ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 852 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 17021 - 17040 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17021 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายสาธิต มณีผาย) | กษ | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสาธิต มณีผาย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านสำรวจและหรือออกแบบ) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17022 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการกีฬาระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬา แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา | กก | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการกีฬาระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จัดทำขึ้นเพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการกีฬาระหว่างกัน รวมถึงกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) การแลกเปลี่ยนด้านการกีฬาและเยาวชน (๒) การจัดฝึกอบรมบุคลากรทางกีฬา และ (๓) การส่งเสริมความร่วมมือด้านกีฬา เช่น อุปกรณ์กีฬา ครูฝึกกีฬา การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางกีฬา และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในการสนับสนุนเวชศาสตร์การกีฬา เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาในโอกาสเยือนสาธารณรัฐเมียนมาต่อไป ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ (โดยระบุตำแหน่ง) ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17023 | (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) | อื่นๆ | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย ๓ ยุทธศาสตร์ คือ (๑) การพัฒนาเพิ่มมูลค่าระบบห่วงโซ่อุปทาน เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานให้ได้ระดับสากล สนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มและบริหารจัดการได้ทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน (๒) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้า และระบบห่วงโซ่อุปทานเส้นทางการค้าในกลุ่ม CLMV (Cambodia-Laos-Myanmar-Vietnam) และจีน และ (๓) การพัฒนาปัจจัยสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะเร่งผลิตกำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และระบบติดตามประเมินผลเพื่อการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ประธานกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น การต่อยอดเทคโนโลยีที่หน่วยงานวิจัยต่าง ๆ ได้วิจัยและพัฒนาไว้ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีโลจิสติกส์ที่ทันสมัยและสามารถนำไปสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและเกิดการผลิตและบริการได้จริงในประเทศ การกำหนดเป้าหมาย/ตัวชี้วัดความสำเร็จให้ชัดเจนมากขึ้น การจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษานักลงทุนที่สามารถใช้กลไก Team Thailand ได้ รวมถึงการจัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการส่วนกลางระบบ National Single Window (NSW) และการซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้แผนยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าวเป็นกลไกการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ฯ ให้สำเร็จและใช้ประโยชน์ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดและรายงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อบูรณาการการดำเนินการในภาพรวมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17024 | ขออนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติมสำหรับงานเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติกรอบวงเงินสำหรับงานเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Line) จำนวน ๓ แห่ง เพิ่มเติม ๒๔๓.๖๓ ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ รฟท. ดำเนินการภายใต้กรอบวงเงินรวมของโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ทั้งนี้ การใช้จ่ายเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจะเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมควรเร่งพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินสิ่งปลูกสร้างและค่ารื้อย้ายให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการลงทุนพัฒนาระบบรางภายใต้ความรับผิดชอบของ รฟท. และจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการโดยสะท้อนถึงราคาตลาดที่แท้จริงและเกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกเวนคืน รวมทั้งควรแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการฯ เพื่อพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรอง ให้เกิดความรอบคอบ ถูกต้อง เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้เป็นค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เพิ่มขึ้น จำนวน ๒๔๓.๖๓ ล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ โดยเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้เงินได้ตามมาตรา ๓๙ (๔) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ ๓. ให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลและติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าว รวมถึงโครงการอื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ ตลอดจนดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้า และพิจารณากำหนดแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17025 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งและการขอยุบเลิกทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการจัดตั้งกองทุนปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร) และเห็นชอบการยุบเลิกกองทุนสำหรับพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) ตามมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารกองทุนหมุนเวียน ครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร) รับข้อสังเกตของคณะกรรมการนโยบายการบริหารกองทุนหมุนเวียนเกี่ยวกับกองทุนปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ว่ากองทุนดังกล่าวต้องไม่มีภารกิจในเรื่องการรักษาเสถียรภาพด้านราคาของปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม และเมื่อมีการจัดตั้งกองทุนแล้ว ต้องไม่มีความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานของรัฐใด ๆ ในส่วนของการใช้เงินงบประมาณในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17026 | การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี | นร12 | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๐ (เรื่อง การปรับปรุงแนวทางการจัดส่วนราชการในภูมิภาค) เพื่อให้สามารถจัดตั้ง “ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ ๗” ของสำนักงานคณะกรรมการส่งสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นที่จังหวัดพิษณุโลกเพื่อรับผิดชอบภารกิจการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดและดูแลการลงทุนของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๙ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และอุทัยธานี ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการดำเนินภารกิจการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว เมื่อมีการปรับปรุงโครงสร้างและจัดเกลี่ยอัตรากำลังแล้ว สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของภารกิจของศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่มีอยู่เดิมเพื่อไม่ให้มีความซ้ำซ้อนกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17027 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (โรงเรียนเถินวิทยา จังหวัดลำปาง) | ศธ | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ๓๑๘ ล./๓๘ พิเศษ ของโรงเรียนเถินวิทยา จังหวัดลำปาง จากวงเงิน ๑๘,๖๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๑๘,๘๑๕,๐๐๐ บาท โดยค่าก่อสร้างส่วนที่เหลือ จำนวน ๔,๖๕๕,๐๐๐ บาท ให้กระทรวงศึกษาธิการขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ควรมีการกำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากอาคารเรียนดังกล่าวได้ตามวัตถุประสงค์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17028 | การกำหนดอัตราค่าตอบแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ | วท | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าตอบแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในอัตราเดือนละ ๑๕๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17029 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวม 7 ฉบับ | นร09 | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวม ๗ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว เป็นการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานปลัดกระทรวง กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ๗. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17030 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) | สว | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ลักษณะ ๒ การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) โดยกรมบังคับคดีได้ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติและจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ รวมทั้งได้ตรวจสอบกฎกระทรวง ระเบียบ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่พบบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งกับร่างพระราชบัญญัตินี้ และได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอาชญาบัตร ประทานบัตร และสัมปทาน เพื่อพิจารณาจัดทำแนวปฏิบัติของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการยึดสิทธิดังกล่าว สำหรับกรณีผู้ประกันผิดสัญญาปล่อยชั่วคราวและการบังคับคดีผู้ต้องโทษปรับที่ไม่ชำระค่าปรับจะได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ได้พิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ในการสนับสนุนอัตรากำลัง งบประมาณ และค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับภารกิจแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17031 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (ว่าที่ร้อยตรี ไชยวุฒิ วุฑฒิรักษ์) | นร | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ว่าที่ร้อยตรี ไชยวุฒิ วุฑฒิรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการกระจายอำนาจ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17032 | ร่างถ้อยแถลงข่าวร่วม (Joint Press Statement) เรื่อง การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายเหวียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc) นายกรัฐมนตรี เวียดนาม ระหว่างวันที่ 17 - 19 สิงหาคม 2560 | กต | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงข่าวร่วม (Joint Press Statement) เรื่อง การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายเหวียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงทางอากาศกรณีสายการบิน Vietjet ประสงค์ทำการบินมายังประเทศไทยในเส้นทางนครโฮจิมินห์-เชียงใหม่ และประเด็นการขยายความความเชื่อมโยงให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17033 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม สารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม | ดศ | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม สารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Memorandum of Understanding of Cooperation in the Field of Posts, Telecommunications, Information and Digital Technology between the Ministry of Digital Economy and Society to the Kingdom of Thailand and the Ministry of Information and Communications of the Socialist Republic of Viet Nam) มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม สารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างสองประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีและเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น โดยจะมีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างการเยือนราชอาณาจักรไทยของนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในวันที่ ๑๗-๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17034 | การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามกับกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า | พณ | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามกับกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า (Memorandum of Understanding between the Ministry of Industry and Trade of the Socialist Republic of Viet Nam and the Ministry of Commerce of the Kingdom of Thailand on Economic and Trade Cooperation) มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายบนพื้นฐานความสนใจร่วมกัน อำนวยความสะดวกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในความร่วมมือด้านการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ และใช้ประโยชน์จากความร่วมมือในระดับภูมิภาคและพหุภาคีที่ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายเป็นสมาชิก เพื่อเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าในระดับทวิภาคี โดยจะมีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในช่วงการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาอังกฤษ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17035 | รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายเหวียน หาย บั่ง (Mr. Nguyen Hai Bang)] | กต | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเหวียน หาย บั่ง (Mr. Nguyen Hai Bang) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเหวียน เติ๊ต ถั่ญ (Mr. Nguyen Tat Thanh) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17036 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายหลี่ว เจี้ยน (Mr. Lyu Jian)] | กต | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายหลี่ว เจี้ยน (Mr. Lyu Jian) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายหนิง ฟู่ขุย (Mr. Ning Fukui) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17037 | แต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) (จำนวน 5 ราย 1. นางนภา เศรษฐกร ฯลฯ) | พม | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ สับเปลี่ยนหมุนเวียน และทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. นางนภา เศรษฐกร ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ๒. นางไพรวรรณ พลวัน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายณรงค์ คงคำ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสมคิด สมศรี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ๕. นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17038 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง (จำนวน 6 คน 1. นายปราโมทย์ ญาณทักษะ ฯลฯ) | พน | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน ๖ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปีแล้ว เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. นายปราโมทย์ ญาณทักษะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิทยาศาสตร์ ๒. นายยุทธนา ภาสุรปัญญา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิศวกรรมศาสตร์และดำเนินงาน ในองค์การสาธารณประโยชน์เพื่อคุ้มครองความปลอดภัย ๓. นายสมรัตน์ ยินดีพิธ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาสิ่งแวดล้อมและดำเนินงาน ในองค์การสาธารณประโยชน์เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ๔. นายโกมล จิรชัยสุทธิกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขากฎหมาย ๕. นายศิริศักดิ์ วิทยอุดม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ๖. นายพีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17039 | การแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ (รวม 11 ด้าน) | นร04 | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ จำนวน ๑๑ ด้าน ตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๙ แห่งพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. คณะกรรมการมี ๑๑ คณะ คณะละ ๑๕ คน ตำแหน่งกรรมการและเลขานุการเป็นไปตามที่มาตรา ๑๔ วรรคสอง บัญญัติว่า ให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแนะซึ่งได้เสนอแนะมาแล้วและควรให้ความเห็นชอบได้ จึงมีกรรมการอื่น ๆ ที่จะต้องแต่งตั้ง คณะละ ๑๔ คน รวม ๑๕๔ คน ๒. กรรมการต้องมีอายุไม่เกิน ๗๕ ปี ซึ่งตามแนวทางที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้แต่งตั้งข้าราชการประจำในสัดส่วนที่น้อยที่สุด ทั้งควรประกอบด้วยบุคคลจากภาควิชาการและปฏิบัติ และมีเวลาพอจะทำงานได้ โดยไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งครบในขณะนี้ เพราะจะยังแต่งตั้งเพิ่มเติมได้ในภายหลัง ๓. ต่อไปอาจต้องแต่งตั้งคณะกรรมการด้านหรือเรื่องใหม่เพิ่มเติมโดยแยกมาจากด้านเดิม เช่น ด้านเศรษฐกิจอาจแยกเป็นด้านเกษตร ด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ ด้านอุตสาหกรรม และปลายเดือนสิงหาคมนี้คณะรัฐมนตรียังจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติประเภทผู้ทรงคุณวุฒิอีก ๑๗ คน เพื่อไปแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่าง ๆ อีก ๖-๗ ด้าน ๆ ละ ๑๕ คน รวม ๙๐-๑๐๕ คน ซึ่งจะพิจารณาจากรายชื่อที่มีผู้เสนอมาแล้วประกอบกับรายชื่อใหม่
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17040 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข) | กษ | 15/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
.....