ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1404 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 28061 - 28080 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
28061 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม 2556 | อก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า สถานการณ์การผลิตคาดว่า การผลิตเหล็กทรงแบนจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และการที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศใช้มาตรการเซฟการ์ดในส่วนของเหล็กแผ่น alloy จะมีผลทำให้การนำเข้าเหล็กดังกล่าวลดลงและส่งผลให้ผู้ผลิตของไทยมีการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับเหล็กทรงยาวคาดว่าการผลิตจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์อุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น เป็นผลมาจากผู้ประกอบการมีแนวโน้มเปิดขายโครงการอาคารชุดที่มีราคาไม่สูงมากนัก โดยเน้นการเปิดขายในกรุงเทพฯ ชั้นใน ชั้นกลางและแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ๒. อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ภาพรวมมาตรการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานของภาครัฐ และการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของภาคเอกชน ส่งผลให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศอยู่ในระดับสูง คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์จะปรับตัวสูงขึ้นตาม สำหรับแนวโน้มการส่งออก คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ต่อปูนซีเมนต์ในตลาดหลักของไทย รวมทั้งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศและสาธารณรัฐโตโกยังอยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าการส่งออกจะปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการสำรองปูนซีเมนต์ไว้ใช้ในประเทศมากขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
28062 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะไว ตำบลหลักฟ้า ตำบลตรีณรงค์ และตำบลจรเข้ร้อง อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... และแนวทางปฏิบัติงานเพื่อเป็นการเร่งรัดขั้นตอน ในการประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน | กษ | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะไว ตำบลหลักฟ้า ตำบลตรีณรงค์ และตำบลจรเข้ร้อง อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะไว ตำบลหลักฟ้า ตำบลตรีณรงค์ และตำบลจรเข้ร้อง อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. สำหรับแนวทางปฏิบัติงานเพื่อเป็นการเร่งรัดขั้นตอนการประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าความล่าช้าของขั้นตอนการประกาศเขตปฏิรูปที่ดินเกิดจากการที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่สามารถตกลงในข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติได้ จึงส่งผลต่อความถูกต้องของแผนที่แนบท้าย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติ พร้อมทั้งจัดทำแผนที่แนบท้ายให้ถูกต้องก่อนเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติหลักการและดำเนินการส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และเห็นว่าคณะรัฐมนตรีมีอำนาจโดยตรงในการออกพระราชกฤษฎีกาจึงควรเป็นผู้พิจารณาเห็นชอบในหลักการก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะดำเนินการตรวจสอบ ไปพิจารณาดำเนินการ |
||||||||||||||||||||||||
28063 | การจัดทำบันทึกความตกลงระหว่างกระทรวงศึกษาธิการไทยและฟิลิปปินส์ ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนครู | ศธ | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามบันทึกความตกลงระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนครู (Memorandum of Agreement between the Ministry of Education of the Kingdom of Thailand and the Department of Education of the Republic of the Philippines on Exchanges of Professional Teachers) ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกความตกลงฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงศึกษาธิการหารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความตกลงฯ ๒. สำหรับกรณีการจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เป็นกรณีการทำความตกลงในระดับหน่วยงานของรัฐ ไม่ใช่ระดับรัฐหรือรัฐบาล ไม่เข้าลักษณะการทำหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๕๔ จึงไม่จำเป็นต้องให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เพื่อการลงนามดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
||||||||||||||||||||||||
28064 | ขออนุมัติต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน ๘๐๐ ล้านบาท ของ รฟท. จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไปอีก ๑ ปี ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓๙ (๔) โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ยกเว้นในส่วนของการคิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการประเมินความเสี่ยงและการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงินภาครัฐ ในชั้นนี้ จึงเห็นควรสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันไว้ก่อน ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๒. ให้ รฟท. รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานตามแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๗ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการให้บริการ เน้นการเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์ควบคู่ไปกับการควบคุมและลดค่าใช้จ่ายลง เพื่อบรรเทาภาวะการขาดสภาพคล่องทางการเงินในระยะยาว ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
28065 | ขอความเห็นชอบชื่อสะพานและตราสัญลักษณ์สะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ - ห้วยทราย) | คค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบชื่อสะพานและตราสัญลักษณ์สะพานมิตรภาพ ๔ (เชียงของ-ห้วยทราย) ก่อนกระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงประสานงานกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในการจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพ ๔ (เชียงของ-ห้วยทราย) ให้แล้วเสร็จ และดำเนินการตามขั้นตอนภายในเพื่อลงนามร่วมกันต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจระหว่าง ไทย-ลาว-จีน ว่าด้วยการเริ่มใช้ความตกลงการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ณ จุดผ่านแดนเชียงของ-ห้วยทราย และจุดผ่านแดนบ่อเต้น-บ่อหาน ตามแนวเส้นทางถนน R3 เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางและขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเปิดใช้สะพานดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
28066 | รายงานผลการเข้าร่วมจัดนิทรรศการ Thailand Pavilion ภายในงาน ITU TELECOM WORLD 2012 | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเข้าร่วมจัดนิทรรศการ Thailand Pavilion ภายในงาน ITU TELECOM WORLD 2012 ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ ศูนย์แสดงสินค้า Dubai International Convention and Exhibition Center (DICEC) นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีนายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการฯ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รูปแบบการจัดนิทรรศการ Thailand Pavilion แบ่งออกเป็น ๔ ส่วน ได้แก่ ๑.๑ ส่วนที่ ๑ การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เป็นการจัดแสดงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และพระราชกรณียกิจในรูปแบบ Interactive Touch Screen และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการได้มีโอกาสร่วมถวายพระพรออนไลน์ ๑.๒ ส่วนที่ ๒ การจัดแสดง Highlight ของนิทรรศการ เป็นการนำเสนอศักยภาพและยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศตามวิสัยทัศน์ Smart Thailand 2020 ภายใต้หัวข้อ Smart Government Smart business และ Smart Society ในรูปแบบ Interactive Touch Screen โดยเน้นการเชื่อมโยงของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อสื่อให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีความพร้อมในการก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ๑.๓ ส่วนที่ ๓ การจัดแสดงนิทรรศการตามพันธกิจของหน่วยงาน เป็นการนำเสนอบทบาทหน้าที่และพันธกิจของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่กำหนดยุทธศาสตร์และกำกับดูแลการพัฒนาด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไปสู่เป้าหมาย Smart Thailand 2020 รวมทั้งการจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงฯ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการต่าง ๆ ของหน่วยงาน และการให้บริการ Public Free Wi-Fi ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาพความแข็งแกร่งและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของประเทศ รวมถึงบริการเพื่อสนับสนุนนักลงทุนและผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ๑.๔ ส่วนที่ ๔ ส่วนเจรจาธุรกิจ เป็นส่วนพื้นที่รับรองสำหรับใช้เจรจาสร้างความร่วมมือและการลงทุนระหว่างผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติที่มีความสนใจร่วมมือกับประเทศไทยทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน ๒. ผลที่ได้รับจากการจัดนิทรรศการ Thailand Pavilion ผู้เข้าชมนิทรรศการส่วนใหญ่ให้ความชื่นชมกับแนวความคิดการจัดแสดงและตกแต่งนิทรรศการ ตลอดจนการต้อนรับ และการให้ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในส่วนจัดแสดงนิทรรศการของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิทรรศการแสดงผลงานของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่นำไปจัดแสดง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ และศึกษาความก้าวหน้าทางด้านโทรคมนาคมจากต่างประเทศเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐและเอกชนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นอกจากนี้ ยังได้มีการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU TELECOM WORLD 2013 ในงาน Thai night ซึ่งจัดขึ้นในวันสุดท้ายของการจัดงาน ITU TELECOM WORLD 2012 เพื่อแสดงถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการรับเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU TELECOM WORLD 2013 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในปี พ.ศ. ๒๕๕๖
|
||||||||||||||||||||||||
28067 | การขอปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ปฏิบัติงานจัดทำสัญญาประกันภัยเพื่อคุ้มครองการรักษาพยาบาลของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ปฏิบัติงานจัดทำสัญญาประกันภัยเพื่อคุ้มครองการรักษาพยาบาลของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยให้สอดคล้องเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๑ กล่าวคือ หากสิทธิที่จะได้รับเงินจากบริษัทประกันภัยนั้นต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาลในคราวนั้น ผู้นั้นจะยังคงมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามสิทธิของตนเองอีก ในส่วนที่ยังขาดอยู่หลังจากได้รับเงินจากบริษัทประกันภัยไปแล้ว แต่ต้องไม่เกินไปกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการและหลักฐานการเบิกจ่ายให้ชัดเจนและรัดกุม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
28068 | โครงการ Institutional Capacity Building for ASEAN Monitoring and Statistics ภายใต้กรอบความสัมพันธ์อาเซียน - สหภาพยุโรป | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอเกี่ยวกับโครงการ Institutional Capacity Building for ASEAN Monitoring and Statistics ภายใต้กรอบความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในร่างข้อตกลงด้านการเงิน (Financing Agreement : FA) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการให้การสนับสนุนจำนวนเงินและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ โดยหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงร่างดังกล่าวในประเด็นที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๑.๒ อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนาม แล้วให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักงานเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา เห็นชอบต่อร่าง FA และให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับรายการสถิติและเครื่องชี้ที่จะกำหนดไว้ภายใต้ขอบเขตการดำเนินการของโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
28069 | สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น ๓๙.๓๔ ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ ๓๘.๘๑ ล้านคน ผู้ว่างงาน ๒.๔๕ แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล ๒.๘๕ แสนคน โดยผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๕๕ จำนวน ๕.๔ แสนคน (จาก ๓๘.๘๐ ล้านคน เป็น ๓๙.๓๔ ล้านคน) ๒. ผู้มีงานทำ ๓๘.๘๑ ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๕๕ จำนวน ๗.๕ แสนคน (จาก ๓๘.๐๖ ล้านคน เป็น ๓๘.๘๑ ล้านคน) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๐ ซึ่งผู้ทำงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผู้ทำงานภาคเกษตรกรรม สาขาการก่อสร้าง สาขาที่พักแรมและการบริการด้านอาหาร สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ สาขาการผลิต สาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และสาขากิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ สำหรับผู้ทำงานลดลง ได้แก่ ผู้ทำงานสาขากิจกรรมการบริการอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดซักแห้ง เป็นต้น และสาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย ๓. ผู้ว่างงานทั่วประเทศ มีจำนวน ๒.๔๕ แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ ๐.๖ ของกำลังแรงงานรวม (ลดลง ๑.๑ หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๕๕) ประกอบด้วย ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน จำนวน ๑.๐๒ แสนคน อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน จำนวน ๑.๔๓ แสนคน โดยเป็นผู้ว่างงานที่มาจากภาคการผลิต ๗.๖ หมื่นคน ภาคการบริการและการค้า ๔.๙ หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม ๑.๘ หมื่นคน ผู้ว่างงานเป็นผู้มีการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ๑.๑๓ แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๔.๕ หมื่นคน ระดับประถมศึกษา ๔.๕ หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๓.๖ หมื่นคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา ๖.๐ พันคน ผู้ว่างงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๙.๘ หมื่นคน ภาคกลาง ๖.๐ หมื่นคน ภาคใต้ ๔.๖ หมื่นคน กรุงเทพมหานคร ๒.๕ หมื่นคน และภาคเหนือ ๑.๖ หมื่นคน โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้มีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ ๐.๘ รองลงมาเป็นภาคกลางและกรุงเทพมหานครร้อยละ ๐.๖ และภาคเหนือร้อยละ ๐.๒
|
||||||||||||||||||||||||
28070 | รายงานความก้าวหน้าการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) โดยผลการจัดอันดับ Waseda University International e-Government Ranking 2013 ของสถาบันรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ ซึ่งประกาศผลเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ ๒๐ จาก ๕๕ ประเทศทั่วโลก มีลำดับที่ดีขึ้น ๓ อันดับ (ปี ค.ศ. ๒๐๑๒ ไทยจัดอยู่ในลำดับที่ ๒๓) และเป็นอันดับ ๒ ในภูมิภาคเอเชีย รองจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
28071 | ผลการเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 5 และการหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรี | นร04 | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ ๕ และการหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และมอบหมายหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามผลการเข้าร่วมการประชุม ACMECS ครั้งที่ ๕ และการหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรีตามตารางติดตามผลการประชุมและการหารือดังกล่าวที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. การประชุม ACMECS ครั้งที่ ๕ ประเด็นติดตาม ได้แก่ การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการทำเกษตรแบบมีสัญญาระหว่างไทยกับ สปป.ลาว การเจรจาทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการทำเกษตรแบบมีสัญญาระหว่างไทยกับกัมพูชา การอำนวยความสะดวกการผ่านและข้ามแดนของคนและสินค้าตามแนวเส้นทาง R8 และ R12 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการให้ทุนการศึกษาและฝึกอบรมตามที่ภาคเอกชนเรียกร้อง การผลักดันให้ความร่วมมือด้านการค้าข้าวมีความคืบหน้า การจัดตั้งเมืองคู่แฝดชายแดน (Sister Cities) การยกระดับของการรักษาพยาบาลพื้นฐาน และการป้องกันโรคติดต่อ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน การพัฒนา Tourism Corridors เชื่อมโยงท่องเที่ยววัฒนธรรมของ ๕ ประเทศสมาชิก เช่น พุกาม-เชียงใหม่-หลวงพระบาง-เวียงจันทน์-เสียมราฐ-เว้ โครงการ ACMECS Single Visa และการดำเนินความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ๒. การหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรี ในระหว่างการประชุม ACMECS ครั้งที่ ๕ ๒.๑ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประเด็นติดตาม ได้แก่ การสถาปนาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม อย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ครั้งที่ ๓ การติดตามความเห็นของเวียดนามต่อร่างแผนปฏิบัติการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การอำนวยความสะดวกในการขนส่งไทย-ลาว-เวียดนาม บนเส้นทางหมายเลข ๘ และ ๑๒ ความร่วมมือเรื่องข้าวและยางพารา และความร่วมมือด้าน ACMECS Single Visa ๒.๒ สปป.ลาว ประเด็นติดตาม ได้แก่ การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-ลาว อย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ครั้งที่ ๒ การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๔ ให้แล้วเสร็จและการจัดพิธีเปิดสะพาน และการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๕ (บึงกาฬ-ปากซัน) การก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟคู่ขนานกับสะพานมิตรภาพ แห่งที่ ๑ การอำนวยความสะดวกในการขนส่งไทย-ลาว-เวียดนาม บนเส้นทางหมายเลข ๘ และ ๑๒ การประชุม JBC ครั้งที่ ๙ และความร่วมมือด้าน ACMECS Single Visa ๒.๓ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ประเด็นติดตาม ได้แก่ โครงการทวาย การแก้ปัญหาลักลอบค้าตามชายแดน และแรงงานเมียนมาร์
|
||||||||||||||||||||||||
28072 | ขอให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ | วท | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติตอบรับการเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomie Energy Agency : IAEA) ของประเทศไทย จำนวน ๓ รายการ ได้แก่ ๑.๑ การประชุมทางวิชาการ ในหัวข้อ “Severe Acute and Moderate Malnutrition (jointly with the International Malnutrition Task Force, IMTF) in South-East Asia” ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๑.๒ การฝึกอบรมในหัวข้อ “Image Based Radiotherapy and QA for Lung and Gastrointestinal Cancer” ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๖-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๑.๓ การประชุมเพื่อปรึกษาหารือ ในหัวข้อ “Drafting the Guidelines on Clinical Use of SPECT/CT and Finalizing the Reporting Templates” ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๒. เห็นชอบร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรม และหากมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่มิใช่สารัตถะของร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรม ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการแทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๓. อนุมัติให้เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรมทั้ง ๓ รายการ |
||||||||||||||||||||||||
28073 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีกรณีเงินช่วยเหลือตามโครงการ เกษียณอายุก่อนกำหนด) | กค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๗๒ (พ.ศ. ๒๕๕๒) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เพื่อกำหนดให้การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินช่วยเหลือข้าราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ ตามพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มีผลบังคับใช้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
28074 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | นร07 | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ๒. ให้สำนักงบประมาณนำข้อเสนอตามข้อ ๑. ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไปจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และเอกสารประกอบงบประมาณ โดยให้ส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ดังกล่าว ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน และแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงบประมาณทราบโดยตรงก่อนนำไปจัดพิมพ์เป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และเอกสารประกอบงบประมาณ และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันอังคารที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
28075 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... | คค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี เพื่อสร้างทางหลวงชนบทตามโครงการก่อสร้างทางต่างระดับบนทางหลวงชนบท อด. ๑๐๐๕ บริเวณจุดตัดทางรถไฟ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
28076 | การแก้ไขความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศว่าด้วยสำนักงานภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิกขององค์การดังกล่าว | คค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศว่าด้วยสำนักงานภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิกขององค์การดังกล่าว (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the International Civil Aviation Organization regarding the Far East and Pacific Office of the said organization) โดยเพิ่มคำว่า “อาคารสำนักงานเลขาธิการ” (Secretariat Building) และ “อาคารการประชุม” (Conference Building) ไว้ใน Article III Section 4 ของความตกลงฯ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
28077 | ข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2557 | กค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๒,๔๓๖.๔๔๒ ล้านบาท และ ๑,๕๒๔.๘๓๕ ล้านบาท ตามลำดับ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง และให้ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวกู้เงินเพื่อเป็นเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามกรอบวงเงินที่เสนอ โดยรัฐรับภาระหนี้และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกันการกู้เงิน พิจารณาวิธีการกู้เงิน รายละเอียดและเงื่อนไขในการกู้เงินต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
28078 | ข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ | กต | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบต่อการดำเนินการตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council : UNSC) ที่ ๒๐๙๔ (ค.ศ. ๒๐๑๓) เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ รวมทั้งรายชื่อบุคคลที่ถูกห้ามการเดินทางและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม รายชื่อคณะบุคคลที่ถูกอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม รายการสิ่งของ วัสดุ เครื่องมือ สินค้า และเทคโนโลยี และรายการสินค้าฟุ่มเฟือย ๒. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทย ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การท่าเรือแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย คณะกรรมการการบินพลเรือน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ปฏิบัติตามข้อมติดังกล่าว และปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามรายชื่อล่าสุด |
||||||||||||||||||||||||
28079 | รายงานผลการเดินทางไปราชการต่างประเทศของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กษ | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) เพื่อเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมด้านการเกษตร ในหัวข้อเรื่อง “Food Security : the Asian Solution” ภายใต้ Boao Forum for Asia Annual Conference 2013 ระหว่างวันที่ ๖-๘ เมษายน ๒๕๕๖ ณ มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม Boao Forum for Asia Annual Conference 2013 ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (นายสี จิ้นผิง) ประธานในพิธีการประชุมฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความท้าทายและความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคเอเชียและระดับโลกภายใต้การเปลี่ยนแปลง ซึ่งเอเชียมีศักยภาพและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในโลก ความพยายามร่วมกันในการเสริมสร้างเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกจำเป็นต้องใช้ความไว้วางใจและการทำงานร่วมกันเพื่อส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจของโลกประสบความสำเร็จ การพัฒนาของสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงมีความท้าทายต่อไปในอนาคต ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาให้มีศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งมุ่งเน้นการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ ๒. การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (นายหาน ฉางฟู่) เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเกษตร โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมีความเห็นร่วมกันว่า ความมั่นคงทางอาหารเป็นเรื่องที่รัฐบาลทั้งสองประเทศยังต้องให้ความสำคัญ ซึ่งความร่วมมือทางด้านวิชาการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของแต่ละประเทศ รวมถึงภูมิภาคและทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางการดำเนินความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยและพัฒนาร่วมกันในด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ และการลงทุนจัดตั้งบริษัทในการซื้อสินค้าเกษตรจากประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือทางด้านสหกรณ์ โดยฝ่ายไทยได้เชิญให้ฝ่ายจีนมาแลกเปลี่ยนและศึกษาดูงานด้านสหกรณ์ในประเทศไทยเพื่อจะได้เชื่อมโยงในกิจกรรมร่วมกันทั้งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการซื้อขายสินค้าระหว่างกันในอนาคต ๓. การเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมด้านการเกษตรในประเด็นความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) ได้กล่าวอภิปรายโดยมีสาระสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ความมั่นคงทางอาหารเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ ซึ่งประเทศไทยในฐานะประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรและมีเป้าหมายในการเป็นครัวของโลกได้มีการปฏิรูปด้านนโยบาย โดยการดำเนินการในนโยบายกำหนดเขตการผลิตสินค้าเกษตรที่มีการแนะนำในการปลูกพืชที่เหมาะสมกับดินเพื่อเพิ่มผลผลิตทางด้านการเกษตร รวมทั้งดำเนินการเตรียมการรองรับผลผลิตโดยการจัดเตรียมแหล่งรวบรวมผลผลิต แหล่งแปรรูป และการตลาด รวมถึงการเตรียมการในด้านระบบการขนส่งที่ต้องมีการเชื่อมโยงกับแหล่งการผลิตรวมถึงการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงรากฐานของการพัฒนาทางด้านการเกษตรของประเทศไทยที่ได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินการในการสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทยในชนบท และยังชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาทางด้านการเกษตรต้องคำนึงถึงการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือจากทุกประเทศเพื่อความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาคและของทั่วโลก เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรโลกอย่างยั่งยืนต่อไป ๔. การดูงานด้านการเกษตร โดยกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนจัดการดูงานด้านการเกษตรให้กับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) ๒ แห่ง ได้แก่ หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรเมืองป๋ออ้าว ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ให้ความสนใจในการเดินทางมาพักผ่อนและรับประทานอาหารพื้นบ้านที่ปรุงโดยผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร และกลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกผักหมู่บ้านตัวหมู่ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรวมกลุ่มเกษตรกรในการเพาะปลูกบนพื้นที่ ๑๕๐ ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||
28080 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการอนุญาตให้ส่งออกน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการอนุญาตให้ส่งออกน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายมีอำนาจในการออกประกาศหรือระเบียบปฏิบัติรองรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และการให้บริการผู้ประกอบการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และรองรับการออกใบอนุญาตและใบรับรองเพื่อการส่งออกน้ำตาลทรายผ่านระบบ National Single Window ได้ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....