ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1257 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 25121 - 25140 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25121 | รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (นายชิโระ ซะโดะชิมะ) | กต | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชิโระ ซะโดะชิมะ (Mr. Shiro Sadoshima) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายชิเกะกะซุ ซะโตะ (Mr. Shigekazu Sato) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
25122 | รัฐบาลสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (นายฮาซิม อัสสัยยิด บะดะวีย์ อัฏฏอฮิรีย์) | กต | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายฮาซิม อัสสัยยิด บะดะวีย์ อัฏฏอฮิรีย์ (Mr. Hazem Elseyed Badawy Elthary) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายอิสมาอีล อะห์มัด ค็อยรอต (Mr. Ismail Ahmed Khairat) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
25123 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. .... | สว | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. .... เกี่ยวกับการเร่งรัดพิจารณาให้มีกฎหมายเฉพาะว่าด้วยการป้องกันการละเมิดทางเพศ การคุกคามทางเพศและการดูหมิ่นเหยียดหยามทางเพศที่มีบทลงโทษทางอาญาอย่างชัดเจนและครอบคลุมทุกมิติของสังคม การกำหนดขั้นตอนปฏิบัติของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวในการรับคำร้องว่ามีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ การกำหนดรูปแบบของหนังสือคำขอรับการชดเชยและเยียวยาแทนผู้เสียหาย การกำหนดบทนิยามของคำว่า “ผู้ดูแล” และ “บุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์ของผู้เสียหาย” โดยให้ครอบคลุมถึงบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศด้วย รวมทั้งกรอบวัตถุประสงค์การใช้จ่ายเงินในกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ควรรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีของบุคคลซึ่งถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องหรือฟ้องคดีแทนด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แก้ไข เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๒. มอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
25124 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุน พัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. .... | สว | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. .... ตามที่สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เมื่อกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีฐานะทางการเงินเพียงพอ หรือไม่มีความจำเป็นต้องคงขนาดของกองทุนฯ อันเนื่องมาจากสภาพทางเศรษฐกิจการเงินมั่นคง แต่ด้วยร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. .... กำหนดให้รายได้ของกองทุนฯ ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน เห็นควรให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณานำเงินกองทุนฯ ส่วนเกิน หรือส่วนที่เห็นว่าไม่มีความจำเป็น เข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ ๑ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. ๒๔๙๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๒ การระดมเงินฝากของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจากประชาชนที่ส่วนใหญ่เป็นรายเล็กรายย่อย ย่อมมีต้นทุนการระดมเงินฝากสูงกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ฉะนั้น ในกรณีที่กองทุนฯ มีฐานะทางการเงินเพียงพอต่อการดำเนินงานของกองทุนแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีควรพิจารณาปรับลดอัตราเงินนำส่งของสถาบันการเงินเฉพาะกิจลง ทั้งนี้ เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความจำเป็นในขณะนั้น ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาว่า สมควรดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
25125 | มาตรการป้องกันการทุจริตและการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ | ปช | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตและการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ประกอบด้วย มาตรการด้านนโยบาย มาตรการด้านบริหารจัดการ และมาตรการด้านกฎหมาย เพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามนัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๑๙ (๑๑) ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ ๒. รับทราบคำสั่งรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชุมหารือกำหนดวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒๗/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำรายงาน ผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
25126 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... | สว | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ในกรณีที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ไม่สามารถได้รับเงินจัดสรรจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ตามมาตรา ๖ และมาตรา ๑๑ ได้นั้น ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กองทุนฯ ดำเนินงานของกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๒ ในมาตราที่ได้กำหนดให้มีการรายงานประจำปี ประสงค์ให้มีการตรวจสอบโดยองค์กรหรือผู้รับผิดชอบตามกฎหมายนั้น ได้นำประเด็นและข้อสังเกตจากการพิจารณารายงานประจำปีของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไปดำเนินการให้อยู่ในกรอบของหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีต่อไป ๒. มอบให้กระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงบประมาณรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
25127 | ความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรมวันดินโลก และปีดินสากล ปี 2558 | กษ | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรมวันดินโลก และปีดินสากล ปี ๒๕๕๘ ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดทำเรื่องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญพระบรมฉายาลักษณ์เพื่อจัดนิทรรศการวันดินโลก ๕ ธันวาคม ณ กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี และองค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ และดำเนินการจัดทำนิทรรศการเป็นภาษาอังกฤษเพื่อนำไปแสดงในงานวันดินโลกทั้งสองแห่ง ๒. กำหนดปฏิทินการจัดงาน ได้แก่ พิธีเปิดตัวปีดินสากล ปี ๒๕๕๘ ณ กรมพัฒนาที่ดิน ในวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ การจัดการอบรมหมอดินอาสาระดับนานาชาติ ณ กรุงเทพมหานคร ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ จัดการประชุมวิชาการระดับชาติเรื่องดิน ณ จังหวัดขอนแก่น ในเดือนเมษายน ๒๕๕๘ จัดสัปดาห์ดินสากล ณ กรุงเทพมหานคร ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ การประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษหัวข้อ "Healthy Soils for a Healthy Life" ในระดับอุดมศึกษา ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ จัดการประชุมระดับนานาชาติ International Soil Conference-Sustainable Uses of Soil in Harmony with Food Security ณ จังหวัดเพชรบุรี ในวันที่ ๑๗-๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ และการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับความสำคัญ และการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรดิน และการเปิดให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ดิน ณ กรมพัฒนาที่ดิน เป็นประจำทุกเดือน ๓. การประสานงานเรื่องการกราบบังคมทูลพระกรุณาเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงบรรยายหรือบันทึกเทปพระราชดำรัสเรื่อง Healthy Soils for a Healthy life ในงานวันดินโลก ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งสำนักราชเลขาธิการมีหนังสือแจ้งว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จแทนพระองค์ โดยมีกำหนดการเสด็จระหว่างวันที่ ๓-๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๔. การโอนเงินตั้งต้น (Initial Seed Money) จำนวน ๓.๓ ล้านบาท ให้แก่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมปีดินสากลในระดับสากล ๕. การจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันดินโลก ๕ ธันวาคม และปีดินสากล ปี ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๓-๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ที่กรมพัฒนาที่ดินร่วมกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศ และสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยมีการแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรดิน การประชุมวิชาการ การเสวนา การบรรยายพิเศษ และการประกวดร้องเพลงเทิดพระเกียรติในกลุ่มหมอดินอาสา และการแข่งขันเล่นเกมส์ออนไลน์ LDD IM Farm ซึ่งเป็นเกมส์จำลองการทำการเกษตร นำข้อมูลจริงมาใช้ในการจำลองการปลูกพืช ๕ ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย และถั่วเหลือง มีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย จำนวน ๗ แห่ง ผู้แทน เอฟ เอ โอ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งได้อ่านสารจาก Director General ของ เอฟ เอ โอ ณ กรุงโรม ผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ นักวิชาการ หมอดินอาสา และผู้สนใจทั่วไป จำนวนกว่า ๕,๐๐๐ คน ๖. การจัดนิทรรศการวันดินโลกในงาน “การใช้น้ำอย่างมีคุณค่า ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน-๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ มีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์ถึงพระวิสัยทัศน์และพระปรีชาสามารถเกี่ยวกับการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน ๗. การแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการประชุมนานาชาติเพื่อสนับสนุนกิจกรรมปีดินสากล ซึ่งกำหนดจะจัดการประชุมฯ ระหว่างวันที่ ๑๖-๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ จังหวัดเพชรบุรี ๘. การจัดให้มีการเสวนาวิชาการเกี่ยวกับดิน ณ กรมพัฒนาที่ดิน เป็นประจำทุกเดือน โดยที่ผ่านมาได้จัดเสวนาในหัวข้อโครงการพัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดบ้านยูโย และกว่าจะมาเป็นวันดินโลกและปีดินสากล โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมพัฒนาที่ดินและหน่วยงานภายนอก ๙. การจัดกิจกรรมให้นักเรียน นักศึกษา สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ดิน ณ กรมพัฒนาที่ดิน ตลอดปี ซึ่งที่ผ่านมามีนักเรียนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ดิน จำนวน ๑,๒๒๗ คน
|
|||||||||||||||||||||||||||
25128 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 สายกรุงเทพมหานคร - แม่สาย (เขตแดน) รวมทางยกระดับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ - รังสิต ตอนบ้านห้วยยาง - บ้านพุแค พ.ศ. .... | คค | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ สายกรุงเทพมหานคร-แม่สาย (เขตแดน) รวมทางยกระดับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ตอนบ้านห้วยยาง-บ้านพุแค พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ สายกรุงเทพมหานคร-แม่สาย (เขตแดน) รวมทางยกระดับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ตอนบ้านห้วยยาง-บ้านพุแค ในท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ตามที่กระทรวงคมานคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
25129 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1084 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 (ป่าแดง) - ต่อเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชรควบคุม ที่บ้านดอนดู่ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 122 สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ตอนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันออก เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘๔ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๗ (ป่าแดง)-ต่อเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชรควบคุม ที่บ้านดอนดู่ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๒ สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ตอนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันออก เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่อำเภอเมืองนครสวรรค์และอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนและเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
25130 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) | นร05 | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของส่วนราชการที่นายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการและส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และของรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการ จำนวน ๔๑ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
25131 | การประชุม Open Debate ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในหัวข้อ "Inclusive Development for the Maintenance of International Peace and Security" | กต | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุม Open Debate ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในหัวข้อ “Inclusive Development for the Maintenance of International Peace and Security” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๘ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และผลการหารือทวิภาคีในช่วงการเยือนนครนิวยอร์ก ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุม Open Debate ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ เป็นอันดับแรกของกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯ สาระสำคัญของถ้อยแถลงย้ำแนวคิดของไทยที่เห็นว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนมีความสำคัญและเชื่อมโยงกับการธำรงรักษาความมั่นคง และมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ต้นเหตุ ซึ่งได้แก่ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม คณะมนตรีความมั่นคงฯ ต้องทำงานมากขึ้นในมิติการป้องกันความขัดแย้งและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม นอกจากนี้ หน่วยงานของสหประชาชาติต้องทำงานอย่างเชื่อมโยงและสอดคล้องประสานกันอย่างเป็นระบบ ๒. การหารือทวิภาคี ๒.๑ การหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้อธิบายความจำเป็นที่กองทัพไทยต้องเข้ามายุติความขัดแย้ง และกล่าวถึงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญของไทยและการเลือกตั้ง รวมทั้งนโยบายที่ไทยสนับสนุนให้ประเทศพันธมิตรนอกภูมิภาคใช้ไทยเป็นฐานในการปฏิสัมพันธ์กับอาเซียนมากขึ้น (Thailand Plus One) ๒.๒ การหารือทวิภาคีกับประธานสมัชชาสหประชาชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูกันดา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งประธานสมัชชาฯ เกี่ยวกับการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯ ของไทยวาระ ค.ศ. ๒๐๑๗-๒๐๑๘ และไทยสนใจจะมีปฏิสัมพันธ์กับแอฟริกามากขึ้น ภายใต้ Thai-Africa Initiative รวมทั้งได้ชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทย และกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ๒.๓ การหารือทวิภาคีกับเลขาธิการสหประชาชาติ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้อธิบายถึงสถานการณ์ในประเทศไทย กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งความมุ่งมั่นของรัฐบาลปัจจุบันในการปฏิรูปประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||
25132 | ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (กรณีเกษตรกรอำเภอเมืองพิจิตร อำเภอโพทะเล อำเภอบางมูลนาก และอำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร ถูกละเมิดสิทธิไม่ได้รับใบประทวนสินค้าและเงินจากการจำนำข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ปีการผลิต 2555/56) | สม | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบให้ใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่นำข้าวเปลือกไปจำนำตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต ๒๕๕๕/๕๖ กับบริษัท โรงสีแอลโกลด์แมนูเฟคเจอร์ จำกัด และท่าข้าวหัวดง ที่คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัดพิจิตรได้ตรวจสอบรับรองแล้วเป็นหลักฐานแทนใบประทวนที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรออกให้เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรนำไปยื่นให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้เป็นหลักฐานในการจ่ายเงินให้เกษตรกร ตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวตรวจสอบข้อคลาดเคลื่อนหรือความเสียหายที่เกิดจากจำนวนเกษตรกรและปริมาณข้าวเปลือกเพิ่มขึ้นจากที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตรวจสอบไว้ พร้อมทั้งดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณาหาแหล่งงบประมาณเพื่อจ่ายเยียวยาให้แก่เกษตรกรในกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่มีวงเงินไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท ให้สำนักงบประมาณเป็นผู้เสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
25133 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | คค | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อการขยายทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๓๘ กับทางหลวงชนบท ชบ.๓๐๒๗ เพื่ออำนวยความสะดวก และความรวดเร็วแก่การจราจร และการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
25134 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สภาวิชาชีพบัญชี) | พณ | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สภาวิชาชีพบัญชี) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรของสภาวิชาชีพบัญชีที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
25135 | ผลการหารือข้อราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เมียนมา และการเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก | พณ | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการหารือข้อราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เมียนมา และการเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ มกราคม ๒๕๕๘ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาใช้ข้อมูลดังกล่าวประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการหารือข้อราชการระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ฝ่ายไทยได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อนการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการเชื่อมโยงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และนโยบายกระทรวงพาณิชย์ในการส่งเสริมการค้าชายแดน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะเร่งผลักดันให้เกิดการดำเนินการ (๑) ตั้งเป้ามูลค่าการค้าชายแดนระหว่างกันในปี ๒๕๕๙ ให้เพิ่มขึ้นเท่าตัว (๒) จัดตั้งคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อขับเคลื่อนการค้าชายแดนสองฝ่าย และ (๓) จัดตั้งสภาธุรกิจเพื่อขยายการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดนของภาคเอกชน ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เมียนมาได้เสนอให้มีการเร่งรัดการเปิดด่านมูต่อง จังหวัดมะริด-ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การจัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาท้องถิ่น การควบคุมราคาสินค้าตามแนวชายแดน และเน้นว่ากระทรวงพาณิชย์ของทั้งสองฝ่ายต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น พร้อมทั้งยินดีจะร่วมมือกับฝ่ายไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของแม่สอด และเมียวดีให้เป็นประตูหลักในการพัฒนาการค้าชายแดนไทยเมียนมาต่อไป นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้ยื่นข้อเสนอยุทธศาสตร์ “แม่สอด-เมียวดี โมเดล” ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เมียนมาพิจารณาเพื่อร่วมดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งจะมีการหารือรายละเอียดในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้า (Joint Trade Commission : JTC) ไทย-เมียนมา ครั้งที่ ๗ ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ ๒. การเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ใช้ศักยภาพความพร้อมของหน่วยงานในสังกัดนำผู้ซื้อและตัวแทนห้างสรรพสินค้าจากกรุงย่างกุ้ง จังหวัดเมียวดี ผาอัน และเมาะลำไย เข้าร่วมงาน มีผู้เข้าร่วมจำหน่ายรวมทั้งสิ้น ๓๐๐ คูหา มีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ มีนักธุรกิจจากไทยเข้าร่วม ๑๑๒ ราย และจากเมียนมา ๗๐ ราย โดยบริษัท Jaroon-Sawai Engineering Limited Partnership กับ บริษัท Apex World International Co., Ltd สามารถตกลงร่วมทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ ๖๐ ล้านบาท (๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ) |
|||||||||||||||||||||||||||
25136 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ แทนตำแหน่งที่ว่างลง (นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ) | คค | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ แทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
25137 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (พลโท วิวรรธน์ สุชาติ และ พลอากาศเอก ยุทธนา สุกุมลจันทร์) | คค | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน ๒ คน แทนผู้ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. พลโท วิวรรธน์ สุชาติ ประธานกรรมการ ๒. พลอากาศเอก ยุทธนา สุกุมลจันทร์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
25138 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี (จำนวน 9 คน 1. นายประพันธ์ โลหะวิริยศิริ ฯลฯ) | คค | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีชุดใหม่ จำนวน ๙ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายประพันธ์ โลหะวิริยศิริ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ ๒. นายไพบูลย์ พลสุวรรณา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการขนส่งทางน้ำ ๓. เรือตรี วิโรจน์ จงชาณสิทโธ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกิจการท่าเรือ ๔. นายชเนศร์ เพ็ญชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกิจการการเดินเรือไทย ๕. นายวิรัตน์ ชนะสิทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกิจการอู่เรือ ๖. นายสมพร ไพสิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายพาณิชยนาวี ๗. นายกี่เดช อนันต์ศิริประภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประกันภัยทางทะเล ๘. นายสมศักดิ์ วิเศษเรืองโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าระหว่างประเทศ ๙. รองศาสตราจารย์เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||||||||
25139 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (จำนวน 5 คน 1. นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ฯลฯ) | ศธ | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา จำนวน ๕ คน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ๒. นายคณิศ แสงสุพรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหาร ๓. นายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๔. นายสุทธิพันธ์ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าระหว่างประเทศ ๕. นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าระหว่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||
25140 | ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. 2558 | ทส | 03/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งงาช้าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งงาช้าง ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาตการค้า และการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตให้ค้างาช้าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาตการค้า และการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตให้ค้างาช้าง ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยงาช้าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ค้างาช้าง ใบอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งงาช้าง และใบแทนใบอนุญาต
|
.....