ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 714 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 14261 - 14280 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
14261 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน 3 ฉบับ) | สลธ.คสช. | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๖/๒๕๖๑ เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๓/๒๕๖๑ เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ เพื่อผ่อนผันและขยายเวลาให้คณะกรรมการการเลือกตั้งยังคงดำเนินการต่อไปตามหน้าที่ในการตรวจหรือเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งได้ในกรณีได้รับเรื่องร้องเรียน และให้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกให้ชัดเจนขึ้น ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๖๑ เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรบางกรณี ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้พึงประเมินสำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และดอกเบี้ยพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทยให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ และมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ และการใช้พันธบัตรของรัฐบาลให้เป็นอย่างเดียวกัน ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๘/๒๕๖๑ เรื่อง การดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งผู้บริหารขององค์กรที่มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารงานของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติอันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14262 | ขอรายงานผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐปี 2561 | กษ | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐปี ๒๕๖๑ โดยส่วนราชการ ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ดำเนินกิจกรรม ได้แก่ ฝายยาง สระน้ำ บล็อกยางปูพื้น ภายนอกอาคาร (ทางเท้า สนามเด็กเล่น) ถนนงานยางพาราแอสฟัลต์ติกคอนกรีต และถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารา วงเงินงบประมาณ ๒๔,๗๖๐.๕๒ ล้านบาท ปริมาณน้ำยางสดที่ใช้ ๙๗,๙๒๐.๖๑ ตัน ดำเนินงานเสร็จสิ้นแล้ว ๑๑,๘๔๙.๕๙ ล้านบาท ใช้น้ำยางสด ๒๒,๒๖๒.๓๗ ตัน คงเหลือที่อยู่ระหว่างดำเนินการโครงการฯ อีกจำนวน ๑๒,๙๑๐.๙๔ ล้านบาท ๒. เห็นชอบให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้เกิดการใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๓. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ประกอบด้วย (๑) งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามนัยของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๗ ในกรณีที่มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ประเภทงบกลาง ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ (๒) เงินรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (งบสะสม อปท.) ซึ่งมีลักษณะเป็นเงินนอกงบประมาณ เห็นควรให้ อปท. ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ (๓) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งยังไม่มีการก่อหนี้ผูกพัน เห็นควรให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมหารือกับสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเพื่อพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ และพิจารณาจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณในปีถัดไป ให้มีความสอดคล้องต่อเจตนารมณ์และไม่ขัดกับพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติในการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นรูปธรรมและมีความต่อเนื่อง รวมทั้งเห็นควรสนับสนุนให้หน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม และกรุงเทพมหานคร พิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์ยางให้เหมาะสมกับภารกิจให้มากขึ้น เช่น บล็อกยางปูพื้นภายนอกอาคาร (ทางเท้า สนามเด็กเล่น) บล็อกยางปูพื้นสนามฟุตซอล ผลิตภัณฑ์เครื่องนอน เป็นต้น โดยจัดทำเป็นโครงการที่สามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน และเอื้อต่อการส่งเสริมการใช้ยางพาราอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้และเพิ่มมูลค่ายางพาราที่สามารถส่งผลต่อเนื่องไปยังผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมภายในประเทศให้ได้รับการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14263 | โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง | กษ | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมมติ ดังนี้
๑. รับทราบโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยาง โดยช่วยเหลือค่าครองชีพของเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยที่มีสวนยางเปิดกรีด จำนวน ๙๙๙,๐๖๕ ราย และคนกรีดยาง จำนวน ๓๐๔,๒๖๖ ราย คิดเป็นพื้นที่เปิดกรีดแล้วรวม ๑๐,๐๓๙,๖๗๒.๒๙ ไร่ โดยให้ความช่วยเหลือตามพื้นที่สวนยางเปิดกรีดจริง ไร่ละ ๑,๘๐๐ บาท ไม่เกินรายละ ๑๕ ไร่ แบ่งเป็นเจ้าของสวนยาง ๑,๑๐๐ บาท และคนกรีดยาง ๗๐๐ บาท ระยะเวลาดำเนินการ ๑๐ เดือน (ธันวาคม ๒๕๖๑-กันยายน ๒๕๖๒) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ๑๘,๖๐๔,๙๕๐,๒๐๓ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งเสนอโครงการให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาราคายางในสถานการณ์ปัจจุบันก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป รวมทั้งควรปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับเป็นสำคัญ โดยให้ความสำคัญกับการกำหนดแนวทางในการดำเนินงานโครงการของคณะกรรมการระดับต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีความชัดเจนและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และพื้นที่สวนยางที่เข้าร่วมโครงการจะต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ตลอดจนกำหนดให้มีกลไกในการติดตามและตรวจสอบค่าใช้จ่ายงบประมาณโครงการ เพื่อให้โครงการเกิดความโปร่งใส คุ้มค่า และรายงานผลการดำเนินงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเมื่อเสร็จสิ้นโครงการตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14264 | มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ | กค | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวม ๔ มาตรการ ได้แก่ (๑) มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (๒) มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (๓) มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย และ (๔) มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามมาตรการฯ วงเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน ๓๘,๗๓๐ ล้านบาท เห็นควรให้กระทรวงการคลังปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยปรับมาตรการที่ใช้จ่ายจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้ว จำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท และขณะนี้ยังคงมีเหลือเพียงพอเพื่อดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมฯ ในระยะแรก หากไม่เพียงพอเห็นควรให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินเพิ่มสำหรับกองทุนประชารัฐฯ เพื่อรองรับการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ตามขั้นตอนและกระบวนการต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการดำเนินมาตรการยกระดับคุณภาพชีวิตให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาตนเองในปี ๒๕๖๑ ควรมีการติดตามความก้าวหน้า และรับทราบปัญหา/อุปสรรค เพื่อจะได้กำหนดมาตรการให้กับแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งควรมีการบูรณาการมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ผ่านมา เช่น มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและทำให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และในระยะต่อไป รัฐบาลอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของกองทุนประชารัฐฯ ได้ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำหนดมาตรการเพื่อหาแหล่งรายได้อื่น นอกเหนือจากเงินงบประมาณ เพื่อลดภาระของรัฐบาล และสร้างความยั่งยืนของกองทุนประชารัฐฯ นอกจากนี้ การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวควรกำหนดเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงทางการคลังและเป็นภาระต่องบประมาณในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14265 | ขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) | กค | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้เองในปี ๒๕๖๐ ในกรอบวงเงิน ๑๘๖,๒๙๙,๕๐๐ บาท ประกอบด้วย (๑) ค่าใช้จ่ายในการผลิตบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน ๓,๘๐๒,๓๐๙ ใบ จำนวนเงิน ๑๖๒,๖๘๗,๒๐๐ บาท (๒) ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน ๓,๘๐๒,๓๐๙ ใบ จำนวนเงิน ๗๙๘,๔๕๐ บาท และ (๓) ค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการรายปี รวมค่าบริหารจัดการโครงการ ค่าควบคุมงาน และบริหารระบบต่าง ๆ รวมถึงการบริหารฐานข้อมูลและจัดทำ Dashboard & Data Analytics จำนวนเงิน ๒๒,๘๑๓,๘๕๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14266 | การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) และการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ | กค | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน ๒ ฉบับ รวมเป็น ๓ ฉบับ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการปรับเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) แก่ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ ซึ่งได้รับเบี้ยหวัดบำนาญต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ บาท ให้ได้รับเบี้ยหวัดบำนาญรวมกับ ช.ค.บ. เป็นเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท และขยายเพดานวงเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ ๗๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เพิ่มขึ้น ๑๐๐,๐๐๐ บาท จากเดิมให้ขอรับได้ในอัตรา ๑๕ เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท เป็นให้ขอรับได้ในอัตรา ๑๕ เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขชื่อร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับดังกล่าวจากที่เสนอให้ใช้ชื่อร่างในรูปแบบการแก้ไขเพิ่มเติมเสียใหม่ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้พิจารณาจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อบรรจุไว้ในกรอบวงเงินรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป และควรมีการจัดทำประมาณการภาระทางการคลังที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี รวมทั้งพิจารณาหาแหล่งรายได้เพิ่มเติมและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้เพื่อลดความเสี่ยงต่อฐานะการคลัง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14267 | ขอรับโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวสุรุ่งลักษณ์ เมฆะอำนวยชัย) | นร | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นางสาวสุรุ่งลักษณ์ เมฆะอำนวยชัย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14268 | ขอรับโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ) | นร | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14269 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (นายเกริกพันธุ์ ฤกษ์จำนง) | กต | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเกริกพันธุ์ ฤกษ์จำนง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างเนื่องจากผู้ครองตำแหน่งเดิมเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14270 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ และนางสาวพัชรี พุ่มพชาติ) | กต | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างเนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ๒. นางสาวพัชรี พุ่มพชาติ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส สาธารณรัฐอาร์เจนตินา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14271 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายวันชัย พนมชัย และนายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี) | อก | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายวันชัย พนมชัย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๒. นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14272 | แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (นายนที ขลิบทอง) | นร | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนที ขลิบทอง ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ [ตามนัยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๘/๒๕๖๑ เรื่อง การดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑] ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14273 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (จำนวน 7 คน 1. นายพงศ์บุณย์ ปองทอง ฯลฯ) | ทส | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ รวม ๗ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๑ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายพงศ์บุณย์ ปองทอง ประธานกรรมการ (ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ๒. นายณพงศ์ ศิริขันตยกุล กรรมการ (เป็นบุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) ๓. นายอนุพร อรุณรัตน์ กรรมการ ๔. นายวิษณุ ตัณฑวิรุฬห์ กรรมการ ๕. นายประสิทธิ์ วังภคพัฒนวงศ์ กรรมการ ๖. นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการ (เป็นบุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) ๗. นางภัทรพร วรทรัพย์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14274 | แต่งตั้งผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง | มท | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาววิไล ตันตินันท์ธนา ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง แทน นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้แทนกระทรวงการคลังเดิม ที่ลาออกเนื่องจากเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14275 | การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 9/2561 | นร04 | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ ๙/๒๕๖๑ และตรวจราชการ ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๑ (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) โดยนายกรัฐมนตรีกำหนดตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬและจังหวัดหนองคาย ในวันพุธที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๑ และประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ จังหวัดหนองคาย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14276 | รายงานผลการดำเนินการโอนความรับผิดชอบการบริหารตลาดนัดจตุจักร ไปเป็นความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14277 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สามของปี 2561 และแนวโน้มปี 2561-2562 | นร11 | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14278 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2561) | นร | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ ให้ยกเลิกชั้นความลับ เรื่อง การให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๑๘๘ ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมง พ.ศ. ๒๕๕๐ (ค.ศ. ๒๐๐๗) นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14279 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับนั่งร้าน และค้ำยัน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. ....) | รง | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับนั่งร้าน และค้ำยัน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับนั่งร้าน ค้ำยัน และงานก่อสร้าง เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14280 | ร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2561)] | นร | 20/11/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
.....