ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1253 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 25041 - 25060 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25041 | สรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 21 (The 21st Meeting of Mekong River Commission Council) | ทส | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒๑ (The 21st Meeting of Mekong River Commission Council) ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ มกราคม ๒๕๕๘ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒๑ ที่ประชุมฯ ได้อนุมัติหลักการงบประมาณหมวดบริหารองค์กร ปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ประกอบด้วย รายได้จากเงินอุดหนุนของประเทศสมาชิก และเงินค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการจำนวน ๔,๒๔๔,๑๔๒ ดอลลาร์สหรัฐ รายจ่ายจำนวน ๔,๐๓๙,๘๖๒ ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณคงเหลือจำนวน ๒๐๔,๒๘๐ ดอลลาร์สหรัฐ โดยในส่วนของไทยได้โอนเงินสนับสนุนประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ (ค.ศ. ๒๐๑๕) จำนวน ๗๒๒,๓๕๘ ดอลลาร์สหรัฐ แก่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเรียบร้อยแล้ว และรับทราบผลการศึกษาการจัดการและพัฒนาแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน รวมทั้งผลกระทบจากการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงสายประธาน (Council Study) ดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๘ (ค.ศ. ๒๐๑๓-๒๐๑๕) เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจการพัฒนาโครงการในแม่น้ำโขงสายประธานแก่ประเทศสมาชิก โดยที่ประชุมฯ เห็นว่ามีความล่าช้ากว่าที่กำหนด จึงขอให้สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเร่งรัดดำเนินการศึกษาให้แล้วเสร็จ เพื่อสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการสนับสนุนการตัดสินใจของประเทศสมาชิกต่อไป ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะเข้าร่วมหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเวียดนาม ในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การศึกษาผลกระทบจากการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงสายประธาน (Delta Study) ซึ่งดำเนินการโดยเวียดนาม และความเป็นไปได้ในการเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกระทรวงฯ ของสองประเทศ รวมทั้งได้หารือความร่วมมือกับผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศของจีน โดยขอความร่วมมือจีนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลอุทกวิทยาของแม่น้ำโขงตอนบนครอบคลุมตลอดปี เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการบริหารจัดการลุ่มแม่น้ำโขง และประกอบการแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง
|
|||||||||||||||||||||
25042 | การรายงานผลการบริจาคข้าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในประเทศมาเลเซียและในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ | พณ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินการส่งมอบข้าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในประเทศมาเลเซียและในพื้นที่ ๘ จังหวัดภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ [เรื่อง การบริจาคข้าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในสาธารณรัฐฟิลิปปินส์และมาเลเซีย และเรื่อง ขอรับการสนับสนุนข้าวสารเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) ภาคใต้] โดยประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวได้ให้ความเห็นชอบให้กรมการค้าต่างประเทศประสานความร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยในการจัดหาข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่มีคุณภาพดีจากตลาดเพื่อนำมาบรรจุถุงประทับข้อความ “with the compliments of the Royal Thai Government” จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ ถุง ปริมาณรวม ๕๐๐ ตัน เพื่อบริจาคให้ประเทศมาเลเซีย และขนส่งให้ถึงจุดส่งมอบไปยัง Pengkalan Chepa depot ประเทศมาเลเซีย และจัดทำข้าวสารบรรจุถุงประทับข้อความ “รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประสบภัย” จำนวน ๒๗๒,๐๐๐ ถุง ปริมาณรวม ๑,๓๖๐ ตัน เพื่อส่งมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ๘ จังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศชำระค่าดำเนินการให้สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยเป็นข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล โดยใช้ข้าวในคลังของกระทรวงพาณิชย์ตามมูลค่าข้าวที่ส่งมอบรวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
|
|||||||||||||||||||||
25043 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ที่ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | กค | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่ครบกำหนดในวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ จำนวน ๑๒๑,๐๓๕ ล้านบาท เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ได้แก่ (๑) กู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ (Pre-funding) จำนวน ๕๘,๐๐๐ ล้านบาท ประกอบด้วย ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-bill) รุ่นอายุ ๙๑ วัน จำนวนรวม ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาล รุ่นอายุ ๕ ปี (LB196A) จำนวนรวม ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท และ (๒) กู้เงินในวันที่พันธบัตรรัฐบาลครบกำหนด (๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗) จำนวน ๖๓,๐๓๕ ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ระยะสั้น อายุ ๔ เดือน จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ตั๋วสัญญาใช้เงิน อายุ ๔ ปี จำนวน ๑๓,๐๓๕ ล้านบาท และ R-bill จำนวนรวม ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๗ จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๗ ประกอบด้วย กู้เงินระยะสั้น อายุ ๑ เดือน จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท และออกพันธบัตรรัฐบาล รุ่นอายุ ๓๐ ปี (LB446A) จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท ๓. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ครั้งที่ ๕ จำนวน ๑๑,๖๓๕ ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ทดแทนวงเงินตั๋วเงินคลังงวดที่ ๑/๗/๕๗ ซึ่งจัดให้มีการประมูลเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗ แต่จำหน่ายได้ไม่ครบตามวงเงินที่ประกาศไว้ โดยมีวงเงินส่วนที่ขาดอยู่จำนวน ๑๑,๖๓๕ ล้านบาท ๔. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกู้เงินดังกล่าว จำนวน ๑๗ ฉบับ และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
25044 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย - ลาว ครั้งที่ 21 | กห | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๑ เมื่อวันที่ ๒๕-๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศของลาว เป็นประธานร่วม ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ประชุมฯ ได้ปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทบทวนและประเมินผลของการปฏิบัติร่วมตามบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๐ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๖ โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองประเทศก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน สามารถแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความมั่นคงตามชายแดนของทั้งสองประเทศ ทำให้พื้นที่บริเวณชายแดนส่วนใหญ่มีความสงบเรียบร้อย ๒. ที่ประชุมฯ มอบหมายให้คณะอนุกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปทั้งสองฝ่ายร่วมกันพิจารณาร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวฉบับใหม่ เพื่อให้มีการลงนามร่วมกันโดยเร็วต่อไป ๓. ที่ประชุมฯ แสดงความยินดีต่อผลสำเร็จของการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-ลาว ครั้งที่ ๙ ซึ่งฝ่ายไทยรับเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ และสนับสนุนให้ปฏิบัติตามบันทึกการประชุมดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ๔. ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน และให้แต่ละฝ่ายมีการลาดตระเวนตรวจพื้นที่ชายแดนของตนเองเพื่อร่วมกันสกัดกั้นและปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว พร้อมทั้งสนับสนุนให้ปฏิบัติตามข้อ ๗.๖ ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามแนวชายแดนไทย-ลาว ของบันทึกการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดนไทย-ลาว ครั้งที่ ๙ อย่างเคร่งครัด และเห็นชอบให้คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนระดับจังหวัด-แขวงมีการประชุมหารืออย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป ๕. ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้มีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนของไทยกับกองกำลังป้องกันชายแดน กองบัญชาการทหารแขวงของลาว รวมทั้งระหว่างหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ดำเนินการร่วมกับการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนระดับจังหวัด-แขวง ๖. ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากลภายในกรอบของอาเซียนด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด ๗. ที่ประชุมฯ เห็นชอบที่จะประสานและสนับสนุนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาผู้ลักลอบเข้าเมืองในภาพรวม รวมทั้งชาวม้งลาวลักลอบเข้าเมืองที่ยังคงเหลืออยู่ในไทยส่งกลับให้ลาวตามสถานการณ์ที่เหมาะสม หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้แจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเพื่อร่วมกันพิจารณาแก้ไขตามแนวทางที่เหมาะสมต่อไป ๘. ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้มีกิจกรรมความร่วมมือทางด้านศิลปวัฒนธรรมและกีฬาระหว่างกองทัพไทย-ลาว โดยมอบให้คณะอนุกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปของทั้งสองฝ่ายพิจารณาดำเนินการในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป ๙. ฝ่ายลาวรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๒ โดยจะแจ้งกำหนดเวลาและสถานที่จัดการประชุมฯ ให้ทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25045 | รายงานประจำปี 2556 คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร01 | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๖ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีสาระสำคัญเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้แก่ ผลการปฏิบัติงานกระจายอำนาจด้านการถ่ายโอนภารกิจและอำนาจหน้าที่ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๖ การกระจายอำนาจด้านการเงิน การคลัง และงบประมาณ การดำเนินการแก้ไขกฎหมาย และการติดตามและประเมินผล ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25046 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | พณ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (ประเด็นการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและหาแนวทางพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อการส่งออก) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงพาณิชย์ได้มีการประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เพื่อร่วมกันยกร่างยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ โดยที่ประชุมมีมติให้บรรจุประเด็นกลยุทธ์การส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการการแปรรูปผลไม้ ซึ่งมีกิจกรรมหลัก ได้แก่ การพัฒนาการเพิ่มมูลค่าผลไม้และผลิตภัณฑ์ไว้ภายใต้ยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย โดยมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหลักในการผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มต่อผลิตภัณฑ์ผลไม้ ๒. ในส่วนของสินค้ากล้วยไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ไทยในตลาดโลก และกระทรวงพาณิชย์ (กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) ในฐานะคณะทำงาน อยู่ระหว่างเชิญศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (National Metal and Materials Technology : MTEC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมประชุมกำหนดแนวทางพัฒนาบรรจุภัณฑ์กล้วยไม้ให้รักษาความสดใหม่อยู่ได้นานต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25047 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 ด้านสังคม เรื่อง การยกระดับสถาบันการศึกษาทางด้านวิชาชีพ | ศธ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ด้านสังคม เรื่อง การยกระดับสถาบันการศึกษาทางด้านวิชาชีพ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ดำเนินการยกระดับสถาบันการศึกษาทางด้านวิชาชีพในวิทยาลัยเทคนิคตัวอย่างที่เน้นความเป็นเลิศในด้านช่างฝีมือ โดยกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาและได้คัดเลือกสถานศึกษาดำเนินการเป็น ๒ ระยะ คือ ระยะที่ ๑ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๑๖ กลุ่มอาชีพ อาทิ กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ดำเนินการที่กาญจนาภิเษกวิทยาลัยช่างทองหลวง กลุ่มยานยนต์บริการ ดำเนินการที่วิทยาลัยเทคนิคอุตสาหกรรมยานยนต์ และวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ และกลุ่มพาณิชย์นาวี ดำเนินการที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช เป็นต้น และระยะที่ ๒ เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยคัดเลือกกลุ่มอาชีพได้ ๑๗ กลุ่มอาชีพ อาทิ เชฟ โลจิสติกส์ เทคโนโลยีการเกษตร และเมล็ดพันธุ์พืช เป็นต้น ๑.๒ ดำเนินการทบทวนการจัดระบบการศึกษาและกำหนดแผนการผลิตและพัฒนาทักษะของบุคลากรในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ ให้สามารถรองรับความต้องการและแข่งขันการค้าบริการกับประเทศอื่น ๆ ได้ โดยขยายการจัดอาชีวศึกษาทวิภาคีต่อเนื่อง จัดทำมาตรฐานการจัดอาชีวศึกษาทวิภาคี และส่งเสริมความร่วมมือในการผลิตและการพัฒนากำลังคนร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกลุ่มอาชีพ ๑.๓ ดำเนินการแก้ไขปัญหาการว่างงานของผู้จบการศึกษาทุกระดับ และจัดทำฐานข้อมูลผู้จบการศึกษาระดับอาชีวศึกษา รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้จบการศึกษาระดับอาชีวศึกษามีงานทำ ได้แก่ จัดทำ Web Service (www.v-cop.net) ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์กำลังคนอาชีวศึกษา เพื่อให้บริการสารสนเทศด้านกำลังคนอาชีวศึกษาแก่สถานประกอบการและผู้สำเร็จอาชีวศึกษา ตลอดจนจัดตลาดนัดแรงงานอาชีวศึกษาพื้นที่ที่มีการจ้างงานสูงเขตอุตสาหกรรม ๑.๔ ดำเนินการส่งเสริมสถาบันอาชีวศึกษาในด้านต่าง ๆ เพิ่มเติม โดยกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติอัตราค่าเครื่องมือประจำตัวผู้เรียนเฉพาะอาชีพของนักเรียนสายอาชีพอาชีวศึกษาต่อคน ตามประเภทวิชาในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบใน ๙ ประเภทวิชา ได้แก่ ประเภทวิชาเกษตรกรรม ประเภทวิชาคหกรรม ประเภทวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประเภทวิชาพาณิชยกรรม ประเภทวิชาประมง ประเภทวิชาศิลปกรรม ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และประเภทวิชาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งครอบคลุมหน่วยงานที่เปิดสอนหลักสูตร ปวช. ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงกลาโหมทั้ง ๓ เหล่าทัพ ๒. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการประสานกระทรวงแรงงานเพื่อดำเนินการส่งเสริมหลักสูตรการเรียนการสอน โดยให้มุ่งเน้นความเชื่อมโยงกับความต้องการของตลาดแรงงานไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาอาชีวศึกษา ซึ่งในปัจจุบันมีความต้องการเป็นจำนวนมาก
|
|||||||||||||||||||||
25048 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการ งบลงทุน ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง (รายการ ก่อสร้างอาคารที่ทำการและสิ่งก่อสร้างประกอบให้แก่บ้านพักเด็ก และครอบครัว) | พม | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการบ้านพักเด็กและครอบครัว จาก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง เป็น บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลพบุรี ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ) ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
25049 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... | มท | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองบัวระเหว อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทย และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25050 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับหลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... | กษ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับหลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการควบคุมกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างในปริมาณเกินกว่าข้อกำหนดตามกฎหมายหรือข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยอาหารของประเทศไทยและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผลไม้ไทยในตลาดโลก ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25051 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 พ.ศ. .... | สว | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. .... ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ต้องมีความรอบคอบรัดกุมและสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เช่น การตรวจสอบสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีหน้าที่ต้องตรวจสอบโครงการที่นำมาขอแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์อย่างละเอียดเพื่อการป้องกันความเสียหายและการทุจริตที่อาจเกิดจากการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ รวมทั้งควรศึกษาอัตราโทษในพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. .... ทั้งระบบให้มีความเหมาะสมและทันสมัยยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25052 | ผลการลงนามหนังสือผลการเจรจาปรับแก้ตารางข้อผูกพันภาษีสินค้าของกาบองภายใต้ WTO พร้อมภาคผนวกระหว่างไทย - กาบอง ภายใต้กระบวนการเจรจาขอปรับแก้ตารางข้อผูกพันของประเทศสมาชิกฯ ตาม Article 28 ของ GATT 1994 | พณ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการลงนามหนังสือผลการเจรจาปรับแก้ตารางข้อผูกพันภาษีสินค้าของกาบองภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) พร้อมภาคผนวกระหว่างไทย-กาบอง ภายใต้กระบวนการเจรจาขอปรับแก้ตารางข้อผูกพันของประเทศสมาชิก WTO ตาม Article 28 ของ GATT 1994 สรุปสาระสำคัญหนังสือผลการเจรจาของสองฝ่ายดังกล่าว ดังนี้ ๑.๑ กาบองปรับแก้ตารางข้อผูกพันภาษีสินค้าอุตสาหกรรมของกาบอง โดยปรับอัตราภาษีนำเข้าที่ผูกพันไว้ใน WTO (Bound Rate) จำนวน ๒,๑๕๙ รายการ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๑๕ เป็นร้อยละ ๒๐-๓๐ และปรับลด Bound Rate จำนวน ๒,๕๐๐ รายการ ลดลงร้อยละ ๑๕ เป็นร้อยละ ๕-๑๐ ในภาพรวมจะทำให้ Bound Rate สินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๑๕.๓๘ เป็นร้อยละ ๑๘.๐๘ ๑.๒ กาบองยอมชดเชยให้กับไทย โดยลดภาษีนำเข้า (Bound Rate) ของสินค้าข้าวพิกัด ๑๐๐๖ ตามข้อเรียกร้องของไทย จากร้อยละ ๖๐ หรือร้อยละ ๔๐ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ [เรื่อง การลงนามในภาคผนวกของร่างหนังสือผลการเจรจาปรับแก้ตารางข้อผูกพันภาษีสินค้าของกาบองภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ภายใต้กระบวนการเจรจาขอปรับแก้ตารางข้อผูกพันของประเทศสมาชิก WTO ตามมาตรา XXVIII ของ GATT 1994] ที่ให้ประเมินถึงผลประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการเป็นสมาชิกของ WTO โดยเฉพาะพันธกรณีข้อกำหนดเกี่ยวกับการลดหย่อนอัตราภาษีว่าที่ผ่านมาไทยได้รับผลประโยชน์อย่างไรและได้รับการลดหย่อนภาษีจากประเทศคู่ค้าแล้วเท่าใด ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดยุทธศาสตร์ในเชิงรุกเพื่อเจรจากับคู่ค้าทั้งในระบบทวิภาคีและพหุภาคีด้วย โดยจะต้องจัดทำรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการทราบถึงการปรับอัตราภาษีสินค้าอุตสาหกรรมของกาบองภายใต้ WTO เพื่อที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากการลดภาษีนำเข้าที่ผูกพัน (Bound Rate) โดยเฉพาะสินค้าข้าวซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการส่งออกในตลาดกาบอง รวมทั้งจะได้ปรับตัวและเตรียมพร้อมในการรองรับผลกระทบจากการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าที่ผูกพัน (Bound Rate) ของกาบอง โดยเฉพาะสินค้าที่กระทบกับการส่งออกของไทย เช่น รถยนต์ รถบรรทุก และถังบรรจุก๊าซ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
25053 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... | กษ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างประตูระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการประตูระบายน้ำพระอาจารย์จื่อ (ลำเชียงทา) จังหวัดชัยภูมิ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25054 | ผลการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ของกระทรวงคมนาคม | คค | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗-๕ มกราคม ๒๕๕๘ รวมระยะเวลา ๑๑ วัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ จำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรทางบกลดลง โดยอุบัติเหตุที่เกิดกับรถไฟ จำนวน ๕ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต ๓ คน และผู้บาดเจ็บ ๓ คน และอุบัติเหตุที่เกิดกับรถโดยสารสาธารณะ จำนวน ๔๓ คัน มีผู้เสียชีวิต ๑๓ คน และผู้บาดเจ็บ ๑๐๙ คน ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ เกิดในช่วงเวลา ๑๖.๐๑-๒๐.๐๐ น. สูงสุด และเป็นช่วงที่มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บสูงสุด เป็นจำนวนอุบัติเหตุ ๓๒๒ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต ๕๐ คน และผู้บาดเจ็บ ๓๕๓ คน จังหวัดที่มีจำนวนอุบัติเหตุสูงสุด ๓ ลำดับแรก คือ เชียงใหม่ ๔๗ ครั้ง สุพรรณบุรีและพัทลุง ๔๖ ครั้ง และกรุงเทพมหานคร ๓๗ ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ๓ ลำดับแรก คือ อุดรธานี ๙ คน บุรีรัมย์ ชุมพร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ๗ คน และเชียงราย อุบลราชธานี และชลบุรี ๖ คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ๓ ลำดับแรก คือ จังหวัดเชียงใหม่ ๕๙ คน ลพบุรี ๕๗ คน และสุพรรณบุรี ๕๖ คน สำหรับยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ จำนวนทั้งสิ้น ๒,๑๐๔ คัน โดยเกิดกับรถจักรยานยนต์สูงสุด ๒. มาตรการในการดำเนินการของกระทรวงคมนาคม ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสายทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และสายทางบริเวณจุดตัดรถไฟ เพื่อสำรวจ ปรับปรุงสภาพถนน ป้ายเตือน/ป้ายแนะนำเส้นทาง สัญญาณไฟ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่กวดขันวินัยจราจร บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน และสร้างวัฒนธรรมที่ดีในการขับขี่ ควบคุมความเร็วในการขับขี่ และเพิ่มจุดแวะพัก/จุดให้บริการประชาชนกระจายไปตามถนนสายต่าง ๆ เพื่อช่วยชะลอความเร็วในการขับขี่ระหว่างการเดินทาง และติดตั้งป้ายเตือน ลูกเนินหรือลูกระนาดบนเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
|
|||||||||||||||||||||
25055 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลวังก์พง ตำบลปากน้ำปราณ ตำบลเขาน้อย ตำบลปราณบุรี และตำบลหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25056 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) | อื่นๆ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25057 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏร้อยเอ็ด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชานิเทศศาสตร์และสาขาวิชารัฐศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25058 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดยกฟ้อง ในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.45/2557 ระหว่างนายชูศักดิ์ เศรษฐพินิจ ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีและประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้วและโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2555 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้ว และโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับหรือชะลอการบังคับตามผลของประกาศกระทรวงพาณิชย์ ทั้ง 2 ฉบับ | อส | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดยกฟ้อง ในคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๔๕/๒๕๕๗ ระหว่างนายชูศักดิ์ เศรษฐพินิจ ที่ ๑ กับพวกรวม ๓ คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีและประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้วและโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๕ และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้ว และโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับหรือชะลอการบังคับตามผลของประกาศกระทรวงพาณิชย์ ทั้ง ๒ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25059 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชาอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาการบัญชีของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25060 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....