ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 14 จากทั้งหมด 569 หน้า แสดงรายการที่ 261 - 280 จากข้อมูลทั้งหมด 11378 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
261 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาและขยายกรอบวงเงินงบประมาณ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ | กษ. | 21/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาและขยายกรอบวงเงินงบประมาณ
โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยควรเร่งรัดการดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและจ่ายค่าทดแทนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้งกำหนดแนวทางในการป้องกันปัญหาราษฎรที่เคยได้รับค่าทดแทนไปแล้วมาขอรับค่าทดแทนที่ดินเพิ่มเติมเนื่องจากที่ดินมีราคาเพิ่มขึ้น
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๕
(ด้านเศรษฐกิจและการเกษตร) ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๘ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้
รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
262 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงวัฒนธรรม) | วธ. | 21/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ
ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงวัฒนธรรม จำนวน ๑๐ คณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการประสานงานฝ่ายไทยว่าด้วยวัฒนธรรมและสนเทศอาเซียน ๒. คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๓.
คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๔.
คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ (Thai National Committee for
International Council of Museum) ๕. คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๖. คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม ๗ คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๘. คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ๙. คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำพระไตรปิฎก
ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
263 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน | ทส. | 21/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. ดังนี้
๑.๑
ให้มติคณะรัฐมนตรีที่มีลักษณะเป็นการอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนคงมีผลใช้บังคับต่อไป
จำนวน ๔ มติ ได้แก่ ๑.๑.๑
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๑ (เรื่อง
การขอเข้าใช้ประโยชน์ในเขตป่าที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้รักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ) ๑.๑.๒
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๓๖ (เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๒๘) ๑.๑.๓
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๓๗ (เรื่อง
ขออนุมัติในหลักการเกี่ยวกับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ) ๑.๑.๔
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ (เรื่อง
ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๘ กันยายน ๒๕๓๕ เกี่ยวกับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์พื้นที่ป่าไม้
เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าภาคเอกชน) ๒. ในส่วนของมติคณะรัฐมนตรีอื่น ๆ
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ นอกเหนือจากข้อ ๑ อีกจำนวน ๔๙ มติ
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาทบทวนเพิ่มเติมเพื่อให้คงอยู่ไว้เฉพาะที่จำเป็น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
264 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับการเช่ายานพาหนะประจำตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 1 คัน และยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 | นร.04 | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อดำเนินการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งของเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
จำนวน ๑ คัน ระยะเวลา ๔๖ เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๖๘ - ตุลาคม ๒๕๗๑)
วงเงินทั้งสิ้น ๑,๕๙๖,๒๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ แผนงานพื้นฐานด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
ผลผลิตการขับเคลื่อนการอำนวยการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี งบดำเนินงาน
จำนวน ๓๑๒,๓๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๑,๒๘๓,๙๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ - พ.ศ. ๒๕๗๒ ซึ่งไม่เกินกว่าอัตราค่าเช่าที่กระทรวงการคลังกำหนด
โดยให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาตามขั้นตอนต่อไป
และยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ และวันที่ ๑
พฤษภาคม ๒๕๕๕ ในการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการน้อยกว่า ๕ ปี เป็นกรณีเฉพาะราย
ซึ่งเป็นระยะเวลาน้อยกว่าที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ เรื่อง การสนับสนุนการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric
Vehicle : EV) ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
ตามความจำเป็นและเหมาะสมในโอกาสแรก และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม สอดคล้องกับเงื่อนเวลาของภารกิจดังกล่าว
และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
265 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงพาณิชย์) | พณ. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ
ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๔ คณะ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๓ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ๒. คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง
(นบมส.) ๓.
คณะกรรมการว่าด้วยการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา
(Duty free Quota Free Scheme :
DFQF) ๔. คณะกรรมการนโยบายอาหาร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
266 | ผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ | ดศ. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
267 | การขอปรับแผนการดำเนินงานและแผนการเบิกจ่ายงบประมาณของการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กิจกรรมที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub) | ดศ. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
กิจกรรมที่ ๒
การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน
(ASEAN Digital Hub) และอนุมัติการปรับแผนการดำเนินงานและแผนการเบิกจ่ายงบประมาณของการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
กิจกรรมที่ ๒ การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน
(ASEAN Digital Hub) จากปี พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นดังนี้ ๑)
การขยายแผนการดำเนินโครงการฯ ASEAN Digital Hub กิจกรรมย่อยที่
๓ การร่วมก่อสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศระบบใหม่ ASIA Direct
Cable (ADC) เป็นภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๘ และ๒) การขยายแผนเบิกจ่ายงบประมาณของการดำเนินโครงการฯ
ASEAN Digital Hub กิจกรรมย่อยที่ ๓
การร่วมก่อสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศระบบใหม่ ASIA Direct Cable (ADC) เป็นภายใน พ.ศ. ๒๕๗๓ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม)
และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย สำนักงบประมาณ เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี
และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่รัฐและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
และดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าการปรับแผนการดำเนินงานและแผนการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมฯ
กิจกรรมที่ ๒ การเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศฯ กิจกรรมย่อยที่
๓ การร่วมก่อสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ ADC หากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติยืนยันว่าเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมฯ
คณะรัฐมนตรีก็สามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ แต่สมควรเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดเพื่อมิให้เสียโอกาสในการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
268 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน สำหรับเป็นที่ตั้งท่าอากาศยานชุมพร ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร | คค. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศ)
วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ (เรื่อง
การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง
มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๔๓ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน)
เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี
รวมเนื้อที่ ๑๔๗.๗๗ ไร่ สำหรับเป็นที่ตั้งท่าอากาศยานชุมพร ตามที่กรมท่าอากาศยานเสนอ
ก่อนดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคม (กรมท่าอากาศยาน)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี ตลอดจนนโยบายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
269 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนย่านดินแดง–อิปัน–สินปุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... | มท. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนย่านดินแดง - อิปัน - สินปุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลอิปัน
และตำบลสินปุน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินการคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค
บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งมีนโยบายและมาตรการเพื่อจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ดิน โครงข่ายคมนาคมขนส่งและบริการสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ
สามารถรองรับและสอดคล้องกับการขยายตัวของชุมชนในอนาคต
รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เห็นว่าหากมีความประสงค์จะใช้ประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่า ต้องดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี ตลอดจนนโยบายที่เกี่ยวข้อง กระทรวงสาธารณสุข
เห็นว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ต้องควบคุม กำกับ ดูแล สถานประกอบกิจการตามที่ราชการส่วนท้องถิ่นได้ตราข้อบัญญัติท้องถิ่นให้กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นกิจการที่ต้องควบคุมในเขตพื้นที่รับผิดชอบของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
เพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
270 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 13/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการต่าง
ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๙ คณะ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๓ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ๒.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ๓.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ๔.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ๕.
คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ๖.
คณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Wellness and Medical Service Hub) ๗.
คณะกรรมการนโยบายการดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ ๘.
คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
271 | มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร | มท. | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑.
รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ (เรื่อง
มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
272 | วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร.07 | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ และมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตและความเห็นของที่ประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ดังนี้ ๑) ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณามาตรการเพื่อรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
๒) ให้กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางการเพิ่มรายได้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๓) หน่วยรับงบประมาณควรพิจารณาการใช้จ่ายรายจ่ายประจำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยไม่กระทบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นตามสิทธิและตามกฎหมาย และ ๔)
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ เรื่อง
แผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ ๒๕๖๙ - ๒๕๗๒) อย่างเคร่งครัด
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
273 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโซง และตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... | กษ. | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลโซง และตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโซง
และตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน
ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำตามโครงการอ่างเก็บน้ำลำห้วยบอนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดอุบลราชธานี
และเพื่อนำที่ดินไปชดเชยให้เกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เห็นควรให้กรมชลประทานเร่งรัดดำเนินการจ่ายค่าทดแทนให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำลำห้วยบอนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดอุบลราชธานี
โดยเร็วและเป็นธรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดความขัดแย้งระหว่างส่วนราชการกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการของรัฐ
และการดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่ป่า ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
274 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินอุดหนุนตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด) | กค. | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ที่จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
สำหรับเงินอุดหนุนที่ได้รับตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดที่ได้รับตั้งแต่วันที่
๑ มกราคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตามมติคณะรัฐมนตรี (๑๕ กันยายน ๒๕๖๓) เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ลดต้นทุนการผลิต ยกระดับการผลิตไปสู่สินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
275 | การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขอปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค. | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขอปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม
ช่วงรังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในกรอบวงเงิน
๖,๔๗๓.๙๘
ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗) ระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย
ดำเนินการประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (E -
Bidding) ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือที่ประกาศใช้ล่าสุด และรายละเอียดอื่นที่มิได้มีการเปลี่ยนแปลง
ให้ยึดถือตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) เร่งรัดการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม
ช่วงรังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการพิจารณาเสนอเรื่อง
การปรับเพิ่มกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของโครงการระบบรถไฟชานเมือง
(สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในโอกาสแรก และสร้างความชัดเจนของนโยบายรูปแบบการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง
(สายสีแดง) และในกรณีที่มีความเหมาะสมที่จะใช้รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
เห็นควรให้มีการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.)
ในอนาคต เนื่องจากปัจจุบัน รฟฟท. เป็นผู้ดำเนินการเดินรถในโครงการระบบรถไฟชานเมือง
(สายสีแดง) รวมทั้งเร่งดำเนินการให้ได้มาซึ่งเอกชนร่วมลงทุน
เพื่อให้การลงทุนก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองฯ มีความสอดคล้องกับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
และป้องกันไม่ให้เกิดภาระงบประมาณในการดูแลรักษาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมจากความล่าช้า
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
276 | ขออนุมัติการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงาน โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | กต. | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบความเหมาะสมของราคารายการค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการและสิ่งก่อสร้างประกอบสถานเอกอัครราชทูต
ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๑ แห่ง
ในวงเงิน ๓๒๐,๒๓๒,๙๐๐ บาท และรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการและสิ่งก่อสร้างประกอบ
สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว เวียงจันทน์
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๑ งาน ในวงเงิน ๒๔,๐๑๗,๔๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ - พ.ศ. ๒๕๗๐
แต่เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารและค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารฯ
ซึ่งเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ ตามหนังสือที่อ้างถึง ๖ จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
และเมื่อได้ผลการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว
หากไม่เกินวงเงินที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบ ให้แจ้งสำนักงบประมาณทราบ
และดำเนินการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้
ขอให้กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
และต่อรองราคาจนถึงที่สุดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ
ที่ นร ๐๗๐๖/๘๓๒๗ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
277 | การขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-UNDP (Bangkok-UNDP Regional Innovation Center: RIC) หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย (Thailand Policy Lab: TPLab) | นร.11 สศช | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development
Programme : UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กรุงเทพมหานคร - UNDP (Bangkok - UNDP Regional Innovation Center :
RIC) หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย (TPLab) (โครงการความร่วมมือ RIC) นับแต่วันสิ้นสุดความตกลงความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐบาลไทยกับ
UNDP ในการดำเนินงานศูนย์ RIC ในประเทศไทย
ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ เป็นวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
ภายใต้กรอบวงเงินโครงการความร่วมมือ RIC ที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม
และเห็นชอบร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐบาลไทยกับ UNDPในการดำเนินงานศูนย์ RIC ในประเทศไทย โดยให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างพิธีสารฯ
ของฝ่ายไทย พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างพิธีสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
278 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 พ.ศ. .... | นร.01 | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้องค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน
หน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะที่เป็นองค์การมหาชนตามมติคณะรัฐมนตรีตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน
สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐและหน่วยธุรการขององค์การของรัฐที่เป็นอิสระ
ซึ่งเป็นหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรี (๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒) เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
279 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการคลัง) | กค. | 07/01/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง
ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๑ คณะ ได้แก่
คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
280 | โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ | กค. | 24/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
(โครงการฯ) โดยมอบหมายกระทรวงการคลังดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ
และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ
จำนวนไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งเห็นชอบในหลักการการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่กลุ่มเป้าหมายได้รับตามโครงการฯ
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เช่น สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
นำส่งฐานข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๓ เมษายน ๒๕๖๗ สำเร็จ ที่มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้น
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ธนาคารแห่งประเทศไทย
และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงการคลังควรเตรียมแนวทางการประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว
เพื่อสร้างความเข้าใจในวงกว้างและลดปัญหาการร้องเรียนที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งเน้นการกำกับดูแลการดำเนินการในเรื่องต่าง
ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ข้อกฎหมาย
รวมถึงรักษากรอบวินัยการเงินการคลังอย่างรอบคอบ เคร่งครัด
และจัดให้มีการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่า รวมทั้งรายงานปัญหาอุปสรรค
และแนวทางการแก้ไขการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
|