ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 860 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 17181 - 17200 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17181 | (ร่าง) ปฏิญญาร่วม CLMVT ด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านแรงงาน CLMVT ครั้งที่ 2 | รง | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบ (ร่าง) ปฏิญญาร่วม CLMVT ด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านแรงงาน CLMVT ครั้งที่ ๒ มีสาระสำคัญครอบคลุมในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ (๑) เพิ่มพูนความร่วมมือเพื่อการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย รวมถึงระบบการจัดการการเคลื่อนย้ายแรงงาน (๒) ส่งเสริมการข้ามแดนและการจ้างงานโดยถูกกฎหมายผ่านข้อตกลงทวิภาคี (๓) แก้ไขสาเหตุของปัญหาของการเคลื่อนย้ายแรงงานแบบไม่ปกติและแรงงานไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นระบบ (๔) สร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไป คนหางาน คนงาน นายจ้าง หน่วยงานจัดส่งแรงงานเอกชน รวมถึงหน่วยงานผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องในประเด็นการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย (๕) พัฒนาหลักสูตรสำหรับการอบรมก่อนการเดินทาง เพื่อให้ความรู้และเตรียมความรู้พื้นฐาน และ (๖) ส่งเสริมให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบและส่งเสริมให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัยจากประเทศต้นทางมายังประเทศปลายทาง ซึ่งการประชุมระดับรัฐมนตรี CLMVT ครั้งที่ ๒ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑-๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้ให้การรับรองปฏิญญาร่วมฯ ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไข (ร่าง) ปฏิญญาร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17182 | (ร่าง) แผนแม่บทการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก พ.ศ. 2560 - 2565 | พม | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๕ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามวัตถุประสงค์แห่งมติคณะรัฐมนตรี ฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ให้สมบูรณ์ พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชาวเขาราษฎรเดิม และส่งเสริมการสร้างรายได้เสริมจากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประกอบด้วยแผนเฉพาะด้าน ๖ แผน ได้แก่ (๑) แผนการบริหารและจัดการพื้นที่ภูทับเบิก (๒) แผนการบริหารจัดการพื้นที่ผ่อนปรน (๓) แผนการจัดการพื้นที่อยู่อาศัย (๔) แผนการจัดการพื้นที่ทำกิน (๕) แผนการจัดการพื้นที่ป่าไม้ และ (๖) แผนการจัดการพื้นที่ส่วนกลาง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเติมหลักการสำคัญให้ชัดเจน โดยใช้หลักการและแนวทางของโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยกำหนดให้กรรมสิทธิ์ในพื้นที่เป็นของรัฐ โดยรัฐอนุญาตให้หน่วยงานเจ้าภาพนำไปจัดสรรให้ราษฎรกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ดั้งเดิม ครอบครัวและทายาท ได้สิทธิในการใช้ประโยชน์ทำกินเท่านั้น โดยอาจเป็นอาชีพในภาคเกษตรหรือภาคท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมชนเผ่า ศักยภาพของพื้นที่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ห้ามมิให้ซื้อ-ขาย ถ่ายโอนสิทธิการใช้ประโยชน์แก่ผู้อื่น หากมีการละเมิด จะทำให้สูญเสียสิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว และพิจารณามอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือจังหวัด เป็นหน่วยงานเจ้าภาพในการดำเนินการขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างถูกต้องตามขั้นตอนจากกรมป่าไม้ โดยให้ขออนุญาตเฉพาะพื้นที่จำเป็น ได้แก่ พื้นที่ทำกิน พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ผ่อนปรน (เฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นราษฎรกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่) และพื้นที่สาธารณประโยชน์เท่าที่จำเป็น ซึ่งจะต้องมีแปลงขอบเขตที่ดินแต่ละประเภทที่ชัดเจน และมีข้อมูลผู้ใช้ประโยชน์ที่ผ่านการคัดกรองแล้วอย่างครบถ้วนและชัดเจน สำหรับพื้นที่อื่น ๆ อาทิ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ป่าชุมชน เห็นควรส่งคืนพื้นที่ให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องโดยตรงดูแลพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ กรณีนี้จะต้องไม่ใช่บรรทัดฐานในการบริหารจัดการการบุกรุกพื้นที่รัฐในพื้นที่อื่น เนื่องจากมีความเป็นมาที่แตกต่างเป็นการเฉพาะ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณมาดำเนินการในโอกาสแรกก่อน สำหรับในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับกรอบระยะเวลา (ร่าง) แผนแม่บทดังกล่าวที่เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17183 | ขออนุมัติดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) | คค | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินงานก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) กรอบวงเงินรวม ๑๐๑,๑๑๒ ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้ รฟม. ดำเนินการประกวดราคางานก่อสร้างงานโยธาได้ แต่จะลงนามสัญญาจ้างผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาได้ต่อเมื่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้เห็นชอบรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (รายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการฯ) แล้ว และให้กำหนดเป็นเงื่อนไขในสัญญาที่ผู้รับเหมาต้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติอย่างเคร่งครัด โดยหากความเห็น ข้อเสนอแนะ หรือมาตรการที่เสนอโดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีผลทำให้ค่าก่อสร้างโครงการสูงเกินกว่าที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบให้ขยายกรอบวงเงินโครงการเพื่อดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินโครงการฯ ในช่วงที่ผ่านพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ ให้ รฟม. ดำเนินการตามมติคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่าอย่างเคร่งครัด ๒. สำหรับแนวทางการรับภาระการลงทุนในส่วนของงานก่อสร้างโครงการให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ โดยเห็นชอบให้ รฟม. กู้เงินตามพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๗๕ (๓) ๓. ให้กระทรวงคมนาคมกำกับการประกวดราคาให้เป็นไปอย่างโปร่งใส เพื่อให้ผลการประกวดราคาสามารถได้ราคาและงานแต่ละรายการที่ดีที่สุด อันนำไปสู่การใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งให้กำกับการกำหนดเงื่อนไข หลักเกณฑ์ ประเภทงานก่อสร้าง สูตรและวิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ของการประกวดราคาให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณอย่างเคร่งครัด ๔. ให้ รฟม. เร่งเจรจาตกลงกับเอกชนผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน เพื่อให้ได้ข้อสรุปในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ศูนย์ซ่อมบำรุงร่วมกันของโครงการทั้ง ๒ ช่วง และระบุรายละเอียดดังกล่าวในรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อประกอบการพิจารณารายงานของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐต่อไป พร้อมทั้งให้เร่งรัดการนำเสนอรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้ รฟม. สามารถดำเนินการสรรหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในส่วนงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถได้ในช่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับแผนงานก่อสร้างงานโยธา ทั้งนี้ ในการเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ ในระยะต่อไป เห็นควรให้ รฟม. เสนอขออนุมัติรูปแบบการลงทุนระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้าในคราวเดียวกันกับการก่อสร้างงานโยธา เพื่อให้ภาครัฐสามารถพิจารณาถึงผลประโยชน์และผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินโครงการในภาพรวมได้อย่างรอบคอบ ตามความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๕. ให้กระทรวงคมนาคม รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางและรูปแบบการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งสาธารณะ (Transit Oriented Development : TOD) ให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน สอดรับกับแผนงานก่อสร้างงานโยธา และเสนอแนวทางการใช้ประโยชน์ดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๖. ให้ รฟม. ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนเตรียมมาตรการรองรับปัญหาหรืออุปสรรคจากการจัดสรรที่ดินในกรณีที่ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ รวมทั้งให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนที่ดินต่อไป ๗. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางรองรับปัญหาการจราจรติดขัดที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าตามแผนในอนาคต ตลอดจนกำหนดมาตรการกวดขันวินัยการจราจรตามแนวเส้นทางการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเพื่อบรรเทาปัญหาจราจรติดขัดในภาพรวม ๘. ให้กระทรวงคมนาคม และ รฟม. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาทบทวนรูปแบบการเข้าร่วมลงทุนในงานระบบรถไฟฟ้าและบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าของโครงการฯ ให้สอดคล้องกับนโยบายระบบตั๋วโดยสารร่วมของรัฐบาล และพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม เช่น (๑) การศึกษาและทบทวนความเหมาะสมงานระบบไฟฟ้า รถไฟฟ้า และการให้บริการและบำรุงรักษา เพื่อให้สอดคล้องกับประมาณการปริมาณผู้โดยสารตามที่ รฟม. ได้ปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันแล้ว (๒) การให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม (๓) การพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุง สถานี และอาคารจอดแล้วจร (๔) เสนอขออนุมัติรูปแบบการลงทุนระบบไฟฟ้าและรถไฟฟ้าในคราวเดียวกันกับการก่อสร้างงานโยธา สำหรับการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ ในระยะต่อไป และ (๕) พิจารณาดำเนินมาตรการที่ส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๙. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาแนวทางและรูปแบบการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐในภาพรวมที่สามารถลดภาระงบประมาณภาครัฐ ลดผลกระทบต่อระดับหนี้สาธารณะ และสามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จได้โดยเร็ว เช่น การสนับสนุนให้นักลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศเข้ามาร่วมลงทุนหรือเป็นผู้ลงทุนดำเนินโครงการแทนภาครัฐ เป็นต้น แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17184 | ขออนุมัติขยายกรอบวงเงินลงทุนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารเรียน ศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน อาคารฝ่ายอำนวยการและสิ่งก่อสร้างประกอบ พร้อมครุภัณฑ์ ของสถาบันการบินพลเรือน | คค | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติขยายกรอบวงเงินลงทุนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารเรียนศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน อาคารฝ่ายอำนวยการและสิ่งก่อสร้างประกอบ พร้อมครุภัณฑ์ ของสถาบันการบินพลเรือน วงเงิน ๑,๔๐๒.๗๙ ล้านบาท (จากเดิมที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ จำนวน ๑,๒๕๕.๔๘ ล้านบาท) ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบความเหมาะสมของราคาโครงการก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าวแล้ว ๑.๒ อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเป็นการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๔๘.๓๗ ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว และเบิกจ่ายจากเงินรายได้จากสถาบันการบินพลเรือนสมทบ จำนวน ๑๖๒.๐๕ ล้านบาท และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๒๑๘.๔๐ ล้านบาท ส่วนที่เหลือขอผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ จำนวน ๖๙๐.๔๖ ล้านบาท และใช้เงินรายได้ของสถาบันการบินพลเรือนสมทบ จำนวน ๒๘๓.๕๑ ล้านบาท ๑.๓ อนุมัติยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ กรณีได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีแรกเป็นจำนวนเงินต่ำกว่าร้อยละ ๒๐ และสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เป็นกรณีเฉพาะราย ๑.๔ ให้สถาบันการบินพลเรือนดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และต่อรองราคาจนถึงที่สุด ๒. ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการ ๒.๑ กำกับให้สถาบันการบินพลเรือนเร่งดำเนินการประกวดราคาโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างและเบิกจ่ายงบประมาณต่อไปได้ตามแผนที่กำหนด รวมทั้งให้สถาบันการบินพลเรือนควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะเงินสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด ให้เป็นไปอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ๒.๒ กำกับให้สถาบันการบินพลเรือนจัดทำแผนการเพิ่มรายได้ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แล้วนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาภายใน ๓ เดือน และให้ใช้แผนการเพิ่มรายได้ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของตัวชี้วัดในการประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันการบินพลเรือนด้วย ๒.๓ กำกับให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐในสังกัดถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) อย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17185 | ขอรับการจัดสรรเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เพื่อบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการธุรการของสำนักงานอัยการสูงสุด) | อส | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการธุรการอัตราใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการธุรการอัตราใหม่ที่เหมาะสมและมีความพร้อมตามที่ได้ประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งไว้แล้ว จำนวน ๗๐๕ อัตรา ในวงเงิน ๑๙,๔๓๕,๐๐๐ บาท แต่โดยที่ค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รองรับไว้ และไม่สามารถปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณมาดำเนินการได้ จึงเห็นสมควรให้สำนักงานอัยการสูงสุดใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ดังนี้ ๑.๑ ตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ จากที่ประกาศขึ้นบัญชีไว้ จำนวน ๒๕๔ อัตรา ซึ่งบรรจุและแต่งตั้งแล้ว จำนวน ๔๙ อัตรา เห็นควรดำเนินการในอัตราที่ยังมิได้บรรจุและแต่งตั้ง จำนวน ๒๐๕ อัตรา อัตราเงินเดือนคนละ ๑๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน จำนวน ๒ เดือน (สิงหาคม-กันยายน ๒๕๖๐) วงเงิน ๖,๑๕๐,๐๐๐ บาท สำหรับอัตราที่ยังคงขาดอยู่อีก ๙๕ อัตรา นั้น ให้ดำเนินการบรรจุและแต่งตั้งปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป โดยให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ๑.๒ ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน เห็นควรดำเนินการบรรจุและแต่งตั้ง จำนวน ๕๐๐ อัตรา อัตราเงินเดือนคนละ ๑๑,๕๐๐ บาทต่อเดือน และอัตราเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวคนละ ๑,๗๘๕ บาทต่อเดือน จำนวน ๒ เดือน (สิงหาคม-กันยายน ๒๕๖๐) วงเงิน ๑๓,๒๘๕,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ เนื่องจากการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการธุรการอัตราใหม่ จำนวน ๗๐๕ อัตราดังกล่าวจะก่อให้เกิดภาระงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และในปีงบประมาณต่อไป สำนักงานอัยการสูงสุดจำเป็นต้องปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มีผลใช้บังคับ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและปรับลดค่าใช้จ่ายในรายการค่าจ้างเหมาบริการตามอัตราและตำแหน่งที่ได้บรรจุและแต่งตั้งไปแล้วลงด้วย ซึ่งปัจจุบันค่าจ้างเหมาบริการตำแหน่งนิติกร มีจำนวน ๑,๐๐๕ อัตรา และตำแหน่งบริหารทั่วไป มีจำนวน ๕๒๐ อัตรา ๒. ให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มอัตรากำลังเฉพาะในภารกิจใหม่ ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนและมีภาระงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเท่านั้น สำหรับอัตราข้าราชการธุรการ โดยเฉพาะตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ควรพิจารณาใช้การจ้างงานรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชการประจำให้มากที่สุด และควรพิจารณาการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ ทั้งนี้ การบรรจุข้าราชการธุรการควรพิจารณาเฉพาะตำแหน่งที่ต้องอาศัยความรู้และทักษะเฉพาะทางหรือตำแหน่งที่ต้องสั่งสมประสบการณ์เท่านั้น เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณและลดภาระผูกพันงบประมาณในระยะยาว ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17186 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เพิ่มเติม (ค่าใช้จ่ายตามแผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ กองทัพเรือ) | กห | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๗๖๐.๗๗๓๒ ล้านบาท ให้กองทัพเรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ-กองทัพเรือ รองรับโครงการสำคัญภายใต้แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17187 | การขอสนับสนุนงบกลางเพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ปี 2560 | กษ | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ปี ๒๕๖๐ และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยรายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่ายโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ปี ๒๕๖๐ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ให้ดำเนินโครงการฯ และใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน ๑,๘๕๑,๐๒๑,๕๐๐ บาท ประกอบด้วย (๑) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงินรวม ๑๖๔,๔๒๖,๙๐๐ บาท (๒) กระทรวงกลาโหม วงเงินรวม ๑,๕๕๑,๕๙๔,๖๐๐ บาท และ (๓) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา วงเงินรวม ๑๓๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยแต่ละหน่วยงานจะต้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ จะต้องจัดทำแผนการนำยางพาราไปใช้ในการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพภายในกรอบระยะเวลาโครงการฯ ที่กำหนดโดยเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นว่า ในระยะต่อไป หน่วยงานราชการจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการจัดทำแผนและแนวทางการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐเพื่อส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ยางพาราภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับมาตรการในระยะต่อไป ควรแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยควรกำหนดแนวทางการลดพื้นที่ปลูกยางพาราในพื้นที่บุกรุกกว่า ๓ ล้านไร่ การส่งเสริมการปลูกพืชอื่นทดแทนยางพารา รวมทั้งเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17188 | ขออนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา 2560 - 2561 จากคณะรัฐมนตรี | กห | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๖๐ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐-๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17189 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล) | นร | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17190 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) (นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย) | ดศ | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17191 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นักบริหารสูง) ทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา) | นร07 | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17192 | การแต่งตั้งข้าราชการ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์) | นร | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17193 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ) | นร | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17194 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพลังงาน) (นายธรรมยศ ศรีช่วย) | พน | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธรรมยศ ศรีช่วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17195 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการคลัง) (จำนวน 6 ราย 1. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ฯลฯ) | กค | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ๒. นายสุวิชญ โรจนวานิช ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๓. นายประภาศ คงเอียด ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ๔. นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางสาวบัณฑรโฉม แก้วสอาด ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17196 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายวัฒนะ คุ้นวงศ์) | กต | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวัฒนะ คุ้นวงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับแล้ว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17197 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม) (พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ และนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต) | ยธ | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ๒. นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17198 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 21 ราย) | มท | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒๑ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ๒. ต่อระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของ รายมณฑล สุดประเสริฐ ตำแหน่งอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17199 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) ในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์) | นร | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17200 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) (นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์) | พม | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
.....