง พัฒนาศักยภาพชุมชนท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ๑๓ แห่ง การยกระดับเทศกาลประเพณีเพื่อการสืบสานและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ๔๙ เทศกาล การพัฒนาต้นไม้สำคัญของชาติ ภายใต้โครงการ “รุกข-มรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี” ๖ ต้น และขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๒๑ รายการ เป็นต้น ๒. การใช้มิติทางวัฒนธรรมสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ ผลการดำเนินงานกรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย เช่น การจัดนิทรรศการปฏิบัติการถ้ำหลวง วาระแห่งโลก ณ สถานที่ต่าง ๆ การจัดกิจกรรม ๑๓ ชีวิตหมูป่า พบสื่อมวลชน การดูแลคุ้มครองสิทธิ และให้คำปรึกษาการบริหารสิทธิประโยชน์ของผู้ประสบภัยและผู้เกี่ยวข้อง เป็นต้น
|
.....