ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 853 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 17041 - 17060 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17041 | รายงานสรุปการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐเช็กและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐเช็กและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๙-๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๐ เพื่อเข้าร่วมนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับวิถีชีวิตของไทยในอดีต “Siam in Transition” และบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Culture Heritage of Mankind : Protection and Promotion Policies in Thailand” ณ พิพิธภัณฑ์ Naprstek Museum of Asian, African and American Culture กรุงปราก และเจรจาความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับประธานคณะกรรมาธิการด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา วัฒนธรรม เยาวชนและกีฬาแห่งรัฐสภาสาธารณรัฐเช็ก โดยมีผลการหารือที่สำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงในการใช้มิติทางศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมและการขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองประเทศ รวมทั้งได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการแห่งมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในสาธารณรัฐเช็ก และเดินทางไปราชการต่อยังสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17042 | ผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด สมัยที่ 13 การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมว่าด้วยกระบวนการแจ้งข้อมูลสารเคมีล่วงหน้าสำหรับสารเคมี อันตรายและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ สมัยที่ 8 และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน สมัยที่ 8 | ทส | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด สมัยที่ ๑๓ การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมว่าด้วยกระบวนการแจ้งข้อมูลสารเคมีล่วงหน้าสำหรับสารเคมีอันตรายและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ สมัยที่ ๘ และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน สมัยที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๒๔ เมษายน-๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งหัวข้อของการประชุมรัฐภาคีฯ เน้นเรื่องการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ไร้มลพิษโดยการจัดการสารเคมีและของเสียอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีมติข้อตัดสินใจสำคัญต่าง ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามอนุสัญญาฯ ๒. มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติข้อตัดสินใจที่สำคัญในการประชุมรัฐภาคีฯ ดังนี้ ๒.๑ มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Competent Authority : CA) ภายใต้อนุสัญญาบาเซลฯ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการโรงงานมีการดำเนินงานด้านการจัดการของเสียอันตรายอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmentally Sound Management : ESM) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การป้องกัน การลดการเกิดของเสียอันตรายและการกำจัด ตามข้อบทที่ ๔ (๒) ของอนุสัญญาบาเซลฯ ๒.๒ มอบหมาย (๑) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ในฐานะหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐ (Designated National Authority : DNA) ด้านสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ดำเนินการแจ้งท่าทีตอบรับนำเข้า (import response) สำหรับสาร carbofuran และสาร trichlorfon และ (๒) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐด้านสารเคมีอุตสาหกรรมดำเนินการแจ้งท่าทีตอบรับนำเข้าสำหรับสาร short-chain chlorinated paraffins และสาร tributyltin compounds ที่ได้รับการบรรจุเพิ่มเติมในภาคผนวก III ของอนุสัญญารอตเตอร์ดัมฯ เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีในข้อบทที่ ๑๐ ของอนุสัญญารอตเตอร์ดัมฯ ๒.๓ มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินการเพื่อควบคุมสาร POPs ชนิดใหม่ที่ได้รับการบรรจุในภาคผนวก เอ ของอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ ๒ ชนิด คือ สาร decabromodiphenyl ether และสาร short-chain chlorinated paraffins ภายใต้พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีในข้อบทที่ ๓ ของอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17043 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... | นร09 | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดส่วนราชการในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๙ และสอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17044 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 31 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2559 - 30 เมษายน 2560) | นร | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๓๑ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙-๓๐ เมษายน ๒๕๖๐) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ โดยมีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เช่น โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น การจัดงานประเพณีกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมพัฒนา การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนร้องทุกข์ ๒. การปฏิรูปประเทศ เช่น การติดตามการขับเคลื่อนความคืบหน้าการดำเนินการตามประเด็นปฏิรูป ๓. การบริหารราชการแผ่นดิน ๓.๑ ด้านความมั่นคง เช่น การเชิดชูสถาบันนี้ไว้ด้วยความจงรักภักดีและปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ การน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ ๓.๒ ด้านสังคมจิตวิทยา เช่น การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของภาครัฐ การศึกษาและเรียนรู้ การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ๓.๓ ด้านเศรษฐกิจ เช่น การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ การสนับสนุนการใช้ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) เพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน การขับเคลื่อนแผนส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) การดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ๓.๔ ด้านการต่างประเทศ เช่น การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๐ การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat) การเข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน การเข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนเยาวชนอาเซียน การประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ครั้งที่ ๑๐ การเข้าร่วมงาน ASEAN Business Circle จัดโดยสภาหอการค้าออสเตรีย ๓.๕ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เช่น การส่งเสริมและการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ การปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เป็นธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17045 | รายงานผลการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย ครั้งที่ 2 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (AIIB) ครั้งที่ ๒ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ เกาะเซจู สาธารณรัฐเกาหลี โดยการประชุมสภาผู้ว่าการ AIIB ครั้งที่ ๒ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน (Sustainable Infrastructure) เพื่อสนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาคและเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ว่าการ AIIB ของไทยได้กล่าวถ้อยแถลงถึงการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อต่อการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศให้สูงขึ้นภายใต้แนวคิดประเทศไทย ๔.๐ และเน้นย้ำถึงความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับ AIIB เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาคโดยเฉพาะในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สำหรับการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (๑) การหารือทวิภาคีกับประธาน AIIB และรองประธาน AIIB ด้านการลงทุน เกี่ยวกับการสนับสนุนโครงการเงินกู้ในรูปแบบที่ไม่ต้องค้ำประกันโดยภาครัฐแก่ไทย (๒) การหารือกับกรรมการบริหาร Asia House เกี่ยวกับบทบาทขององค์กรที่ทำหน้าที่เชื่อมภาคเอกชนในภูมิภาคยุโรปเข้ามาลงทุนในภูมิภาคอาเซียน และ (๓) การประชุมโต๊ะกลมของผู้ว่าการ AIIB เกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินและแนวทางระดมทุนจากภาคเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชีย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17046 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. .... | ศธ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ทั้งการประกันคุณภาพภายในและการประกันคุณภาพภายนอกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้นำคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๙/๒๕๖๐ เรื่อง การส่งเสริมการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17047 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย - คาซัคสถาน ครั้งที่ 3 | กต | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-คาซัคสถาน (Joint Commission : JC) ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ กรุงอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีการลงนามบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-คาซัคสถาน ครั้งที่ ๓ และความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ โดยผลการประชุมฯ มีประเด็นที่ต้องดำเนินการและมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว ด้านพลังงาน ด้านวัฒนธรรมและการกีฬา ด้านสาธารณสุข ด้านแรงงานและการคุ้มครองทางสังคมของประชากร ด้านการศึกษา และด้านกฎหมาย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17048 | รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ งานจ้างก่อสร้างสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำบางขนาก พร้อมอาคารประกอบ ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา | กษ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำบางขนาก พร้อมอาคารประกอบ ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวงเงิน ๔๖๘.๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับราคาค่าก่อสร้างตามผลการประกวดราคาต่ำกว่าราคากลางมาก ขอให้กรมชลประทานดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๖ (เรื่อง มาตรการป้องกันหรือลดโอกาสในการสมยอมกันในการเสนอราคา) พร้อมกำกับดูแลการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ ไปดำเนินการอย่างเคร่งครัดด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ควรกำกับดูแลการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการละทิ้งงานและการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17049 | การขับเคลื่อนมาตรการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยภาคเอกชน | ปช | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ในการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งประกอบด้วย
๑. การจัดทำคู่มือแนวทางการกำหนดมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมสำหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ และให้หน่วยงานภาครัฐนำคู่มือดังกล่าวไปเผยแพร่และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยให้เผยแพร่สร้างความเข้าใจแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหน่วยงานและนิติบุคคลนำไปใช้อย่างเหมาะสม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. การจัดงานประกาศเจตนารมณ์ภาครัฐและเอกชนในการป้องกันการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ (Dinner talk) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๐ ๓. การจัดทำรายงานวิจัย “โครงการศึกษาความเหมาะสมและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ. ๑๙๙๗ ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ (OECD Anti-Bribery Convention)” และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. ในการศึกษาข้อมูลเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐใน ๓ ประเด็น ได้แก่ (๑) การกำหนดห้ามมิให้ค่าใช้จ่ายที่เป็นสินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐถือเป็นรายจ่ายที่สามารถนำมาคำนวณกำไรสุทธิ (Tax Non-Deductibility) (๒) การกำหนดฐานความผิดที่ชัดเจนสำหรับบริษัทที่ไม่มีมาตรการกำกับดูแลด้านการบัญชี และ (๓) การลดโทษให้กับผู้ให้สินบนที่รับสารภาพว่ากระทำความผิด ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17050 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1152 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1020 - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1020 (ต้าตลาด) ที่บ้านหัวดอย บ้านผางาม บ้านร่องห้า และบ้านสบเปา และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1421 สายหัวดอย - บ้านใหม่พัฒนา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๕๒ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๒๐-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๒๐ (ต้าตลาด) ที่บ้านหัวดอย บ้านผางาม บ้านร่องห้า และบ้านสบเปา และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๔๒๑ สายหัวดอย-บ้านใหม่พัฒนา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17051 | ร่างกฎหมายอนุบัญญัติระดับพระราชกฤษฎีกาและกฎกระทรวง ที่ออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 รวม 28 ฉบับ | กค | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง ที่ออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ รวม ๒๘ ฉบับ เพื่อรองรับการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ตามพระราชกฤษฎีกาสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ได้มีการตราขึ้นใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นเพื่อราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าทำการที่จะต้องเสียให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานสรรพสามิต พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาราคาขายปลีกแนะนำและราคาขายต่อผู้บริโภคทั่วไปรายสุดท้ายในตลาดปกติ พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการประกาศราคาขายปลีกแนะนำเพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนสถานแสดงรถยนต์เพื่อขาย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสถานแสดงรถยนต์เพื่อขาย พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนและการโอนใบอนุญาตตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน พ.ศ. .... ๑.๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือนไขสำหรับการใช้แสตมป์สรรพสามิตและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี เพื่อให้ปรากฏว่าได้เสียภาษีแล้ว พ.ศ. .... ๑.๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและลักษณะของแสตมป์สรรพสามิต และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ พ.ศ. .... ๑.๙ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต และการขอต่ออายุใบอนุญาต ผลิตเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน พ.ศ. .... ๑.๑๐ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นหรือคืนภาษีหรือลดอัตราภาษี สำหรับสินค้าที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร หรือนำเข้าไปในเขตปลอดอากร ตามมาตรา ๑๐๓ และการขอรับคืนหรือยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้า มีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา ๑๐๗ พ.ศ. .... ๑.๑๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิขอลดหย่อนภาษี พ.ศ. .... ๑.๑๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิตสินค้า พ.ศ. .... ๑.๑๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริการที่ผู้ประกอบกิจการสถานบริการมีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษีเนื่องจากการบริจาครายรับ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับคืนหรือยกเว้นภาษีสำหรับรายรับที่ผู้ประกอบกิจการสถานบริการบริจาค พ.ศ. .... ๑.๑๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้ามีสิทธิขอคืนภาษีเนื่องจากสินค้าเสียหายหรือเสื่อมคุณภาพจนใช้การไม่ได้ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิสูจน์ลักษณะความเสียหายหรือเสื่อมคุณภาพจนใช้การไม่ได้ พ.ศ. .... ๑.๑๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษี พ.ศ. .... ๑.๑๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... ๑.๑๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การงดหรือลดเบี้ยปรับและการลดเงินเพิ่ม พ.ศ. .... ๑.๑๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. .... ๑.๑๙ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำสุราเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๑.๒๐ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายสุรา พ.ศ. .... ๑.๒๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงสุราเพื่อการค้าของผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ ๒ พ.ศ. .... ๑.๒๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตยาสูบ พ.ศ. .... ๑.๒๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำใบยา ยาอัด หรือยาสูบเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๑.๒๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายยาสูบ พ.ศ. .... ๑.๒๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตไพ่ พ.ศ. .... ๑.๒๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำไพ่เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๑.๒๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายไพ่ พ.ศ. .... ๑.๒๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดสินค้าประเภทที่ ๐๑.๙๐ ในตอนที่ ๑ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ตามบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตยาสูบ ขายยาสูบ ผลิตสุรา และขายสุรา เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีปฏิบัติ และประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17052 | รายงานผลการดำเนินงาน สสค. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 - 2559 | นร | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ ตามที่ประธานกรรมการ สสค. เสนอ มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
๑. ผลงานสำคัญปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ ประกอบด้วย ๔ ด้าน คือ (๑) การสร้างองค์ความรู้ (๒) การนำองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริงด้วยการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ (๓) การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของสถานศึกษาและครู และ (๔) การสื่อสารเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ๒. ข้อจำกัดในการดำเนินงาน สสค. ไม่มีฐานะเป็นหน่วยงานหรือนิติบุคคลที่จะขอตั้งหรือรับงบประมาณได้เอง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ ได้ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้การดำเนินงานขาดความคล่องตัวและต่อเนื่อง ไม่สามารถต่อยอดขยายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขาดเอกภาพทางนโยบาย รวมทั้งไม่สามารถดึงดูดบุคลากรให้อยู่ต่อได้ ๓. ทิศทางการดำเนินงานต่อไป ในคราวประชุมคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ได้มีมติเห็นควรสนับสนุนให้จัดตั้งเป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (องค์การมหาชน) ตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17053 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2560 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจำส่วนราชการ | สลธ.คสช. | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๖/๒๕๖๐ เรื่อง การกำหนดตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจำส่วนราชการ สั่ง ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17054 | รายงานประจำปี 2559 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ | วท | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๙ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ สรุปได้ ดังนี้
๑. การขับเคลื่อนการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของรัฐบาล โดย สวทน. ได้จัดทำยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเพื่อส่งเสริมการบูรณาการระหว่างหน่วยงานและลดความซ้ำซ้อนการสร้างกลไกให้มีการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ การพัฒนาบุคลากร และการปรับระบบจัดสรรงบประมาณและการติดตามประเมินผล ๒. ความก้าวหน้าด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยในปี ๒๕๕๘ มีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาประเทศ ๘๔,๖๗๑ ล้านบาท หรือร้อยละ ๐.๖๒ ของ GDP สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ ๐.๑๔ มีสัดส่วนการลงทุนของภาคเอกชนที่เติบโตมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ ๗๓ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ๕ อันดับแรก ได้แก่ อาหาร ยานยนต์ เคมี ปิโตรเลียม และแร่อโลหะแก้ว รวมทั้งมีจำนวนบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้น จาก ๘๔,๒๑๖ คน เป็น ๘๙,๖๑๗ คน ๓. ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (๑) โครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร (๒) โครงการ Startup หรือวิสาหกิจเริ่มต้น (๓) การจัดตั้งกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม และ (๔) การบูรณาการการเรียนรู้การทำงาน หรือ Work-integrated Learning
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17055 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "ผลกระทบของดอกเบี้ยต่ำต่อการออมของภาคประชาชนและผู้บริหารการลงทุน" ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “ผลกระทบของดอกเบี้ยต่ำต่อการออมของภาคประชาชนและผู้บริหารการลงทุน” ซึ่งกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีความตระหนัก ความเข้าใจ และความพร้อมในการออมเงินให้เพียงพอต่อการดำรงชีพในยามชราภาพ รวมทั้งเพื่อให้ผู้บริหารการลงทุนมีการวางแผนเตรียมรับมือต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการและแผนที่จะดำเนินการที่สอดคล้องกับข้อเสนอแนะดังกล่าว สำหรับประเด็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ให้รัฐบาลใช้อำนาจฝ่ายบริหารในการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จนำนาญแห่งชาติ นั้น เห็นควรให้จัดตั้งโดยตราเป็นพระราชบัญญัติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17056 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติการนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬา 1 รายการ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ | ศธ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติการนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬา จากวงเงิน ๔๘๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๔๘๖,๘๕๖,๕๕๒ บาท เป็นกรณีเฉพาะราย ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับค่าก่อสร้างส่วนที่เหลือ จำนวน ๓๖๖,๓๕๖,๕๕๒ บาท ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๑๙๒,๘๐๐,๐๐๐ บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน ๑๗๓,๕๕๖,๕๕๒ บาท โดยในส่วนของเงินงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๘๙,๔๑๑,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอีก จำนวน ๑๐๓,๓๘๙,๐๐๐ บาท ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17057 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อื่นๆ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยแก้ไขผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ จากผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกำหนดเพิ่มเติมให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ตามที่คณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาภารกิจอำนาจหน้าที่ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการด้วยว่า ครอบคลุมถึงการรับรองบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้วหรือไม่ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการมีความพร้อมที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น เห็นควรให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาดำเนินการในโอกาสแรกก่อน ส่วนในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17058 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 รวม 9 ฉบับ | วท | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ รวม ๙ ฉบับ เป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้กฎหมายแม่บทมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์และสามารถปฏิบัติให้เกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวัสดุกัมมันตรังสีที่ต้องแจ้งการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเครื่องกำเนิดรังสีเป็นเครื่องกำเนิดรังสี พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... ๑.๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเข้มข้นของวัสดุที่ประกอบอยู่ในแร่หรือสินแร่เพื่อให้แร่หรือสินแร่นั้นเป็นวัสดุต้นกำลัง พ.ศ. .... ๑.๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวัสดุนิวเคลียร์ที่ต้องแจ้งการครอบครอง พ.ศ. .... ๑.๙ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต การออกใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการควบคุมการประกอบกิจการที่มีการผลิตหรือที่มีวัสดุกัมมันตรังสีไว้ในครอบครองให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รวมทั้งเห็นควรกำหนดปริมาณ ความเข้มข้น และองค์ประกอบของวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ แต่ต้องแจ้งการครอบครองให้ชัดเจนตามที่พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติฯ กำหนด เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเร่งรัดการออกกฎหมายลำดับรองที่เหลืออยู่ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยเร็ว เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17059 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 3/2560 : การเร่งรัดและขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปธนาคารที่ดิน และองค์กรด้านที่ดินความขัดแย้งที่ดิน - ป่าไม้ การบูรณาการฐานข้อมูลด้านที่ดิน One map ระบบยุติธรรมชุมชน และการปฏิรูปการเงินฐานราก : การพัฒนาการจัดการการเงินชุมชน | นร04 | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามประเด็นปฏิรูปธนาคารที่ดิน และองค์กรด้านที่ดิน การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ดิน-ป่าไม้ การบูรณาการฐานข้อมูลด้านที่ดิน One map ระบบยุติธรรมชุมชน และการปฏิรูปการเงินฐานราก : การพัฒนาการจัดการการเงินชุมชน ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ธนาคารที่ดิน และองค์กรด้านที่ดิน กขร. มีมติให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการพิจารณาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติที่ดิน พ.ศ. .... เพื่อให้เป็นกลไกในการกระจายการถือครองที่ดินเพื่อลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๒. การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ดิน-ป่าไม้ กขร. มีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการพิจารณาดำเนินการเพื่อให้สามารถเสนอร่างกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ ๓. การบูรณาการฐานข้อมูลด้านที่ดิน One map กขร. มีมติให้กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติยุติธรรมชุมชน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... เสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ ๔. การปฏิรูปการเงินฐานราก : การพัฒนาการจัดการการเงินชุมชน กขร. มีมติให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินชุมชน พ.ศ. .... ต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17060 | ผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย - เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JCC) ครั้งที่ 8 | นร11 | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (Joint Coordinating Committee for the Comprehensive Development of the Dawei Special Economic Zone and its Related Projects Areas : JCC) ครั้งที่ ๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ประชุมฯ รับทราบการใช้แผนแม่บทการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะสมบูรณ์ (Integrated Dawei Special Economic Zone Master Plan) เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รับทราบถึงกลไกความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับประสานงาน และระดับปฏิบัติการ รวมถึงการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) ในลักษณะการร่วมทุนระหว่างไทย-เมียนมา-ญี่ปุ่น เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยสนับสนุนการดำเนินงานในระดับปฏิบัติการ เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการถนนสองช่องทางเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายสู่ชายแดนไทย-เมียนมา และคณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก ๒. มอบหมายให้หน่วยงานในองค์ประกอบคณะทำงานร่วมเฉพาะกิจทั้ง ๒ คณะ เร่งรัดประสานฝ่ายเมียนมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมดำเนินการให้ได้ข้อสรุป และจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JCC) โดยด่วนต่อไป ได้แก่ ๒.๑ คณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการถนนสองช่องทางเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายสู่ชายแดนไทย-เมียนมา ประกอบด้วย สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) และกระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ๒.๒ คณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JCC) รับความเห็นของสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ในประเด็นที่ฝ่ายเมียนมาเสนอให้จัดตั้งสำนักงานของบริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (SPV) ในเมียนมา นั้น เห็นควรคงสถานะให้บริษัท ทวายฯ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทยและจัดตั้งสำนักงานสาขาในเมียนมาแทน ตามที่ระบุไว้ในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น ฉบับที่ ๒ (Shareholders Agreement II) และสัญญากรอบความตกลง ฉบับที่ ๒ (Framework Agreement II) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....