ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1255 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 25081 - 25100 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25081 | ขอความเห็นชอบการปรับปรุงสวัสดิการด้านค่ารักษาพยาบาลของการประปานครหลวง | มท | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การประปานครหลวงปรับปรุงสวัสดิการด้านค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ปฏิบัติงานหรือบุคคลในครอบครัวที่เข้ารับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก ในสถานพยาบาลของเอกชนหรือคลินิกเวชกรรม ให้ได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินปีงบประมาณละ ๓,๖๐๐ บาท ต่อครอบครัว ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||
25082 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 22 - 26 ธันวาคม 2557) | สผ | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๒๒-๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗) ๒. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(วันที่ ๒๙-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๕-๙ มกราคม ๒๕๕๘) ๓. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๑๒-๑๖ มกราคม ๒๕๕๘)
|
||||||||||||||||||
25083 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 29 - 30 ธันวาคม 2557 และ วันที่ 5 - 9 มกราคม 2558) | สผ | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๒๒-๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗) ๒. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(วันที่ ๒๙-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๕-๙ มกราคม ๒๕๕๘) ๓. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๑๒-๑๖ มกราคม ๒๕๕๘)
|
||||||||||||||||||
25084 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 (โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง) | มท | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ (โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง) จาก บ้านนาเขท่า หมู่ที่ ๓ ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ความยาว ๑,๐๐๐ เมตร เป็น บ้านนาเขท่า หมู่ที่ ๓ ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ความยาว ๖๙๕ เมตร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมโยธาธิการและผังเมือง) ปรับลดวงเงินค่าก่อสร้างลงตามส่วนของระยะทางในการก่อสร้างที่ลดลง ตามความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ โดยรายละเอียดของค่าก่อสร้างดังกล่าว ให้ดำเนินการและขอตกลงความเหมาะสมของราคาตามขั้นตอน รวมทั้งเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
25085 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 พ.ศ. .... | กค | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
25086 | การเยือนบรูไนดารุสซาลามอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | กต | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเยือนบรูไนดารุสซาลามอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๒-๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์แห่งบรูไนฯ พบหารือกับเจ้าชายโมฮาเหม็ด โบลเกียห์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้า เป็นต้น โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ ได้แก่ ภาพรวมความสัมพันธ์ และการแลกเปลี่ยนการเยือน ความร่วมมือด้านทหาร สถานการณ์การเมืองไทย หนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทย-บรูไนฯ ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ ความร่วมมือด้านการศึกษา และความร่วมมือในระดับภูมิภาคและอาเซียน และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการเยือนฯ โดยเฉพาะเร่งรัดผลักดันประเด็นสำคัญต่าง ๆ ตามตารางติดตามผลการเยือนฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ประสานกับฝ่ายบรูไนฯ เพื่อเตรียมการเยือนบรูไนฯ ของนายกรัฐมนตรี ในวันที่ ๒๕-๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘ การเตรียมการเสด็จฯ เยือนไทยของสมเด็จพระราชาธิบดีบรูไนฯ ๒. การสนับสนุนความร่วมมือด้านการฝึกหลักสูตรต่างๆ ของกองทัพไทยและบรูไนฯ ๓. ประสานกับฝ่ายบรูไนฯ เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนร่างหนังสือระหว่างรัฐบาลไทย-บรูไนฯ ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีผลบังคับใช้ในช่วงการเยือนบรูไนฯ อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ๔. ประสานงานกับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมฮาลาลกับ Bio Innovation Corridor (BIC) ของบรูไนฯ และประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อแจ้งเกี่ยวกับการเชิญภาคเอกชนไทยเข้าร่วมการประชุม “Brunei Bio Tech and Food Conference 2015” ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๕๘ |
||||||||||||||||||
25087 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายพิพัฒน์ ขันทอง) | กค | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพิพัฒน์ ขันทอง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||
25088 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 12 - 16 มกราคม 2558) | สผ | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๒๒-๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗) ๒. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(วันที่ ๒๙-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๕-๙ มกราคม ๒๕๕๘) ๓. สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๑๒-๑๖ มกราคม ๒๕๕๘)
|
||||||||||||||||||
25089 | บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐโตโกว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ | กต | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐโตโกว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of Togo on Technical Cooperation) มีสาระสำคัญระบุให้ภาคีคู่สัญญาจะต้องส่งเสริมโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกัน ได้แก่ (๑) แลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรม (๒) ร่วมกันส่งเสริมการศึกษาและโครงการต่าง ๆ ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ (๓) ให้ความช่วยเหลือในโครงการเฉพาะต่าง ๆ และ (๔) ความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นที่ภาคีคู่สัญญาอาจตกลงและจัดการร่วมกันเป็นครั้งคราว โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||
25090 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือแห่งสาธารณรัฐโตโก | กต | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือแห่งสาธารณรัฐโตโก (Memorandum of Understanding on Cooperation between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Foreign Affairs and Cooperation of the Republic of Togo) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกรอบการปรึกษาหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือด้านการเมือง การค้า เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม อันจะนำมาซึ่งการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับโตโกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยบันทึกความเข้าใจฯ จัดทำเป็น ๓ ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาไทย ๒. อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง |
||||||||||||||||||
25091 | รายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๓๐ มกราคม ๒๕๕๘ มีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้วทั้งสิ้น ๑,๒๖๔,๑๑๑ ล้านบาท (รวมเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ และเงินทุนหมุนเวียนที่ไม่ได้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ) เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๘ จำนวน ๙๙,๔๓๓ ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเสนอ
|
||||||||||||||||||
25092 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตหรือใบรับรอง และการออกใบอนุญาตหรือใบรับรอง นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า พ.ศ. .... | ทส | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตหรือใบรับรอง และการออกใบอนุญาตหรือใบรับรอง นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตหรือใบรับรอง และการออกใบอนุญาตหรือใบรับรอง นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
25093 | การบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง | นร | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ประธานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเสนอว่า ในปัจจุบันประชาชนในหลายพื้นที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคเพื่อประกอบอาชีพโดยเฉพาะภาคการเกษตร อันเนื่องมาจากภาวะภัยแล้ง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะมีความรุนแรงขึ้นในช่วงต่อไป ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างเป็นระบบ จึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานในเรื่องนี้ร่วมกันโดยจัดทำแผนบูรณาการการจัดการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||
25094 | การยืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และการเสนอความเห็นของส่วนราชการเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี | นร05 | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการยืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และการเสนอความเห็นของส่วนราชการเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้
๑. ให้ทุกส่วนราชการแจ้งยืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วภายในกรอบระยะเวลา ได้แก่ ๑.๑ กรณีเป็นร่างกฎหมายที่เป็นไปตามผลการดำเนินการตามมติคณะที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หากส่วนราชการประสงค์ที่จะดำเนินการร่างกฎหมายดังกล่าวต่อไป ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันศุกร์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ๑.๒ กรณีเป็นร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีชุดก่อนอนุมัติหลักการ หากส่วนราชการประสงค์ที่จะดำเนินการร่างกฎหมายดังกล่าวต่อไป ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๒ สัปดาห์นับจากวันที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือแจ้งเรื่องดังกล่าว ๑.๓ กรณีเป็นร่างกฎหมายที่ได้มีการอนุมัติหลักการโดยคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ๑.๓.๑ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งให้ส่วนราชการยืนยันในชั้นการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาภายในระยะเวลาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากำหนด หรือหากไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาภายใน ๒ สัปดาห์นับจากวันที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือแจ้งให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันร่างกฎหมายที่ตรวจพิจารณาแล้ว ๑.๓.๒ กรณีเป็นร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งให้ส่วนราชการยืนยันมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยตรง ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากำหนด หรือหากไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๒ สัปดาห์นับจากวันที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือแจ้งให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันร่างกฎหมายที่ตรวจพิจารณาแล้ว ทั้งนี้ หากส่วนราชการไม่แจ้งยืนยันภายในระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น ให้ถือว่าส่วนราชการนั้นได้ยืนยันและเห็นชอบร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ๒. ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการเสนอความเห็นเรื่องต่าง ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว กรณีที่เป็นเรื่องเร่งด่วนให้เสนอความเห็นภายในระยะเวลาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด สำหรับกรณีเป็นเรื่องปกติให้เสนอความเห็นภายใน ๒ สัปดาห์นับจากวันที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งเรื่องดังกล่าว หากส่วนราชการไม่เสนอความเห็นภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าส่วนราชการนั้นได้เห็นชอบเรื่องดังกล่าวแล้ว
|
||||||||||||||||||
25095 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 10/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ รวม ๒ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุวาระเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับค้ำประกันและจำนอง) ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||
25096 | การนำส่งเงินคงเหลือของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดิน | ยธ | 03/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานการนำส่งเงินคงเหลือของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ว่าปัจจุบันกองทุนฯ บริหารงานเพื่อใช้เงินไปตามวัตถุประสงค์จากสินทรัพย์หมุนเวียนที่มีอยู่ในปัจจุบัน จำนวน ๒๕๕,๙๕๔,๓๒๕.๔๑ บาท โดยจัดทำแผนงบประมาณประจำปี แยกเป็นงบบุคลากร งบดำเนินงาน และงบสนับสนุน ซึ่งในปีบัญชี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตั้งกรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน ๑๖๙,๘๑๕,๓๖๒.๐๔ บาท และได้กำหนดกรอบวงเงินเพื่อรองรับการจ่ายเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ หรือผู้มีส่วนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่หรือบุคคลดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน หรือได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินอันเนื่องจากการดำเนินการ รวมถึงเงินชดเชยความเสียหายและค่าเสื่อมสภาพทรัพย์สิน จำนวน ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมวงเงินงบประมาณที่จัดสรรเพื่อรองรับการบริหารงาน จำนวน ๑๘๑,๘๑๕,๓๖๒.๐๔ บาท เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องในปัจจุบัน จำนวน ๒๕๕,๙๕๔,๓๒๕.๔๑ บาท คงเหลือเงินกองทุนฯ ประมาณ ๗๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจะต้องสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติภารกิจ ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ รวมถึงการชดเชยค่าเสียหาย หรือเสื่อมสภาพของทรัพย์สินที่มีคำสั่งยึดและอายัดไว้ ซึ่งไม่สามารถประมาณการได้ เนื่องจากคดีแต่ละคดีมีช่วงเวลาการตัดสินที่แตกต่างกัน ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทรัพย์และดอกเบี้ย ทำให้มูลค่าของเงินที่ต้องใช้ในเรื่องการคืนและชดเชยไม่สามารถกันยอดตัวเลขที่แน่นอน ด้วยเหตุดังกล่าว จึงยังไม่สามารถนำส่งเงินเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อมูลกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลังและกองทุนอื่น ๆ) ที่ให้กระทรวงการคลังรวบรวมข้อมูลกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนต่าง ๆ ของภาครัฐที่มีอยู่ทั้งหมดให้ครบถ้วน และจัดกลุ่ม วิเคราะห์ผลดำเนินการ ประโยชน์และผลสัมฤทธิ์ที่ได้รับ และแนวทางการปรับปรุงหรือยุบเลิกกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนที่หมดความจำเป็น รวมทั้งให้จัดทำตัวชี้วัดของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และผลสัมฤทธิ์ของการจัดตั้งกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนดังกล่าว และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||
25097 | แนวทางการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ | กค | 03/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนของสังคมไทยเพื่อสร้างเครือข่ายที่จะร่วมกันสร้างมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง ส่งเสริมให้ภาคเอกชนที่เข้าร่วมเป็นผู้เสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ มีการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และมีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งให้ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทำให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณของประเทศมีความคุ้มค่ามากที่สุด โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานโครงการฯ ได้แก่ การแต่งตั้งคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (Anti-Corruption Cooperation Committee) การคัดเลือกโครงการจัดซื้อจัดจ้าง การคัดเลือกผู้สังเกตการณ์ (Observers) ตามข้อตกลงคุณธรรม การจัดทำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) เงื่อนไขการดำเนินงานที่กำหนดเพิ่มเติม ข้อยกเว้น และการประเมินผลโครงการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ๑.๒ อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (Anti-Corruption Cooperation Committee) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธาน และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดแนวทางและวิธีการในการดำเนินโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กำหนดรูปแบบ ปรับปรุง เนื้อหาของข้อตกลงคุณธรรม พิจารณาคัดเลือกโครงการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเข้าร่วมโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พิจารณาคัดเลือกผู้สังเกตการณ์เพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ทบทวน ปรับปรุง และกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินโครงการฯ กำหนดแนวทางการดำเนินงานให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด รวมทั้งพิจารณารายงานผลการประเมินผลโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่เข้าร่วมโครงการฯ และเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานตามโครงการฯ ตลอดจนพิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการเป็นผู้สังเกตการณ์ตามโครงการฯ ๒. ในส่วนขององค์ประกอบของคณะกรรมการ ให้ตัดเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติออก เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นองค์กรกลางที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานและโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐอยู่แล้ว |
||||||||||||||||||
25098 | รายงานผลการพิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. .... | สว | 03/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. .... โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตว่า ในกรณีที่พบว่าคนไร้ที่พึ่งผู้ใดเป็นคนที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่คงของมนุษย์ให้ความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นในเบื้องต้นแล้วประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดส่งคนไร้ที่พึ่งผู้นั้นกลับประเทศต่อไป ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบรายงานผลการพิจารณาของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว คือ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งมีหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง จำนวน ๑๑ แห่ง และบ้านมิตรไมตรี จำนวน ๑๐ แห่ง ให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติผู้หลบหนีเข้าเมืองในเบื้องต้นอยู่แล้วตามหลักมนุษยธรรม ก่อนที่จะมีการประสานส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อส่งกลับประเทศต่อไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||
25099 | การขออนุมัติดำเนินโครงการจัดสรรทุนการศึกษาตามความต้องการของกระทรวงการต่างประเทศ ระยะที่ 3 ช่วงที่ 3 (ปีงบประมาณ 2559 - 2567) | กต | 03/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การดำเนินโครงการจัดสรรทุนการศึกษาตามความต้องการของกระทรวงการต่างประเทศ ระยะที่ ๓ ช่วงที่ ๓ (ปีงบประมาณ ๒๕๕๙-๒๕๖๗) เป็นระยะเวลา ๙ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๕๙-๒๕๖๗) ๑.๒ วงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ เป็นจำนวน ๑๘๘ ล้านบาท โดยให้ใช้ได้จนสิ้นสุดปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับการตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนรัฐบาลควรสอดคล้องตามระยะเวลาของหลักสูตรที่สถาบันการศึกษากำหนดไว้ เช่น ทุนการศึกษาในระดับปริญญาโท ณ สหราชอาณาจักร ซึ่งตามหลักสูตรกำหนดไว้ประมาณ ๑ ปี เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
25100 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 03/02/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการพิจารณาโครงการภาคสมัครใจ และการพิจารณาให้ใช้เครื่องหมายรับรอง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....