ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1213 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 24241 - 24260 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24241 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ. .... | สธ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการที่ใช้ในการควบคุมและกำกับดูแลสถานที่จำหน่ายอาหารให้ดำเนินกิจการอย่างถูกสุขลักษณะ เพื่อช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ อันจะส่งผลถึงสุขภาพที่ดีของประชาชน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24242 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | ศธ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ขึ้นในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กระทรวงศึกษาธิการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24243 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JCBC) ไทย - เวียดนาม ครั้งที่ 2 | กต | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JCBC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เป็นประธานร่วม และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว โดยเฉพาะการเร่งรัดผลักดันประเด็นสำคัญต่าง ๆ ไปสู่การปฏิบัติและเกิดผลเป็นรูปธรรม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การดำเนินความสัมพันธ์ ได้แก่ การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเวียดนาม นายกรัฐมนตรีเวียดนาม รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Political Consultation Group ไทย-เวียดนาม ของเวียดนาม และการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อหารือการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ในปี ๒๕๕๙ ๑.๒ ด้านความมั่นคง ได้แก่ ความร่วมมือด้านกลาโหม การแก้ไขปัญหาการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย การลดโทษให้แก่นักโทษไทยในเวียดนาม การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ๑.๓ ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการค้า ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร และความร่วมมือด้านการลงทุน ๑.๔ ด้านความเชื่อมโยง ได้แก่ การจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาเปิดให้บริการรถโดยสารประจำทางระหว่างกัน การจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเหมาะสมของการเดินเรือตามแนวชายฝั่งทะเล และความร่วมมือระหว่างสายการบินไทยกับเวียดนาม และการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกัน ๑.๕ ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือระดับจังหวัด และการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการปรับแก้เนื้อหาในสรุปผลการประชุมฯ ด้านเศรษฐกิจ (หัวข้อย่อยความร่วมมือด้านการค้า) และตารางผลการประชุมฯ ประเด็นความร่วมมือด้านการค้า ให้สอดคล้องกับข้อความที่ปรากฏในบันทึกการประชุม (คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
24244 | แผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 ของกระทรวงคมนาคม | คค | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๕๘ ของกระทรวงคมนาคม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยกำหนดช่วงระยะเวลาดำเนินการระหว่างวันที่ ๙-๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ ประกอบด้วย ๑.๑ แผนอำนวยความสะดวก ได้แก่ ๑.๑.๑ การให้บริการการขนส่งสาธารณะ โดยเตรียมและเพิ่มจำนวนรถโดยสารประจำทาง/ไม่ประจำทาง เพิ่มจำนวนตู้โดยสารรถไฟและเที่ยววิ่ง เพิ่มเที่ยวบินเสริมพิเศษ ตลอดจนการให้บริการที่สถานี ท่าเรือ และท่าอากาศยาน เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางระหว่างวันที่ ๙-๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ ๑.๑.๒ การอำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายถนน โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ ตรวจสอบ/แก้ไข/ปรับปรุงถนน/สะพานให้สะดวกและปลอดภัย มีเครื่องหมาย/อุปกรณ์จราจรครบถ้วน หยุดดำเนินการก่อสร้าง/ซ่อมแซมถนนและสะพาน พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องหมายเตือน ป้ายแนะนำ และไฟสัญญาณเป็นระยะ ๆ ให้ชัดเจน ๑.๑.๓ จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ/สถานีขนส่ง/ท่าอากาศยานและอาคารผู้โดยสาร/สถานีรถไฟ/สถานีรถไฟฟ้า/ทางพิเศษ โดยจัดเตรียมพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวกและเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้มีความพร้อมรองรับปริมาณการใช้บริการของประชาชน จัดเตรียมความพร้อมของช่องเก็บเงินค่าผ่านทาง จัดทำข้อมูลปริมาณเที่ยวบินเพื่อประเมินสถานการณ์และแนวโน้มผลกระทบต่อการให้บริการจราจรทางอากาศ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกข้อมูลสภาพการจราจรทางอากาศและข่าวสารของเครื่องบิน ๑.๒ แผนอำนวยการด้านความปลอดภัย ได้แก่ ๑.๒.๑ การแก้ไขปัญหาทางกายภาพ โดยเพิ่มมาตรการตรวจสอบ ปรับปรุง เพิ่มเติมระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน เช่น สภาพทางกายภาพของโครงข่ายคมนาคม สัญญาณไฟจราจร เครื่องหมายจราจร จุดตัดทางรถไฟ จุดกลับรถ ทางข้าม ป้ายจราจร เครื่องหมายควบคุมการจราจร ไฟฟ้าแสงสว่างและไฟกระพริบ เป็นต้น ๑.๒.๒ การตรวจความพร้อมของยานพาหนะและอุปกรณ์ ในระบบขนส่งสาธารณะให้พร้อมใช้งานได้ทุกเวลา โดยจัดให้มีจุดบริการตรวจสภาพก่อนเดินทางและระหว่างเดินทาง ๑.๒.๓ การให้บริการตรวจรถก่อนใช้ เดินทางปลอดภัย โดยให้บริการตรวจรถก่อนใช้เดินทางปลอดภัย และตั้งจุดตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร ๑.๓ จัดตั้งศูนย์บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการ และจุดตรวจเพื่อประสานการปฏิบัติงานกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ๑.๔ การรายงานผลการปฏิบัติและการประเมินผล กำหนดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสถิติการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะและสถิติอุบัติเหตุให้ศูนย์ปลอดภัยคมนาคมเป็นประจำทุกวันตลอดช่วงระยะเวลาปฏิบัติงานตามแผนอำนวยความสะดวกฯ และช่วงหลังเทศกาลให้มีการประมวลสรุปผลการปฏิบัติงาน พร้อมข้อเสนอแนะเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในเรื่องความเร็วและการตรวจแอลกอฮอล์ การจัดให้มีจุดพักรถเป็นระยะ และการประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) หมายเลขโทรศัพท์ ๑๖๖๙ รวมทั้งเร่งเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและมาตรการต่าง ๆ ภายใต้แผนอำนวยการความปลอดภัยฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไปได้รับรู้และเข้าใจโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
24245 | ร่างกฎกระทรวงแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... | กก | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24246 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. .... | มท | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู เนื้อที่ประมาณ ๑๘ ไร่ ๘๑ ตารางวา เพื่อมอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยใช้เป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองบัวลำภู และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24247 | รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล | สม | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบผลการพิจารณาของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24248 | ร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 3 ฉบับ | ตช | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวชนิดใช้ได้หลายครั้ง ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจการยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเงื่อนไขการยกเว้นการตรวจลงตราโดยจำกัดจำนวนครั้งที่อนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบเอกสารตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและวิธีการขอหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก และการขอกลับเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามเดิม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๓) ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๓) ฉบับที่ ๒๑ (พ.ศ. ๒๕๔๐) ฉบับที่ ๒๓ (พ.ศ. ๒๕๔๒) และฉบับที่ ๒๘ (พ.ศ. ๒๕๔๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อรวบรวมแบบและวิธีการให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะหรือบุคคลที่จะเดินทางเข้ามา พำนักอยู่ และเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไว้ในกฎกระทรวงฉบับเดียวกัน พร้อมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมแบบและวิธีการดังกล่าวให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน |
||||||||||||||||||||||||
24249 | การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา - ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 | คค | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี โดยออกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นให้ผู้ใช้ถนนทางพิเศษสายดังกล่าวไม่ต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษตามอัตราที่ประกาศตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ถึงวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24250 | รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นางกเษณุกา ธิเรนี เสเนวิรัตนะ (Mrs. Kshenuka Dhireni Senewiratne)] | กต | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางกเษณุกา ธิเรนี เสเนวิรัตนะ (Mrs. Kshenuka Dhireni Senewiratne) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน พลเอก สุวันทะ แหมนะทิเค ศานตะ โกฏเฏโกฑะ [General (Retd.) Suwanda Hennadige Shantha Kottegoda] ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24251 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) (สำนักนายกรัฐมนตรี) (จำนวน 3 ราย 1. นายพัลลภ ศักดิ์โสภณกุล ฯลฯ) | นร | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงบประมาณ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นายพัลลภ ศักดิ์โสภณกุล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ ๒. นางวีรวรรณ ลือสุทธิวิบูลย์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) ตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ ๓. นายธนา จานุสรณ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) ตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
|
||||||||||||||||||||||||
24252 | ร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาได้รับเงินเดือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งวิชาการซึ่งได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของตำแหน่งที่ดำรงอยู่ มีสิทธิได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของเงินเดือนเดิมได้ โดยให้ไปอาศัยรับเงินเดือนในตำแหน่งถัดไปอีกตำแหน่งหนึ่ง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24253 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุทัยธานี พ.ศ. .... | มท | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุทัยธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องทึ่ตำบลดอนขวาง ตำบลอุทัยใหม่ ตำบลสะแกกรัง และตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24254 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ พ.ศ. .... | ทส | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกเพื่อทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย กรอบทิศทาง และแนวทาง รวมถึงการกำหนดท่าทีของราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมที่เห็นควรแก้ไขสาระในร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ได้แก่ คำว่า “สำนักงานฯ” เป็น “สำนักงาน” (ตัดเครื่องหมาย “ฯ” ออก) และ “แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม” แก้ไขเป็น “มรดกทางวัฒนธรรม” (ตัด “แหล่ง” ออก) รวมทั้งองค์ประกอบของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เห็นควรให้แต่งตั้ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม” เป็นรองประธานกรรมการเพิ่มเติม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
24255 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... | คค | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๘ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24256 | การนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและอนุมัติการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการประมง | กษ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและอนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการประมง โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีไทย-อินโดนีเซียให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างกรอบความร่วมมือด้านการประมงทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ ๑.๒ อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะมีการลงนาม หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๑.๓ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๔ มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำข้อตกลงอนุวัติการตามกรอบความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ที่จะจัดทำร่วมกันต่อไปนั้น ควรให้ภาคเอกชนในธุรกิจประมงและผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละสาขาได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟัง เพื่อเตรียมความพร้อมและให้ข้อคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงฯ ไปพิจารณาต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
24257 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามแผนการดำเนินกิจกรรม (Joint Action Programme) ด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับรัสเซีย ค.ศ. 2015 - 2017 | กก | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามแผนการดำเนินกิจกรรม (Joint Action Programme) ด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับรัสเซีย ค.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๑๗ โดยแผนการดำเนินกิจกรรมฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและรัสเซีย โดยแบ่งเป็น ๖ สาขา ได้แก่ (๑) การแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยว (๒) การส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับชาติ (๓) การศึกษาด้านการท่องเที่ยวและการฝึกอบรมในขอบเขตการท่องเที่ยว (๔) กฎหมายด้านการท่องเที่ยว (๕) การลงทุนด้านการท่องเที่ยว และ (๖) ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างแผนการดำเนินกิจกรรมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร) เป็นผู้ลงนามในแผนการดำเนินกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับรัสเซีย ค.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๑๗ (โดยระบุตำแหน่ง) ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีการระบุให้ประเทศต้นทางดำเนินการให้มีการทำประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลทั้งการเจ็บป่วยทั่วไปและกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินก่อนการเดินทางออกจากประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันการคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ และพิจารณาใช้ประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างไทยกับรัสเซียเพื่อสานต่อแผนการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว โดยการร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อวางกลยุทธ์ด้านการตลาด การจัดให้มีการส่งเสริมการตลาดเป็นกรณีพิเศษสำหรับชาวรัสเซียควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดจนกำหนดแนวทางในการติดตามประเมินผลเพื่อนำไปสู่ความเชื่อมโยงกับกรอบหรือประเด็นความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
24258 | ยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ปี 2558 - 2560 การเปิดเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย - ปากีสถาน และการเปิดเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย - ตุรกี | พณ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าระหว่างประเทศปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศของไทยให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจการค้าของไทย โดยมี ๕ ประเด็นยุทธศาสตร์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๑ เจรจากับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อแสวงหาวัตถุดิบ แรงงาน ทรัพยากร ย้ายฐานการลงทุน และขยายตลาดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อการเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาค รวมทั้งสร้างโอกาสให้รัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ๑.๒ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๒ เจรจาแสวงหาโอกาสในการขยายตลาดทางการค้าและการลงทุนกับประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงและมีศักยภาพ โดยเจรจาขยายประโยชน์จาก FTA ที่มี (เช่น RCEP อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-จีน เป็นต้น) เปิดเจรจาจัดทำ FTA ฉบับใหม่กับประเทศที่สามารถเป็นประตูการค้าเพื่อกระจายสินค้าไทย รวมทั้งเจรจาความร่วมมือทวิภาคี (เช่น รัสเซีย จีน แอฟริกาใต้ เป็นต้น) ๑.๓ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๓ เจรจากับประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทย เข้าสู่ตลาดภาคบริการ รับการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีสูง และดำเนินการเชิงรุกในประเด็นใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการค้า (เช่น สิ่งแวดล้อม แรงงานการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ เป็นต้น) ๑.๔ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๔ เจรจาระดับพหุภาคีภายใต้กรอบ WTO เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศที่เป็นธรรมและสมดุล รวมทั้งดำเนินการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าภายใต้กรอบ APEC ๑.๕ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๕ สร้างเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมทั้งภาคประชาสังคม เพื่อให้ได้ท่าทีที่เป็นประโยชน์สูงสุด และกระตุ้นหน่วยงานเตรียมมาตรการรองรับ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นการใช้สิทธิประโยชน์ และดำเนินการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ๒. รับทราบการเปิดเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ปากีสถาน และการเปิดเจรจาการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ตุรกี โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลังได้ดำเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ปากีสถาน และดำเนินโครงการศึกษาเรื่อง การจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ตุรกี รวมทั้งได้จัดสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำกรอบในการเจรจาแล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์หารือกับกระทรวงการต่างประเทศในการจัดทำกรอบในการเจรจาสำหรับความตกลงการค้าเสรีไทย-ตุรกี เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบทั้งผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้นในรายละเอียดจากการจัดทำความตกลงฯ ดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||
24259 | ขอยุติโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ ระยะที่ 3 พ.ศ. 2554 - 2556 ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง มาตรา 21 ทวิ | กษ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ยุติโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ ระยะที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๖ ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง มาตรา ๒๑ ทวิ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับแนวทางการลดต้นทุนการเพาะปลูกและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงพัฒนาคุณภาพผลผลิตยางและการแปรรูปเพิ่มมูลค่าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกยางทั่วประเทศ โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีมีพื้นที่สวนยางจำนวนมากอยู่ในเขตพื้นที่ป่า โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแก้ไขให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรีทุกเดือน ดังนี้ ๒.๑ ให้ลดพื้นที่ปลูกยางพาราในประเทศโดยเริ่มดำเนินการในพื้นที่ป่าที่ชาวสวนยางได้บุกรุกเข้าไปทำการเพาะปลูก หาแนวทางการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ร่วมกัน โดยไม่ให้กลุ่มนายทุนเข้าไปใช้พื้นที่ทำประโยชน์ การจัดการกับไม้ยางพาราทั้งที่ตัดได้และยังตัดไม่ได้ และการให้ความช่วยเหลือเยียวยาชาวสวนยางกลุ่มดังกล่าวอย่างเหมาะสม เช่น การจัดหาอาชีพอื่นทดแทน การจัดหาพื้นที่เพาะปลูกใหม่ เป็นต้น โดยดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน ๑ เดือน ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องปรับปรุงหรือแก้ไขกฎหมายใด ๆ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็ว ๒.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาหาแนวทางการปรับปรุงองค์การสวนยาง กลุ่มสหกรณ์ หรือชุมชนเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง และบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบชัดเจน และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรีทุกเดือน |
||||||||||||||||||||||||
24260 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายจิโรจ สินธวานนท์) | สธ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายจิโรจ สินธวานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรม) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
.....