ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1220 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 24381 - 24400 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24381 | ขออนุมัติหลักการเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการเงินของโครงการที่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ (PSO) และโครงการอุดหนุนมาตรการลดค่าครองชีพ | คค | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการจัดสรรเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ โดยให้ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะพิจารณาข้อเสนอเงินอุดหนุนบริการสาธารณะของทั้ง ๒ หน่วยงาน (การรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ) และเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อสำนักงบประมาณจะได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. เห็นชอบในหลักการการจัดสรรเงินอุดหนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพด้านการเดินทาง โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตั้งแต่การดำเนินมาตรการในระยะต่อไป ทั้งนี้ กรณีที่รัฐวิสาหกิจทั้ง ๒ แห่ง (การรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ) ขาดสภาพคล่องทางการเงินจากกรณีที่ยังไม่ได้รับจัดสรรเงินอุดหนุนตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี ให้รัฐวิสาหกิจขอกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องจากการดำเนินการ โดยรัฐบาลรับภาระในระหว่างที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงบประมาณหารือร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเพื่อขอกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องจากการดำเนินการ โดยรัฐบาลรับภาระในระหว่างที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนโดยไม่ขัดต่อหลักการตามมติคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะที่เห็นชอบให้ใช้เงินงบประมาณเป็นหลักในการดำเนินงานตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนและเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) รวมทั้งเพื่อไม่ให้รัฐวิสาหกิจประสบปัญหาทางการเงินจากการดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24382 | รายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ของการรถไฟแห่งประเทศไทยและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | กค | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบรายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ตามมติคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีผลขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ จำนวน ๒,๓๔๘.๗๙๔ ล้านบาท เห็นสมควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งวดที่ ๒ จำนวน ๘๘๔.๘๗๕๖ ล้านบาท ๑.๒ ผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ มีผลขาดทุนจากการให้บริการสาธารณะ จำนวน ๙๑๑.๗๖๙ ล้านบาท เห็นสมควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเบิกจ่ายเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งวดที่ ๒ จำนวน ๓๒๘.๗๑๐ ล้านบาท ๒. ให้คณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นควรพิจารณาแนวทางการประเมินผลที่เป็นมาตรการสร้างแรงจูงใจให้รัฐวิสาหกิจปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางการเงินต่อรัฐวิสาหกิจ และให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) และสำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาหาแนวทางในการดำเนินการเพื่อไม่ให้รัฐวิสาหกิจต้องแบกรับภาระจากการดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งจะมีผลต่อฐานะการเงินและคุณภาพการให้บริการ และเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการอุดหนุนการให้บริการสาธารณะที่ต้องการชดเชยภาระทางการเงินให้แก่รัฐวิสาหกิจที่ให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
24383 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปลักแรด จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปลักแรด จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบางระกำ และตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24384 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงศึกษาธิการ) (นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ) | ศธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||
24385 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองน่าน พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองน่าน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลผาสิงห์ ตำบลในเวียง ตำบลไชยสนาม ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน และตำบลฝายแก้ว ตำบลม่วงตึ๊ด ตำบลท่าน้าว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24386 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปิโตรเลียม (จำนวน 5 คน 1. นายวีระชัย ตันติกุล ฯลฯ) | พน | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปิโตรเลียม จำนวน ๕ คน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายวีระชัย ตันติกุล ๒. นายสัมพันธ์ สาระธนะ ๓. นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ๔. พลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ๕. นายบูรณวงศ์ เสาวพฤกษ์
|
||||||||||||||||||
24387 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลดอกคำใต้ ตำบลสว่างอารมณ์ ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบุญเกิด อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24388 | สรุปผลการเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างวันที่ 25 - 28 กุมภาพันธ์ 2558 | ยธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามโครงการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะเยือนหน่วยงานด้านพัฒนาพฤตินิสัยและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะได้เยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น ณ กระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น และเข้าศึกษาดูงาน ณ สำนักงานคุมประพฤติโตเกียว ศูนย์สนับสนุนอาสาสมัครคุมประพฤติ เขตเซตากายะ บ้านกึ่งวิถีโคชินไค สถาบัน UNAFEI และเรือนจำฟูชู โดยได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นที่สามารถตอบสนองในด้านการควบคุมป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม และการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดให้กลับสู่สังคม และอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข โดยไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการตระหนักถึงการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญด้วยการเน้นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนทั้งหลายแบบเสมอภาคและสะดวกรวดเร็ว ๒. กระทรวงยุติธรรมจะผลักดันนโยบายเชิงรุกในการปรับโครงสร้างงานด้านการพัฒนาพฤตินิสัยทั้งระบบ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของกรอบแนวคิดเชิงปรัชญาใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้มาตรการทางเลือกแทนการจำคุก การคุมประพฤติและฟื้นฟูผู้กระทำผิดเพื่อสามารถปรับตัวกลับคืนสู่สังคม และการลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งจะมีแนวทางในการดำเนินงาน ประกอบด้วย ๒.๑ ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องของกรมราชทัณฑ์ (เริ่มดำเนินการแล้ว) กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่เน้นรูปแบบการฟื้นฟูและการคุมประพฤติเพื่อติดตามให้ความช่วยเหลือผู้กระทำผิดภายหลังการพ้นโทษ ๒.๒ ผลักดันการบูรณาการเชิงรุกระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกระบวนการคุมประพฤติและฟื้นฟูผู้กระทำผิด ๒.๓ พัฒนากรอบการหารือระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับส่วนราชการฝ่ายตุลาการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการทบทวน “นโยบายกำหนดโทษ” สำหรับผู้กระทำผิด (โดยเฉพาะคดียาเสพติด) และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๒.๔ มอบหมายกรมราชทัณฑ์จัดทำหลักสูตรผู้บริหารด้านการฟื้นฟูผู้กระทำผิด (Executive Course on Rehabilitation) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในระดับบริหารให้มุ่งเน้นแนวคิดในการใช้มาตรการทางเลือกแทนการจำคุก การคุมประพฤติ และฟื้นฟูผู้กระทำผิด และการลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ ๒.๕ รณรงค์ผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักของสังคมในอันที่จะปรับทัศนคติและให้โอกาสกับผู้พ้นโทษ/ผู้กระทำผิดให้กลับเข้าสู่สังคมได้อย่างปกติสุข และสนับสนุนนโยบายคุมประพฤติ รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม และภาคเอกชนในบริบทนี้ บนหลักการ “ความรับผิดชอบต่อสังคม” (corporate social responsibility : CSR)
|
||||||||||||||||||
24389 | แผนการเข้าร่วมประชุมและการนำมิติทางวัฒนธรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของไทยในเวทีโลกของกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนการเข้าร่วมประชุมและการนำมิติทางวัฒนธรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของไทยในเวทีโลกของกระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกันยายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยมีแผนงาน โครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับพหุภาคีและระดับทวิภาคี ตามลำดับ ดังนี้
๑. วันที่ ๓-๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี UNWTO/UNESCO World Conference on Tourism and Culture : Building a New Partnership ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ๒. วันที่ ๑๔-๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ นำคณะทูตานุทูตและคู่สมรส ๒๗ ประเทศ ผู้บริหารองค์การระหว่างประเทศและสื่อมวลชน เยี่ยมชมแหล่งมรดกโลก จังหวัดอุดรธานี และเดินทางไปชมแหล่งวัฒนธรรมที่สำคัญในกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๓. วันที่ ๑๑-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๘ นำพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ นมัสการสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ณ สาธารณรัฐอินเดียและราชอาณาจักรเนปาล จำนวน ๒๗๐ รูป/คน ๔. วันที่ ๑๗-๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ จัดแสดงคอนเสิร์ตเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงสุนทราภรณ์ ณ ราชอาณาจักรเบลเยียม สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสมาพันธรัฐสวิส เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ๕. วันที่ ๒-๙ เมษายน ๒๕๕๘ จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ๖. วันที่ ๕-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นำผลงานของศิลปินไทยเข้าร่วมจัดแสดงในมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ เวนิสเบียนนาเล่ ครั้งที่ ๕๖ ณ เมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี ๗. วันที่ ๑๖-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ส่งภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ ๖๘ ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส และรับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี โดยเทศกาลภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นการบูรณาการระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๘. วันที่ ๑๘-๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เข้าร่วมประชุม World Forum on Intercultural Dialogue ครั้งที่ ๓ หัวข้อ “Culture and Sustainable Development in the Post-Development Agenda 2015” ณ เมืองบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ๙. จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๖๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร และเนื่องในโอกาสครบ ๑๓๐ ปี การเดินทางของศิลปินไทยไปถวายการบรรเลงดนตรีหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย ๑๐. เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ จัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ๑๑. วันที่ ๑๐-๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เข้าร่วมประชุมหัวข้อ “นโยบายวัฒนธรรม บทบาทของวัฒนธรรมในการพัฒนาอย่างยั่งยืน” (Cultural Policy, Policy for Culture : the Role of Culture in Sustainable Development) ภายใต้กรอบการฉลองครบรอบ ๗๐ ปี องค์การยูเนสโก ณ เมืองเยเรวาน สาธารณรัฐอาร์เมเนีย ๑๒. เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ จัดการแสดงเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย ภายใต้โครงการนำความเป็นไทยสู่สากล (Thainess to the World) ณ สาธารณรัฐเปรู และสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เพื่อฉลองครบรอบ ๕๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทยกับเปรู และลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านพิพิธภัณฑ์ของกระทรวงวัฒนธรรมไทย-เปรู ๑๓. เดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ ส่งคณะนักแสดงร่วมงาน EXPO Milano 2015 ณ เมืองมิลาโน สาธารณรัฐอิตาลี ๑๔. เดือนกันยายน ๒๕๕๘ เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมอาเซียน-เกาหลี เนื่องในโอกาสเปิดศูนย์วัฒนธรรมเอเชีย ณ เมืองกวางจู สาธารณรัฐเกาหลี
|
||||||||||||||||||
24390 | แผนการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร01 | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อใช้เป็นแผนปฏิบัติการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ตรวจราชการ ทั้ง ๑๗ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาสาระประกอบด้วย บทนำ ทิศทางการขับเคลื่อนการตรวจราชการแบบบูรณาการ ยุทธศาสตร์การตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ กรอบแนวทางการติดตามประเมินผลตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และแผนปฏิบัติการ (Action plan) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ การตรวจราชการเพื่อขับเคลื่อนประเด็นนโยบายสำคัญในการดำเนินการตามกรอบประชาคมอาเซียน ด้านการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและบริการ ควรเพิ่มเติมประเด็นการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาเซียนหรือสากล รวมทั้งเพิ่มหน่วยงานรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องด้วย ๒.๒ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการขยะมูลฝอย ในการคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายสำหรับการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ตรวจราชการกระทรวงร่วมกัน ในพื้นที่อย่างน้อยเขตตรวจราชการละ ๑ จังหวัด เพื่อนำมาประกอบการกำกับ เร่งรัดการพิจารณาตรวจติดตาม สอบทานการดำเนินการแก้ไขปัญหาตาม Roadmap นั้น ควรมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการคัดเลือกพื้นที่ เพื่อให้การลงพื้นที่ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ และความก้าวหน้าในการดำเนินการงานตาม Roadmap รวมทั้งควรเพิ่มประเด็นการประเมินถึงศักยภาพและความพร้อมของท้องถิ่นในการดำเนินงานตาม Roadmap ว่ามีความพร้อมในระดับใด ๒.๓ การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม ควรพิจารณากำหนดการตรวจติดตามศูนย์ดำรงธรรมที่มีผลการดำเนินงานดีเด่น และศูนย์ดำรงธรรมที่มีปัญหาในการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบปัจจัยความสำเร็จในการดำเนินงานให้เป็นบทเรียนกรณีศึกษาสำหรับศูนย์ดำรงธรรมที่ควรปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และควรพิจารณาตรวจติดตามศูนย์ดำรงธรรมที่มีการบูรณาการการดำเนินงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เพื่อเป็นตัวอย่างความสำเร็จการดำเนินงานร่วมกันระหว่างศูนย์ดำรงธรรมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพื่อลดการกระจุกตัวของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและสามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการการแก้ไขปัญหาของประชาชนได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรมควรมีระยะเวลาดำเนินงานมาตรฐานในการบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ โดยอาจแตกต่างกันตามลักษณะ/กลุ่มของปัญหา เพื่อเป็นการสร้างความความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ ควรมีการติดตามประเมินความพร้อมของหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการให้บริการว่ามีความพร้อมในการแก้ไขปัญหามากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นข้อเสนอในการปรับปรุงการให้บริการ |
||||||||||||||||||
24391 | ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับค่าครองชีพ (กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558) | ทก | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับค่าครองชีพในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ โดยทำการสำรวจประชาชนที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน ๕,๘๐๐ ราย ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. รายได้และค่าใช้จ่ายของครัวเรือน ครัวเรือนร้อยละ ๕๒.๐ มีรายได้พอดีกับค่าใช้จ่าย ร้อยละ ๓๕.๗ มีรายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่าย และร้อยละ ๑๒.๓ มีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสัดส่วนครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่ายสูงกว่าภาคอื่น (ร้อยละ ๔๑.๓) ๒. ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคโดยภาพรวม ประชาชนร้อยละ ๕๙.๘ เห็นว่าสินค้ามีราคาเท่าเดิม ร้อยละ ๓๒.๖ เห็นว่าสินค้ามีราคาแพงขึ้น และร้อยละ ๗.๖ เห็นว่าสินค้ามีราคาถูกลง โดยประชาชนเห็นว่าสินค้าที่มีราคาแพงขึ้น ๓ ลำดับแรก คือ ผลไม้ร้อยละ ๔๑.๙ อาหารทะเลร้อยละ ๓๙.๘ และอาหารตามสั่งร้อยละ ๓๘.๔ ตามลำดับ ๓. สินค้าที่ประชาชนต้องการให้ภาครัฐควรเข้ามาดูแลและควบคุมราคาอย่างเร่งด่วน ๕ ลำดับแรก คือ เนื้อหมูร้อยละ ๔๓.๖ ข้าวสารร้อยละ ๔๓.๑ น้ำมันที่ได้จากพืช เช่นน้ำมันปาล์ม ถั่วเหลือง ฯลฯ ร้อยละ ๒๒.๐ อาหารตามสั่งร้อยละ ๒๐.๖ และปุ๋ยเคมีร้อยละ ๑๙.๖ โดยประชาชนเกือบทุกภาคต้องการให้ภาครัฐเข้ามาดูแลควบคุมราคาข้าวสารมากกว่าสินค้าประเภทอื่น ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องการให้ดูแลควบคุมราคาเนื้อหมูมากกว่าสินค้าประเภทอื่น ๔. ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ที่น้ำมันมีราคาลดลง ประชาชนมากกว่าครึ่งเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายในการเดินทางในชีวิตประจำวันเท่าเดิมไม่แตกต่างจากช่วงที่น้ำมันมีราคาแพง สำหรับการให้บริการรถโดยสารประจำทาง ไม่ปรับอากาศฟรี ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยใช้บริการดังกล่าวร้อยละ ๘๙.๑ มีเพียงร้อยละ ๑๐.๙ ที่ใช้บริการและสามารถลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ๒๐๔ บาทต่อเดือน และมีความพึงพอใจต่อการให้บริการดังกล่าวมากถึงมากที่สุดร้อยละ ๕๘.๒ ส่วนการให้บริการรถไฟชั้น ๓ ไม่ปรับอากาศฟรี ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยใช้บริการดังกล่าวเลยร้อยละ ๙๔.๔ มีเพียงร้อยละ ๕.๖ ที่ใช้บริการและสามารถลดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย ๒๕๑ บาทต่อเดือน และมีความพึงพอใจต่อการให้บริการดังกล่าวมากถึงมากที่สุดร้อยละ ๕๙.๙ ๕. ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ ได้แก่ รัฐบาลควรเข้ามาดูแล ควบคุมราคาสินค้าอย่างจริงจัง หน่วยงานภาครัฐควรจัดมหกรรมสินค้าราคาถูก การใช้กฎหมายลงโทษกับพ่อค้า/แม่ค้าที่ขายสินค้าเกินราคา การควบคุมราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับทางการเกษตรให้ถูกลง การสนับสนุนให้บริโภคสินค้าเกษตรของไทย และการปรับเงินเดือนให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน
|
||||||||||||||||||
24392 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำมันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม ลำไยแห้ง พริกไทย และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | พณ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำมันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม ลำไยแห้ง พริกไทย และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อขยายระยะเวลาการนำเข้าสินค้ามันฝรั่งภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) จากเดิมกำหนดระยะเวลาการนำเข้าช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม เป็น ให้นำเข้าช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม ตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการติดตามการนำเข้ามันฝรั่งจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลเกษตรกรที่ปลูกมันฝรั่งในประเทศไม่ให้ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาตกต่ำ รวมทั้งเร่งวิจัยและพัฒนาหัวพันธุ์มันฝรั่ง เพื่อให้สามารถผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งในประเทศได้ปริมาณเพิ่มขึ้น และส่งเสริมการปลูกมันฝรั่งในพื้นที่เหมาะสมในประเทศ เพื่อทดแทนการนำเข้าและเป็นทางเลือกของเกษตรกรในการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24393 | ขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเบิกจ่ายค่าปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านพักข้าราชการ อาคารที่ทำการ และสิ่งก่อสร้างประกอบของกรมราชทัณฑ์และกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน | ยธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กรมบัญชีกางอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ แล้ว จำนวน ๑๒๖,๒๐๗,๘๗๒ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ กรมราชทัณฑ์ จำนวน ๘๘,๓๓๕,๒๗๒ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมผู้ต้องขังในเรือนจำและสิ่งเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติงาน ๑.๒ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน ๓๗,๘๗๒,๖๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการปรับปรุงอาคารที่ทำการและสิ่งก่อสร้างประกอบ ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยตรงต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการด้วยความโปร่งใส ถูกต้อง และพร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24394 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | ปง | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และเพื่อให้การปฏิบัติงานของคณะกรรมการและเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นไปโดยอิสระ ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... |
||||||||||||||||||
24395 | ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนราชการที่ขึ้นต่อกองทัพภาคและเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบก พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอำนาจศาลมณฑลทหาร พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | กห | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหน้าที่ของกรมกำลังทหารบกเกี่ยวกับงานด้านการศึกษาของกองทัพบกในส่วนที่นอกเหนือจากงานการศึกษาด้านสายงานยุทธการ และให้โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา อบรม และฝึกบุคลากรอื่นนอกเหนือจากนักเรียนนายร้อย กำหนดชื่อตำแหน่งเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก การจัดตั้งมณฑลทหารบกขึ้นใหม่ ยกเลิกจังหวัดทหารบกและศาลจังหวัดทหารบก ตลอดจนกำหนดเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบกใหม่ รวมทั้งกำหนดเขตอำนาจศาลมณฑลทหารบกใหม่ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนราชการที่ขึ้นต่อกองทัพภาคและเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบก พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอำนาจศาลมณฑลทหาร พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนราชการที่ขึ้นต่อกองทัพภาคและเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบก พ.ศ. .... เนื่องจากกองทัพภาคจะมีหน่วยทหารในการปกครองบังคับบัญชาเพิ่มขึ้น จึงควรพิจารณาทบทวนเตรียมความพร้อมของกองทัพภาคให้รองรับภารกิจ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านการส่งกำลังบำรุง นอกจากนี้ การเพิ่มอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสังกัดกองทัพบก การปรับปรุงเขตอำนาจศาลมณฑลทหาร ตลอดจนการเพิ่มจำนวนส่วนราชการที่ขึ้นต่อกองทัพภาคและเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบก ควรพิจารณาปรับปรุงรูปแบบการบริหารจัดการและการบังคับบัญชา เพื่อให้สามารถดำเนินภารกิจของกองทัพบกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการใช้กำลังคนที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านบุคคลในระยะยาวเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคคลให้เหมาะสมกับความจำเป็นตามภารกิจของภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24396 | ร่างพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. .... | กค | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการให้อำนาจกระทรวงการคลังรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน เพื่อให้การบริหารทุนหมุนเวียนมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง เสริมสร้างความโปร่งใส และธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของรัฐ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำกับและบริหารทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพและบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
24397 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางพิเศษสายบางพลี - สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ และอำเภอ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... | คค | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. มอบให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขบัญชีรายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินที่ต้องเวนคืนท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการอันเป็นสาธารณูปโภค เพื่อก่อสร้างหรือขยายถนน หรือเพื่อประโยชน์แก่ชลประทานในการเก็บกักน้ำ นั้น อาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมแก่เจ้าของที่ดินในการใช้ประโยชน์จากที่ดินในส่วนที่ไม่ถูกเวนคืน เช่น การเวนคืนจนทำให้ที่ดินส่วนที่ไม่ถูกเวนคืนเป็นที่ดินตาบอด ซึ่งจะทำให้เจ้าของที่ดินไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นได้อย่างเต็มที่ หรือเวนคืนที่ดินจนเหลือที่ดินเพียงเล็กน้อยซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ ดังนั้น กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและจำเป็นในการเวนคืนที่ดิน รวมทั้งให้คำนึงถึงความเป็นธรรมในการชดเชยและเยียวยาแก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนด้วย และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็นในการเวนคืนที่ดิน รวมถึงให้คำนึงถึงความเป็นธรรมในการชดเชยและเยียวยาแก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนด้วย |
||||||||||||||||||
24398 | ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... | พณ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. ๒๕๔๒ และพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ยุบเลิกสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย เพื่อให้การซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตรไปดำเนินการภายใต้กฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยยังคงรักษาวัตถุประสงค์ตามกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าต่อเนื่องไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
24399 | ร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการให้เอกชนเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรที่จะจดทะเบียนกรรมสิทธิ์แทนพนักงานเจ้าหน้าที่ และยกเลิกการแจ้งย้ายเครื่องจักรภายในบริเวณสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรม เพื่อลดภาระของเจ้าของเครื่องจักร และปรับปรุงบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดทำหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และแนวทางการตรวจสอบเครื่องจักรที่มีมาตรฐานตามหลักสากล การประชาสัมพันธ์แนวทางและขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนในวงกว้างอย่างทั่วถึง การดำเนินการทดสอบสมรรถนะของผู้ได้รับใบอนุญาตตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนเป็นระยะ รวมทั้งการติดตามประเมินผลประสิทธิภาพของการให้บริการการตรวจสอบเครื่องจักรโดยผู้ตรวจสอบเอกชน สำหรับการให้อำนาจรัฐมนตรีออกกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียม ควรเป็นการยกเว้นเฉพาะกรณีการเกิดเหตุสุดวิสัย หรือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้จากการลดภาระค่าธรรมเนียมเท่านั้น โดยการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องระบุหลักเกณฑ์ คุณสมบัติของผู้ขอรับการยกเว้นค่าธรรมเนียม และระยะเวลาสิ้นสุดของการยกเว้นค่าธรรมเนียมที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24400 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... | ศธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ไปเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของมหาวิทยาลัย ควรเพิ่มหลักการในวรรคสามของร่างมาตรา ๑๔ (๓) โดยกำหนดกรอบวงเงินกู้ที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ชัดเจน และหากเกินกรอบวงเงินกู้ดังกล่าว ให้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ส่วนการบัญชีและการตรวจสอบ ในประเด็นการจัดทำบัญชีและรายงานในร่างมาตรา ๔๙ ควรกำหนดให้เป็นไปตามมาตรฐานและนโยบายบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และในร่างมาตรา ๕๐ การจัดทำงบการเงินส่งผู้สอบบัญชีของมหาวิทยาลัย ควรปรับระยะเวลาจากภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี เป็นภายในหกสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติฯ ควรปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับหลักการกลางในการร่างพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จะออกนอกระบบ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๖ (เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จะออกนอกระบบ) รวมทั้งการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัยตามร่างในมาตรา ๒๑ ควรให้ครอบคลุมอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัยตามร่างในมาตรา ๑๔ (๘) เกี่ยวกับการอนุมัติการจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคล รวมถึงการลงทุนหรือร่วมลงทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคล ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปกำกับดูแลมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐให้มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อมิให้เป็นภาระกับรัฐบาลในการให้การอุดหนุนด้านงบประมาณเพิ่มเติม ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดให้มีระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีสั่งจ่ายเงินรายได้ และระบบการตรวจสอบ ติดตามผล เพื่อให้การจัดเก็บรักษาและการใช้จ่ายเงินรายได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐทุกแห่ง และควรให้ความสำคัญในการพัฒนาและวางระบบการบริหารการเงินการคลังที่เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อการวางแผนการพัฒนาการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ตลอดจนการศึกษาและติดตามประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อหาจุดที่คุ้มทุนของการจัดการศึกษาในแต่ละสาขาวิชา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....