ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 715 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 14281 - 14300 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
14281 | ร่างพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2561)] | นร | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14282 | การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้มีคณะกรรมการคณะพิเศษขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ประกอบด้วยผู้เป็นกรรมการกฤษฎีกาและบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นกรรมการกฤษฎีกาที่มีความรู้ความสามารถ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการดังกล่าว และให้แต่งตั้งเลขานุการได้ตามความจำเป็น ทั้งนี้ การเบิกเบี้ยประชุมให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยประชุมรายครั้งที่มาประชุมในอัตราเดียวกับค่าตอบแทนของประธานกรรมการกฤษฎีกาและเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วแต่กรณีตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมของกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำหรับรายชื่อคณะกรรมการดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาออกคำสั่งตามความในมาตรา ๑๑ (๖) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ต่อไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14283 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | กค | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๓ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ (เมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๑) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง ผลไม้ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง นาฬิกาและอุปกรณ์ สูท เสื้อ กระโปรง กางเกง สำหรับบุรุษ สตรี เด็กชาย เด็กหญิง และเนคไท สุราต่างประเทศ เลนส์ รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ แว่นตา ปากกาและอุปกรณ์ เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล ไวน์ กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ ดอกไม้ ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์ ไฟแช็คและอุปกรณ์ และเครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหารหรือใช้ตกแต่งภายในที่ทำด้วยคริสตัล มีมูลค่านำเข้า ๑,๐๕๒.๔๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ร้อยละ ๑.๗๑ ของมูลค่านำเข้าร่วม) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ๑๔๙.๔๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๑๖.๕๕ โดยสินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง นาฬิกาและอุปกรณ์ สำหรับอากรขาเข้าที่จัดเก็บจากสินค้าฟุ่มเฟือย ๖๕.๒๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ๑๑.๒๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๒๐.๙๕ โดยสินค้าที่มีการจัดเก็บอากรสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง สูท เสื้อ กระโปรง กางเกงฯ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๑ (เรื่อง มูลค่าการนำเข้าสินค้าบางประเภท) โดยให้กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าบางประเภท (สินค้าฟุ่มเฟือย) ต่อคณะรัฐมนตรี ตามความจำเป็นเฉพาะในคราวที่กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นว่าการนำเข้าสินค้าดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญและอาจก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจขึ้นได้เท่านั้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14284 | ขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนลาดปลาเค้ากับถนนประดิษฐ์มนูธรรม พ.ศ. .... | มท | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนลาดปลาเค้ากับถนนประดิษฐ์มนูธรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14285 | การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุคืนให้แก่ทายาท นางผุด ฤกษ์ดี ผู้ยกให้ | กค | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ที่ กท. ๔๘๗๘ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๔๔๑๗ แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ ๑-๐-๐๐ ไร่ คืนให้แก่ทายาทของนางผุด ฤกษ์ดี ผู้ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์รวม ๖ ราย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14286 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน) | สธ | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14287 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง ในจังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | ศย | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง ในจังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีศาลแขวงเชียงราย โดยมีเขตอำนาจในท้องที่อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเชียงแสน อำเภอดอยหลวง อำเภอพาน อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ลาว อำเภอแม่สาย อำเภอเวียงชัย และอำเภอเวียงเชียงรุ้ง และให้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14288 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 | มท | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์/ส่วนทุน ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองงบการเงินแล้ว โดยมีความเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันโดยถูกต้องในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังประกาศใช้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14289 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | สว | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาและข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งพลเอก อดุลยเดช อินทะพงษ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ] ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (พลเอก อดุลยเดช อินทะพงษ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมให้แจ้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่า ควรชะลอการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อรอร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อพิจารณาไปในคราวเดียวกันต่อไป ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. และการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการยกร่างในบางประเด็น เช่น ความเหมาะสมของการกำหนดโทษผู้ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนนักกีฬามวยและการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะเป็นผู้จัดการนักกีฬามวย นายสนามมวย และผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวย ขอบเขตของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นต้น สำหรับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่าควรเปลี่ยนรูปแบบการยกร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จากการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ ทั้งฉบับ รวมทั้งมีข้อสังเกตในประเด็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกีฬามวยและการกำหนดโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติเกี่ยวกับการเข้าร่วมแข่งขันกีฬามวยของเด็กที่มีอายุต่ำกว่าสิบห้าปี แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14290 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกำหนดเขตที่ดิน ในท้อที่ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีอำนาจนำที่ดินมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งควรต้องติดตามดูแลให้ดเกษตรกรสามารถรักษาที่ดินที่ได้รับให้เป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนเป็นไปตามเจตนารมณ์และขั้นตอนตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และควรพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ อาทิ การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่และเกษตรกรรมแม่นยำสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตในการผลิตพืชกระแสหลัก และการสนับสนุนทางเลือกในการทำเกษตรกรรมยยั่งยืน โดยเฉพาะเกษตรผสมผสาน อาทิ การส่งเสริมการปลูกพืชแซมในสวนยางพาราและสวนผลไม้ เพื่อเสริมสร้างรายได้และลดความเสี่ยงด้านราคาผลผลิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและชุมชนในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14291 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนกันยายน 2561 | นร02 | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนกันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ และ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินงานภายใต้โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมีการประชาสัมพันธ์ในประเด็นแอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐและอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านสื่อในช่องทางต่าง ๆ (สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์) โดยทางสื่อออนไลน์มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทั้งหมด ๒๒,๙๒๕ ครั้ง จำนวนการเข้าถึง ๓,๕๗๕,๔๕๗ คน จำนวนการลดไลค์ ๑๖,๗๗๒ ครั้ง จำนวนการแชร์ ๖,๖๓๕ ครั้ง และจำนวนการแสดงความคิดเห็น ๓๕๖ ครั้ง ๒. การติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมรับมือจากพายุ โดยมีการประชาสัมพันธ์ในประเด็นสถานการณ์น้ำประจำวัน การควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อน และการเตือนภัยสภาวะอากาศผ่านสื่อในช่องทางต่าง ๆ โดยทางสื่อออนไลน์มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทั้งหมด ๙๓๖ ครั้ง จำนวนการเข้าถึง ๑,๘๖๑,๘๓๖ คน จำนวนการกดไลค์ ๘,๙๒๕ ครั้ง จำนวนการแชร์ ๓,๗๘๘ ครั้ง และจำนวนการแสดงความคิดเห็น ๙๐๔ ครั้ง ๓. การปฏิรูปประเทศ ๑๑ ด้าน โดยมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในประเด็นแนวทางและเป้าหมายการปฏิรูปประเทศและโครงการตามแผนการปฏิรูปประเทศผ่านสื่อในช่องทางต่าง ๆ โดยทางสื่อออนไลน์มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทั้งหมด ๖๐๐ ครั้ง จำนวนการเข้าถึง ๑,๐๐๕,๒๒๔ คน จำนวนการลดไลค์ ๔,๘๑๖ ครั้ง จำนวนการแชร์ ๑,๘๕๕ ครั้ง และจำนวนการแสดงความคิดเห็น ๑๖๘ ครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14292 | สรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 45 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2560-31 สิงหาคม 2561) | นร | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๔๕ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐-๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๑) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
๑. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เช่น โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ของศูนย์ดำรงธรรม ๒. การบริหารราชการแผ่นดิน จำแนกสาระสำคัญเป็น ๑) ด้านความมั่นคง ๒) ด้านสังคมจิตวิทยา ๓) ด้านเศรษฐกิจ ๔) ด้านการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชนจากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ๕) ด้านการต่างประเทศ ๖) ด้านการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และ ๗) ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14293 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 6/2561 | นร04 | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ ๖/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๑ โดยได้มีการติดตามเร่งรัดการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ๕ เรื่อง ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ สรุปได้ดังนี้
๑. โครงการทบทวนใบอนุญาตของทางราชการ ที่ประชุม กขร. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วนที่ให้เร่งสร้างความเข้าใจกระบวนการในการทบทวนกฎหมายและกระบวนงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตทางราชการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป ๒. การพัฒนาระบบการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปให้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท ที่ประชุม กขร. มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอจะดำเนินการประชุมร่วมกับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่าง ๆ ภายในเดือนตุลาคม ๒๕๖๑ เพื่อรายงานผลการดำเนินการต่อองค์กรกลางบริหารงานบุคคลและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีได้ภายในระยะเวลา ๒ เดือน (ภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑) ๓. โครงการ National e-Library) ที่ประชุม กขร. มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานโดยมอบหมาบให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการรวบรวมข้อมูล (Metadata) และไฟล์ของสื่อเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์จากหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนขอสนับสนุนอุปกรณ์ ซอฟแวร์ และบุคลากร เพื่อใช้ในการผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการภายใน ๑ เดือน (ภายในเดือนตุลาคม ๒๕๖๑) และวางเป้าหมายให้ดำเนินการทันวันเด็กในเดือนมกราคม ๒๕๖๒ ๔. ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง พ.ศ. .... ที่ประชุม กขร. มีมติเห็นชอบในหลักการการเสนอร่างระเบียบฯ และมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) รับความเห็นและข้อสังเกตที่ประชุม กขร. ในประเด็นจำนวนสมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิของสภาพัฒนาตำบลกับสภาองค์กรชุมชน และการเปิดโอกาสให้มีการคัดเลือกโดยไม่ได้ระบุจำนวนสมาชิกไว้ ไปพิจารณาปรับปรุงและเร่งรัดเสนอร่างระเบียบฯ ตามขั้นตอนเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑-๒ เดือน ๕. โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมชุมชน ที่ประชุม กขร. มีมติ เห็นชอบในหลักการโครงการฯ และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาในรายละเอียดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑-๒ เดือน (ภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14294 | ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าร่วมโครงการอุปสมบทเพื่อถวายพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยไม่ถือเป็นวันลา | นร01 | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าร่วมโครงการอุปสมบทเพื่อถวายพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ โดยไม่ถือเป็นวันลา ทั้งนี้ กำหนดการดำเนินโครงการอุปสมทบฯ ประกอบด้วย พิธีบรรพชาอุปสมบทและจาริกแสวงบุญสังเวชนียสถาน ณ สาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และลาสิกขาในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14295 | การเปิดศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง จังหวัดระนอง | รง | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปิดศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง จังหวัดระนอง โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงทะเล โดยในส่วนของการนำเข้าแรงงานประมงจากประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่ประชุมเห็นชอบการจัดตั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างในจังหวัดระนอง เพื่อส่งเสริมให้นายจ้างจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองและมีสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ การคุ้มครองตามสิทธิที่พึงได้รับ โดยศูนย์ดังกล่าวได้เปิดดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๑ และมีการดำเนินการในลักษณะศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ดำเนินการตรวจลงตรา (Visa) และประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) ดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว กระทรวงแรงงาน (กรมการจัดหางาน และกรมสวัสดิการและคุมครองแรงงาน) ดำเนินการออกใบอนุญาตทำงาน และดำเนินการตรวจสอบสัญญาจ้างระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14296 | การขยายอายุบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ดศ | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายอายุบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยน (exchange of letters) เพื่อขยายอายุบันทึกความเข้าใจฯ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ทั้งนี้ การขยายอายุบันทึกความเข้าใจฯ จะเป็นการส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระหว่างอาเซียนกับจีน และระหว่างอาเซียนกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ที่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ ความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกอาเซียนรวมถึงไทยในการพัฒนาบุคลากร เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับประเด็นที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14297 | ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีต่อเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนในการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 25 (The 25th ASEAN Labour Minister Meeting : ALMM) | รง | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน จำนวน ๒ ฉบับ ที่จะมีการรับรอง (โดยไม่มีการลงนาม) ในการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ ๒๕ (The 25th ASEAN Labour Minister Meeting : ALMM) ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ ประเทศมาเลเซีย และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ดังกล่าว ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างแผนปฏิบัติการคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยการปฏิบัติให้เป็นไปตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานต่างด้าว (๒๕๖๑-๒๕๖๘) เพื่อขับเคลื่อนฉันทามติอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนฉันทามติอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานต่างด้าว โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อน ๕ ด้าน ได้แก่ (๑) การศึกษา/ข้อมูลข่าวสาร (๒) การคุ้มครอง (๓) การบังคับใช้กฎหมาย (๔) การขอความช่วยเหลือ และ (๕) การคืนสู่สังคม โดยร่างแผนปฏิบัติการฯ ได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนระบุโครงการต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวอย่างน้อย ๑ โครงการ สำหรับประเทศไทยได้กำหนดโครงการต่าง ๆ เช่น การศึกษาเรื่องความสามารถในการรองรับการเคลื่อนย้ายสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานต่างด้าวระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นต้น ๑.๒ ร่างแนวคิดริเริ่มเครือข่ายความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของอาเซียน (ASEAN Occupational Safety and Health Network : ASEAN-OSHNET) เพื่อขับเคลื่อนแถลงการณ์ของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนในการปรับปรุงความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เป็นเอกสารแนวคิดเพื่อขับเคลื่อนแถลงการณ์รัฐมนตรีแรงงานอาเซียนในการปรับปรุงความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14298 | รายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี 2560 | ศป | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี ๒๕๖๐ โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วย (๑) สถิติคดีปกครองในภาพรวม (๒) การเสริมสร้างโอกาสในการเข้าถึงความยุติธรรมทางปกครอง เช่น การเปิดทำการแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่น และแผนกคดีบริหารราชการแผ่นดินในศาลปกครองสูงสุด เป็นต้น (๓) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการคดีและการให้บริการประชาชน เช่น การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนและรองรับการปฏิบัติงานของตุลาการศาลปกครอง พนักงานคดีปกครอง เป็นต้น (๔) การเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น การเสริมสร้างความร่วมมือกับประชาคมศาลปกครององค์กร หรือหน่วยงานระหว่างประเทศ เป็นต้น (๕) การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้แก่ทุกภาคส่วนในสังคม เช่น การให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับคดีปกครองให้กับประชาชนขึ้นในศาลปกครองทุกแห่งทั่วประเทศ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบาทภารกิจของศาลปกครอง เป็นต้น (๖) การสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการอำนวยความยุติธรรมของศาลปกครอง (๗) การจัดทำแผนเสริมสร้างวัฒนธรรมศาลปกครอง รวมทั้งจัดกิจกรรมตามแผนการเสริมสร้างวัฒนธรรมศาลปกครองเพื่อให้บุคลากรศาลปกครองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมศาลปกครองอย่างต่อเนื่อง (๘) การวางหลักกฎหมายและแนวทางการปฏิบัติราชการที่ดี และ (๙) การกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของศาลปกครอง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14299 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนกันยายน 2561 ต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนกันยายน ๒๕๖๑ ต่อคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีหน่วยงานผู้รับผิดชอบรายงานผลผ่านเว็บไซต์ฯ จำนวน ๔๖ หน่วยงาน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง และเป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๑๖ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง และเป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๙ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลา แต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง และเป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๗๙ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย จำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๐ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ จำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๘ เรื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14300 | ขอเสนอแนวทางและมาตรการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีลอยกระทง ประจำปีพุทธศักราช 2561 (ลอยกระทงปลอดภัย สืบสานวัฒนธรรมไทย ใส่ใจสายน้ำและสิ่งแวดล้อม) | วธ | 13/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางและมาตรการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีลอยกระทง ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ ในระหว่างวันที่ ๑๖-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงปลอดภัย สืบสานวัฒนธรรมไทย ใส่ใจสายน้ำและสิ่งแวดล้อม” โดยมีแนวทางและมาตรการรณรงค์ เช่น การไม่เล่นพลุและดอกไม้ไฟในที่ชุมชน ไม่แต่งกายด้วยชุดล่อแหลม การจัดกิจกรรมการละเล่นและการแสดงทางวัฒนธรรมตามประเพณีท้องถิ่น เพื่อเป็นการถ่ายทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การส่งเสริมการใช้วัสดุจากธรรมชาติและย่อยสลายง่ายมาประดิษฐ์กระทง และรณรงค์แนวทาง “๑ ครอบครัว ๑ กระทง” หรือ “๑ หน่วยงาน ๑ กระทง” เป็นต้น ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
.....