ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 568 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 11341 - 11360 จากข้อมูลทั้งหมด 123998 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11341 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แทนตำแหน่งที่ว่าง (นางจุฬารัตน์ ตันประเสริฐ) | ศธ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางจุฬารัตน์ ตันประเสริฐ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มกราคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11342 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย ฯลฯ รวม 3 ราย) | พณ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11343 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายณรงค์ ทรงอารมณ์) | พศ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11344 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นางปานทิพย์ ศรีพิมล) | กค | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทน นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ที่ขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มกราคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนนี้ให้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11345 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ | ทส | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ จำนวน ๑๒ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มกราคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ๒. นายวิจารย์ สิมาฉายา ด้านสิ่งแวดล้อม ๓. นายศศิน เฉลิมลาภ ด้านทรัพยากรธรณี ๔. ศาสตราจารย์เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล ๕. รองศาสตราจารย์อรพรรณ ศรีเสาวลักษณ์ ด้านเศรษฐศาสตร์ ๖. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ ด้านนิติศาสตร์ ๗. นายนิวัติ ธัญญะชาติ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ผู้แทนชุมชนชายฝั่งกลุ่มจังหวัดที่ ๑ ระยอง จันทบุรี ตราด) ๘. นายบรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ผู้แทนชุมชนชายฝั่งกลุ่มจังหวัดที่ ๒ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม) ๙. นายมนูญ คุ้มรักษ์ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ผู้แทนชุมชนชายฝั่งกลุ่มจังหวัดที่ ๓ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี) ๑๐. นายสุไลมาน ดาราโอะ ด้านการประมง (ผู้แทนชุมชนชายฝั่งกลุ่มจังหวัดที่ ๔ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส) ๑๑. นายธนู แนบเนียร ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ผู้แทนชุมชนชายฝั่งกลุ่มจังหวัดที่ ๕ ระนอง พังงา ภูเก็ต) ๑๒. นายบรรจง นฤพรเมธี ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ผู้แทนชุมชนชายฝั่งกลุ่มจังหวัดที่ ๖ กระบี่ ตรัง สตูล)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11346 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งเพิ่มเติม (จำนวน 6 คน 1. นางศรีวณิก หัสดิน ฯลฯ) | สธ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้องค์การเภสัชกรรมมีจำนวนกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม รวมทั้งสิ้น ๑๔ คน ซึ่งเกินกว่า ๑๑ คน ตามมาตรา ๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๒ แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่ง จำนวน ๓ คน และแต่งตั้งเพิ่มเติม จำนวน ๓ คน ได้แก่ (๑) นางศรีวณิก หัสดิน (๒) นายอัศม์เดช วานิชชินชัย (๓) นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ (๔) นายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต (๕) นายคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ และ (๖) พลตำรวจโท เพิ่มพูน ชิดชอบ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มกราคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ๒. ให้กรรมการผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ (จำนวน ๓ คน) อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๐๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11347 | การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (จังหวัดนราธิวาส) | นร04 | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ และตรวจราชการ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ มกราคม ๒๕๖๓ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) โดยนายกรัฐมนตรีตรวจราชการและจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีฯ ในวังอังคารที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดนราธิวาส และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนทั้ง ๓ จังหวัด (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) โดยใช้มาตรการเชิงรุกทั้งในเขตเมืองและพื้นที่ป่าด้วย ๒. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11348 | การประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 23 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองบันดาร์เสรีเบกาวันบรูไนดารุสซาลาม | กก | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงข่าวร่วมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ซึ่งจะเป็นร่างผลลัพธ์ของการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๒๓ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๓๙ (ARF 2020) ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ณ เมืองบันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม และอนุมัติให้ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายสิรภพ ดวงสอดศรี) ซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนและร่วมรับรองร่างแถลงข่าวร่วมฯ โดยไม่มีการลงนาม ได้แก่ (๑) ร่างแถลงข่าวร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๒๓ (Joint Media Statement of the 23rd Meeting of ASEAN Tourism Ministers) (๒) ร่างแถลงข่าวร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ ๘ (Joint Media Statement of 8th Meeting of ASEAN-India Tourism Minister) และ (๓) ร่างแถลงข่าวร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี) ครั้งที่ ๑๘ [Joint Media Statement of 19th Meeting of ASEAN Plus Three (China, Japan and Republic of Korea) Tourism Minister] ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงข่าวร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามผลการประชุมฯ เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11349 | ขอความเห็นชอบและอนุมัติให้มีการรับรองเอกสารสำหรับการประชุม Global Forum for Food and Agriculture (GFFA) ครั้งที่ 12 และการประชุม Berlin Agriculture Minister's Conference ครั้งที่ 12 | กษ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้มีการรับรองเอกสารสำหรับการประชุม Global Forum for Food and Agriculture (GFFA) ครั้งที่ ๑๒ และการประชุม Berlin Agriculture Minister''s Conference ครั้งที่ ๑๒ รวม ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างเอกสารแถลงการณ์ (First draft GFFA Communique 2020) มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมย์ในการส่งเสริมการดำเนินการและนโยบายที่เกี่ยวข้องด้านการค้าสินค้าเกษตร การค้าพหุภาคี การพัฒนาห่วงโซ่อาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรที่ครอบคลุมและยั่งยืน รวมทั้งการส่งเสริมความปลอดภัยอาหารและความมั่นคงทางอาหาร และ (๒) เอกสาร FAO-Concept Note for an International Digital Council for Food and Agriculture มีสาระสำคัญเพื่อนำเสนอการจัดตั้ง International Digital Council for Food and Agriculture ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและให้คำแนะนำเชิงนโยบายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลสำหรับระบบอาหารและการเกษตรในการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัยและความยั่งยืน โดยเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวจะมีการรับรองโดยไม่มีการลงนามในการประชุม Berlin Agriculture Minister''s Conference ครั้งที่ ๑๒ ในวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงถ้อยคำหรือสาระสำคัญของเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11350 | ขอความเห็นชอบในหลักการการเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) | ดศ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท โทรคมนาคม) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ย่าน ๗๐๐ MHz ๑๘๐๐ MHz ๒๖๐๐ และ ๒๖ GHz ตามเงื่อนไขประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่เกี่ยวข้อง และเห็นชอบให้คณะกรรมการ บมจ. กสท โทรคมนาคม และคณะกรรมการ บมจ. ทีโอที เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบให้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่และอนุมัติงบประมาณให้เป็นไปตามเงื่อนไขประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้อง โดยให้พิจารณาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม รวมทั้งความสอดคล้องกับแผนธุรกิจและนโยบายของ บมจ. กสท โทรคมนาคม และ บมจ. ทีโอที และในกรณีที่เป็นผู้ชนะการประมูลก็ให้สามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากการประมูลดังกล่าว ซึ่งมีกรอบะระยเวลาจำกัดตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าในอัตราที่กำหนด และการลงทุนเบื้องต้นตามภาระผูกพัน เป็นต้น สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องในส่วนที่เหลือนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายล่วงหน้าที่ต้องชำระภายในกำหนด และการลงทุนในโครงการตามภาระผูกพันในระยะต่อไป ให้รัฐวิสาหกิจนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการดำเนินการต่อไป โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ/กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำกับดูแลแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวนัที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง กรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖) อย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ในขั้นตอนการพิจารณาการเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่และการอนุมัติงบประมาณของคณะกรรมการ บมจ. กสท โทรคมนาคม และ บมจ. ทีโอที ควรพิจารณาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความคุ้มค่าในการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ดังกล่าว โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง และการดำเนินงานตามแผนธุรกิจ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11351 | (ร่าง) แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. 2564 - 2570 กรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ | อว | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาระบบอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้สอดคล้องและบูรณาการกัน เพื่อให้เกิดเป็นพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมในลักษณะต่อเนื่องหลายปี (Multi-year) โดยกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด ความสำเร็จ และมีการบริหารจัดการโปรแกรมในลักษณะของแพลตฟอร์มที่มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานเพื่อมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ และให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ส่ง (ร่าง) แผนดังกล่าวให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี) ต่อไป ๒. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รวมทั้งสิ้น ๑๐,๒๕๐ ล้านบาท และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ และให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๓. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รวมทั้งสิ้น ๔๗,๑๙๒ ล้านบาท และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ และให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๔. ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11352 | มาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร07 | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับสถานการณ์ และสามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ทันทีเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ประกาศใช้บังคับ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11353 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย สำหรับรายการงบประมาณซึ่งจะต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณ และมีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป | มท | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๕ หน่วยงาน ๑๐ โครงการ วงเงิน ๒๑,๓๓๒.๙๕๙๕ ล้านบาท โดยให้กระทรวงมหาดไทยจัดลำดับความสำคัญของโครงการตามความเหมาะสมจำเป็น ตามวงเงินงบประมาณประจำปีเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการ โดยมีคุณลักษณะเฉพาะ ประมาณการหรือผลการสอบราคา รายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปประกอบการดำเนินการด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11354 | ขออนุมัติการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวนรวม ๗ รายการ (ภายใต้โครงการ จำนวน ๕ โครงการ) วงเงินรวม ๔,๐๖๕.๐๗๓๘ ล้านบาท โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดลำดับความสำคัญของโครงการตามความเหมาะสมจำเป็นตามวงเงินงบประมาณประจำปีเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการ โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชนที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11355 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางรำไพ เกียรติอดิศร และนายไพบูลย์ อัศวธนบดี) (นางรำไพ เกียรติอดิศร) | สธ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางรำไพ เกียรติอดิศร ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๒ ๒. นายไพบูลย์ อัศวธนบดี ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลมหาสารคาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11356 | สรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 26 | นร | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒๖ (The 26th Meeting of Mekong River Commission Council) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒๕-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยมีเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมฯ ได้แลกเปลี่ยนทัศนะถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเห็นว่าจำเป็นต้องเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสารเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบกับปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นอย่างมาก ๒. หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้กล่าวถึงความจำเป็นในการดำเนินความร่วมมือของคณะกรรมาธิการฯ ในการตอบสนองต่อประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความรุนแรงของปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศลุ่มน้ำโขงที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงโดยรวม ซึ่งไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกในการแก้ไขปัญหาภายใต้หลักการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ การส่งเสริมความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศคู่เจรจา (จีนและเมียนมา) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ รวมทั้งการเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอื่น ๆ ๓. ที่ประชุมฯ มีมติอนุมัติยุทธศาสตร์การจัดการภัยแล้ง (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๘) ตามที่สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการฯ เสนอ โดยกองทุนรวมญี่ปุ่น-อาเซียนให้การสนับสนุนงบประมาตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งมีกรอบแนวทางการดำเนินงาน ๕ ประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การตรวจสอบดัชนีภัยแล้ง (๒) การพยากรณ์ภัยแล้งและการเตือนภัยล่วงหน้า (๓) การสร้างขีดความสามารถบุคลากร (๔) มาตรการบรรเทาผลกระทบ และ (๕) การแบ่งปันและการเผยแพร่ข้อมูล ๔. ที่ประขุมฯ มีมติอนุมัติแผนปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๔ ของคณะกรรมาธิการฯ ตามที่สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการฯ เสนอ ซึ่งเป็นแผน ๒ ปี เพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมล่วงหน้าด้านงบประมาณและกิจกรรมการดำเนินงานในช่วงเปลี่ยนผ่านของการเริ่มแผนกลยุทธ์สำนักงานคณะกรรมาธิการฯ ฉบับใหม่ที่จะเริ่มในต้นปี ๒๕๖๔ (MRCS Strategic Plan พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘) ๕. ที่ประขุมฯ รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามระเบียบปฏิบัติ เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลงกรณีรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนำโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบางเข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้า ๖. ที่ประชุมฯ รับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานสำนักงานคณะกรรมาธิการฯ เช่น ความสำเร็จและการปิดโครงการการจัดการน้ำแบบบูรณาการ (Mekong Integrated Water Resources Management Project) ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมาธิการฯ กับหุ้นส่วนการพัฒนาและคู่เจรจา การเตรียมการจัดทำยุทธศาสตร์ลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๓) และการจัดทำยุทธศาสตร์องค์กร (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘) เป็นต้น ๗. หุ้นส่วนการพัฒนาและองค์กรความร่วมมือในภูมิภาคได้เสนอการพัฒนาและการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การจัดทำรายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำโขงครอบคลุมพื้นที่ตอนบนและตอนล่าง และการสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกนำประเด็นพลังงานทดแทนบรรจุไว้ในแผนพลังงานของประเทศ และการสนับสนุนให้มีการแบ่งปันข้อมูลระดับน้ำ ปริมาณน้ำ และตะกอนในพื้นที่ต้นน้ำและท้ายน้ำแบบใกล้เวลาจริงในทุกฤดูกาล เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11357 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | ทส | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแผนที่หมายเลข ๑/๒ ท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับแผนที่ดังกล่าว ระบุหมายเลขทางหลวงไม่ตรงกับข้อมูลของกรมทางหลวง ขอให้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวต่อไปด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11358 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสุทธิลักษณ์ เอื้อจิตถาวร และนางสาวพัชรา เพ็ชรทวี) | นร10 | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้
๑. นางสุทธิลักษณ์ เอื้อจิตถาวร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๒ ๒. นางสาวพัชรา เพ็ชรทวี ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11359 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดค้าน การถอดถอน การสิ้นสภาพ และการเพิกถอนผู้ไกล่เกลี่ย พ.ศ. .... | ยธ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดค้าน การถอดถอน การสิ้นสภาพ และการเพิกถอนผู้ไกล่เกลี่ย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดค้าน การถอดถอน การสิ้นสภาพ และการเพิกถอนผู้ไกล่เกลี่ย รวมทั้งวิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นคำขอ การพิจารณาการมีคำสั่ง และการให้ผู้ไกล่เกลี่ยคนอื่นปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ไกล่เกลี่ยผู้ซึ่งถูกคัดค้าน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11360 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ณ จังหวัดเชียงใหม่ (นายเซบัสทีอัน - ยุสทุส ชมิท) | กต | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเซบัสทีอัน-ยุสทุส ชมิท (Mr. Sebastian-Justus Schmidt) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง และแพร่ สืบแทน นายฮาเกิน เอ.เว เดียร์คเซิน (Mr. Hagen E.W. Dirksen) ซึ่งเกษียณอายุในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....