ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1259 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 25161 - 25180 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25161 | ผลการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม ค.ศ. 2014 ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ | ทก | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม ค.ศ. ๒๐๑๔ (Plenipotentiary Conference : PP-14) ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) ณ เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ ๒๐ ตุลาคม-๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ และผลการเลือกตั้งตำแหน่งสมาชิกสภาบริหาร (Council) ของ ITU ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุม PP-14 ได้มีการพิจารณาข้อเสนอจากประเทศสมาชิกในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย แผนยุทธศาสตร์ และแผนงบประมาณของ ITU ตลอดจนการบริหารจัดการองค์กร และการกำหนดท่าทีร่วมของประเทศสมาชิก ITU ต่อประเด็นสำคัญด้านโทรคมนาคมและ ICT และได้มีมติเห็นชอบให้ออกข้อมติใหม่ จำนวน ๒๐ ข้อ ให้แก้ไขข้อมติเดิม จำนวน ๔๙ ข้อ ให้ยกเลิกข้อมติเดิม จำนวน ๗ ข้อ ให้ออกข้อตัดสินใจใหม่ จำนวน ๒ ข้อ และให้แก้ข้อตัดสินใจเดิม จำนวน ๓ ข้อ ๑.๒ ประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม PP-14 ได้ลงนามรับรองกรรมสารสุดท้าย (Final Acts) ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงผลการประชุมฯ โดยได้รวบรวมข้อมติต่าง ๆ ของที่ประชุมฯ เกี่ยวกับการกำหนดแผนงานกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการของ ITU ในเรื่องการพัฒนาโทรคมนาคม มาตรฐานโทรคมนาคม และวิทยุคมนาคม และแผนงานในการบริหารจัดการองค์กรของ ITU สำหรับช่วง ๔ ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงเรื่องแผนงบประมาณ การเงินและบัญชี การบริหารทรัพยากรบุคคล การจัดประชุมและกิจกรรมต่าง ๆ ของ ITU เป็นต้น ๑.๓ ที่ประชุม PP-14 มีมติเห็นชอบให้มีการพิจารณาเรื่องการทำให้ธรรมนูญและอนุสัญญาของของ ITU เป็นเอกสารที่มีเสถียรภาพและไม่ควรมีการแก้ไขเป็นประจำ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการพิจารณาในการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มฯ ครั้งต่อไปในปี ค.ศ. ๒๐๑๘ (PP-18) ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ที่ประชุม PP-18 จะให้ความเห็นชอบต่อการกำหนดให้ธรรมนูญและอนุสัญญาของ ITU เป็นเอกสารที่มีเสถียรภาพ ซึ่งในกรณีดังกล่าวจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขธรรมนูญและอนุสัญญาทั้งฉบับเพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาวได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขเป็นประจำทุก ๔ ปี ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อยื่นสัตยาบันสารสำหรับการแก้ไขบทบัญญัติในธรรรมนูญและอนุสัญญาของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศที่เป็นผลจากการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ปี ค.ศ. ๑๙๙๘ ค.ศ. ๒๐๐๒ ค.ศ. ๒๐๐๖ และ ค.ศ. ๒๐๑๐ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25162 | ขอลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปีภาษี 2557 | คค | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ประจำปีภาษี ๒๕๕๗ โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการพิจารณาลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปีภาษี ๒๕๕๔-๒๕๕๖ ตามแนวทางที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๒. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจให้มีมาตรฐานเดียวกัน เป็นธรรม และมีผลบังคับใช้ทั่วไปกับทุกรัฐวิสาหกิจ ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินเขื่อนรัชชประภา ประจำปี ๒๕๕๖) |
|||||||||||||||||||||
25163 | ผลการจัดงานรำลึกครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย | กต | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการจัดงานรำลึกครบรอบ ๑๐ ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย สรุปได้ ดังนี้
๑. พิธีรำลึก ซึ่งมีพิธีที่สำคัญ เช่น การวางพวงมาลาของคณะทูตานุทูตและผู้แทนครอบครัวผู้เสียชีวิต การกล่าวสุนทรพจน์ของผู้แทนระดับสูงฝ่ายการต่างประเทศกล่าวคำไว้อาลัยและรำลึกถึงผู้เสียชีวิตของนายกรัฐมนตรี การยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยและพิธีจดเทียนรำลึก เป็นต้น ๒. การเยี่ยมชมชุมชนต้นแบบด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติบ้านน้ำเค็ม และการเยี่ยมชมชุมชนต้นแบบด้านการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์สึนามิ ปี ๒๕๔๗ โครงการหมู่บ้านชัยพัฒนา-กาชาดไทย (บ้านทุ่งรัก) ๓. การหารือทวิภาคีของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และรองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการเพื่อมนุษยธรรม และผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติและการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในทุกระดับ ๔. การจัดสัมมนาโต๊ะกรม “Ten Years On : The Indian Ocean Tsunami From Learning to Action” โดยสำนักงานสหประชาชาติเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (United Nations Office for Disaster Risk Reduction : UNISDR) ซึ่งมีข้อเสนอในการบูรการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ตลอดจนการสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพด้วย
|
|||||||||||||||||||||
25164 | รายงานผลการดำเนินงานสืบเนื่องจากการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ไทย - เวียดนาม | วธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานสืบเนื่องจากการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เข้าพบนาย Huynh Vinh Ai รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเวียดนาม เพื่อหารือเรื่องแผนงาน โครงการ กิจกรรมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านศิลปะ ห้องสมุด หอจดหมายเหตุ โบราณคดี พิพิธภัณฑ์ ศาสนา เป็นต้น และการแลกเปลี่ยนการจัดกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการซึ่งจะดำเนินการระหว่างปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ โดยรัฐมนตรีทั้งสองประเทศคาดหวังว่า แผนปฏิบัติการฉบับนี้จะเป็นกรอบการดำเนินงานในการกระชับความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระดับทวิภาคีไทย-เวียดนาม ส่งผลและเกื้อหนุนความสัมพันธ์ในการเริ่มต้นการเป็นประชาคมอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ไทยและเวียดนามจะครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งจะเป็นวาระสำคัญในการผลักดันให้เกิดการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการดำเนินความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเวียดนามในด้านอื่น ๆ ต่อไป ๑.๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้พบหารือกับผู้บริหารแหล่งวัฒนธรรมและแหล่งมรดกโลกในเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเห็นว่า การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลกถือเป็นเรื่องเร่งด่วนของไทยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี กล่าวคือ การพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ แหล่งมรดกโลก อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถานขึ้นทะเบียนทั่วประเทศ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ ศูนย์วัฒนธรรม และโรงละคร ให้เกิดการพัฒนาและเปิดพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ นอกจากนี้ จะบูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะร่วมกันจัดทำแผนการพัฒนากลุ่มจังหวัดที่มีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แนวทางจัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่กำลังจะเสนอเป็นมรดกโลกในอนาคต ทั้งนี้ พร้อมจะร่วมมือกับเวียดนามภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์และแหล่งมรดกโลก อาทิ หอสมุดและจดหมายเหตุ และมรดกทางวัฒนธรรม ๒. มอบหมายกระทรวงวัฒนธรรมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมฯ และผลการหารือความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในไทยและเวียดนามเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ๔๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ |
|||||||||||||||||||||
25165 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีการทำสัญญาเช่าอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย แห่งใหม่ | กต | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๓ เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม วงเงินงบประมาณ ๕๑,๔๐๐,๘๐๐ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบดำเนินงาน รายการค่าเช่าอาคารสถานทูตสถานกงสุล จำนวน ๖,๘๕๓,๔๔๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓ จำนวน ๔๔,๕๔๗,๓๖๐ บาท ทั้งนี้ การดำเนินการเช่าอาคารดังกล่าว ให้กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด และประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยสอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
25166 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว | กก | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ลงนามในความตกลงฯ ๑.๓ ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามดังกล่าวในการลงนามความตกลงฯ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาแนวทางขยายความร่วมมือในด้านอื่น ๆ กับสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน เช่น การสำรวจและใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรแร่ เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||
25167 | ผลการหารือทวิภาคีระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 5 | นร04 | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามผลการหารือในประเด็นต่าง ๆ ตามตารางที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีจีน ในประเด็นความร่วมมือด้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟและด้านการค้าสินค้าเกษตร การแก้ไขอุปสรรคทางการค้า การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค และความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๑.๒ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในประเด็นเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-กัมพูชา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จุดผ่านแดนสตึงบท พื้นที่ไหล่ทวีปที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ การเปิด/ยกระดับจุดผ่านแดน ความร่วมมือด้านแรงงาน โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชา ศิลปวัตถุ และกรณีทหารไทยยิงสตรีกัมพูชาเสียชีวิต ๑.๓ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีลาว ในประเด็นภาพรวมความสัมพันธ์ การพัฒนาเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงในภูมิภาค ความร่วมมือด้านไฟฟ้า และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขง ๑.๔ ผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในประเด็นการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม อย่างไม่เป็นทางการ ความร่วมมือด้านการลงทุน ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร ความร่วมมือด้านการพัฒนาความเชื่อมโยง การลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทยของชาวประมงเวียดนาม ความร่วมมือด้านแรงงาน และความร่วมมือในกรอบลุ่มแม่น้ำโขง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการเปิดและยกระดับจุดผ่านแดนระหว่างไทยและกัมพูชา จำนวน ๔ แห่ง ที่ได้หารือกันไว้เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ ควรมีการสำรวจรายละเอียดภูมิประเทศในบริเวณดังกล่าวร่วมกันก่อนเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในการปักปันเขตแดนร่วมกันต่อไปในอนาคต สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทย-เวียดนาม จะต้องดำเนินการใน ๒ ส่วนควบคู่กันไป คือ การจัดระเบียบแรงงานที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว และการนำเข้าแรงงานใหม่อย่างถูกกฎหมาย ส่วนการลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทยของชาวประมงเวียดนาม ควรดำเนินการอย่างสอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศและพื้นฐานของการเคารพต่อกฎหมายไทย ไปพิจารณาต่อไป ๓. ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ประสานงานหลักของ GMS จึงมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปดำเนินการจัดทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อประเทศสมาชิก GMS จากการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง บริเวณแม่น้ำโขง เพื่อส่งให้รัฐบาลลาวทราบต่อไป |
|||||||||||||||||||||
25168 | ขอความเห็นชอบเลิกจ้างผู้บริหารองค์การสวนยาง | กษ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเลิกจ้างผู้บริหารองค์การสวนยางของนายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การสวนยาง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ มกราคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
25169 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลวังทอง ตำบลชัยนาม และตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25170 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... | มท | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25171 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) | สว | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) เกี่ยวกับการออกข้อกำหนดในการดำเนินคดีแบบกลุ่มตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง การร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มอาจมีประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่น การจ่ายเงินรางวัลทนายความที่กำหนดไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่ม รวมทั้งมาตรการบางประการเกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่ม และให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่เห็นควรมีมาตรการหรือช่องทางให้โจทก์สามารถขอรับการสนับสนุนเงินหรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีจากแหล่งเงินทุนตามที่มีอยู่ และจะเป็นการดีที่สุดหากภาครัฐสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการดำเนินคดีแบบกลุ่มโดยเฉพาะ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25172 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. 2554) | มท | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยแก้ไขข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดความสมบูรณ์และชัดเจนในการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมทั้งเพิ่มเติมโรงงานบางลำดับ ประเภท ชนิด และจำพวก ในบัญชีท้ายกฎกระทรวงให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้ในที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และสอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน และเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25173 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | ศธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงเพื่อเปลี่ยนชื่อส่วนราชการระดับสำนักที่มีหน้าที่หลักในการสนับสนุนวิชาการ การบริหารจัดการและการบริการทางการศึกษา ให้เหมาะสมกับภารกิจ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25174 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีข้อสังเกตว่า การเปลี่ยนชื่อโรงเรียนนายเรืออากาศ เป็นโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพอากาศ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ มีประเด็นเชื่อมโยงกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ที่ได้มีการกล่าวถึงโรงเรียนนายเรืออากาศไว้ในบันทึกหลักการ มาตรา ๓ มาตรา ๔ และมาตรา ๕ ซึ่งเห็นควรต้องมีการแก้ไขชื่อโรงเรียนนายเรืออากาศ เป็นโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการฯ ดังกล่าว ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25175 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ บริเวณอ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือและการประกันภัยสำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | คค | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือ บริเวณอ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทะเลในบริเวณอ่าวพัทยา เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี เป็นเขตท่าเรือ เขตจอดเรือ และเขตควบคุมการเดินเรือให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้การเดินเรือเป็นไปอย่างปลอดภัย และเกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และบุคคลต่าง ๆ ในการสัญจรและทำกิจกรรมทางน้ำ ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือและการประกันภัยสำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้มีกฎหมายเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตใช้เรือและการออกใบอนุญาตใช้เรือ และการประกันภัยเรือสำหรับเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขตประเภทการใช้กิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน |
|||||||||||||||||||||
25176 | รายงานสรุปโครงการของขวัญให้ประชาชนทุก 3 เดือน (มกราคม - มีนาคม 2558) ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี | กก | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปโครงการของขวัญให้ประชาชนทุก ๓ เดือน (มกราคม-มีนาคม ๒๕๕๘) ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โครงการ/กิจกรรมที่ดำเนินการ ได้แก่ (๑) เทศกาลท่องเที่ยวไทย โดยจัดงานขบวนหรรษาพาเหรด Thailand Happiness Carnival (๒) เทศกาลความรักสานสัมพันธ์ไทย-จีน และ (๓) มหกรรมไหว้ครูมวยไทยโลก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒. กรมการท่องเที่ยว โครงการ/กิจกรรมที่ดำเนินการ ได้แก่ (๑) เทศกาลมหกรรมอาหารเมืองไทย “The 1st Thailand Gourmet Festival 2015” (๒) เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย (Thailand International Film Destination Festival 2015) และ (๓) งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ ๓๙ ประจำปี ๒๕๕๘ ๓. กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว โครงการ/กิจกรรมที่ดำเนินการ ได้แก่ (๑) ประชุมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ (๒) สำรวจข้อมูลการกระทำความผิดของผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกี (๓) ออกปราบปรามผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีที่กระทำผิด และ (๔) ออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เจ็ตสกี ๔. กรมพลศึกษา โครงการ/กิจกรรมที่ดำเนินการ ได้แก่ (๑) โครงการส่งเสริมและพัฒนาเส้นทางจักรยานทั่วประเทศ (๒) โครงการจัดแข่งขันกีฬาระหว่างโรงเรียนส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประจำปี ๒๕๕๘ (มหกรรมกีฬา) (๓) โครงการพัฒนาและให้บริการด้านสมรรถภาพทางกาย (ทดสอบสมรรถภาพทางกายของประชาชน) (๔) จัดประกวดวงโยธวาทิตนักเรียน นักศึกษา ชิงถ้วยพระราชทานฯ ครั้งที่ ๓๔ ประจำปี ๒๕๕๘ (๕) จัดการแข่งขันกีฬานักเรียนคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ และ (๖) จัดมหกรรมนันทนาการ (การแสดงแสง สี เสียง) ๕. การกีฬาแห่งประเทศไทย โครงการ/กิจกรรม ได้แก่ (๑) จัดงานวันเด็กแห่งชาติ (๒) ปรับปรุงศูนย์ฝึกกีฬาเพื่อการพัฒนากีฬาและให้บริการประชาชน และ (๓) จัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๑ ณ จังหวัดจันทบุรี ๖. สถาบันการพลศึกษา โครงการ/กิจกรรม ได้แก่ โครงการฟื้นฟู อนุรักษ์ และเผยแพร่การละเล่นพื้นบ้านและกีฬาไทย
|
|||||||||||||||||||||
25177 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 4 | ทส | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๔ (Greater Mekong Sub-region Fourth Environment Ministers’ Meeting Joint Ministerial Statement) ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันมีสาระสำคัญเพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งแสวงหาแนวทางความร่วมมือในการนำหลักการด้านเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมมาใช้ในการปกป้องและฟื้นฟูทรัพยากร ซึ่งเป็นต้นทุนทางธรรมชาติในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเป็นกรอบแนวทางกว้าง ๆ ในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และไม่มีข้อผูกมัด ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) เป็นผู้ให้การรับรองในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้พิจารณาโดยไม่ต้องนำกลับมาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาใหม่ |
|||||||||||||||||||||
25178 | ขออนุมัติผู้ลงทุนโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหมอน 21 - 22 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | ศธ | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด เป็นผู้ลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหมอน ๒๑-๒๒ (บริเวณสี่แยกสามย่าน) ตามข้อเสนอของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามมาตรา ๖๙ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกอบกับมาตรา ๒๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ในชั้นการออกแบบและก่อสร้าง ควรพิจารณาแนวทางการบริหารการจราจรอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการจราจรภายนอกทั้งบนถนนพระรามที่ ๔ และถนนพญาไท และคำนึงถึงผลกระทบต่อโครงสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ตามข้อกำหนดทางวิศวกรรมสำหรับการก่อสร้างในเขตปลอดภัยระบบรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พิจารณาดำเนินการตามข้อสังเกตเพิ่มเติมของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อร่างสัญญาให้สิทธิประโยชน์โครงการฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ มีความชัดเจนและรอบคอบมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
25179 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสียสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสียได้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25180 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานและให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 พ.ศ. .... | กค | 27/01/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานและให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+๓ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามความตกลงเพื่อการจัดตั้งสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+๓ (Agreement Establishing ASEAN+3 Macroeconomic Research Office : AMRO) ซึ่งมีสถานะเป็นองค์การระหว่างประเทศและประเทศไทยได้ลงนามไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันแก่ AMRO และบุคลากรของ AMRO ตามพันธกรณีตามความตกลงดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรให้เปลี่ยนชื่อร่างพระราชบัญญัติฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. อนุมัติการให้สัตยาบันความตกลงเพื่อการจัดตั้งสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+๓ ภายหลังที่ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานและให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+๓ พ.ศ. .... ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำสัตยาบันสาร ภายหลังที่ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานและให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+๓ พ.ศ. .... ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว และให้กระทรวงการคลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
.....